A Rai Naa >>>
ดู Blog ทั้งหมด

ภาวะช็อคทางสูติศาสตร์

เขียนโดย A Rai Naa >>>

ภาวะช็อคทางสูติศาสตร์

การรักษา

1.ให้ผู้ป่วยนอนพัก

2.ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง ให้ออกซิเจนเลือดชนิดตามข้อบ่งชี้ ถ้าหายใจลำบากหรือตัวเขียวอาจใส่ท่อช่วยหายใจ

3.รักษาร่างกายให้อบอุ่น รักษาอาการปวด อาจให้ยาสงบประสาท

4.การให้สารน้ำทดแทน ในกรณีตกเลือดรุนแรง ช็อคติดชื้อ electrolyte imbalance เพื่อรักษาปริมาณเลือดให้กลับสู่ปกติโดยเร็ว โดยการให้ Whole blood เพื่อคงระดับ CVP ไว้ประมาณ 10-13 มม.ปรอท

5.ไม่ควรให้ยาขยายหลอดเลือดจนกว่าปริมาณสารน้ำในหลอดเลือดจะได้รับการแก้ไขสู่ปกติซึ่งยาขยายหลอดเลือด (Isuprel) จะทำให้ความต้านทานหลอดเลือดรอบนอกลดลงช่วยการทำงานของหัวใจลดลง การสูบฉีดหัวใจดีขึ้น เนื้อเยื่อต่างๆได้รับเลือดมาเลี้ยงมากขึ้น

6.สังเกตอาการเพื่อดูการตอบสนองต่อการรักษา ถ้าความดันสูงกว่า 100 มม.ปรอท หัวใจเต้นช้าลงผิวหนังจะอุ่นและแห้ง

7.บันทึกความดันโลหิต ชีพจร อัตราการหายใจ ปริมาณสารน้ำที่เข้า-ออกจากร่างกาย ถ้ามีอาการช็อคอย่างรุนแรงอยู่นานและไม่ตอบสนองต่อการรักษา มักเกิดไตวายเฉียบพลันตามมา

ภาวะเส้นเลือดสายสะดือทอดผ่านปากมดลูก (Vasa previa)

ภาวะเส้นเลือดสายสะดือทอดผ่านปากมดลูก (vasa previa) เกิดขึ้นในรกที่มี Velamentous inrsertion สาขาของเส้นเลือดสายสะดือทอดอยู่ในเยื่อหุ้มทารก และทอดผ่านบริเวณ internal os ของปากมดลูกอยู่ต่ำกว่าส่วนนำของทารก ถ้าถุงน้ำแตก มักเกิดการฉีกขาดของเส้นเลือดในเยื่อหุ้มทารก ทำให้ทารกเสียเลือดและตายในเวลาอันรวดเร็ว

การตรวจพบ

ภายหลังการเจาะถุงน้ำคร่ำ หรือหลังจากถุงน้ำแตก สังเกตสีของน้ำหล่อทารก ถ้ามีเลือดปนให้สงสัย ภาวะ Vasa previa ตรวจสอบเสียงหัวใจทารก ถ้ามี Fetal distress ให้รีบช่วยเหลือให้การคลอดสิ้นสุดลงโดยเร็ว

การตั้งครรภ์เกินกำหนด (Postterm)

ความหมาย

การตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 42 สัปดาห์เต็ม (294 วัน) โดยนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย หรือการตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 40 สัปดาห์ (280 วัน) นับจากวันตกไข่

ความสำคัญ

1.ครรภ์เกินกำหนดเพิ่มอุบัติการณ์ของรกเสื่อมสภาพ (Uteroplacental insufficiency : UPI) และน้ำคร่ำน้อย (Oligohydramnios) โดยเฉพาะในระยะคลอด ทำให้ทารกมีภาวะ Fetal distress จากการกดสายสะดือ และมีขี้เทาปนในน้ำคร่ำ เกิดการสำลักขี้เทา ซึ่งเพิ่มอัตราตายของทารกปริกำเนิด

2.ทารกที่อยู่ในครรภ์ส่วนหนึ่งจะมีการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดปัญหาคลอดยากได้และบางส่วนจะมีการชะงักการเจริญเติบโตจากปัญหารกเสื่อมสภาพ ทำให้มีการเจริญเติบโตช้ามีลักษณะของ dysmaturity

3.การวินิจฉัยครรภ์เกินกำหนดอาจมีการคิดอายุครรภ์ผิดพลาด ในหญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ช้าประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ หรือประจำเดือนครั้งสุดท้ายผิดพลาด ทำให้การวางแผนการรักษาผิดพลาด

