คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ฉันจะไปโรงเรียน rw
ตอนที่ 3
วันนี้ฉันตื่นเช้ากว่าปกติค่ะ เพราะต้องเตรียมตัวไปเรียนที่ โฮวโจยามะ
โรงเรียนเอกชนชื่อดัง ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นที่รวบรวมเหล่าทายาทตัวน้อยของบริษัทชั้นนำภายในประเทศไว้ด้วยกัน การจะเข้าโรงเรียนพวกนี้ใช่ว่าจะเข้ากันได้ง่ายๆนะคะ
เขาคัดเลือกเด็ก มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีอำนาจด้วย
ชาติก่อนฉันไม่เคยได้ย่างเท้าเข้าไปหรอกค่ะ
โรงเรียนประเภทนี้ ว่ากันตามตรงฉันแอบตื่นเต้นไม่น้อยเลย ทำไงได้
ช่วงวัยเด็กของฉันก่อนหน้านี้มันเป็นแบบ พวกนักเรียนทุนการศึกษาค่ะ
ไม่เคยแต่งตัวด้วยของใหม่ๆ แบบนี้มาก่อน ส่วนมากมรดกเสื้อผ้าและหนังสือที่ฉันเคยได้รับก็ตกทอดกันมาแล้วหลายรุ่น
พวกเรายังเคยพูดเล่นๆกันเลยว่าสิ่งของเหล่านี้เป็นสมบัติของชาติ
วันนี้ท่านแม่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ท่านพยายามถักเปียให้ฉัน มันไม่ใช่เปียธรรมดานะคะ มันเป็นเปียที่ดูไฮโซอะค่ะ
บอกว่าไงดี มันมีขั้นตอนเยอะแยะ ไม่ใช่แบ่งผมเป็นสามช่อ
แล้วมัดๆเหมือนพวกเด็กทั่วไป อืม
ฉันเริ่มรู้สึกว่าเหมือนตัวเองทำผมเจ้าสาวอยู่เลยค่ะ ไม่อยากบอกท่านแม่เลยว่าฉันไม่ค่อยชอบนักหรอกไอ้ทรงผมยากๆแบบนี้
หลังจากทำผมกันเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วก็ได้เวลาใส่ชุดนักเรียน
โอ้ชุดน่ารักมากมายฉันชอบมากดูคุณหนูสุดๆ แต่ยิ่งกว่านั้น คือมันใหม่ค่ะ!
สีขาวของเสื้อนักเรียนทำให้ฉันต้องแทบหรี่ตามองเลยทีเดียว ปลื้มปริ่มมากค่ะ
ก่อนที่ฉันจะนั่งรถไปโรงเรียน ซาซากิตัวน้อย
ก็ค่อยๆเดินเตาะแตะมาหาฉัน ทำหน้าราวกับไม่อยากให้ฉันไป
ฉันพยายามขึงตาดุใส่ซาซากิแล้วค่ะ
สายตาพิฆาตศัตรูที่ฉันพยายามฝึกในช่วงนี้
ดูท่าจะใช้ไม่ได้กับเจ้าเด็กน้อยนี่เลย สงสัยมันคงยังไม่ถึงเวลาที่ฉันจะงัดมันมาใช่แน่ๆ
“ คุณหนูปวดท้องเข้าห้องน้ำหรือเปล่าคะ
”มิไร พี่เลี้ยงสาวของซาซากิถามขึ้นอย่างห่วงใย
คำพูดสบถที่ฉันหลุดปากออกไปโดยไม่คิด คือ 'บ้าจัง' ไงคะ ขนาดฉันคิดจะสบถ
ยังดูอ่อนโยนขนาดนี้ แล้วฉันจะใช้ชีวิตเป็นนางมารร้ายได้ลำบากขนาดไหน ไม่ได้การสงสัยฉันคงต้อง
ฝึกสายตาพิฆาตศัตรูหน้ากระจกอีกสักสิบรอบ
หวังว่ามันคงจะดูน่ากลัวกว่านี้อีกสักหน่อยก็ยังดี
ฉันไม่ยอมตอบคำถามของมิไร แม้ว่าชาติที่แล้วฉันเป็นคนถนอมน้ำใจคน
ใครถามมาก็ตอบกลับไปด้วยความสุภาพ ไม่อยากทำเมินให้เขาเสียความรู้สึก
แต่มาวันนี้ฉันต้องเริ่มปรับพฤติกรรมตัวเองใหม่แล้วอะค่ะ ฉันเชิดหน้า
