พูดคุยเชิงวิจารณ์เพลง Kamikaze Wave กับไอ้เอจอมปากดี

          หวัดดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวเด็กดีหน้าเดิม ๆ ทั้งหลาย  กลับมาพบกับไอ้เอจอมปากดีคนเดิมอีกแล้วกับเรื่องเล่าในครั้งนี้  หลังจากที่เรื่องเล่าในครั้งก่อนได้ผลตอบรับไม่ค่อยดีเท่าไหร่  เพราะมันคงจะธรรมดาไปแล้วสำหรับใครหลาย ๆ คนที่เจอเรื่องแบบผมล่ะมั้ง (ปกติเรื่องของมึงก็ไม่มีใครสนใจจะเข้ามาอ่านอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไงมึงอย่ามาเนียนนะไอ้แสด) เอาล่ะครับถึงเรื่องที่แล้วจะไม่ค่อยได้รับ feedback กลับมาดีเท่าไหร่ผมก็ไม่แคร์อยู่แล้วครับเรื่องแบบนี้  เพราะเรื่องที่แล้วมันอาจจะยาวมากไปหน่อย  ผู้คนเลยขี้เกียจอ่านกันไปเป็นธรรมดาตามประสาพวกที่ไม่ค่อยชอบอ่าน Blog ถ้าเรื่องมันไม่ถูกใจอ่ะนะครับ


          มาเข้าเรื่องสำหรับวันนี้กันดีกว่า  หลังจากที่ทุกคนเห็นชื่อเรื่องที่ผมตั้งขึ้นมาแล้ว  ก็คงไม่ต้องให้ผมสาธยายอะไรมากมายนะครับ  ว่าผมจะมาคุยกับเพื่อน ๆ ในเรื่องอะไรกัน  และผมเชื่อว่าทุกคนก็คงจะได้รับฟังเพลงนี้กันมาทุกคนแล้วด้วยไม่มากก็น้อยจริงมั้ย  ใช่แล้วครับในครั้งนี้ผมจะมาในฐานะนักฟังเพลงคนหนึ่ง  ที่อยากวิจารณ์ผลงานเพลงที่ผมได้ฟังมาบ้างว่า  งานชิ้นนั้นทำออกมาดีหรือไม่ดีอย่างไร  ซึ่งเพลงที่ผมฟังมีทุกแนวครับไม่ว่าจะเป็นเพลงไทยลูกทุ่ง หมอลำ หรือเพลงอะไรก็ตาม  ยันเพลงสากลของเมืองนอกนั่นแหละครับ  แต่ทำไมผมถึงหยิบเอาเพลงนี้มาพูดให้ทุกคนฟังอย่างนั้นน่ะเหรอ  ที่ผมหยิบเอาเพลงนี้มาเพราะมีเหตุผลอยู่ไม่กี่ข้อครับนั่นก็คือ 1) เพลงนี้เป็นเพลงของค่ายน้องใหม่ที่แจ้งเกิดออกมาไม่นานและมีอายุน้อยที่สุดในค่ายเพลงอื่น ๆ นั่นก็คือยังไม่ถึง 5 ปีนั่นเองครับ 2) จากเหตุผลข้อแรกค่ายเพลงนี้จึงเป็นเพลงของเด็กรุ่นใหม่ที่ยังเป็นเยาวชนอยู่นั่นเอง  เลยทำให้มีนักร้องวัยรุ่นถึง 41 ชีวิตกันเลยทีเดียวในปัจจุบันของค่ายเพลงนี้ 3) ด้วยเหตุผลจากสองข้อที่ผมกล่าวมาแล้ว  ค่ายเพลงนี้ยังเกิดขึ้นมาท่านกลางกระแสของเพลงเกาหลีที่มันกำลังฟีเว่อร์อยู่ในขณะนี้อีกด้วย  จึงทำให้เพลงของค่ายนี้หนักออกไปในแนวป๊อบแดนซ์นั่นเองครับ  แถมเป็นแดนซ์โดยไม่สนเนื้อร้องของเพลงซะด้วยสิ  ว่ามันหมายถึงอะไรและมันเกี่ยวของกับเรื่องราวในเพลงมากน้อยแค่ไหน


