ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Earth พิภพปาฏิหาริย์ : ปฐมบทแห่งราชันย์

    ลำดับตอนที่ #200 : ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 411
      43
      2 ส.ค. 65

              

                ผลปรากฏว่าเป็นโนอาห์ที่คาดหวังมากเกินไป อเมมอนในยามแรกให้ความสนใจในม้วนคัมภีร์ฉบับนี้ไม่น้อย ถึงมันจะรับรู้ว่ามีบุคคลจากโลกใบอื่นข้ามมิติมายังโลกใบนี้ แต่รายละเอียดมากกว่านั้นจอมปิศาจไม่อาจรู้ได้ ทว่าหลังจากรับคัมภีร์วณิพกพเนจรมาพลิกเปิดดูถึงเนื้อหาภายใน กลับหน้านิ่วคิ้วขมวด

                เหตุเป็นเพราะภาษาที่บันทึกไว้ไม่ใช่ภาษาที่ตัวมันรู้จัก อเมมอนส่ายหน้าไปมาพลางเอ่ยว่า “ข้าไม่เคยเห็นคัมภีร์ฉบับนี้ไม่ก่อน ที่สำคัญข้าเองยังอ่านไม่ออกเลยด้วยซ้ำ” จอมปิศาจกล่าวอย่างไม่ละอายในศักดิ์ศรีดิ์ของเผ่าพันธ์แม้แต่น้อย

                โนอาห์ถอนหายใจก่อนจะรับคัมภีร์กลับมา ช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้เขาเองก็ลองพลิกไปพลิกมาดูหลายตลบ ปรากฏว่าความสามารถในการเกิดประตูมิติไม่คล้ายจะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สาม ความแปลกประหลาดเช่นนี้ทำให้โนอาห์เกิดความสงสัย แต่แค่นึกคิดต่อไปก็พบเจอกับทางตันเหมือครั้งที่แล้วๆมา เขาจึงเลือกที่จะปล่อยวางเก็บไว้ขบคิดในภายหลัง

                “ถ้าขนาดปิศาจเช่นท่านยังนึกไม่ออก ข้าก็คงได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ต่อไปแน่แล้ว” โนอาห์ยิ้มเจื่อนๆให้กับตัวเอง แน่นอนว่าตัวเขาสามารถอ่านเนื้อความที่บันทึกไว้ภายในออกหมดทุกตัวอักษร แต่ไม่ว่าจะตีความแบบไหนล้วนไม่เป็นที่ประสบผล กระทั่งยืมสติปัญญาของหลี่เจิ้งหมินก็ไม่คล้ายจะก้าวหน้าเสียเท่าใดเลยด้วยซ้ำ

                “นั่นก็ไม่แน่” อเมมอนส่ายหน้าไปมา “เรื่องที่ผู้คนไม่รู้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคำตอบ เพียงแต่เส้นทางที่ว่ายังถูกปิดไว้อยู่ก็เท่านั้น” ท่าทีดูเหมือนผู้ทรงความรู้ดูขัดแย้งกับแววตาของอเมมอนยิ่งนัก ดูไม่เหมือนผู้ทรงความรู้แต่เหมือนหัวหน้าลัทธิเดรัจฉานวิชาซะมากกว่า

                คำพูดเชิงปรัญญานี้อาจจะดูดีถ้าอเมมอนพูดออกมาเร็วกว่านี้ ดูเหมือนว่าการปฏิเสธถึงสองครั้งสองคราของจอมปิศาจจะทำให้ทุกคนในห้องรวมถึงนิกซ์มีความรู้สึกแปลกๆอยู่ไม่น้อย แต่ติดอยู่ที่ฐานะอีกฝ่ายพวกเขาเลยไม่คิดอะไรมากนัก

                ทว่าอยู่ๆโนอาห์ก็เอ่ยถามมาอีกหนึ่งประโยคหลังจากเก็บคัมภีร์วณิพกพเนจรเข้าไปแล้วเรียบร้อย ความสงสัยนี้ออกจะคล้ายความรู้สึกส่วนตัวอยู่บ้าง แต่สัญญาติญาณของเขาเคยผิดพลาดเสียที่ไหน อีกอย่างถามไว้ตอนนี้ยังไงก็ดีกว่า ขืนรอวันหน้าคงต้องรอให้นิกซ์เถียงกับอเมมอนอีกเป็นแน่แท้