การดูแลรักษา

1.กลุ่มที่ทราบอายุครรภ์แน่นอน ตรวจติดตามสุขภาพทารกในครรภ์ตั้งแต่อายุครรภ์ 41 สัปดาห์ เมื่ออายุครรภ์ 42 สัปดาห์ จะกระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอด ถ้าล้มเหลวเนื่องจากปากมดลูกไม่พร้อมอาจต้องผ่าตัดคลอด

2.กลุ่มที่อายุครรภ์ไม่แน่นอน ให้เฝ้าระวังทารกในครรภ์ ไปจนกระทั่งมีการเจ็บครรภ์เกิดขึ้นเองหรือจนแนใจว่าครรภ์เกินกำหนด หรือทารกอยู่ในภาวะอันตราย กระตุ้นให้เจ็บครรภ์คลอด

การเฝ้าระวัง

1.ประวัติประจำเดือนให้แน่นอน

2.ถ้าหญิงตั้งครรภ์จำประจำเดือนไม่ได้ หรือพบว่าขนาดของมดลูกไม่สัมพันธ์กับอายุครรภ์ส่งพบแพทย์เพื่อตรวจ ultrasound

3.ถ้าอายุครรภ์ครบ 41 สัปดาห์ ควรรับไว้ในโรงพยาบาลทุกราย เพื่อกระตุ้นให้เจ็บครรภ์คลอด

4.ตรวจดูสภาวะสุขภาพขอทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด

ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนการเจ็บครรภ์ (Premature Rupture of membranes : PROM)

PROM หมายถึง ภาวะที่มีการแตกของถุงน้ำคร่ำก่อนที่จะมีอาการเจ็บครรภ์

สาเหตุ

สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบ แต่สัมพันธ์กับปัจจัยต่างๆ ดังนี้

1.การติดเชื้อของถุงน้ำคร่ำ  (chorioamnionitis)

2.รกลอกตัวก่อนกำหนด รกเกาะต่ำ การบาดเจ็บหรือการฉีกขาดที่ปากมดลูก

3.การตั้งครรภ์แฝด ครรภ์แฝดน้ำ

4.ปากมดลูกปิด ไม่สนิท (Cervical imcompetent)

5.ขาดวิตามินซี ทำให้ถุงน้ำคร่ำไม่แข็งแรง

6.ส่วนนำของทารกผิดปกติ (malpresentation)

7.มีประวัติการทำแท้งมาก่อน

8.สูบบุหรี่ และดื่มเหล้าเป็นประจำ

9.เศรษฐฐานะต่ำ

การวินิจฉัย

สามารถวินิจฉัยได้จาก การซักประวัติ ตรวจร่างกาย และการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ดังนี้

1.การซักประวัติจากอาการและอาการแสดง พบว่ามีน้ำไหลออกจากช่องคลอดช้าๆ

2.Speculum exam มีน้ำขังอยู่ในแอ่งช่องคลอด (Posterior formix) เมื่อให้ผู้คลอดไอหรือเบ่งหรือกดยอดมดลูก อาจพบมีน้ำคร่ำไหลออกจากปากมดลูก ถ้าปากมดลูกเปิดแล้วจะพบส่วนนำของทารกไม่มีถุงน้ำคร่ำหุ้มแล้ว

3.Nitrazine paper test นำกระดาษ nitrazine สัมผัสกับน้ำในช่องคลอดจะมีการเปลี่ยนสีน้ำในช่องคลอดของหญิงตั้งครรภ์จะเป็นกรดมีค่า pH อยู่ระหว่าง 4.5-6.0 ไม่เปลี่ยนสีของกระดาษที่เป็นสีเหลือง ส่วนน้ำคร่ำเป็นด่างมีค่า pH 7.0-7.5 ซึ่งจะเปลี่ยนสีกระดาษเป็นสีน้ำเงิน

4. Fern test นำน้ำในช่องคลอดไปป้ายบนแผ่นสไลด์ทิ้งไว้ให้แห้ง ในน้ำคร่ำมี electrolyte โดยเฉพาะ NaCl เมื่อแห้งจะจับตัวเป็นผลึกรูปใบเฟิร์น (Arbrization) มองเห็นได้เมื่อส่องด้วยกล้องจุลทรรศ์

ความคิดเห็น

inw_souw
inw_souw 21 ก.ค. 56 / 20:21
มีพยาธิสภาพไหมอะ
อยากได้ข้อมูลทำconcept map อะ