หลังตรงเดินขึ้นรถไปโดยไม่หันมองข้างหลังแม้แต่น้อย ฉันต้องการให้ท่านแม่ มิไร
และคุณลุงอาเบะ คนขับรถ รู้ว่าฉันมีความหยิ่งยโสโอหังอย่างถึงที่สุด จนเมื่อคุณลุงอาเบะปิดประตูรถคันที่ฉันนั่งอยู่
ฉันถึงค่อยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ คุณผู้หญิง เรียกให้คุณหนูกลับมาเข้าห้องน้ำก่อนดีไหมคะ
เดี๋ยวจะลำบากเอากลางทาง คุณหนูคงเขิน ถึงไม่ยอมมองมาที่เรากันเลย ดิฉันผิดเองค่ะ
ที่พูดขึ้นมาต่อหน้าคุณอาเบะ แหม ดิฉันก็ลืมคิดว่า คุณอาเบะก็เป็นผู้ชายนี่คะ ”
มิไรแปลเจตนาของคุณหนูซากุระไปอีกแบบ
“ อืม พรุ่งนี้เธอเอากระโถนอีกอันของซาซากิไปไว้ในรถด้วยนะ
เพื่อสักวัน ซากุระจัง ทนไม่ไหว ”คุณผู้หญิงของตระกูลใหญ่พูดขึ้น
ราวกับผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบมาแล้ว
“…….” มิไร พี่เลี้ยงของซาซากิ
ฉันมาถึงโรงเรียนแล้วค่ะ นั่งมาไม่นานก็ถึง
สักสิบนาทีมั้งคะ ดีจังถ้าโตขึ้นมาอีกสักหน่อย ฉันอยากจะปั่นจักรยานมาเองทุกวันโดยที่ไม่ต้องนั่งรถคันใหญ่แบบนี้อีก
ฉันเมารถค่ะ เกือบอ้วกใส่เบาะแล้วเชียว
ชาติที่แล้วฉันมักเดินเอา โรงเรียนอยู่ใกล้บ้านมาก สะดวก ประหยัด
ที่สำคัญฉันไม่มีเงินเก็บพอที่จะซื้อรถจักรยานหรอกค่ะ พวกพี่ๆน้องๆ
ทุกคนก็ต้องเดินไปโรงเรียนเหมือนกันหมด
ฉันเลยอิจฉาเพื่อนที่มีจักรยานเป็นของตัวเองไงคะ อยากไปไหนก็ปั่นไป แถมได้ออกกำลังกาย
และสูดอากาศบริสุทธิ์อีกด้วย เอาล่ะ อย่าคิดถึงอดีตอันน่าเศร้าเลยค่ะ
ตอนนี้ฉันควรวาดฝันถึงอนาคตในแดนไกลต่างหาก
“คุณอิโนะอุเอะ ซากุระ
ตามครูมาที่ห้อง C ค่ะ ” คุณครูวัยสี่สิบกว่าๆ
เรียกฉันอย่างอ่อนโยน
ฉันเดินตามคุณครู พลางมองสิ่งรอบๆตัว
โรงเรียนมีดีไซน์หรู ความสูงของตึกโรงเรียนมีประมาณ 5ชั้น แต่ความกว้างฉันก็กะประมาณไม่ถูกเหมือนกัน แต่ มันดูไกลมากสำหรับเด็กตัวเท่าลูกเจี๊ยบอย่างฉัน
สวนหย่อมข้างทางมีน้ำพุขนาดใหญ่ประดับอยู่
ดอกไม้ต่างแข่งขันกันชูช่ออวดโฉมกับบรรดานักเรียนทั้งหลาย
รุ่นพี่ที่เดินขวักไขว่อยู่ก็มีอายุแตกต่างกันไป มีทั้งชั้นประถม มัธยมต้น
และก็มัธยมปลาย ฉันเดินตามคุณครูจนมาสุดปลายทาง เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมองป้ายห้อง
ก็พบว่ามันคือห้อง C ฉันกวาดตามองภายในห้อง
พบว่ามีนักเรียนเริ่มทยอยกันมาแล้วประมาณ 2-3 คน
“ คุณซากุระ พยายามตั้งใจเรียนนะคะ
เมื่อขึ้นชั้นประถม 2 หากคุณซากุระทำเกรดได้ดี จะได้ไปอยู่ห้อง A ค่ะ”
“ คุณครูคะ หนูอยากรู้ว่า
ชั้นประถม1 มีทั้งหมดกี่ห้องคะ ” ฉันถามเพราะอยากรู้จริงๆค่ะ
“ 3 ห้องค่ะ A B และ C เกรดเฉลี่ยของคุณซากุระในระดับชั้นอนุบาล