                “ข้าเองก็นึกสงสัยมาได้ซักพักแล้ว ท่านดูไม่ตกใจกับฐานะของข้ากับหลี่เจิ้งหมินเลย” โนอาห์ยกยิ้มที่ริมฝีปาก “เกรงว่าท่านจะยังมีหลายเรื่องบอกคนภายนอกอย่างพวกข้าไม่ได้ แต่ไม่ทราบว่าสาเหตุของเรื่องนี้จะแพร่งพรายไม่ได้อีกหรือไม่”

       คำถามนี้ในใจของคนอื่นๆในห้องก็คิดเหมือนกัน อเมมอนคล้ายกับว่ารับรู้ของฐานะของโนอาห์กับหลี่เจิ้งหมินมาแต่ก่อน ที่เหนือไปกว่านั้นยังรู้ด้วยซ้ำว่ากลุ่มคนที่มาคลี่คลายปัญหาในอัลเทร่าเมื่อหลายเดือนก่อนเป็นยอดฝีมือจากอีกโลก แต่ถึงกระนั้นจอมปิศาจก็ไม่มีร่องรอยความสงสัยใดๆแม้ว่าจะได้มาเจอกับตัวเป็นๆ ต่อให้จะบอกว่าปิศาจเก็บความรู้สึกก็คงไม่น่าใช่ เพราะยังไงเรื่องราวระดับนี้มันก็ไม่น่าใช่เรื่องจิ๊บจ๊อยที่จะมองข้ามก็สามารถทำได้

                อเมมอนหัวเราะออกมาเบาๆ เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาไม่ธรรมดา เห็นความผิดปกติแค่เล็กน้อยก็สามารถคาดเดาความจริงได้เกินห้าส่วน สมแล้วที่เป็นยอดคนจากต่างโลก

                “ดีใจด้วยที่เรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นความลับแต่อย่างใด ทว่าสำหรับมนุษย์ธรรมดา...ไม่สิ ต้องบอกว่าปัจจุบันต่อให้มองไปทั่วทั้งห้าทวีป คนที่ล่วงรู้ถึงสิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปนี้ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น” อเมมอนพยักหน้าหงึกๆ ท่าทีดูผ่อนคลายยิ่งนัก แต่ว่าประโยคต่อมากลับหนักอึ้งสวนทางกับอาการที่แสดงออกมาภายนอก

                “ไม่ได้มีเพียงพวกเจ้าที่มาจากโลกหรือมิติอื่น หรืออันที่จริงต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อิซซูมีลเคยรองรับการมาของคนต่างถิ่นแบบพวกเจ้า” อเมมอนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ออกจะดูติดเล่นไม่น้อย

                ในขณะที่คนอื่นกลับไม่รู้สึกขำๆแบบนั้น ต่างคนต่างมีปฏิกิริยาต่างกัน แต่ที่ไปในทางเดียวกันคือเหลือเชื่อระคนคาดไม่ถึง สิ่งนี้แน่นอนว่าเป็นเรื่องใหม่ที่พวกเขาไม่เคยรับรู้มาก่อน ซึ่งดูเหมือนว่าบาฮามุทเองก็รู้เรื่องนี้เช่นเดียวกัน

                อเมมอนเห็นทุกคนเริ่มสงสัยก็นึกยินดีในใจ ก่อนจะคิดได้ว่าตอนที่ตนประกาศนามออกไปไม่เห็นจะได้ความรู้สึกเช่นนี้ พาลให้รู้สึกตะขิดตะขวงอย่างบอกไม่ถูก แต่ส่วนไม่พอใจก็ส่วนหนึ่ง ถึงอย่างไรเรื่องต่อไปนี้ที่เขากำลังจะพูดก็ไม่ถือว่าแพร่งพรายไม่ได้