          และจากเหตุผลทั้ง 3 ข้อนี้ของผมมันก็ทำให้ผมอยากจะพูดคุยเชิงวิจารณ์กับทุกคนเกี่ยวกับเพลงนี้ของค่าย Kamikaze นั่นเองครับ  แต่ก่อนอื่นผมขอบอกไว้ก่อนนะครับ  สำหรับเหล่าแฟนคลับของศิลปินในค่ายนี้ว่าทุกคำพูดหรือคำวิจารณ์ในเรื่องนี้ของผม  เป็นความคิดของคนฟังเพลงเพียงหนึ่งคนเท่านั้นไม่ได้มีคนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด  ถ้าหากว่าคำบางคำหรือหลายคำของผมอาจจะไปสะกิดต่องโมโหของพวกคุณขึ้นมาผมก็ต้องขอโทษด้วยละกันนะครับ  แต่ถ้าจะให้ผมไปรับผิดชอบเพราะโดนฟ้องข้อหาดูถูกหรือหมิ่นประมาทผลงานทางปัญญาของค่ายเพลงนี้ผมก็คงจะทำไม่ได้หรอกครับ  เพราะผมเป็นแค่นักฟังเพลงคนนึงเท่านั้น  ที่อยากพูดถึงผลงานเพลงที่ตัวเองเคยฟังมาก่อนแค่นั้นเองว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่านะครับผม


          มีกูรูเรื่องงานวิจารณ์ผลงานเพลงท่านหนึ่งเคยบอกเอาไว้ว่า  บทเพลงที่ดีนั้นจะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 3 สิ่งด้วยกันนั่นก็คือ 1. ทำนองหรือเมโลดี้ของเพลงต้องดีไม่ดูยุ่งเหยิงจนเกินไป 2. เนื้อร้องหรือข้อความในเพลงต้องมีความหมายที่งดงามและสะกดใจให้ผู้คนอยากฟังอีก และ 3. เสียงของนักร้องจะต้องมีเอกลักษณ์ที่เป็นตัวตนของนักร้องคนนั้นเอง  และต้องเหมาะกับทำนองเมโลดี้ของเพลงนั้น ๆ และทั้งสามสิ่งนี้  เมื่อขาดไปแม้เพียงข้อใดข้อหนึ่งก็จะทำให้บทเพลงนั้นขาดความไพเราะและน่าฟังกันไปเลยทีเดียว


          และด้วยองค์ประกอบทั้ง 3 ข้อนี้นั่นเองที่ทำให้ผมเอามาแยกพิจารณาจากเพลง Kamakaze Wave เลยอยากจะขอแยกพูดเป็นข้อ ๆ ไปเลยละกันนะครับ


          1. ทำนองและเมโลดี้ได้เรียบเรียงมานั้นฟังแล้วติดหูและดูไม่ยุ่งเหยิงเกินไปหรือไม่  ข้อนี้ผมขอบอกได้เลยว่าขึ้นชื่อว่าเป็นค่าย Kamikaze แล้วเรื่องที่มีทำนองติดหูนี่ก็ต้องยกให้เค้าแหละครับว่าติดหูจริง ๆ ก็มันเป็นแนวเพลงที่มีจังหวะใหม่ ๆ เพราะได้รับผลกระทบจากเพลงเอเชียอื่น ๆ ที่ค่ายนี้ได้เกิดมาท่ามกลางกระแสเหล่านี้นี่หว่า  มันก็ต้องติดหูกันอยู่แล้วเป็นธรรมดา  อย่างเพลง Wave ที่เราจะคุยกันเนี่ย  ก่อนอื่นอันดับแรกที่ทำให้ทุกคนนึกถึงค่ายนี้ก็คือเพลงแนวป๊อบแดนซ์ใช่มั้ยล่ะครับ  เพราะไม่ว่าจะมาเป็นเพลงของศิลปินกลุ่มไหนของค่ายนี้  ก็จะต้องมีเพลงเต้นออกมาให้พวกเราได้ฝึกเต้นกันไปทุกครั้งเลยทีเดียว  และแน่นอนครับขึ้นชื่อว่าเป็นเพลงแนวเต้นก็ต้องมีจังหวะทำนองที่ชวนให้อยากเต้นและน่าสนใจ  ซึ่งเพลง Kamikaze Wave นี่ก็ได้ใจคนฟังไปเต็ม ๆ เลยในเรื่องของเพลงแนวป๊อบแด้นซ์  ก็แหมเพลงนึงมีการเปลี่ยนจังหวะ Tempo กันตั้งหลายสไตล์นี่นา  แถมไม่เป็นการดูว่ามีการเปลี่ยนจังหวะเยอะเกินไปด้วยถูกมั้ยล่ะ  อย่างนี้จะไม่ให้ได้ใจคนฟังเพลงแนวนี้ได้ยังไงล่ะครับจริงมั้ย


