การจะเลี้ยงสัตว์สักชนิด ย่อมต้องมีการเตรียมพร้อมก่อนเลี้ยง และเมื่อเป็นแมวเปอร์เซีย ซึ่งมีข้อจำกัดต่างๆ ค่อนข้างเยอะ ผู้ที่จะเลี้ยงแมวเปอร์เซียก็ควรหาข้อมูลให้ดีก่อนเลี้ยง และเรามีวิธีการเลี้ยงแมวเปอร์เซียรวมถึงการเตรียมความพร้อมก่อนเลี้ยงแมวเปอร์เซียมาฝากสำหรับคนรักแมวทุกท่าน ลองมาดูกัน
ประวัติความเป็นมาของ แมวเปอร์เซีย หรือแมวเปอร์เซียน ( Persian Cats ) มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเปอร์เซีย ในประเทศตุรกี และอิหร่านในปัจจุบัน โดยแมวเปอร์เซียตัวแรกที่ได้รับการบันทึกไว้เป็นหลักฐานถูกนำเข้ามายังทวีปยุโรปในปี ค.ศ. 1620 เป็นแมวขนสีเทาจากเมือง โคราซาน ( Khorasan ) ประเทศเปอร์เซีย และได้ไปอยู่ยังประเทศอิตาลี และแมวขนยาวสีขาวจากเมืองอังกอร่า ( ปัจจุบันคือเมือง Ankara ) ประเทศตุรกี
และต่อมาได้ไปอยู่ยังประเทศฝรั่งเศส ต่อมา แมวเปอร์เซีย ได้ถูกนำไปเลี้ยงตามหลาย ๆ ประเทศ สำหรับประเทศไทยนั้น แมวเปอร์เซีย จัดได้ว่าเป็นแมวพันธุ์ต่างประเทศพันธุ์แรกที่ถูกนำมาเลี้ยง สำหรับแมวเปอร์เซีย ในสมัยก่อนนั้น ค่อนข้างมีหน้าตาที่ต่างจาก แมวเปอร์เซีย ในปัจจุบันพอสมควร ซึ่งปัจจุบันได้ถูกถูกพัฒนาให้มีรูปร่างที่สั้นขึ้น และมีขนยาวขึ้น ถูกเปลี่ยนแปลงโครงร่างให้ใหญ่และกลม จมูกสั้นและหักมากขึ้น
ลักษณะโดยทั่วไปของ แมวเปอร์เซีย
ลักษณะภายนอก แมวเปอร์เซีย เป็นแมวขนาดกลาง แต่ด้วยขนที่หนา อาจจะทำให้ดูมีขนาดใหญ่กว่าความเป็นจริง ตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ 4-6 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียมีน้ำหนักประมาณ 3-5 กิโลกรัม โครงสร้างลำตัวสั้น หน้าบี้ จมูกและตาเกือบเสมอกัน ขาสั้น มีศีรษะใหญ่รูปทรงกลม แก้มกลม ใบหูขนาดเล็ก ดวงตาโตสวยงาม ตามีสีฟ้า ทองแดง เขียว เฮลเซล และตาสองสี หางยาวเป็นพวงระย้า แมวเปอร์เซีย เป็นสายพันธุ์แมวขนยาว นุ่ม เงางาม และหนาฟู มีสีขนมากกว่า 80 สี แต่สีที่มักจะพบกันบ่อย ๆ คือ สีดำ สีขาว สีน้ำเงิน สีครีม สีแดง สีฟ้า สีช็อคโกแลต และสีเงิน เป็นต้น
นิสัย แมวเปอร์เซีย
นิสัย แมวเปอร์เซีย ลูบลำตัว ลูบหัว ด้วยความอ่อนโยน แต่ค่อนข้างซุกซน แต่บางครั้งก็ดูสงบ โลกส่วนตัวสูง ชอบประจบประแจง ชอบปีนป่ายไปตามที่ต่างๆ ร่าเริง เข้ากับคนได้ง่าย และเป็นมิตรกับทุกคน แต่ก็ไม่ใช่กับทุกตัว ขึ้นอยู่กับเพศ นิสัยส่วนตัว แต่ไม่ชอบเล่นอะไรที่เสียงดังอึกทึก และด้วยความน่ารักของ แมวเปอร์เซีย จึงเป็นแมวสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงมากที่สุดในโลก
การดูแลขน แมวเปอร์เซีย