                “อย่างที่พวกเจ้าทุกคนรับทราบกันดี จากประสบการณ์ที่ผ่านคงทำให้รับทราบกันแล้วว่าไม่ได้มีเพียงมิติเดียวเฉพาะโลกที่พวกเราอยู่อาศัย หากแต่มีนับหมื่นนับพันยิ่งกว่าดวงดาวบนผืนฟ้า อย่างเช่นมิติที่พวกเรากำลังอยู่นี่อาจจะมีอีกห้วงมิติหนึ่งที่ทุกอย่างเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน จะต่างกันก็แค่รายละเอียดเพียงเล็กน้อย ทว่าความเป็นไปได้ที่การเดินทางข้ามมิตทับซ้อนเหล่านี้จะเป็นไปได้ยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้ แต่จากหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมาคงทำให้พวกเจ้ารู้แล้วว่ามันมีสัดส่วนของความเป็นไปได้อยู่เช่นกัน” อเมมอนอธิบาย

                 ทว่าเรื่องที่อเมมอนพูดนั้นในสายตาคนทั่วไปไม่ต่างจากเรื่องเพ้อฝัน แต่ในเมื่อพวกโนอาห์ที่เคยสัมผัสกับสถานการณ์จริงมาแล้วโดยตรงมีแต่จะเชื่อหมดใจ แม้แต่ความสงสัยเพียงเล็กน้อยก็ไม่ปรากฏให้เห็น

                         “บางทีคัมภีร์นั่นอาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยบางอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าข้าเองก็ไม่รู้หลักการทำงานของมัน แต่เท่าที่ข้ารู้ ในยุคสมัยนี้มีเพียงพวกเจ้าสองคนที่มาจากมิติอื่น เพราะฉะนั้นวางใจได้ว่าจะไม่มีใครมาสร้างความลำบากให้กับพวกเจ้าในเร็วๆนี้” อเมมอน

                โนอาห์จับใจความได้อย่างรวดเร็ว “หมายความว่าที่คนก่อนหน้าพวกข้าเป็นเรื่องเมื่ออดีตกาลนานมาแล้ว?”

                “มิผิด แต่ก็ใช่ว่าข้าจะรู้ไปหมดเสียทุกเรื่อง ในบางช่วงเวลาอาจจะมีคนแบบเจ้าอยู่เหมือนกัน แต่ว่าข้าอาจจะมองไม่เห็นก็เท่านั้น ถึงอย่างนั้นพวกที่มาจากมิติอื่นก็ใช่ว่าจะเก่งกาจเหนือมนุษย์เหมือนอย่างเจ้าสองคนกันซะหมด บ้างโดดเด่นเหนือสามัญ ทว่าสุดท้ายก็หนีไม่พ้นชะตากรรมแพ้ภัยตัวเอง หรือคนที่อยู่เงียบๆอย่างสงบสุขจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตเลยก็มี” อเมมอนไหวไหล่ เรื่องพวกนี้เขาเองแม้จะรู้มาไม่น้อย แต่ไม่อาจยอมรับได้ว่ารู้หมดทุกเรื่องในทุกๆแง่มุม

                “ดูเหมือนจุดเด่นจากการที่มาจากโลกอื่นของนายเริ่มจะหายไปทุกทีแล้วนะ” อารันยิ้มขำๆหันหน้าไปทางโนอาห์ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้แต่แค่นหัวเราะใส่หนึ่งที

                หลี่เจิ้งหมินแทรกขึ้นได้ถูกจังหวะยิ่ง “นั่นก็อาจจะไม่ถูกเสียทั้งหมด เพราะถ้าข้าเดาไม่ผิด...ในดินแดนแห่งนี้ อย่างน้อยๆในสายตาของเจ้าคงหาคนหรือกลุ่มคนที่โดดเด่นไปกว่าพวกเราไม่ได้แล้วกระมัง”

                ประโยคนี้ของหลี่เจิ้งหมินอาจจะเป็นการอวยพวกเดียวกันเกินไปหน่อย ซึ่งนี่ก็ไม่ถือว่าผิดแผกหรือแตกต่างแต่อย่างใด ยังดีซะอีกที่ไม่ได้ยกเขามาข่มตนให้ตัวเองดูด้อยกว่าอีกฝ่ายในทุกๆด้าน แม้ว่ามันออกจะฟังดูเสียดหูสำหรับคนที่รู้จักหลี่เจิ้งหมินอยู่บ้างก็ตามที

