ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Earth พิภพปาฏิหาริย์ : ปฐมบทแห่งราชันย์

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6 สนามรบของพ่อค้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15.1K
      447
      21 เม.ย. 64

     

    “ไอ้พวกไม้เท้าหรืออุปกรณ์เวทมนตร์เนี้ย ใช่ว่าจะสุ่มหยิบมาใช้ได้ตามใจชอบหรอกนะ มันต้องดูด้วยว่าของพวกนั้นมันเลือกนายหรือเปล่า และไม้เท้าไวท์เฮาท์ด้ามนี้ จอมเวทที่จะใช้งานมันได้ต้องมาจากแดนเหนือเท่านั้น และหน้าตาแบบนาย...ดูยังไงก็ไม่ใช่ เพราะงั้นตัดออกไปได้เลย!” สาวน้อยคนดังกล่าว ทำตัวประดุจอาจารย์ผู้บังเกิดเกล้า แต่โนอาห์เองก็รับฟังความรู้ใหม่โดยที่ไม่แม้แต่จะมีคำโต้แย้ง เพียงแค่คิดในใจว่าค่อยกลับไปคิดบัญชีกับอารันทีหลัง

    “ถ้างั้นหน้าอย่างฉัน สมควรจะใช้อุปกรณ์เวทชิ้นไหนล่ะ” โนอาห์เลิกคิ้วถามด้วยความสนใจ มีคนคอ

                “ไม่...” คำพูดสุดท้ายของโนอาห์ในร้านราเวนทอสก็ได้จบลงเพียงแค่นั้น

                “แล้วนี่เธอจะไปไหนต่อหรือเปล่า” โนอาห์เอ่ยทักหลังจากเดินออกมาจากร้าน ถึงจะลดราคาลงครึ่งหนึ่งก็ยังต้องจ่ายหนักอยู่ดี แต่ยังดีที่เงินก้อนนี้ไม่ใช่ของเขามาตั้งแต่ต้น

                “ถามเหมือนจะตามฉันไปตลอดทั้งวันงั้นแหละ เสร็จนี่คงไปทำธุระของฉันต่อ แต่เราคงได้เจอกันอีกล่ะมั้ง...ถ้านายไม่ใช่คนหลงทางเดินดุ่มๆมาเมืองนี้ล่ะก็นะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงใส ก่อนจะสาวเท้าจากไปด้วยความเร่งรีบ

                “ไว้เจอกันที่อวาลอน” เธอกลับหลังหันมาบอกโนอาห์ที่กำลังเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะเบิกตาโพลงนึกขึ้นได้ว่าอวาลอนที่เซเรน่าหมายถึงนั้นคือสิ่งใด ดูท่าการมาของเขาครั้งนี้จะคุ้มทุนเสียยิ่งกว่าคุ้ม

                หวังว่าจะได้เจอกันจริงๆ

              คนที่ใช้วิชามือเปล่าเอาชนะโจรข้างทางสิบคนได้ด้วยลำพังตัว

              เอาเข้าจริงลำพังพวกเธอก็สามารถรับมือพวกโจรกลุ่มนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ในเมื่อมีคนอยากมามีส่วนร่วมพวกเธอก็ไม่ขัดแต่อย่างใด อีกอย่างจะได้เป็นการสำรวจไปในทีเดียวเลยว่าคนที่เข้ามาช่วยมีฝีมืออยู่ในระดับไหน คำตอบที่ได้คือประเมินไม่ได้ เพราะความตั้งใจที่จะเก็บงำฝีมือที่แท้จริงของเจ้าตัวเอง

              นับได้ว่าน่าเสียดาย

              “หรือว่าพวกคุณจะแอบสะกดรอยพวกฉันกันคะ...” เธอแกล้งเผยอปากขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่โนอาห์เบ้ปากสู้ตอบ ก่อนจะชี้ไม้ชี้มือไปยังอารันที่เดินอยู่ข้างๆ

              “ถ้าจะโทษก็เจ้านี่ มันเป็นคนเลือกโรงแรงเองนะบอกไว้ก่อน ฉันเหรอ! ก็อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้เลือกที่มันดีกว่านี้ ดันไม่ฟังกันเลยซักนิด” อารันหัวเราะร่า พร้อมกับอารันที่หัวเราะผสมโรงเข้าไปด้วยเพราะความตลกในเทคนิคเอาเพื่อนมาหากินของโนอาห์

              แถมขายให้กับคนที่ยังไม่รู้จักกันไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