การดูแลขน แมวเปอร์เซีย ควรแปรงขนเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละประมาณ 10 - 15 นาที โดยจุดที่ควรแปรงขนเป็นพิเศษคือ ที่คอ กลางหลัง และหาง เพราะว่าเป็นจุดที่แมวเปอร์เซียไม่สามารถเอื้อมไปเลียขนได้ สำหรับ แมวเปอร์เซีย เป็นแมวขนยาว จึงจำเป็นต้องดูแลเอาใส่ใจ่มากกว่าปกติ ป้องกันขนพันการเป็นกระจุก ป้องกันขนร่วง และควรอาบน้ำประมาณเดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อทำความสะอาดร่างกาย
อาหาร แมวเปอร์เซีย
การเลือกซื้ออาหาร แมวเปอร์เซีย ควรเลือกซื้ออาหารที่ช่วยให้ทางเดินอาหารและอาหารแมวที่บำรุงขน เหมะกับแมวขนยาว ที่ชอบเลียและทำความสะอาดขน ช่วยลดการก่อตัวของก้อนขน ที่สะสมอยู่ในลำไส้ หากเส้นขนเข้าไปรวมตัวกันในช่องท้องมากเกินไป จะทำให้ น้องแมวเปอร์เซีย ของคุณ เกิดปัญหาของระบบย่อยอาหารได้
การดูแล แมวเปอร์เซีย
นอกจากเรื่องการให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารแล้ว เรื่องการออกกำลังกายก็เป็นเรื่องสำคัญ สำหรับ แมวเปอร์เซีย ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายมากเกินไป เพียงแค่เล่นกับเจ้าของ เช่นเล่นไล่ลูกบอล เพียงแค่นี้ก็ถือว่าได้ออกกำลังกายไปพอสมควรแล้ว
วิธีเลี้ยงและการเตรียมพร้อมก่อนเลี้ยงแมวเปอร์เซีย
1. ก่อนจะเลี้ยงแมวเปอร์เซีย เรามีคำถามให้คุณถามตัวเอง สักสองสามข้อ ได้แก่
- ทำไมถึงอยากเลี้ยงแมวเปอร์เซีย
- มีความพร้อมที่จะรับผิดชอบเจ้าเหมียวไหม มีเวลาให้เขาเพียงพอไหม
- กล้าจะอาบน้ำให้แมวเปอร์เซียไหม เพราะขั้นตอนการอาบน้ำให้แมวเปอร์เซียมีรายละเอียดค่อนข้างมาก
2. เตรียมสถานที่เลี้ยงแมวเปอร์เซียให้พร้อม
การเลี้ยงแมวเปอร์เซียไม่ใช้พื้นที่มากนัก แต่ที่ที่เขาอยู่ห้ามไม่อับชื้นเป็นอันขาด และระวังอย่าเลี้ยงเขาในที่ที่มีสิ่งของมากไป เพราะความซนของเจ้าแมวเปอร์เซียอาจทำให้ของตกแตกเสียหายได้
3. เตรียมที่ขับถ่ายให้แมว
เตรียมกระบะทรายให้แมว แต่ต้องระวังให้ดี เพราะแมวบางตัวที่ไม่คุ้นกับทรายแมวอาจกินทรายเข้าไปได้ ต้องทำให้เขาคุ้นเคยกับทรายแมวเสียก่อน
4. กระบอกน้ำสำหรับแมว
การให้แมวกินน้ำจากกระบอกน้ำดีกว่าการใส่ถาดให้แมวกิน เพราะจะไม่มีปัญหาเรื่องน้ำเปียกขนใต้คางทำให้ขนชื้นและเป็นเชื้อรา
แมวเปอร์เซีย วิธีเลี้ยง และการเตรียมพร้อมก่อนเลี้ยงแมวเปอร์เซีย
5. อาหาร
จะให้อาหารเม็ดหรือทำเองก็ได้ และแมวสามารถกินของดิบได้ แต่ควรจะถ่ายพยาธิให้แมวบ่อยๆ ด้วย
6. ตะกร้าใส่แมว พร้อมกระดาษซับฉี่
เพื่อความสะดวกในการพาเจ้าแมวเปอร์เซียไปไหนมาไหน
7. ให้ความรักและการเอาใจใส่แก่แมวเปอร์เซีย
ที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะแมวเปอร์เซีย แมวพันธุ์อื่น หรือสัตว์เลี้ยงชนิดไหนๆ เมื่อเราตัดสินใจนำเขามาเลี้ยงแล้วเราก็ควรให้ความรัก ให้เวลา และการเอาใจใส่เขาอย่างดีที่สุด
ราคา แมวเปอร์เซีย แบ่งเป็น 2 เกรด
