ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The New Eden สงครามเทวทูตแห่งสวนศักดิ์สิทธิ์

    ลำดับตอนที่ #69 : ตอนที่ 5 Students

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12
      0
      21 เม.ย. 63

    เวลาที่ร่างกายอยู่ในน้ำ ผิวของเราจะรู้สึกได้ถึงการสัมผัส ห่อหุ้มไปด้วยของเหลว มันเย็น และเงียบสงบราวกับว่ากำลังถูกโอบกอด ยิ่งดำดิ่งลึกลงไปมากเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกถึงแรงโอบกอดที่มากขึ้น ไม่รู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยว

     

    อยากอยู่แบบนี้ไปตลอด

     

    "นี่ คาระ..."
     

     

    ...ฉันจะเชื่อใจเธอได้ไหม

     

    "คาระ..."

     

    ...ฉันจะคาดหวังจากเธอได้ไหม

     

    "คาระ..."

     

    ...ฉันจะรักเธอ...ได้ไหม

     

    "เฮ้! คาระ! จะอยู่ในอ่างน้ำอีกนานไหม เมี้ยว"

    สไวน์เปิดประตูห้องอาบน้ำเข้ามาอย่างแรง อากาศเย็นไหลเข้ามาภายในห้องแทนทีความชื้นที่ร้อนผ่าว

    "ฉันไม่เป็นอะไร...และช่วยอย่าสะเดาะกลอนเข้ามาเองจะได้ไหม"

    "เจ้าไม่ยอมตอบรับนี่ เมี้ยว"

    "เธอรู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นอะไรหรือเปล่า จะเข้ามาทำไม"

    "มีแขกมาหา เมี้ยว"

    "ใครอีกล่ะ"

    "ผู้พิทักษ์ คิระ เมี้ยว"

    คาระลุกพรวดขึ้นจากอ่างอาบน้ำในทันทีด้วยความประหลาดใจ

    "ม้าว!" สไวน์รีบยกมือปิดหน้าและกระโจนออกจากห้องไปด้วยความร้อนรน

    เพียงครู่เดียว คาระได้ออกมาต้อนรับคิระด้วยตนเอง ครั้งนี้วาเลนไทน์ไม่ได้มาด้วย คงเป็นเพราะเธอรู้ว่าสไวน์อยู่ที่บ้านของคาระ

    "ขอโทษด้วย ข้าไม่นึกเลยว่าพวกมันต้องการให้เจ้าขึ้นไป เป็นแผนของพวกมัน" คิระทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า

    "ไม่หรอกครับ เมื่อคืนผมประมาทเอง ไม่นึกว่านักรบสววรรค์จะลงมาตามตัวผมถึงที่"

    "วันนี้คงเหนื่อยทั้งวัน อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้าง"

    "รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวเลย แต่ไม่มีปัญหาครับ"

    "เรื่องตกจากที่สูงแมวคงจะถนัดกว่าสินะ" คิระมองไปทางสไวน์

    "สูงขนาดนั้น ข้าคงไม่รอดหรอก เมี้ยว แถมตกลงน้ำอีกต่างหาก เมี้ยว"

     

    ความเงียบชั่วขณะหนึ่งแทรกตัดการสนทนา เป็นการบอกให้รู้ว่ากำลังเข้าเรื่องสำคัญ

     

    "ข้าได้ข้อสรุปจากเรเดียนแล้ว เขาจะยังไม่ตัดสินเจ้า เพราะการพาตัวเจ้าไปไม่มีคำสั่งจากนางฟ้าชั้นสูง นางฟ้าที่เกี่ยวข้องต้องถูกตัดสินโทษอีกครั้ง"

    คิระกล่าว ก่อนเสริมต่อ

    "ช่วงนี้คงวุ่นอยู่กับนักรบที่ทรยศ ไม่มีเวลาไปตัดสินโทษกำลังสำคัญหรอก"

    "แล้วผมจะต้องทำอะไร"

    "ไม่ต้องห่วง ทำทุกอย่างตามปกติ"

    คิระลุกขึ้นเมื่อกล่าวจบ คาระและสไวน์ลุกตาม

    "ช่วงนี้ทางเราก็เริ่มมีปัญหาแล้ว ถ้าพรุ่งนี้ว่างก็เข้ามาที่สำนักงานนะ"