                อเมมอนยิ้มรับ “ความจริงล้วนเป็นเช่นนั้น ตลอดระยะเวลาหลายพันปี มีคนจากมิติอื่นที่เริ่มต้นจากไอช่า แต่ทุกคนที่ว่ามานั้นไม่มีใครแปลกประหลาดไปกว่าเจ้า” ประโยคครึ่งหลังนี้อเมมอนย่อมหมายถึงโนอาห์โดยตรง ส่วนจะหมายความว่าอย่างไรนั้น เกรงว่าคงต้องให้เขาไปขบคิดเองในภายหลังแล้ว

                ในใจของโนอาห์คิดจะถามต่อว่าบรรดาผู้มาจากต่างโลกก่อนหน้าเขามีใครบ้าง ทั้งนี้จะได้เก็บไปอวดกับใครบางคนในภายหลัง น่าเสียดายที่เรื่องในโลกหล้าไม่ได้ง่ายดายถึงเพียงนั้น ระหว่างที่พวกเขาทั้งสี่กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรสออกชาติ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังก้องกังวานขึ้น

                “ข่ายอาคมนายใช้การได้แน่นะ” โนอาห์เบ้หน้าหันไปทางอารันคนแรกทันที ซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มแห้งๆกลับเนื่องด้วยไม่รู้ว่าจะรับมุกนี้ของโนอาห์ยังไง

                นิกซ์ที่ตอนนี้กลับคืนร่างเดิมอีกครั้งเพราะอเมมอนถอนจิตออกมาตั้งแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้นแล้ว คาดว่าไม่อยากทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง หรืออาจจะทำไปตามอารมณ์ความรู้สึกของอเมมอนก็สุดรู้

                “มีแต่พวกใช้ไม่ได้จริงๆ เอาเถอะ ฉันจะเป็นคนไปเปิดประตูเอง คอยหาที่หลบให้ดีๆด้วยล่ะ” โนอาห์แค่นยิ้ม ความตั้งใจกระแทกแดกดันแต่ให้ความรู้สึกน่าถีบมากกว่าน่าหมั่นไส้คงเป็นหนึ่งในความสามารถของเขาจริงๆ

                โนอาห์ไม่รอช้า คนจริงพูดอะไรไปก็ต้องทำตามนั้น เขาลุกเดินไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วทันที แต่แล้วพอมือเจ้ากรรมเปิดประตูเผยให้เห็นผู้ที่มาเคาะในเวลาดึกดื่นค่อนคืนแบบนี้ หัวสมองอันชาญฉลาดที่เจ้าตัวภาคภูมิใจว่าไม่ได้ด้อยกว่าหลี่เจิ้งหมินกลับตีบตันไร้สาเหตุ

                นั่นเป็นเพราะผู้มาเยือนนั้นไม่ได้อยู่ภายใต้การคำนวณของเขาเลยซักนิดเดียว....

                ไม่ได้ใกล้เคียงเลยด้วยซ้ำ!!

    “เป็นอะไรน่ะ ทำหน้าเหมือนคนละเมอมาเปิดประตูไปได้” เป็นเซเรน่าที่อยู่ในชุดนอนตัวนทำหน้าแปลกใจอยู่หน้าประตู ต้องบอกกันตามตรงโดยไม่มีข้อปิดบังว่าเซเรน่าตอนนี้ไม่ใช่เซเรน่าในแบบที่โนอาห์เคยเจอมาก่อน และด้วยเหตุผลหลายๆประการทำให้ชายที่แต่เดิมเต็มไปด้วยแผนการเต็มหัวไปไม่เป็นอย่างแท้จริง