          2. เนื้อร้องในบทเพลงนี้มีความหมายและสะกดใจคนฟังให้อยากฟังอีกหรือไม่  มาถึงข้อนี้ผมเชื่อว่าเริ่มมีบางคนมีความคิดเหมือนกับผมแล้วแหละว่า  เออไอ้เพลง Kamikaze Wave เนี่ยเพลงนี้มันต้องการจะสื่อถึงอะไรวะทำไมกูฟังกี่ที ๆ แม่งก็ยังฟังไม่ออกว่า  แต่ละท่อนที่มันร้องออกไปเนี่ยมันสอดคล้องกับท่อนที่ร้องมาก่อน ๆ หรือป่าววะเนี่ย  ถ้าใครยังนึกไม่ออกว่าทำไมมันถึงมีความหมายไม่สอดคล้องกัน  งั้นผมจะพูดให้ฟังทั้งเพลงก็ละกันนะครับ  ว่าเพลงนี้มันพูดเกี่ยวกับอะไรบ้าง  เริ่มเพลงมาท่อนแรกจะเป็นท่อนร้องฮิพฮอพที่มีกลุ่มศิลปินสามตัวที่ชื่อว่า "3.2.1." ที่มาร้องอะไรก็ไม่รู้เป็นภาษาอังกฤษ  โดยที่มีอีคุณผู้หญิงคนนึงที่เสียงแม่งแหลมโครต ๆ ไม่รู้ว่ามันจะแหลมไปไหนแหลมจนกูฟังไม่รู้เรื่องว่าแม่งร้องว่าอะไรบ้าง  ส่วนสองข้างของเธอก็มีไอ้ควายเผือกที่ พี่โน้ส อุดม กูเค้าพูดไว้ในเดี่ยว 8 สองตัวมายืนบ่นงึมงัม ๆ อะไรก็ไม่รู้อยู่ข้าง ๆ อีเธอคนนี้  ก่อนที่จะไปถึงท่อนต่อไปนั่นก็คือท่อนของวง "Fact U" และ "X.I.S." ที่ขึ้นต้นมาจะร้องว่า Follow Me ทุกครั้งก่อนที่จะตามด้วยเนื้อเพลงท่อนอื่น ๆ ออกมา  ซึ่งเนื้อร้องที่ตามท่อน Follow Me นั้นออกมาก็ไม่ได้เกี่ยวเหี้ยอะไรกับคำแรกที่มันร้องเลยแม้แต่น้อย  ซึ่งก็ทำให้กูงงมากว่านี่กูยังอยู่ในเพลงเดียวกับท่อนเมื่อกี้รึเปล่าวะ  เพราะมันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อยก็ท่อนนี้แม่งความหมายประมาณว่า  กูไม่ชอบทำอะไรในกฎเกณฑ์ของมึงเพราะฉะนั้น  มึงห้ามมายุ่งกับกูนะเฮ้ยอะไรประมาณนั้นล่ะมั้งครับ


