tachyon
ดู Blog ทั้งหมด

แปลเพลง - Iridescent - Linkin Park (ปรับปรุงใหม่อีกแล้ว)

เขียนโดย tachyon

เพลงนี้กว่าจะแปลเสร็จก็เล่นเอาเบลอ เพราะมัวแต่ตะกุยตะกายหาข้อมูลแหลกลาญ ก๊อคนมันไม่เข้าใจนิ เฮ้อ! คนมันฉลาดน้อยก็ยังงี้แหละ  แต่ตอนนี้(เกือบ)ถึงบางอ้อละ

เราเพิ่งแอบเห็นงานแปลเพลงนี้ของ circlegriff...อืม! แปลได้ดี แอบเห็นด้วยอีก (หลายใจจริงตรู)......ตอนแรกตั้งใจจะยังไม่เปลี่ยนคำแปลที่เราเคยโพสต์ไว้ แบ่บว่าเก็บเอาไว้ให้ชาวบ้านด่าเล่นๆ เผื่อจะหลุดข้อมูลดีๆมาแบ่งปันกันบ้างเอาไว้พัฒนาตนเอง ปรัชญาเราดีมั๊ย...หุๆ แต่หลังจากไปดู Transformers 3 (9 กค.)แล้วกลับมาอ่านงานแปลของตัวเองอีกครั้งก็คิดว่ามันน่าจะแปลให้คล้อยตามกับเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ดีกว่า ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่ท่อนที่คาใจเรามากที่สุดก็ตรงท่อนที่ว่า

And in a burst of light that blinded every angel
และในความสว่างเจิดจรัสจนบังตาทุกองค์เทพ
As if the sky had blown the heavens into stars
ราวกับว่าท้องฟ้าพัดพาสวรรค์เข้าสู่มวลดารา
You felt the gravity of tempered grace
คุณแว่วถึงโทนเสียงอันอ่อนโยนแสนอบอุ่น
Falling into empty space
ส่งไปถึงความเวิ้งว้างว่างเปล่า
No one there to catch you in their arms
ที่ซึ่งไม่มีใครรับคุณไว้ในอ้อมแขน


ตอนแรกเราแปลอย่างนี้เพราะคิดว่าชื่อเพลง Iridescent มันให้ความรู้สึกดีๆ เลยพยายามมองหาท่อนที่พอแปลให้มันดูเหมือนมีความหวังขึ้นมานิดๆบ้าง ก็เลยได้ท่อนนี้แหละที่พอแถได้ ประมาณว่ามีเสียงสวรรค์ลงมากันเชียว เหอๆ...แต่หลังจากดู Transformers 3 มีแต่ฉากระเบิดตูมตาม ความสิ้นหวังหดหู่มีให้เห็นกันทั่ว (แต่พอจะมีกำลังใจขึ้นมาบ้างก็ตอนท้ายๆนั่นแหละ และตอนจบเพลงก็ขึ้นท่อน Let it go Let it go มารับกันพอดี) งั้นเราเลยมาคิดๆดูอีกทีถ้าจะลองเปลี่ยนท่อนนี้ให้มันยังหมดหวังอยู่ล่ะ?!? ซึ่งก็จะได้ประมาณว่า

And in a burst of light that blinded every angel
ในความสว่างเจิดจ้าจนสายตาเหล่าเทพแทบมัวพร่า
As if the sky had blown the heavens into stars
ราวกับว่าท้องฟ้าทำให้สวรรค์สลายเป็นเพียงดาว
You felt the gravity of tempered grace
คุณรู้สึกถึงพลังแห่งความดีงาม
Falling into empty space
ร่วงลงสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า
No one there to catch you in their arms
ที่ซึ่งไม่มีใครรับคุณไว้ในอ้อมแขน

เราแปลประมาณนี้ก็ค่อยเหมือนความเห็นของคนทั่วไปหน่อยรวมถึงผู้ที่ช่วยมาแนะนำที่นี่ด้วย Thanksss หลายๆ 

ใครเห็นว่าไงบ้าง คำแปลใหม่ดีกว่าไหม หรือแบบเก่าดีแล้ว หรือควรเปลี่ยนคำบางคำอีกดี???