                แต่ดูเหมือนว่าเขาจะกลับมาได้สติอีกครั้ง รอยยิ้มที่คุ้นเคยถูกยกขึ้นมาประดับไว้บนใบหน้า เอ่ยกระเซ้ากลับไปทันที “เธอนั่นแหละละเมอเดินมาผิดห้องหรือไง รีบกลับไปได้แล้วไป๊ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นรับรองพรุ่งนี้คงได้มีข่าวใหญ่เพิ่มมาอีกเรื่องแน่” โนอาห์ไม่ว่าเปล่า ยังทำท่าโบกมือชิ่วชิ่วไล่หญิงสาวไปอีกต่างหาก

                ด้วยเวลาขนาดนี้ถ้าคนในห้องอีกสามคนยังไม่รู้อีกว่าใครมาก็คงโง่งมเกินคน นิกซ์เองยังไม่เท่าไหร่เพราะพื้นฐานจิตใจเป็นอย่างไรทุกคนล้วนรู้กันดี แต่อารันกับหลี่เจิ้งหมินนั้นไม่ใช่คนที่จะอยู่เฉยๆเมื่อสหายกำลังประสบพบเจอกับเรื่องแบบนี้แน่ๆ

         จะเข้าไปช่วยน่ะหรือ?...เปล่าเลย

                ซ้ำเติมต่างหากล่ะ!!

                “สู้ๆนะพวก ไม่ต้องห่วงเรื่องทางนี้หรอก หาที่หลบกันหมดแล้วล่ะ!” อารันกล่าว

                หลี่เจิ้งหมินเสริม “นานมากแล้วที่ข้าไม่ได้เห็นเมฆาพิสดารไปไม่เป็นท่าแบบนี้ นับว่าเป็นบุญตาของข้าจริงๆ”

                เซเรน่าแน่นอนว่าไม่มีทางเข้าใจว่าคนข้างในพูดอะไร แต่สำหรับโนอาห์นั้นทุกประโยคล้วนเสียดแทงจิตใจทั้งนั้น ถ้าไม่ติดว่ามีสถานการณ์ติดพันอยู่ข้างหน้า เขาคงหันกลับไปทุ่มกำลังสุดฝีมือกับเจ้าพวกนั้นแล้ว

                “พอดีว่าฉันมีเรื่องจะคุยกับนายนิดหน่อย รีบตามมาด้วยล่ะ!” เซเรน่าพูดด้วยความเร็วจี๋ ก่อนจะสับเท้าเดินจากไป ทิศทางย่อมต้องเป็นทางระเบียงดาดฟ้าหอพัก เพียงแต่ว่าความเปลี่ยนแปลงระดับนี้ ต่อให้โนอาห์ก็ใช่ว่าจะประมวลผลได้รวดเร็วทันด่วน ผลที่ออกมาเขาจึงชะงักไปซักพักก่อนสติจะคืนกลับแล้วจึงพบว่าเซเรน่าไม่อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

                เมื่อเป็นเช่นนี้โนอาห์จึงลอบขบคิดด้วยความงุนงง ยังไม่ต้องพูดถึงว่าผู้หญิงคนนั้นไปกินยาผิดตัวไหนมา ในวันนี้เขาก็ยังจำไม่ได้ว่าได้ไปหาเรื่องเซเรน่าก่อน หรือที่แน่ๆช่วงนี้เขาก็ไม่เคยเลยด้วยซ้ำ เรื่องนี้สาบานได้ แต่แล้วอยู่ๆเมื่อความทรงจำหนึ่งแวบผ่านเข้ามาในหัว สีหน้าของโนอาห์พลันเหมือนผู้บรรลุในสัจธรรม รอยยิ้มที่ดูเหมือนรู้ทันทุกสิ่งสรรพกลับมาประดับบนใบหน้าอีกครั้ง

                “เดี๋ยวฉันมา” โนอาห์พูดบอกลาโดยไม่หันกลับมามอง และไม่สนใจด้วยซ้ำว่าพวกอารันจะโหวกแหวกโวยวายกันยังไง

                เพราะตอนนี้เขามีเรื่องที่อื่นที่สำคัญกว่านั้นให้สนใจ...