การหาซื้อแมวเปอร์เซีย ปัจจุบันถือว่าหาซื้อได้สะดวกสบาย ไม่ว่าจะในตลาดนัดสัตว์เลี้ยง หรือสั่งซื้อออนไลน์ รวมถึงฟาร์มเพาะพันธุ์รายใหญ่ ก่อนจะซื้อแมวมาเลี้ยง จะต้องดูสุขภาพของแมวเปอร์เซียก่อน ว่ามีสุขภาพดีมั้ย แมวเปอร์เซีย ที่ซื้อจะต้องไม่มีคราบน้ำตา เพราะว่าเสียงต่อโรคท่อน้ำตาอุดตัน และควรตรวจเช็คตามร่างกายก่อนที่จะตกลงซื้อขาย ที่สำคัญอย่าลืมที่จะขอใบฉีดวัคซีนสำหรับแมวที่อายุได้ประมาณ 1-2เดือน เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้เลี้ยงและตัวน้องแมวเองด้วย
แมวเปอร์เซีย มีให้เลือก 2 เกรด นั่นคือแบบ เกรดเพ็ด (PET Quality) มีรราคาประมาณ 5,000-15,000 บาท คือแมวที่เลี้ยงเพื่อขายทั่วๆไป และแบบเกรดทำพันธุ์โชว์ (Breed and Show Quality) ส่วนมากจะเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ เลี้ยงเพื่อประกวด โดยราคา แมวเปอร์เซีย สายพันธุ์ในประเทศอยู่ที่ 25,000-35,000 บาท และ แมวเปอร์เซีย สายพันธุ์นำเข้าจะอยู่ที่ประมาณ 35,000-100,000 บาท ขึ้นอยู่กับลักษณะและสุขภาพและใบรับรองสายพันธุ์ของแมวเปอร์เซีย
แมวเปอร์เซียมีกี่สายพันธุ์
แมวเปอร์เซีย Solid Color Division (สีล้วน)
เป็นแมวที่มีสีเดียวกันตลอดทั้งลำตัว ในอังกฤษจะเรียกว่า สี self สีขนของแมวสีล้วนควรจะมีสีที่สม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น ไม่มีตำหนิหรือการไล่เฉด สีหลักๆ ที่พบได้แก่ white, black, blue (เทา), red, cream, chocolate, lilac (สีลาเวนเดอร์อ่อนๆ ปนสีชมพูเล็กน้อย) ในแมวสีเทา (หรือเรียกว่าสี blue) สีเทาอ่อนจะดีกว่าสีเทาเข้ม มันดูสวยมากกว่าเมื่อดูในแสงธรรมชาติ, สีดำควรจะดำเข้มและเป็นเงา
แมวสีขาวจะพบสีตาแบบที่ต่างกัน 3 แบบ คือ มีตาสี copper (ทองแดง) ทั้ง 2 ข้าง หรือ สีฟ้าทั้ง 2 ข้าง และพบตาแบบผสม (ตา 2 สี) คือมีสีตาข้างหนึ่ง copper และอีกข้างเป็นสีฟ้า แมวตา 2 สี สีตาทั้ง 2 ข้างควรจะมีระดับความเข้มที่เท่าๆ กัน ส่วนแมวเปอร์เซียในสีอื่นๆ จะมีตาสีคอปเปอร์
แมวเปอร์เซีย Silver & Gloden Division
แมวในกลุ่มนี้จะมีสีขนไล่เฉดในขนเส้นเดียวกัน Silver คือแมวที่มีพื้นขนเป็นสีขาวและมีปลายขนสีดำ (black tip) ซึ่งดูโดยรวมแล้วจะเหมือนมีสีเป็นสีเงิน, Golden คือแมวที่มีสีพื้นเป็นสีครีมไปจนถึงแดงและมีปลายขนสีดำเช่นเดียวกัน
ทั้ง Silver และ Golden ยังแบ่งประเภทตาม Tip ของขนออกเป็น Chinchilla และ shaded : Chinchilla จะมี tip สีดำที่ปลายขนอยู่เพียงเล็กน้อย (ประมาณ 1/8 ของความยาวเส้นขน) มีสีอ่อนที่บริเวณใบหน้า ขา หาง และลำตัว ส่วน Shaded จะมีสีดำที่มากกว่า (ประมาณ 1/3 ของความยาวเส้นขน) อาจจะมี tip ที่บนหน้าและขาบ้าง ดูแล้วจะมีสีที่เข้มกว่า Chinchilla แมวในdivision นี้มีลักษณะเฉพาะคือ มีดวงตาสีเขียวหรือเขียวแกมน้ำเงิน มีขอบตาสีดำละม้ายคล้ายเขียน eyes liner อุ้งเท้าและขอบปากสีดำ และจมูกสีแดงอิฐ หรือสีกุหลาบ
แมวเปอร์เซีย Shaded & Smoke Division
