เซียนจอมเวทย์ Deva Wizard
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ แฟนตาซี Tags : ยังไม่มี
ผู้แต่ง : ท่านโซ
My.iD :
https://my.dek-d.com/TanSoSoDa/writer/
ตอนที่ 72 : การลงมือของฟรีซ (รีไรท์)
“เขาต้องการอะไร?” เมอร์ลินอดที่จะคิดในใจไม่ได้
สถานการณ์กลายเป็นยุ่งยากมากขึ้น
การปรากฏตัวของอัศวินโต๊ะกลมนั้นอยู่เหนือความคาดหมายของเมอร์ลินไปมาก
เมอร์ลินในตอนนี้หากใช้พลังของหอกลองกินุสนั้นพอที่จะปะทะหรือปราบปรามจอมเวทย์ที่พึ่งสร้างวงเวทย์บ่มเพาะแรกได้ แต่สำหรับตัวตนของอัศวินโต๊ะกลมนั้นนับว่ายากเกินไป
เมอร์ลินเคยเห็นฝีมือบางส่วนของอัสลานผู้เป็นหนึ่งในอัศวินโต๊ะกลมมาบ้างแล้ว ตัวตนของชายชรานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เพียงแค่การปลดปล่อยพลังออกมาพลังที่เอ่อล้นนั้นก็สามารถกดขี่ผู้คนได้แล้ว
เหงื่อเย็นเริ่มไหลออกมาจากหน้าผากของเด็กน้อย
เมอร์ลินไม่คิดว่าเรื่องราวจะบานปลายไปถึงขนาดนี้ ความตั้งใจของเขาคือการตัดขาดจากตระกูลเซอร์เตสและนำแหวนของเมย์คืนมา แต่มันกลับลุกลามไปถึงการกวาดผ่านเอิร์ลเซอร์เตสและชักนำชายที่ชื่อ “ฟรีซ” ผู้เป็นหนึ่งในอัศวินโต๊ะกลมให้เขาร่วมกับเหตุการณ์นี้
นี่จึงได้สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับเด็กน้อยเป็นอย่างมาก
“ข้าเมอร์ลิน ยินดีที่ได้พบอัศวินโต๊ะกลมแห่งอารากอน”
แม้จะเป็นคำพูดที่ดูสุภาพแต่มันก็เต็มไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย เมอร์ลินรักษาความสงบและเย็นชาของเขาเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
ชายคนนี้คือหนึ่งในสิ่งที่ยุ่งยากของเขาในตอนนี้
ฟรีซนั้นยิ้มและไม่เอ่ยคำใดออกมา การแสดงออกของเขากำลังยั่วยุเด็กน้อย
คิ้วทั้งสองของเมอร์ลินเริ่มขมวดเข้าหากัน เขาไม่สามารถมองเห็นความคิดของชายคนนี้ได้
ตั้งแต่ต้นจนจบฟรีซไม่ได้แทรกแซงเรื่องของเมอร์ลินและตระกูลเซอร์เตส จนกระทั่งตอนนี้ที่เขาได้ออกหน้าขัดขวางการโจมตีของเมอร์ลิน
เมอร์ลินไม่อาจอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป เขาไม่ต้องการปะทะกับคนคนนี้
เมื่อเห็นว่าฟรีซนั้นไม่แสดงท่าทีใดๆ เขาจึงเอ่ยคำลาอย่างรวดเร็ว
“ข้าหมดธุระกับที่นี้แล้ว ขอลา”
เมอร์ลินกล่าวลาอย่างรวบรัดและทะยานตัวจากไปในทันที
แต่ทว่า...
ทันใดนั้นเองพลังความเย็นของฟรีซก็เพิ่มขึ้นอย่างเข้มข้น
ฟรีซยกมือข้างหนึ่งขึ้น อากาศพลันปรากฏประกายแสงแห่งความเย็นระยิบระยับ
พริบตาม่านพลังน้ำแข็งอันเยียบเย็นก็ถูกสร้างขึ้น
ม่านพลังนั้นปรากฏจากความว่างเปล่าล้อมรอบเมอร์ลินอย่างรวดเร็ว
แม้เมอร์ลินจะเคลื่อนไหวด้วยความเร็ว แต่มันก็ไม่สามารถรวดเร็วได้เกินกว่าพลังเวทย์ของฟรีซ
แกร๊ก! แกร๊ก! แกร๊ก!