              ถ้าไม่ซื่อจนไม่รู้ประสีประสา ก็คงอ่านเกมขาดว่าซายากะและยูกิเชื่อใจฉัน

              ระหว่างนั้นอารันก็ได้เหลือบตามองซายากะและยูกิที่หันไปคุยกันสองคนอย่างใช้ความคิด พวกเธอแนะนำตัวทันทีหลังจากพบกันอีกครั้งในหน้าประตูของโรงแรม อาเบย์โนะ ซายากะ และ วาตานาเบะ ยูกิ ทายาทตระกูลองเมียวจิผู้โด่งดังในยามาไท ใต้ฟ้านี้ไม่มีใครไม่รู้จักตระกูลอาเบย์โนะ แต่ที่น่าเหลือเชื่อก็ตรงที่ทายาทผู้นั้นกลับมาเข้าสอบปีเดียวกับพวกเขาซะนี่

               ความเก่งกาจด้านเวทมนตร์แทบไม่ต้องพูดถึง ตระกูลอาเบย์โนะมีเทคนิควิธีในการร่ายเวทที่ไม่เหมือนใคร และใครต่อใครก็เลียนแบบไม่ได้ เน้นอาศัยการหยิบยืมพลังฟ้าและดินมาแปรเปลี่ยนเป็นพลังในการต่อสู้ รวมถึงการใช้ยันต์กระดาษที่มีความคล้ายคลึงกับม้วนคัมภีร์เวท รวมถึงเวทอัญเชิญที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ถ้าเป็นศัตรูก็นับได้ว่ารับมือยาก แต่ถ้าเป็นมิตรก็ขอบอกไว้เลยว่าหนทางข้างหน้าย่อมราบรื่นไร้สิ่งกีดขวาง

               ในขณะที่ผู้หญิงผมดำ วาตานาเบะ ยูกิ กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ถ้าซายากะเปรียบดั่งดวงตะวันที่สาดแสงเจิดจ้า ยูกิก็คือจันทราที่เยือกเย็นและสวยงาม เธอคนนี้เป็นคนๆเดียวกับที่ปล่อยจิตสังหารออกมาอ่อนๆเมื่อวันที่โนอาห์เสนอหน้าเข้าไปช่วยเธอและซายากะ ถ้าโนอาห์เปรียบได้กับคมในฝัก เขาก็ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายถึงตัวตนของยูกิได้อีกแล้ว

               ผู้หญิงสองคนที่ไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้ กลับมีความสัมพันธ์ที่พวกเขาเองยังยากที่จะหยั่งถึง

               น่าสนใจจริงๆ

     

                   “ไปนานน่าดูเลยนี่” อารันเอ่ยทักทายโนอาห์ทันทีหลังจากเห็นร่างของชายผมดำที่คุ้นตาเป็นอย่างดี ซึ่งบัดนี้ไม่ได้เดินมาตัวเปล่าแต่อย่างใด ข้างหลังสะพายห่อกระดาษบางสิ่ง ซึ่งดูก็รู้ว่านั้นคือไม้เท้าเวทมนตร์ที่เจ้าตัวอุตส่าห์ถ่อเวลาไปถึงครึ่งวันเพื่อหาซื้อมันมา

                “พอดีว่าหลงทางนิดหน่อย” โนอาห์ไหวไหล่วืด เดินมาสบทบกับอารัน เหลือบมองสิ่งที่ชายหัวเขียวกำลังถือ พู่กันและกระดาษปึกหนา หวังว่ามันจะไม่มีอาชีพเสริมเป็นคนส่งสารก็แล้วกัน

                “หน้านายเหมือนไม่ได้หลงทาง” อารันหัวเราะเบาๆ

                “ทำเป็นรู้ดี รีบๆไปโรงแรมกันได้แล้ว เดินจนขาลากหมดแล้ว...เมืองนี้มันก็ใหญ่จริงๆให้ตายเถอะ” ชายผมดำส่ายหัวไปมา เอ่ยประโยคคล้ายกับว่ากำลังตัดพ้อ แต่สีหน้าและท่าทางไม่นำพาไปด้วยแม้แต่นิด จนอารันได้แต่มองตามหลังโนอาห์ที่ดูจะกระตือรือร้นผิดปกติอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะรีบเดินตามไปเพราะกลัวว่าจะคลาดสายตากันซะก่อน

                การมาเยือนมหานครแห่งมนตราครั้งนี้ของพวกเขาทั้งสองคน

                ถือว่าคุ้มค่าแล้วจริงๆ

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×