แมวใน division นี้ มีลักษณะสีขนที่เป็นการไล่เฉดเช่นเดียวกัน มีพื้นขนสีอ่อนและมี tip ปลายขนเป็นสีเข้ม (สีต่างๆ) แบ่งประเภทตามลักษณะ Tip ของขนเป็น 3 แบบด้วยกัน
Shell จะมี tip สีแค่บริเวณปลายๆ ขนเท่านั้น (พอๆ กับแมว Chinchilla) สีที่พบเช่น shell Cameos (Red Shell) มีพื้นขนสีขาว tip ปลายขนเป็นสีแดง red shell บางคนจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Red chinchilla, Cream shell มีพื้นขนสีขาวและ tip ปลายขนสีครีม, shell tortoiseshells มี tip ปลายขนทั้งสีดำและสีแดง, shell tortoiseshells มี tip ปลายขนทั้งสีดำและสีแดง, shell & shaded blue-cream มี tip ปลายขนทั้งสีเทาและสีครีม
Shaded มี tip ปลายขนมากกว่า (ประมาณ 1-3 ของเส้นขน) shell สีที่พบเช่น shaded cameos (Red Shaded) ,cream shaded, shaded tortoiseshells, shaded blue-cream สี Smoke จะมีส่วนที่เป็นสีไล่ลงไปใกล้โคนขนมาก (แต่ไม่เฉพาะเจาะจงว่าควรจะมีเท่าไหร่) มีสีขาวที่โคนขนเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ยังเป็นลูกแมวบางทีจะดูเหมือนว่าเป็นแมวสี Solid และจะค่อยๆ เห็นเป็น smoke ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนลูกแมวอายุประมาณ 6-8 สัปดาห์ พบสีหลักๆ อยู่ทั้งหมด 6 สี ได้แก่ black smoke, blue smoke, cameo (red) smoke, cream smoke, smoke tortoiseshell (กระดองเต่า) และ blue-cream smoke (บูลครีม) แมวใน division นี้ ทั้ง shell, shaded และ smoke มีตาสี copper
แมวเปอร์เซีย Tabby Division
Tabby คือแมวลาย ลักษณะเด่นคือ จะมีลายเป็นรูปตัว M ที่หน้าผาก และมีลายเป็นริ้วที่หางตาไล่ไปข้างแก้มชัดเจน ที่ลำตัวเป็นลาย มีแพตเทิร์นอยู่ 3 แบบ คือ classic ลักษณะลายข้างลำตัวจะเป็นลายวงใหญ่ๆ ลายทั้ง 2 ข้างของลำตัวจะต้องเหมือนกัน, mackerel เป็นลายเส้นเล็กพาดยาวตามเส้นหลังและด้านข้างลำตัวเป็นลายขวางรอบๆตัว และ patched tabby สีพื้นและเส้นลายจะกลืนๆ แบบกระดองเต่า ซึ่งใน patched tabby ก็สามารถพบได้ทั้งลาย classic และ mackerel
สีที่พบใน division นี้ได้แก่ silver, blue silver, red, brown, blue, cream, cameo และ cream cameo ใน red tabby จะไม่มีแพตเทิร์นแบบ patched tabby แมวใน division นี้มีตาสี copper ยกเว้นในสี silver มีตาสีเขียว, hazel และ copper
แมวเปอร์เซีย Particolor Division
แมวใน division นี้จะพบเฉพาะเพศเมียเท่านั้น เนื่องจากเป็นเหตุผลในเรื่องของโครโมโซม สีที่พบได้แก่ tortoiseshell (กระดองเต่า) สีดำสลับแดง, blue-cream สีเทาสลับครีม, chocolate tortoiseshell สีน้ำตาลสลับแดง และ lilac-cream เป็นแมวสีดำสลับแดง แมวสี blue-cream และ lilac-cream เป็นสีที่ดูอ่อน และนุ่มนวลกว่า tortoiseshell และ chocolate tortoiseshell แมวใน division นี้มีตาสี copper