    "ครับ"

    คาระตอบรับเท่านั้น คิระจึงเดินออกไปเพื่อทำงานในส่วนของ SA

    เขาทราบดีว่าในเวลานี้ ความกดดันจากประชาชนมีมากเพียงใด เจ้าหน้าที่ควบคุมไม่ได้อีกแล้ว จนบางทีก็คิดว่า เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานได้ดีจนสามารถควบคุมสถานการณ์ให้สงบลงได้ แต่คงจะมากจนเกินไป

    "แล้วเธอไม่กลับไปที่บ้านหรือไง" คาระหันมาถามสไวน์ที่ทำตัวตามสบายราวกับเป็นบ้านของตนเอง

    "เหมียว ข้าอยู่ที่นี่สบายกว่า กว้างกว่าด้วย"

    สไวน์ทิ้งตัวลงบนโซฟาและขดตัวนอน ไม่ทันที่คาระจะได้กล่าวอะไรต่อ เสียงลมหายใจของเธอก็ดังเป็นจังหวะที่ช้าลงและสม่ำเสมอ

     

    "ไวจริง"

     

    ตกเย็นของวันนั้นเอง ที่ทุกอย่างมาถึงจุดแตกหักของความอดทนและความไม่ไว้ใจที่มีต่อฝ่ายเจ้าหน้าที่และการเมือง

    คาระที่นั่งดูข่าวทางโทรทัศน์เริ่มเห็นการรายงานข่าวเกี่ยวกับการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อส่วนราชการในวันเดียวกันหลายสถานที่พร้อมกัน

    แม้แต่บทความในอินเทอร์เน็ตเอง ก็มีการตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้พร้อมกับที่ฝ่ายการเมืองซึ่งเป็นฝ่ายค้านเริ่มโจมตีรัฐบาล

    ข่าวที่ผ่านตาคาระนั้น ไม่ได้เข้าถึงการรับรู้ของเขาแม้แต่น้อย จิตใจของคาระคิดเพียงแต่เรื่องของนางฟ้าผมสีเงิน จนกระทั่งเขาผล็อยหลับไปบนโซฟาข้างๆ สไวน์

     

     

    ชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบของ SA เดินไปตามทางเดินอย่างรีบร้อน จนกระทั่งมาถึงห้องวอร์รูมที่เขาคุ้นเคย

    "มีปัญหาแล้วครับ" เขากล่าวขึ้นทันทีที่เปิดประตูเข้ามา

    ซึ่งภายในห้องเต็มไปด้วยผู้คนที่ดูเคร่งเครียด

    "มีปัญหาอะไรหรือ ธารา" หญิงสาวผมสีบลอนด์ทองกล่าวถามโดยสายตาของเธอยังจับจ้องอยู่ที่โทรศัพท์มือถือ

    ก่อนที่ธาราจะได้อธิบาย ชายหนุ่มอีกคนในชุดโทนสีดำกล่าวขัดขึ้นก่อน

    "ถ้าเป็นพวกปีศาจนอกเมือง เราส่งกำลังไปจัดการแล้ว"

    "ไม่ใช่ครับ มีคนปล่อยคลิปการสู้รบกับพวกนักรบปีศาจลงอินเทอร์เน็ตครับ"

    "ไม่มีใครเชื่อหรอกครับ"

    ชายอีกคนหนึ่งในเครื่องแบบทหารเรือกล่าวก่อนที่จะหันมาทำความเคารพธารา

    "คุณคือ..." ธาราทำความเคารพกลับ

    "นาวาเอกนิลกาฬ จากศูนย์ประสานงาน ยินดีที่ได้รู้จักครับ เจ้าหน้าที่ระดับ 10 ธารา"

    "ครั้งนี้มีคนเชื่อเยอะมากขึ้นแน่" ธารากล่าวต่อ "มีหลายคนบอกว่า เป็นอาวุธทดลองที่ผิดพลาดของ SA"

    "น้ำหนักไม่พอที่จะกล่าวหาเรานะ" วาเลนไทน์หญิงสาวอดีตหน่วยข่าวกรองให้ความเห็น "...เว้นแต่"