ถูกจัดให้อยู่ห้อง C ค่ะ
เพราะฉะนั้นพยายามตั้งใจเรียนเข้านะคะ ”
คุณครูยิ้มหวานใส่ฉันจากนั้นก็เดินจากไป
ฉันต้องแจ้งให้ทุกคนทราบก่อนนะคะว่า
ฉันเป็นนักเรียนทุนการศึกษา ไม่ใช่หมายความว่าฉัน จน อย่างเดียว ฉันมาพร้อมกับความฉลาดด้วยค่ะ
ดังนั้นพอฉันรู้ว่าฉันได้อยู่ห้องบ๊วย มันทำให้อารมณ์ฉันดิ่งลงอย่างไร้สาเหตุ
ใจจริงฉันแอบหวังว่าท่านซากุระจะฉลาดกว่านี้ นึกไม่ถึงเลยจริงๆ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ชาติที่แล้วฉันอายุ 17 ปี
ความรู้ทั้งหลายยังติดตัวฉันอยู่ ฉันจะผลักดันตัวเองจนขึ้นห้อง A ให้ได้ น่าภูมิใจไหมคะ
ที่ฉันพยายามจะทำข้อสอบเด็กประถม ให้ได้ดี
เมื่อฉันเข้ามาในห้องเรียน พบว่ามีโต๊ะอยู่ประมาณ
7 โต๊ะ เท่านั้นค่ะ น้อยมากๆ เลย โรงเรียนที่ฉันเคยอยู่ส่วนใหญ่ห้องหนึ่งก็มีนักเรียนประมาณเกือบยี่สิบคนค่ะ
พอฉันเดินเข้าไป เด็กทั้งสามคน ที่มาก่อนแล้วก็หันขวับมามองฉัน พร้อมกันหมด
“ สวัสดี ” ฉันกล่าวคำสั้นๆ
แบบเย็นชาและห่างเหิน
ฉันมีเป้าหมายไว้พุ่งชนค่ะ เป้าหมายของฉันคือการสร้างภาพลักษณ์
เด็กหญิงนิสัยเสียคนหนึ่ง ที่เอาแต่ใจ และไร้ความเป็นมิตร ที่ฉันต้องทำแบบนี้เพราะ
การไล่ตามความฝันของฉันมันเริ่มขึ้นแล้วค่ะ
โรงเรียนโฮวโจยามะ
เป็นโรงเรียนที่เด็กจะเริ่มเข้ามาเรียนร่วมกันตั้งแต่ ประถม1 จนถึง
มัธยมปลายปีที่3 (ตั้ง 12 ปีเชียวนะคะ) มันเป็นสถานที่ไว้สานความสัมพันธ์ของกลุ่มนักธุรกิจรุ่นเยาว์ในอนาคต ซึ่งแน่นอนในอีกไม่กี่ปี
เด็กพวกนี้จะต้องรู้จักกับท่านฮิโรชิอยู่แล้ว
ดังนั้นถ้าฉันยิ่งทำตัวไม่น่าคบหาตั้งแต่แรก
มันจะช่วยให้ฉันเนียนไปกับบทบาทตัวร้ายมากขึ้น
ในตอนพบเจอกับคุณพระเอกและคุณนางเอกไงคะ บอกแล้วว่าฉันเป็นเด็กฉลาดค่ะ
“ สวัสดี ” เด็กผู้หญิงใส่แว่น
ผมสั้นประบ่าพูดออกมาบ้าง คอและหลังของเธอตั้งตรง เสียงของเธอก็นิ่ง
จนฉันรู้สึกผวานิดหน่อย เหมือนเจออาจารย์ใหญ่ดุๆย่อขนาด
“ ฮึ ยัยพวกเด็กขี้เหร่
ฉันไม่อยากมาอยู่ห้องเดียวกับพวกนี้เลย ” เด็กผู้ชายตัวอ้วนป้อม
หน้าตาน่าเกลียด ฉันไม่ถูกชะตาอะค่ะ เลยมองยังไงก็น่าเกลียด เขายู่ปากพูดกับตัวเองคนเดียว ความไม่สบอารมณ์เผยชัดออกมาทางสีหน้า
“ …….” เด็กชายอีกคน มองฉันแวบเดียว
จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาเล่นหุ่นยนต์ของตัวเองต่อไป
ฉันมองเห็นเพียงแค่แววตาสีน้ำตาลเข้มซึ่งไม่ไยดีกับสิ่งใดทั้งสิ้น เหมือนพวกเด็กขาดความอบอุ่น
ผ่านไปสักหนึ่งนาที ฉันถึงตระหนักได้ว่า
หนทางการเป็นเด็กหญิงตัวร้าย ที่น่าชิงชังนั้น ช่างแสนยากเย็นเหลือเกินค่ะ
ความคิดเห็น