แมวเปอร์เซีย Bicolor & Calico Division
แมว division นี้มีสีหลักคือสีขาวกับสีอื่นอีก 1 สี ตามมาตรฐานสายพันธุ์ของสมาคม CFA ควรมีมาร์คกิ้งสีขาวดังนี้คือ ขาทั้งสี่ อุ้งเท้า อก และสีขาวที่หน้าเป็นรูปตัว V คว่ำ (ปัจจุบันอนุโลมไม่มีก็ได้) และหากมีสีขาวรอบคอด้วยก็จะดี แต่ไม่มีก็ไม่ถือว่าผิดมาตรฐาน ในประเภท Van จะมีสีเฉพาะที่หัวกับหางเท่านั้น อนุโลมให้มีสีจุดเล็กๆ ที่ลำตัวได้ไม่เกิน 2 จุด แมวใน division นี้มีตาสี copper bicolor คือแมวที่มี 2 สี พบทุกสีที่มีอยู่ในประเภท solid เช่น black&white, blue&white, red&white, cream&white นอกจากนี้ยังพบสีที่เป็น smoke&white (ในส่วนที่เป็นสีจะเป็น smoke) และ tabby&white (ในส่วนที่เป็นสีมีลาย tabby) ด้วย
แมวเปอร์เซีย Himalayan Division
แมวหิมาลายัน เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าแมว color point เป็นแมวเปอร์เซียที่ได้รับความนิยมมากอีกชนิดหนึ่ง แมวหิมาลายันเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวเปอร์เซียและแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศ มีลักษณะรูปร่างหน้าตา และขนยาวเหมือนแมวเปอร์เซีย แต่มีแต้มแบบแมววิเชียรมาศ (9 จุด ได้แก่ ครอบหน้า 1, หู 2, ขาทั้ง 4, หาง 1 และอวัยวะเพศ 1 ได้รับการพัฒนาจนมีสายเลือดที่นิ่งจนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นแมวเปอร์เซียอีก division หนึ่ง สีที่พบได้แก่ seal, chocolate, lilac, blue, red, cream, tortie, blue-cream, chocolate-tortie, lilac-cream และด้วยความสามารถของนักเพาะพันธุ์ ได้มีการบรีดแมวหิมาลายันให้มี point ที่มีลาย tabby เรียกว่า lynx point (พบทุกสีที่กล่าวมาข้างต้น) แมวหิมาลายันมีตาฟ้าหรือสีน้ำเงิน แมวที่มีตาสีอื่นนอกจากนี้ถือว่าผิดมาตรฐาน
โรคภัยไข้เจ็บที่มักเกิดกับ แมวเปอร์เซีย
สำหรับโรคภัยไข้เจ็บนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ผู้เลี้ยง แมวเปอร์เซีย ควรที่จะศุกษาหาข้อมูลในส่วนนี้ไว้บ้าง สำหรับมือใหม่ที่พึ่งเริ่มเป็นทาสแมว โดยโรคที่มักพบบ่อยในแมวเปอร์เซียมักจะเป็นโรคที่ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น โรคหอบ โรคหายใจติดขัด โรคท่อน้ำตาอุดตัน ที่มักพบได้บ่อยในแมวเปอร์เซีย โดยน้ำตาที่ไหลออกมาจะเป็นน้ำตาใส ๆ และมีคราบติดบริเวณร่องจมูก เกิดจากการสะสมแบคทีเรียในท่อน้ำตา เมื่อเจอปัญหาเหล่านี้ วิธีแก้คือใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นคอยเช็ด แต่หากมีน้ำตาไหลเยาะมากกว่าปกติ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อเช็คอาการ
วิธีการอาบน้ำแมวเปอร์เซีย