     

    เธอตาโตราวกับนึกบางอย่างออก

     

    "ก่อนหน้านี้ SA แถลงต่อสภา ของบประมาณมาพัฒนาชุด EXO รุ่นใหม่"

    "ถ้าพรุ่งนี้ไม่แถลงต่อสภาอีก คงโดนยุบสำนักงานแน่" ชายหนุ่มที่มีใบหน้ายิ้มแย้มยังคงสับไพ่เล่นทั้งที่กล่าวถึงเรื่องที่เคร่งเครียด

    "คิดว่าฟอร์ราจะไม่โดนด้วยหรือไง สนับสนุน SA มากขนาดนี้ ซ้ำยังมีคนขุดเรื่องไม่ดีของเจ้าพวก ฟิโอเร่กับฟิโร ที่เขตแปดอีก"

    "ต้นตอมาจากที่ไหน" นิลกาฬถามแทรก "ถ้าหากต้องรักษาความสงบนี้ไว้ ไม่ว่าอะไร ผมก็จะทำให้ได้"

    นิลกาฬกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น

     

     

     

    รุ่งเช้าในวันต่อมา แม้ว่าจะเป็นวันหยุดราชการ แต่คาระก็ถูกเรียกตัวให้มาที่สำนักงาน SA ในทันที พร้อมกับคนอื่นๆ

    คาระและสไวน์เดินทางโดยรถสาธารณะ เมื่อเข้ามาภายในเขตที่หก การจราจรก็เริ่มติดขัด

    พวกเขาจึงตัดสินใจลงเดินด้วยเท้าไปที่สำนักงาน ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงจึงมาถึงถนนเส้นที่ผ่านหน้าสำนักงาน

     

    ระหว่างทางผู้คนเดินล้ำมาบนถนนมากมาย แต่ละคนถือป้ายที่ทำจากวัสดุต่างๆ เขียนข้อความที่แสดงถึงอารมณ์อันรุนแรง

    "มีประท้วงอะไรกันอีกนะ"

    คาระที่มองผู้คนรอบตัวกล่าวถาม โดยหวังว่าจะได้คำตอบจากสไวน์ ทว่าตอนนี้เธอกลับกลายเป็นรุ่นพี่ใบว่านไปเสียแล้ว

    เธอกระชับร่างกายเข้าหาคาระและมีท่าทางกระวนกระวาย และไม่ได้ตอบคำถามของคาระ

    เสียงพูดผ่านเครื่องขยายเสียงเริ่มดังขึ้น ตามด้วยเสียงโห่ร้องของกลุ่มคนมากมาย

    พวกเขามารวมตัวกันที่ด้านหน้าสำนักงาน SA ยื่นข้อเรียกร้องให้บอกความจริงในการรบที่เมืองบางกอก และยกเลิกกฎอัยการศึก

    "ต้องเข้าทางอาสนวิหารแทนแล้วล่ะ"

    คาระพาใบว่านเดินเลี่ยงไปยังถนนอีกเส้นหนึ่ง อ้อมไปทางด้านหลังสำนักงาน

    อาสนวิหารแบบกอธิคที่ตั้งในพื้นที่ของสำนักงานมีขนาดใหญ่โตและสูงมากกว่าอาคารสำนักงาน แต่เมื่ออยู่ท่ามกลางตึกที่ทันสมัยรอบข้าง กลับดูกลมกลืนอย่างน่าประหลาด ทำให้สำนักงานยิ่งดูมีเบื้องหลังที่ลึกลับขึ้น

    พวกเขาเข้าไปในอาสนวิหารเพื่อออกไปทางด้านหลังสู่อาคารของสำนักงานอีกทีหนึ่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่รู้เส้นทางนี้

    "คาระ..." ใบว่านเรียกด้วยเสียงที่แผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ "ที่นี่ไม่ปลอดภัยอีกแล้ว"

    สายตาของเธอจับจ้องมาที่คาระราวกับดวงตาของแมวที่พยายามสื่อข้อความมายังเขา

    คาระไม่เข้าใจ เพราะอะไรที่ทำให้ศูนย์กลางการต่อต้านสิ่งเหนือธรรมชาติไม่ปลอดภัยตามที่ใบว่านกล่าว

