โรคเอ๋อและภาวะแคระที่เกิดจากขาดไทรอยด์ฮอร์โมน
เอ๋อหรือภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมนเกิดจากการที่ร่างกายขาดไทรอยด์ฮอร์โมน ที่สำคัญคือ การเจริญเติบโตและพัฒนาของสมองในช่วง 3 ขวบปีแรก (สมองพัฒนาถึงร้อยละ 80)
การตรวจการเป็นเอ๋อ
จะสังเกตได้เมื่ออายุ 3 เดือนขึ้นไป คือ จะมีสะดือจุ่น ลิ้นจุกปาก ตัวเหลืองนาน กระหม่อมปิดช้า และที่สำคัญไอคิวจะเสียไปเรื่อยๆ ไอคิวของเด็กจะอยู่ในระดับ 60-70 เท่านั้น
การรักษา
โดยให้ทารกกินยาแอลไทรรอกซินซึ่งยานี้ก็คือไทรอยด์ฮอร์โมนที่สร้างเองไม่ได้ โดยส่วนใหญ่ต้องกินอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
Austistic
ออทิสติก คือ กลุ่มอาการความปิดปกติที่แสดงพฤติกรรมให้เห็นว่าเด็กไม่สามารถพัฒนาด้านสังคมการพูด และการสื่อความหมายไปตามวัยอย่างเหมาะสม มักเกิดขึ้นครั้งแรกอายุก่อน 3 ปี
ข้อบ่งชี้ว่าเด็กเป็นออทิสติก
- การสูญเสียทางด้านสังคม และไม่สามารถมีปฏิกิริยาต่อสัมพันธภาพของบุคคล
- มีการสูญเสียทางด้านการสื่อความหมาย ทั้งด้านการพูดและด้านไม่ใช้คำพูด
- มีการกระทำและความสนใจซ้ำซาก
สาเหตุ
- ความผิดปกติของยีน
- ความผิดปกติระหว่างการตั้งครรภ์และการคลอด
- ความผิดปกติทางระบบประสาทสมองที่ Cerebral Cortex
- ความผิดปกติของ Neuro transmitters
Serotonin ในเลือดสูงอาจมีความผิดปกติเกี่ยวกับ การกิน ความเครียด
Endophin ทำงานมากจะมีผลต่อพฤติกรรมไม่อยู่นิ่ง ทำซ้ำๆ ก้าวร้าว ขาดความสนใจ
Catecholamine มีการทำหน้าที่ของ Dopamine เพิ่ม การรับรู้ความเจ็บปวดลดลงจะทำร้ายตัวเองซ้ำๆ เช่น ตบหน้าตัวเอง เอาศีรษะโขกพื้น
การวินิจฉัยแยกโรค
ปัญญาอ่อน โดยปกติเด็กปัญญาอ่อนจะมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
- โรคจิตเภทในเด็ก ซึ่งมักจะมีอาการครั้งแรกอายุ 7-9 ปี
- การได้ยินบกพร่อง
- Receptive aphasia
- Reactive attachment disorder of infancy or early childhood
การรักษา
- การกระตุ้นพัฒนาการ เช่น การพูด การเรียนรู้
- จิตบำบัด การใช้ยาควบคุมกับจิตบำบัดในรายที่เป็นรุนแรง
- ปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม
- การรักษาอื่นๆ การช็อตด้วยไฟฟ้าอาจมีผลข้างเคียงเรื่องความจำ การใช้วิตามิน B6 ขนาดสูง ทำให้เด็กดีขึ้น 50%
การพยาบาลด้านครอบครัว
- อธิบายถึงสาเหตุของโรคที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
- แนะนำพูดคุยกับพ่อแม่เด็กออทิสติกเหมือนกันและให้มีส่วนร่วมในการดูแลบุตรด้วย
- ดูแล supportive ด้านจิตใจ
การพยาบาลเด็กออทิสติก
- ส่งเสริมให้เด็กช่วยเหลือตัวเองในกิจวัตรประจำวันด้วยตนเอง
- ควรกระตุ้นให้เด็กมีพฤติกรรมที่เหมาะสม ไม่ตำหนิหรือมองว่าเด็กมีความผิดปกติ
- ระมัดระวังเกี่ยวกับอุบัติเหตุ
- จัดการดูแลสุขภาพ เช่น ภูมิคุ้มกันโรค การดูแลฟัน ทดสอบการได้ยิน และสายตา
- ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านภาษา การอ่านและเขียน การเข้าเรียนในโรงเรียน
- ส่งเสริมวิชาชีพเพื่อให้เด็กได้มีรายได้เลี้ยงตนเองได้สังเกตความสนใจ
ความคิดเห็น