     

     

     

                ท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือเมืองอัลเทร่าในวันนี้ก็ยังสวยงามเหมือนทุกครั้ง หมู่ดาวละลานเต็มไปทั่วผืนนภาราวกับจะแต่งแต้มให้ความมืดมิดอันไร้จุดจบเต็มไปด้วยสีสันที่หาไม่ได้บนผืนภิภพ สิ่งๆนี้แทบจะเป็นเอกลักษณ์ที่สามารถพบเห็นได้แค่เมืองอัลเทร่าเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ทำให้บ่อยครั้งที่ห้วงเวลากลางคืนของอัลเทร่าจะถูกนำมาชูโรงด้วยเหตุผลหลายๆแง่มุม

                โนอาห์เองก็เป็นคนหนึ่งที่รู้ซึ้งถึงข้อมูลนี้ดี ถ้าเขาจำไม่ผิดระหว่างคาบเรียบวิชาใดซักวิชาที่เขาเองก็ลืมเลือนไปแล้ว ไม่เคยมีบันทึกใดจารึกไว้ว่าทำไมถึงมีเพียงอัลเทร่าที่ยึดครองท้องฟ้าที่สวยงามที่สุดไว้เพียงแห่งเดียว จะมีก็แต่ตำนานที่ผู้คนมากันยกมาเล่าขานในภายหลังเท่านั้น ซึ่งจะเป็นจริงหรือใม่ก็ยากจะพิสูจน์ได้

                ตำนานที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องราวของจอมเวทดารากับเจ้าหญิงลิเชียนน่า ซึ่งเจ้าหญิงลิเชียนน่าแน่นอนว่ามีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ว่ากันว่าความงดงามของนางโดดเด่นเป็นหนึ่ง ไม่ว่าหญิงหรือชายที่ได้ยลล้วนเป็นต้องมนต์สะกดกันทั้งสิ้น

    อีกทั้งด้วยความที่เป็นพระธิดาเพียงคนเดียวของจักรพรรดิแห่งไอช่าในเวลานั้น ทำให้มีเจ้าหญิงลิเชียนน่าเป็นที่หมายปองของบุรุษแทบทุกคน เพราะนอกจากจะได้ครอบครองสาวงามแล้ว ยังได้อำนาจอันไร้ซึ่งสิ้นสุด น่าเสียดายที่อัลเทร่าไม่ใช่อาณาจักรยิบย่อยที่จะต้องรอดูสีหน้าผู้ใด เจ้าหญิงพระองค์นี้จึงเปรียบเสมือนดอกฟ้าที่มองได้เพียงอย่างเดียว ยากจะแตะต้องหรือหมายปองได้

    ส่วนที่น่าประหลาดก็คือจอมเวทดารา คนผู้นี้ไม่ปรากฏรายนามหรือกระทั่งที่มาในบันทึกทางประวัติศาสตร์ใดๆโดยแท้จริง ความเป็นมาของจอมเวทดาราเป็นปริศนามาจนถึงยุคปัจจุบัน เช่นเดียวกันกับตำนานความรักของเขากับเจ้าหญิงที่งดงามที่สุด วัตถุดิบอมตะระดับนี้ไม่ว่าในยุคสมัยใดก็สามารถนำมาเล่าขานได้ไม่รู้จบ

    ว่ากันว่าจอมเวทดาราได้มาสู่ขอเจ้าหญิงลิเชียนน่ากับองค์จักรพรรดิด้วยตัวเอง แต่แน่นอนว่าหนทางของเขาไม่มีโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ บรรดาบุรุษหลายคนก่อนหน้าต่อให้เก่งกล้าสามารถหรือมีอำนาจขนาดนั้นองค์จักรพรรดิหรือตัวเจ้าหญิงเองยังไม่เหลียวแล แล้วเหตุใดกับอีแค่จอมเวทเพียงคนเดียวถึงควรค่าที่จะได้ครองคู่กับเจ้าหญิงด้วย?