ความเยียบเย็นของม่านพลังแผ่ออกมาจนเมอร์ลินรู้สึกสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ภายใต้ความเย็นนี้เมอร์ลินรู้สึกหายใจลำบาก พลังเวทย์ของฟรีซกำลังกดดันเขา
นี่คืออำนาจที่แท้จริงของจอมเวทย์
ฟรีซเป็นจอมเวทย์ที่แท้จริง วงเวทย์บ่มเพาะสีเงิน 2 วงของเขานั้นถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์
เขาคือตัวตนที่ยิ่งใหญ่ พลังของเขานั้นไม่อาจปฏิเสธได้
ทันใดนั้นเองร่างของฟรีซก็ปรากฏอยู่ภายในปราการน้ำแข็งนั้น เขาเคลื่อนไหวภายใต้แผ่นน้ำแข็งได้อย่างอิสระ ราวกับว่าน้ำแข็งเหล่านั้นเป็นดินแดนของเขา
สิ่งที่ฟรีซทำอยู่มันไม่ได้เกิดจากการร่ายเวทย์ของเขา มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งย่อมไม่สามารถเคลื่อนไหวภายในน้ำแข็งได้ แต่ทว่าการเคลื่อนไหวภายในน้ำแข็งของฟรีซนั้นเกิดจากพลังอีกอย่างหนึ่งของเขา
ถูกต้องแล้ว ฟรีซคือหนึ่งในผู้มีขีดจำกัดทางสายเลือดธาตุน้ำ
ผู้ที่ได้รับพรจากธาตุน้ำ สามารถใช้ธาตุน้ำของเขานั้นเหนือจิตนาการที่คนทั่วไปจะคาดถึง
ภายในแผ่นน้ำแข็งที่หนาและแข็งแกร่งนั้นเป็นม่านพลังกักตัวเมอร์ลินเอาไว้นั้น
ฟรีซได้เผยรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ออกมาและพูดว่า
"จะรีบไปไหนกันเด็กน้อย เรายังไม่ทันได้พูดคุยกันเลย” คำพูดของฟรีซนั้นเต็มไปด้วยการหยอกล้อ
ใบหน้าของเมอร์ลินเริ่มแสดงความตรึงเครียดออกมา ม่านพลังน้ำแข็งนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก กลิ่นอายที่เยียบเย็นนี้ได้คุกคามและกดดันเขา
“ท่านอัศวินโต๊ะกลม ข้ากับท่านไม่ได้มีบุญคุณและความแค้นต่อกัน โปรดหลีกทางให้ข้าด้วย” เมอร์ลินกล่าวอย่างใจเย็นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ฟรีซหรี่ตาลงและหัวเราะ “ฮิ ฮิ ฮิ แม้ว่าเราจะไม่ได้มีความแค้นต่อกัน แต่เจ้าได้ทำร้ายสหายของข้า การปล่อยให้เจ้าจากไปโดยง่ายนั้นทำให้ข้าลำบากใจ” ฟรีซเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เจ้าเล่ห์
ได้ยินดังนั้นเมอร์ลินก็ทราบแล้วว่าเขาไม่สามารถจากไปได้โดยง่าย ชายคนนี้จงใจที่จะคุกคามเขา
“เช่นนั้นท่านต้องการอะไรจากข้า” เมอร์ลินยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว ตัวตนของเขายังคงเต็มไปด้วยความสงบและเย็นชา
“นอกจากฝีมือของเจ้าแล้ว ความกล้าหาญของเจ้าก็น่าประทับใจเช่นกัน” ฟรีซยิ้มและเอ่ยต่อ “เอิร์ลเซอร์เตสนั้นถูกทำร้ายจนหมดสติเช่นนี้ การที่จะให้ข้านิ่งเฉยแล้วดูคนที่ทำร้ายเขาจากไปนั่นจึงเป็นสิ่งที่ยาก ข้าไม่ได้มีความประสงค์ที่จะทำร้ายเจ้า เพียงแต่ข้าการรั้งให้เจ้าอยู่จนกว่าเอิร์ลเซอร์เตสจะฟื้นสติคืนมาแล้วปรับความเข้าใจกัน”