----------------------------------------------------------------

คำศัพท์ที่น่าสนใจ



Iridescent - เปล่งแสงแวววาวระยิบระยับเหมือนสีรุ้ง, รุ่งโรจน์, เปล่งปลั่ง (แสดงว่าเพลงนี้ต้องให้ความหมาย หรือ แง่คิดที่ดีๆ คนฟังรู้สึกมีกำลังใจและมองเห็นความหวังที่รุ่งโรจน์และสดใส)

In the wake of - ติดตาม, มาตามหลัง

Devastation - การทำลายล้าง, การทำให้รกร้างว่างเปล่า, การทำให้เสียหายอย่างรุนแรง

In the wake of devastation - สิ่งที่ตามหลังมา(ติดๆ)เมื่อเกิดความรุนแรงแบบทำลายล้างผลาญกันแบบนี้ก็คงจะมีเหลือแต่เศษซากที่น่าอดสูใจ เราไม่แน่ใจนะว่าความนัยของเพลงนี้จะหมายถึงการทำลายแบบ physical เช่น ภัยธรรมชาติ/ สงคราม หรือ จะหมายถึงแบบ mental คือจิตใจถูกบดขยี้ทำลายอย่างรุนแรง แต่เอาเป็นว่าตอนนี้เราขอแปลทื่อๆว่า "เศษซากการทำลายล้าง" ...ใครเห็นว่าไงบ้าง?

The edge of the unknown - บ๋อแบ๋ ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆเป็นศูนย์ เช่น เหมือนความรู้สึกหัวมันกลวงๆไปหมด(และแอบหวั่นๆ)เมื่อเราอยู่ในที่ที่เราไม่เคยรู้จักหรือเคยไปมาก่อน

Cataclysm - การเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ (ทางการเมืองและสังคม), น้ำป่า, การเปลี่ยนแปลงเพราะภัยธรรมชาติ, การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง, ความหายนะ, กลียุค, ความเกลียด...เราไม่แน่ใจนะว่า LP เจาะจงจะให้เป็นแบบไหน แต่ในใจเราว่าเค้าก็คงไม่ต้องการฟันธงลงไปแบบใดแบบหนึ่งหรอก งั้นเราเลยเลือกคำที่เป็นกลางและประหยัดถ้อยคำว่า "ความรุนแรง" ส่วนจะรุนแรงแบบไหน เรื่องอะไร ก็ละไว้ในฐานที่เข้าใจรึกันนะ 

Impossibly alone - เราเห็นใน dictionary บอกว่า impossible situation แปลว่า สถานการณ์ที่สุดจะอดกลั้นได้ >>> หลังจากทำการเทียบบัญญัติไตรยางค์แล้ว เราเลยมั่วแปล impossibly alone ว่า ความโดดเดี่ยวเดียวดายที่สุดจะทานทนอดกลั้นได้ (มามุขนี้ อึ้งเลยตรู! )
 
Blow into ระเบิดจนกลายเป็น ทำให้สลายหายไปเป็น มาอย่างคาดไม่ถึง พัดเข้าไป
 
Gravity - น้ำหนัก,แรงดึงดูด,ลักษณะที่รุนแรง,ความจริงจัง,ความเคร่งขรึม ลักษณะสำคัญ โทนท่วงทำนองทุ้มต่ำ

Tempered - อบอุ่น พอเหมาะพอเจาะ เป็นกลาง การปรับให้เข้ากัน ที่มีอารมณ์

Grace - ความเมตตากรุณา ความสวยสดงดงาม ความนุ่มนวล คุณธรรม

---------------------------------------------------------------------


Iridescent - Linkin Park
Credit Elzadel

When you were standing in the wake of devastation
ยามคุณกำลังยืนนิ่งอยู่บนเศษซากการทำลายล้าง
When you were waiting on the edge of the unknown
ยามคุณกำลังรอคอยอย่างไม่รู้อะไรเลย
And with the cataclysm raining down
พร้อมกับความรุนแรงที่กระหน่ำเข้ามา
Insides crying “Save me now”
คุณครวญในใจ "ช่วยด้วยเถิด"
You were there, impossibly alone
คุณอยู่นั่น, สุดทานทนกับความเดียวดาย

Do you feel cold and lost in desperation?
รู้สึกหนาวเหน็บและพ่ายแพ้เมื่อสิ้นหวังไหม?
You build up hope, but failure’s all you’ve known
คุณก่อความหวังขึ้นมา แต่กลับพังทลายสิ้น
Remember all the sadness and frustration
จงจดจำทุกความหมองหม่นและความหวาดหวั่น
And let it go. Let it go
แล้วปล่อยมันไป จงปล่อยมัน

And in a burst of light that blinded every angel
ในความสว่างเจิดจ้าจนสายตาเหล่าเทพแทบมัวพร่า
As if the sky had blown the heavens into stars
ราวกับว่าท้องฟ้าทำให้สวรรค์สลายเป็นเพียงดาว
You felt the gravity of tempered grace
คุณรู้สึกถึงพลังแห่งความดีงาม
Falling into empty space
ร่วงหล่นสู่ความเวิ้งว้างว่างเปล่า
No one there to catch you in their arms
ที่ซึ่งไม่มีใครรับคุณไว้ในอ้อมแขน