     

    เมื่อมาถึงอาคารสำนักงาน พวกเขาตรงไปที่วอร์รูมในทันทีด้วยความคุ้นเคย

    ระหว่างทางเจ้าหน้าที่หลายคนต่างทักทายคาระและใบว่านราวกับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง

     

    "คุณคาระครับ" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเรียก "คุณวาเลนไทน์ให้ไปที่ห้องประชุมครับ"

    "รับทราบครับ"

     

    ภายในห้องประชุม เซตและไอน์มารออยู่ก่อนแล้ว ทว่าในวันนี้กลับมีอีกหลายคนอยู่ในห้องด้วย รูท ไพน์ มูลา นิลกาฬ คิระ วาเลนไทน์ และเกรบผู้ปกครองทั้งสามเขตรวมถึงผู้ติตามหญิงสาว

    นักเรียนของโรงเรียนหลักเขตที่เจ็ดนั่งที่ด้านหนึ่งของโต๊ะ อีกด้านหนึ่งเป็นของเจ้าหน้าที่ SA และหน่วยงานอื่น

     

    "เชิญนั่งก่อน คาระ...และ...ส" เกรบมองหญิงสาวที่เดินไม่ห่างจากตัวคาระ

    "ใบว่านค่ะ" เธอแทรกตอบเสียงแผ่ว

     

    คาระชำเลืองตามองไปที่ไพน์เล็กน้อย เธอเองก็มองมายังเขาเช่นกัน การที่เธอมาร่วมโต๊ะนี้ได้ เธอเองก็คงรับรู้ข้อมูลส่วนใหญ่แล้ว รวมถึงเรื่องของคาระ

    เพียงครู่หนึ่งประตูห้องประชุมก็เปิดออกอีกครั้ง หญิงสาวในเครื่องแบบนักเรียนที่ดูไม่เรียบร้อยพร้อมกับปืนพกที่ข้างเอวในซองปืน ผมซอยสั้นสีแดงของเธอเด่นสะดุดตา

     

    "อรุณสวัสดิ์ ทุกคน" เธอกล่าวด้วยท่าทางที่เย่อหยิ่ง

     

    ชายหนุ่มที่ติดตามเธอมายกแขนขึ้นกันไม่ให้เธอเดินไปทางที่นั่งของเจ้าหน้าที่ แต่ผายมือให้ไปทางที่นั่งฝั่งเดียวกับนักเรียนคนอื่นๆ

     

    "ทางนี้ครับ ท่านเอล"

    "ฉ..ฉัน..ร..รู้แล้วหน่า ไผ่"

     

    เอลนั่งลงบนเก้าอี้ที่ไผ่เลื่อนให้อย่างไม่สบอารมณ์

     

    "มากันเกือบครบแล้ว ขาดแค่...บี แต่เราเริ่มกันก่อนเลยแล้วกัน" คิระกล่าว

    "ค่ะ ที่เรียกทุกคนมาในวันนี้..." ผู้ติดตามเกรบกล่าวนำ "เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนางฟ้าตกสวรรค์ค่ะ"

    "เราไม่สามารถกันพวกเธอไม่ให้ยุ่งเกี่ยวได้อีกต่อไปแล้ว นางฟ้าตกสวรรค์ดึงพวกเธอเข้าไปเกี่ยวข้อง สถานการณ์จะยิ่งแย่หากเราปิดกั้นข้อมูลไปมากกว่านี้" วาเลนไทน์กล่าวต่อ "ทว่าจะเปิดเผยข้อมูลให้คนอื่นรู้เพิ่มอีกก็ไม่ได้เช่นกัน"

     

    คาระสังเกตการตอบสนองของไพน์ตลอดเวลา แต่ท่าทีของเธอยังคงสงบนิ่งราวกับเรื่องต่างๆ นั้นไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของเธอเลย

    และไพน์ก็จ้องมองไปที่คิระเขม็ง ทว่ามันสงบจนดูเยือกเย็น แม้แต่วาเลนไทน์ก็ยังรู้สึกได้

    ใบว่านที่นั่งข้างกับคาระก็ดูสนใจไพน์เป็นพิเศษ จนนิลกาฬอดสงสัยไม่ได้

     

    "คุณไพน์ มีเรื่องอยากถามไหมครับ"

    เธอหันมาจ้องที่นายทหารอย่างเยือกเย็น

    "ไม่ค่ะ แค่รู้สึก..."