          หลังจากจบท่อน Follow Me ไปคราวนี้ก็จะเข้าท่อนของเด็กใหม่เช่นกันนั่นก็คือ "Kat-Pat" และ "Kiss Me 5" ที่เด็ก ๆ หลาย ๆ คนชอบร้องกันมาก  แต่อาจจะมีบางคนที่ยังไม่เข้าใจว่ามันร้องว่าอะไรเพราะท่อนนี้มันร้องเร็วมาก  ซึ่งถ้าไม่ได้ดูเอ็มวีที่มีเนื้อเพลงให้เห็นด้านล่าง  อาจจะทำให้ร้องเพี้ยนไปก็ได้นะครับพี่น้อง  แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะต่อให้ร้องได้หรือไม่ได้ยังไงซะมันก็ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับท่อนก่อนหน้านี้เหมือนกันอีกนั่นแหละครับ  เพราะท่อนนี้มันร้องว่า bb ไปหาเธอได้รับบ้างรึเปล่า check ใน facebooks ก็ไม่เคยจะเห็นข่าว update now update now ก่อนที่จะตามด้วยท่อนของ Kiss Me 5 ที่ร้องต่อมาว่า  เจอเธอทีไรใจมันคอยจะ Twitt U On My Mind โดยไม่ต้องไปทำ Quiz แล้วก็ปิดท้ายด้วย Follow Me Follow Me อีกครั้งนึง  ซึ่งกูก็งงอีกว่าไอ้สองท่อนนี้มันเกี่ยวกันตรงไหนวะ  หรือว่ามันเกี่ยวกันตรงที่ท่อนแรกที่ประมาณว่า  มึงต้องการจะส่งข่าวให้ไอ้สมแห้วที่ไหนก็ไม่รู้คนนึงซึ่งอยู่บนโลกใบนี้  แต่ปรากฏว่าไอ้บ้านี่มันดันไม่อยู่ซะอย่างนั้น  ก็เลยอยากรู้ว่ามึงอยู่ที่ไหนกันแน่บอกกูทีประมาณนั้นรึเปล่า  ก่อนที่จะตามมาด้วยท่อนที่สองหลังจากที่ไม่ได้รับข่าวสารจากไอ้สมแห้วตัวเดิมนี่แหละ  มันเลยไปเจอคนใหม่แทนเลยเข้าท่อนนั้นก่อนที่จะเรียกให้เค้าตามตูดกูมาด้วยท่อนจบของท่อนนี้ก็คือ Follow Me Follow Me


          หลังจากจบท่อนพวกนี้แล้วต่อไปก็คือท่อนฮุกที่ติดหูของเราทุกคน  และยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของพวกเรามาจนถึงทุกวันนี้  รวมถึงโสตประสาทของกูด้วยซึ่งท่อนนี้แม่งก็ไม่ได้เกี่ยวกับท่อนอื่น ๆ อีกนั่นแหละ  ตกลงว่าเพลงนี้ที่กูฟังมานี่มีท่อนไหนที่ม่างมีความหมายสะกดใจคนฟังให้อยากฟังต่อมั่งมั้ยวะเนี่ย  ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นเพลงแด๊นซ์ที่อยากให้คนฟังเต้นตามโดดตามอ่ะ  ถ้าคิดอย่างนั้นผมว่ามันก็คงจะสนุกดีอยู่หรอกครับ  เพราะจังหวะมันน่าเต้นจริง ๆ นั่นแหละ  แต่ถ้าจะเอาที่เพลงนี้ดีหรือไม่ดีผมก็ขอบอกเลยว่า  เพลงนี้เป็นเพลงที่ทำเนื้อร้องออกมาได้ชุ่ยมากครับบอกตรง ๆ เพราะมันไม่ได้มีสาระอะไรแฝงออกมาเลยแม้แต่น้อยมีแต่ทำออกมาให้เต้นอย่างเดียวเท่านั้นเอง  เพราะฉะนั้นถ้าจะเลือกเอาเพลงนี้เอามาฟังเพื่อเต้นอย่างเดียวโดยไม่สนส้นตินอะไรทั้งสิ้นผมก็จะบอกว่า  เพลงนี้นี่แหละครับเหมาะที่สุดแล้วในการเอามาเต้น  ส่วนความหมายของเพลงนี้ดีหรือไม่ดีนั้นเลิกคุยครับถ้ามาถามผม  เพราะเพลงนี้มันขาดองค์ประกอบที่สองของเพลงที่ดีไปแล้ว  มันจึงไม่ใช่เพลงที่ไพเราะและสะกดใจคนอยากให้ฟังต่อไปอีกแล้วครับ