Do you feel cold and lost in desperation?
รู้สึกหนาวเหน็บและพ่ายแพ้เมื่อสิ้นหวังไหม?
You build up hope, but failure’s all you’ve known
คุณก่อความหวังขึ้นมา แต่กลับพังทลายสิ้น
Remember all the sadness and frustration
จงจดจำทุกความหมองหม่นและความหวาดหวั่น
And let it go. Let it go
แล้วปล่อยมันไป จงปล่อยมัน

Do you feel cold and lost in desperation?
รู้สึกหนาวเหน็บและพ่ายแพ้เมื่อสิ้นหวังไหม?
You build up hope, but failure’s all you’ve known
คุณก่อความหวังขึ้นมา แต่กลับพังทลายสิ้น
Remember all the sadness and frustration
จงจดจำทุกความหมองหม่นและความหวาดหวั่น
And let it go. Let it go
แล้วปล่อยมันไป จงปล่อยมัน

Let it go
ปล่อยมันไป
Let it go
จงปล่อยมัน
Let it go
ปล่อยมันไป
Let it go
จงปล่อยมัน

Do you feel cold and lost in desperation?
รู้สึกหนาวเหน็บและพ่ายแพ้เมื่อสิ้นหวังไหม?
You build up hope, but failure’s all you’ve known
คุณก่อความหวังขึ้นมา แต่กลับพังทลายสิ้น
Remember all the sadness and frustration
จงจดจำทุกความหมองหม่นและความหวาดหวั่น
And let it go. Let it go
แล้วปล่อยมันไป จงปล่อยมัน


กลับห้อง Music Video

กลับห้อง A Thousand Suns



ความคิดเห็น

Rheinfall
Rheinfall 19 พ.ย. 53 / 06:00
 แปลได้เฉียบและคมมาก ๆ มาตามสัญญา
ว่าจะหลอกหลอนนายตลอดไป ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ
elzadan
elzadan 19 พ.ย. 53 / 19:33
ย๊ากกกสสสส์เจอผีในบล็อกเรา หมอผีอยู่หนายยยย ช่วยด้วยก๊าบบบบบบ
Rheinfall
Rheinfall 23 พ.ย. 53 / 05:03
 มีปัญหาอะไรในกับใครป่ะเนี่ย
ความคิดเห็นที่ 4
ฟังเพลงนี้แล้วแถบร้องไห้ ยิ่งรู้คำแปลแล้วยิ่งหนักเลย แปลได้ดีมากคับ ชอบที่สุดเลย...
elzadan
elzadan 14 ธ.ค. 53 / 19:04
Many THX
ความคิดเห็นที่ 6
You felt the gravity of tempered grace
คุณรู้สึกถึงน้ำหนักของอารมณ์ที่ดีงาม
Falling into empty space
ร่วงหล่นกลายเป็นความเวิ้งว้างว่างเปล่า
elzadan
elzadan 6 มี.ค. 54 / 17:08
ไอ่ท่อนเนี้ยก็ทำให้เรางงเต๊กเหมือนกัน ไปๆมาๆเลยแปลออกมางงๆแบบเนี้ยแหละอ่ะ Thanks นะที่เสนออีกไอเดีย เอ้า ใครเห็นเหมือนหรือต่างกันบ้าง ช่วยแจมหน่อยเร๊ว
ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณสำหรับการแปลความหมายดีๆจากเพลงนี้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 9
แปลได้ดีมากค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10
เก่งจังครับ ^^
ความคิดเห็นที่ 11
And in a burst of light that blinded every angel

ในยามเช้าที่แสงสาดส่องลงมาสว่างมากเหลือเกินแม้เหล่าทวยเทพ
ก็ต้องหลับตาเหมือนตาบอดมองไม่เห็นแม้แต่ตัวของท่าน

As if the sky had blown the heavens into stars

หรือในยามค่ำท้องฟ้าก็เปลี่ยนไปเหลือแต่ดวงดาวเหมือน
ปัดเป่าสรวงสวรรค์ออกไปไม่เหลือให้ท่านได้เห็นเลย

You felt the gravity of tempered grace

ท่านรู้สึกเหมือนความดีที่ท่านทำยิ่งทำก็ยิ่งหนัก
ยิ่งทำยิ่งเหนื่อยเปล่า

Falling into empty space

สิ่งทีี่่ท่านทำเหมือนไม่มีประโยชน์ เหมือนค่อยๆกลายเป็นของไร้ค่า
สุดท้ายคงเหลือแต่ความว่างเปล่า

No one there to catch you in their arms

ยามที่ท่านต้องการใครสักคนช่วยเหลือกลับไม่มีใครยอมยื่นมือมาเลย
ไม่มีใครสักคนเลยที่ยอมยืนเคียงข้างท่านหรือยอมรับท่าน