แมวเปอร์เซีย (Persia) แมวสายพันธุ์ที่มีขนยาวและต้องดูแลเป็นพิเศษ บทความนี้จะแนะนำวิธีอาบน้ำแมวเปอร์เซียด้วยตนเองที่ผู้เขียนเคยใช้มาก่อนแล้ว และคิดว่าผู้เริ่มเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้อาจจะใช้ประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย
ปกติแมวจะเป็นสัตว์ที่ดูแลขนของตัวเองด้วยการเลียเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่การที่แมวเปอร์เซียมีขนยาวการดูแลอาจไม่ทั่วถึง เจ้าของควรคอยสังเกตว่ามีขนส่วนไหนพันกันเป็นก้อน หรือมีเชื้อราบริเวณผิวหนัง รวมทั้งบริเวณก้นที่ควรตัดขนให้สั้นป้องกันอุจจาระหรือปัสสาวะเลอะติดขนด้วย
การอาบน้ำให้แมวควรทำประมาณ 2 สัปดาห์ครั้ง และเลือกช่วงกลางวันเพราะถ้าอาบเวลากลางคืนแมวอาจหนาวและไม่สบายได้ ก่อนอาบน้ำแมวควรตัดเล็บของพวกเขาให้สั้นเสียก่อนเพราะหากเป็นครั้งแรกๆของการอาบแมวเปอร์เซียแทบจะทุกตัวมักกลัวและตะกุยหนีน้ำจนผู้เลี้ยงเกิดบาดเเผลได้
ขั้นตอนการอาบน้ำแมวเปอร์เซีย
1. เตรียมแชมพูสำหรับแมว , กะละมัง , ผ้าแห้งสำหรับเช็ดตัวแมว , น้ำอุ่น , แปรงหวีขน และไดร์เป่าผม
2. จับน้องแมวเข้าห้องน้ำหรือสถานที่ปิดหน่อยกันแมวหนีจากนั้นวางลงในกะละมังที่ยังไม่มีน้ำ ถึงขั้นนี้แมวจะเริ่มรู้แล้วว่าจะโดนอาบน้ำ และมักจะพยายามดิ้นหรือหนี ทริคง่ายๆคือให้เล่นกับเขาเบี่ยงความสนใจว่า"เห้ ฉันไม่ได้จะจับนายอาบน้ำซะหน่อย"
3. พอแมวเริ่มตายใจก็ตักน้ำจ้วงสาดใส่หน้า....จะบ้าหรอ!!! ให้ค่อยๆเอาน้ำอุ่นลูบๆลำตัวให้แมวคุ้นชินจนหมาดไปทั้งตัวจากนั้นเอาน้ำอุ่นค่อยๆราดให้ทั่วยกเว้นหน้ากับหัว และระวังอย่าให้น้ำเข้าหูแมวด้วย
4. ชโลมแชมพูให้ทั่วนวดเบาๆพร้อมพูดคุยกับน้องแมวเพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย
5. ล้างออกโดยการเปิดฝักบัว หรือตักราดก็ได้แต่เน้นเร็วและสะอาด ขั้นนี้ไม่ต้องบรรจงให้แมวตายใจเหมือนช่วงแรกแล้วล่ะ
6. เมื่อล้างแชมพูออกหมดบริเวณตัวแล้วให้เอาน้ำอุ่นค่อยๆลูบบริเวณหัวและหน้า
7. ใช้ผ้าขนหนูสะอาดห่อตัวแล้วพาไปยังบริเวณที่โล่งทันที
8. ค่อยเช็ดขนแมวให้แห้งพร้อมใช้ไดร์เป่าจนขนหมาดแล้วต่อด้วยใช้แปรงหวีไม่ให้ขนพันกัน จากนั้นเป่าไดร์อีกรอบให้ขนแห้งฟูสนิท ข้อนี้สำคัญนะครับห้ามปล่อยให้ขนเปียกหรือหมาดโดยเด็ดขาดไม่อย่างนั้นปัญหาขนพันกันและเชื้อราที่ผิวหนังจะตามมาแน่นอน
สำหรับวิธีการทั้งหมดหลายท่านก็สามารถนำไปใช้ได้ นอกจากแมวเปอร์เซียของท่านจะสะอาดหอมน่ากอดแล้ว ยังเป็นการสร้างความผูกพันธ์ระหว่างเราและสัตว์เลี้ยงด้วยครับ
สำหรับมือใหม่ที่คิดจะนำ แมวเปอร์เซีย มาเลี้ยงควรที่จะศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสายพันธุ์ และวิธีการดูแลเบื่องต้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใดคิดจะนำมาเลี้ยงก็ควรให้ความรัก และเอาใจใส่ รวมถึงหมั่นสังเกตุอาการผิดปกติพฤติกรรมของแมวเปอร์เซีย หากมีอะไรไม่ชอบมาพากล ควรนำไปพบสัตวแพทย์
ความคิดเห็น