    วาเลนไทน์เพ่งเล็งสายตาไปที่เธอในทันที

     

    "ผมชักสงสัยแล้วสิครับ นักเรียนเขตที่เจ็ดมีสัมผัสพิเศษจำนวนมากแค่ไหนกัน"

     

    ธาราถามแทรกขึ้น ทำให้ทุกคนหลุดขำออกมา บรรยากาศที่ชวนอึดอัดหายไป เว้นแต่ใบว่านที่ยังคงเหลือบมองไพน์อย่างสนใจ

     

     

    ตอนที่ 5 Students

     

     

     

     

     

     

    โบสถ์หลังเก่าที่อยู่นอกเขตที่เจ็ดไปทางตะวันออก กึ่งกลางระหว่างเขตเมืองและเขตทหาร ใกล้กับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนคอนแวนต์ที่มีนักเรียนหญิงไม่ถึงยี่สิบคน

     

    หญิงสาวภายในโบสถ์นั่งคุกเข่าต่อหน้าไม้กางเขนเพียงลำพัง แสงแดดยามเช้าสีทองส่องลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาภายใน ทำให้ไม้สีน้ำตาลอ่อนเปล่งประกาย

    เสียงบทสวดราวกับกระซิบดังสะท้อนไปตามโถงอาคาร จนเสียงนั้นหยุดลง เมื่อบานประตูไม้ของโบสถ์ได้เปิดออก

     

    "อรุณสวัสดิ์ค่ะ ซิสเตอร์" เธอกล่าวทักทายโดยไม่หันมามองผู้ที่เข้ามา

     

    "เธอไม่ได้กลับมาที่นี่นานเหมือนกันนะ หกหรือเจ็ดปีได้"

     

    หญิงสาวลุกขึ้น เผยให้เห็นเครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียนหลักเขตที่เจ็ด ทว่าชุดของเธอดูเป็นทางการและสง่างามกว่า

     

    "ที่นี่แทบไม่เปลี่ยนไปเลยนะคะ คิดถึงมากเลยค่ะ"

    "สิบปี หรือเพียงข้ามคืนไม่น่าจะแตกต่างสำหรับเธอนะ บี"

    "ค่ะ รวดเร็ว และเนิ่นนาน ในเวลาเดียวกัน"

     

    บีหันหลังกลับมา รอยยิ้มอันอ่อนหวานเป็นสิ่งแรกที่ซิสเตอร์ได้เห็น มันทำให้เธอนึกถึงเรื่องในอดีต

     

    "คงไม่ได้มาเพราะแค่คิดถึงที่นี่หรอก ใช่ไหม"

    "ค่ะ ฉันมาเพื่อกล่าวอำลา ครั้งสุดท้าย"

     

    ซิสเตอร์เอามือทาบอกแล้วกุมที่ไม้กางเขน

     

    "เฮ้อ โชคชะตานำมาทางนี้จริงหรือ พระเจ้ามีแผนให้เราเสมอ ไตร่ตรองอีกครั้งเถิด"

     

    "งั้นนี่ก็คงอยู่ในแผนของพระองค์ด้วยค่ะ"

     

    บีเดินมาทางซิสเตอร์ และหยุดเมื่อมายืนเคียงข้าง

     

    "ฉันต้องไปแล้วค่ะ อวยพรให้ฉันด้วย"

     

    ซิสเตอร์หลับตาลง แต่ก็ยังคงไม่กล่าวอะไร บีเองก็ยืนรอคำอวยพรอย่างสงบนิ่ง

     

    "ขอให้พระองค์ชี้ทางเธอก่อนที่จะสายเกินไป และเมตตาเธอด้วย"

     

    บีเดินไปที่หน้าประตูก่อนจะหันกลับมาพร้อมกับถอยเท้าข้างหนึ่งไปด้านหลัง เธอดึงกระโปรงขึ้นเล็กน้อยและย่อตัวลง

     

     

    "ขอบคุณค่ะ ซิสเตอร์"

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×