ดังนั้น let\'s in go กันนะจ๊ะ ปล่อยวางกันนะ สิ่งแย่ๆก็แค่ประสบการณ์
ที่สอนว่าทุกข์คืออะไร ทำดีกันนะ พรุ่งนี้วันวิสาขะแล้ว
elzadan
elzadan 16 พ.ค. 54 / 23:13
เออแฮะ แปลยังงี้ก็เข้าท่าดีแฮะ
ความคิดเห็นที่ 13
แปลความหมายดีมากเลยคับชอบมากๆ

อยากรู้ว่าถ้าจะเก่งภาษาหรือเอ่อเป็นเร็วๆ ต้องทำยังไงบ้างหรอคับ

แนะนำด้วยฮะ^_^
elzadan
elzadan 18 พ.ค. 54 / 20:22
ก่อนอื่นออกตัวก่อนว่าเราก็ไม่เก่งภาษาเหมือนเจ้าของมาเองนะ แบ่บว่าแอบมั่วก็หลาย แต่ก็พอเอาตัวรอดได้

ก่อนอื่นเลยต้องรักที่จะเรียนรู้ และถ้าเรียนรู้จากประสบการณ์ได้จะดีมาก เช่น

ถ้าดูหนัง ซีรีย์ก็เน้นดูภาษาอังกฤษแบบไม่มี subtitle เลย อดใจไว้อย่าเผลอดูคำแปล ถ้าดูครั้งแรกยังไม่ค่อยรู้เรื่องก็ดูอีกรอบ คราวนี้มี English sub ด้วย หรือ รอบต่อไปก็ดู sub ไทย โลด

ถ้าคิดจะอ่านหนังสือเพื่อผ่อนคลาย เช่น นิยาย ก็ไปหาอ่านแนวที่ชอบที่เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าเจอศัพท์ที่ไม่รู้จักก็อ่านข้ามๆไปก่อน และถ้าเจอศัพท์ตัวนั้นๆหลายๆครั้งเข้าจนชักหงุดหงิดใจก็ค่อยเปิดดิกดูว่าแปลว่าอะไร

การนั่งท่องแกรมมาร์แบบเป็นบ้าเป็นหลัง ถ้าจำได้ก็แค่ช่วยให้เราเก่งในภาคทฤษฎี แต่อาจไม่รวมถึงความสำเร็จในภาคปฏิบัติ และในระยะยาวเราอาจลืมในสิ่งที่เราเคยจำได้
 
ถ้าชอบเล่น chat skype msn facebook หรือ อะไรก็แล้วแต่ก็ลองคุยกับเพื่อนเป็นภาษาอังกฤษนะ ไม่ต้องสนว่าถูกหรือผิด ขอแค่เพื่อนรู้เรื่องก็พอ และ เน้นหาเพื่อนต่างชาติได้ก็จะดีมาก

แล้วเขียนบันทึกประจำวันบ้างไหม ถ้าเขียนอยู่ ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นภาษาอังกฤษก็ดีนะ ไม่ต้องเอาอะไรมาก แค่ตัวเองอ่านแล้วรู้เรื่องก็ใช้ได้ละ

เอ้า ลองดูนะ
ความคิดเห็นที่ 15
โหวขอบคุณมากเลยนะคุณ คุณพูดถูกใจผมมากเลย ผมก็ชอบแบบนี้มาก

ผมเบื่อกับการที่อาจานมานั่งสอน ทฤษฎีผมแล้วหละ คับขอบคุณมากๆเลยนะ

คับที่แนะนำ แต่ผมชอบเนื้อเพลงที่คุณแปลมากเลยมัน เยี่ยมมาก ^_^
ความคิดเห็นที่ 16
ชอบเพลงนี้มากเลยครับ ชอบอังกฤษ เลยลงศิลป์ภาษา^^-
elzadan
elzadan 20 พ.ค. 54 / 23:01
ดีจัง ชอบอะไรก็เรียนอย่างนั้น แบบนี้สิ ก้าวหน้าแน่ๆ
elzadan
elzadan 20 พ.ค. 54 / 23:05
Thanks ที่ชมนะ  แต่ถ้าพบว่าแปลมั่ว แปลผิดล้านเปอร์เซ็นต์ก็กระโดดกัดหูคนแปลได้เล๊ย (สงสัยงานนี้ตรูคงหูแหว่งจนเหวอะแน่ เหอๆ )
ความคิดเห็นที่ 19
ผมว่าเพลงนี้ อารมณ์ มาจากชีวิตจริง ของนักร้องมั้ง

เขาคงเคยมีรักแต่แล้ว อกหัก เพราะคงคิดว่าแฟนไม่รัก

แต่สักวันหนึ่งคงรู้ว่าแฟนเขารักเขามาก ซึ้งวันนั้นอาจ.......สายเกินไป

อะไรทำนองนั้น
elzadan
elzadan 7 มิ.ย. 54 / 19:14
สงกะสัยทั่นรักกำลัง falling in love อยู่ใช่มะ อิๆ
1 2 3  …  5 >