          3. เสียงของนักร้องมีเอกลักษณ์เป็นเฉพาะตัวของตัวเองและเหมาะกับเมโลดี้นี้หรือไม่  ข้อนี้ก็เป็นอีกข้อนึงที่เพลง "Kamikaze Wave" นี้ของค่าย Kamikaze ขาดหายไปครับ  เพราะว่าเพลงนี้เพียงเพลงเดียวแต่ใช้ศิลปินร้องถึง 41 ชีวิตกันเลยทีเดียว  ซึ่งความหมายของเพลงก็ไม่ได้มีความหมายอะไร  อีกทั้งจำนวนของนักร้องก็มีเยอะเกินไปจนคนฟังไม่สามารถจำเส้นเสียงของศิลปินแต่ละคนได้  เพราะแต่ละคนร้องกันแค่เพียงคนละนิดคนละหน่อยเท่านั้นเอง (มึงจะเอาให้เหมือนกับเกาหลีหมดเลยเหรอไงวะเฮ้ย  มึงเป็นค่ายเพลงไทยนะไอ้สาดให้เด็กไทยมันได้โชว์ความสามารถกันหน่อยเด้  ไม่ใช่ให้มันมายืนนิ่ง ๆ เป็นหุ่นโดยที่ไม่ได้ทำส้นตีนอะไรเลยอ่ะเฮ้ย) และที่ทำให้ผมไม่ประทับใจอย่างยิ่งเลยก็คือ  เพลงนี้เป็นเพลงที่มีจุดประสงค์เพื่อต้องการจะโปรโมทศิลปินหน้าใหม่ของค่าย Kamikaze ครับ  ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะต้องเอาศิลปิน Kamikaze รุ่นแรกมาร่วมร้องด้วย  ถ้าหากว่าผู้บริหารค่ายมีวัตถุประสงค์ที่จะโปรโมทศิลปินหน้าใหม่ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มของคนฟังจริง ๆ ล่ะก็  ทางที่ดีผมว่าน่าจะเป็นการให้โอกาสศิลปินน้องใหม่ทั้ง 19 คนซึ่งออดิชั่นเข้ามานี้  ได้โชว์ความสามารถของแต่ละคนให้เต็มที่ในเพลงนี้จะดีกว่าครับ  ไม่ใช่ปล่อยให้รุ่นพี่ของค่ายชิงความเด่นของรุ่นน้องไปจนหมดในเพลงนี้  โดยที่รุ่นน้องไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถของตัวเองที่ทำให้ผู้ใหญ่ทางค่ายให้โอกาสมาเลยแม้แต่น้อย  ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้านะครับสำหรับเพลงไทยวัยรุ่นสมัยใหม่เดี๋ยวนี้  เพราะแค่เสียงของนักร้องก็ทำให้คนฟังไม่สามารถรู้ได้แล้วว่าฟังเสียงร้องของใครอยู่  เพราะศิลปินใหม่แต่ละคนได้ร้องกันคนละนิดคนล่ะหน่อยเท่านั้น  ซึ่งก็ทำให้ความไพเราะของเพลงนี้หายไปอีกหนึ่งข้อเช่นกัน  แต่ก็อย่างที่ผมบอกแหละครับว่าเพลงนี้มันเป็นเพลงสำหรับเต้นไม่ใช่เพลงที่ใช้สำหรับฟังเพลิน ๆ เพราะฉะนั้นถ้าจะเอาความไพเราะของเพลงนี้ล่ะก็  ผมก็ขอบอกว่าลืมไปได้เลยเพราะเพลงนี้ไม่มีคุณสมบัติในข้อนี้ให้ครับ  แต่ถ้าจะเอาความสนุกจากเพลงนี้ล่ะก็เพลงนี้มีให้คุณได้อย่างแน่นอนครับ


          และนี่ก็คือคำวิจารณ์จากคนฟังเพลงคนหนึ่งที่พูดในฐานะคนฟังเพลงเพียงหนึ่งคนเท่านั้น  ใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับผมหรือไม่อย่างไรนั้น  ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนนะครับ


          ป.ล. ว่าแต่ไอ้ท่อนฮุกของเพลงนี้ที่มันร้องว่า "Right Here!! Real Digital Rave Right Now!! Sign In 2 Gen Net." นี้มันคืออะไรวะไอ่ Real Digital Rave กับ Sign In 2 Gen Net. เนี่ย  ใครรู้บ้างบอกผมหน่อยดิเพราะผมฟังมาตั้งหลายรอบแล้วก็ยังไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่  หรือว่ากูคงแก่เกินไปแล้วฟะเลยไม่ทันภาษาวัยรุ่นสมัยนี้  มันมีด้วยเหรอวะไอ้ระบบDidital Rave กับ 2 Gen Net. เนี่ย  กูไม่เคยเห็นมาก่อนเลยวุ้ยบ้านนอกชิหายเลยแสด


          ป.ล.2 เอรักทุกคนจ้าจุ๊ฟฟฟฟฟฟฟฟฟมั๊วะอ่ะกิ้วกร้าวว้าววู้ว