    จอมเวทดาราตอบกลับเพียงแค่ว่าภายในคืนนี้ข้าจะนำมาสิ่งๆหนึ่งมาเป็นของหมั้นหมายแก่องค์หญิงเอง ท่ามกลางความสงสัยของผองชนทั่วหล้า แม้กระทั่งจ้าวมนตราทั้งสี่ในเวลานั้นยังให้ความสนใจ และในที่สุดเมื่อเวลามาถึงตามที่จอมเวทดาราได้นัดหมาย หนึ่งในเหตุการณ์ที่อัศจรรย์อีกทั้งยังสวยงามที่สุดก็ได้อุบัติขึ้นเหนือเมืองอัลเทร่า

    ไม่รู้จอมเวทดาราผู้นั้นใช้เวทมนตร์บทใดหรือมหาเวทจากตำราฉบับไหน ถึงกับสามารถสรรค์ร้อยเรียงหมู่ดาวนับพันนับหมื่นเข้ามารวมตัวก่อให้เกิดภาพแห่งความทรงจำที่ผู้คนในเวลานั้นไม่มีทางลืมเลือน การกระทำแบบนี้ต่อให้เป็นจอมเวทระดับจ้าวมนตราก็ใช่ว่าจะทำได้ ความสามารถระดับนี้สมควรแก่การยกย่องให้เป็นยอดคนในรอบหลายพันปีโดยแท้จริง

    แน่นอนว่าหลังจากนั้นบทสรุปของตำนานย่อมจบลงด้วยความสุขสันต์ เจ้าหญิงลิเชียนน่าและจอมเวทดาราได้ครองคู่กันราวกับเป็นกิ่งทองใบหยก อีกทั้งตัวจอมเวทดารายังปฏิเสธในทรัพย์สมบัติหรือกระทั่งตำแหน่งรัชทายาทที่องค์จักรพรรดิหยิบยื่นให้ เขากับเจ้าหญิงกลับเลือกหนทางอันแสนเรียบง่าย ปลีกตัววิเวกหายไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในป่าเขาอันห่างไกล

    ซึ่งน่าแปลกที่ในประวัติศาสตร์ไม่ได้บันทึกแน่ชัดว่าเจ้าหญิงลิเชียนน่ามีชีวิตในบั้นปลายอย่างไร ราวกับว่าเรื่องราวของตัวองค์หญิงถูกลบเลือนให้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์เสียอย่างนั้น ทำให้ผู้คนขบคิดไปต่างๆนาๆว่าบางทีตำนานระหว่างจอมเวทผู้ลึกลับกับเจ้าหญิงลิเชียนน่าจะมีเค้าของความจริง

    เพียงแต่เรื่องจริงจะเป็นเช่นไรนั้น ข้อนี้โนอาห์ไม่ได้สนใจ แต่อย่างน้อยๆเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าท้องฟ้ายามค่ำคืนของที่นี่สวยงามจริงๆ ทั้งชีวิตที่ผ่านมาไม่ว่าในยุทธภพที่เขาจากมาก็ไม่เห็นว่าจะมีเวลากลางคืนของเมืองใดหรือสถานที่ไหนงดงามขนาดนี้ รวมถึงการที่บรรยากาศทุกอย่างมันพร้อมสรรพราวกับว่าฟ้าและดินเป็นใจ

    โนอาห์ไม่แปลกใจเลยที่คนส่วนมากอัลเทร่าจะนิยมมาสารภาพรักกันในตอนกลางคืน

    เจ้าตัวคิดเรื่องเพลินๆในหัวไปตลอดทาง จนประเดี๋ยวเดียวเขาก็มาถึงระเบียงดาดฟ้า ภาพแรกที่เห็นแน่นอนว่าต้องเป็นเซเรน่าที่เหมือนจะเซเรน่าที่ยืนรออยู่นานแล้ว โนอาห์หันไปมองดูรอบๆก่อนจะพบว่าทุกสิ่งอย่างไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งดูเหมือนว่าบรรยากาศจะชวนให้ใครก็ตามที่ได้มาเห็นภาพนี้เข้าใจผิดได้ง่ายมาก ยังดีที่พวกอารันไม่มีทางแล่นตามเขามาถึงนี่ ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้เช้าคงได้มีอีกหนึ่งข่าวใหญ่แพร่สะพัดทั่วโรงเรียนจริงๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×