สีหน้าของเมอร์ลินกลายเป็นเคร่งเครียด เส้นเอ็นเส้นหนึ่งปูดออกมาจากขมับของเขา เขากำลังเจอกับตอใหญ่ที่ขวางหน้า
“ขออภัยที่ข้าไม่สามารถทำตามที่ท่านกล่าวได้ ในตอนนี้ข้ายังมีธุระเร่งด่วนไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอของท่านได้”
ฟรีซนั้นรู้อยู่แล้วว่าเด็กน้อยผู้นี้ย่อมต้องไม่ยินยอม เขาไม่ได้เอ่ยคำใดออกมาอีกเพียงฉีกยิ้มออกมาเท่านั้น
ครานั้นเองทั้งสองก็ตกอยู่ในความเงียบ เป็นเมอร์ลินเองที่ไม่สามารถทนต่อสถานการณ์นี้ได้
ในตอนนี้ชายที่ชื่อฟรีซตรงหน้านี้ แสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าจะอยู่ตรงข้ามกับเขา
แน่นอนว่าเขาไม่อาจอยู่รอจนโซเร่ฟื้นขึ้นมาได้ หากเป็นอย่างนั้นโอกาสในการหลบหนีของเขาก็จะน้อยลงและอาจเกิดสถานการณ์การที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้
ในเวลานั้นเองสายตาของเด็กน้อยก็เปลี่ยนไปเป็นดุดัน ดวงตาสีน้ำเงินนั้นกลายเป็นลึกล้ำและเย็นชามากยิ่งขึ้น
การเจรจากับฟรีซนั้นล้มเหลว
เมอร์ลินสะบัดมือกลางอากาศ เวทมนต์ที่เขาแอบร่ายเวทย์หน่วงเวลาเอาไว้ก็ปรากฏออกมา
วึ้ง!!!!
บ่อหลุมมิติค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า ภายใต้กลิ่นอายความเยือกเย็นนั้นทำให้มันขยายตัวอย่างเชื่อง
ฟรีซอมยิ้มและหัวเราะชอบใจ นี่คือสิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
เด็กน้อยคนนี้หากไม่ทำการปะทะก็ต้องหลบหนี เขาไม่มีวันสิโรราบโดยดีอย่างแน่นอน
อำนาจความเย็นของฟรีซนั้นคือของจริง มันสามารถกัดกร่อนได้แม้กระทั่งอากาศและบทเวทย์บทหนึ่งของนักเวทย์เช่นเมอร์ลินก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ภายในเวลาไม่นานแผนของเมอร์ลินก็ล้มเหลว
บ่อหลุมมิติถูกอำนาจความเย็นกลืนกินและกัดกร่อน เวทย์บ่อหลุมมิติของเมอร์ลินนั้นถูกเกล็ดน้ำแข็งจำนวนมากปกคลุมโดยสมบูรณ์
แผนการหลบหนีของเขาล้มเหลว!
ฟรีซหัวเราะอย่างคิกคักอยู่ภายใต้ม่านพลังน้ำแข็งเขายืนและเคลื่อนไหวอย่างสบายๆ ภายในน้ำแข็งเหล่านี้
ในตอนนั้นเองมือของฟรีซก็เต็มไปด้วยอำนาจของความเย็น เขาสะบัดมือข้างหนึ่งไปด้านหน้า
พลันอากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นไอของน้ำแข็ง
หอกน้ำแข็งจำนวนสามเล่มถูกสร้างขึ้นและพุ่งเข้าโจมตีเมอร์ลิน
“ท่านกำลังทำอะไร!” เมอร์ลินกล่าวออกมาอย่างตกใจ เขาไม่คิดว่าฟรีซจะโจมตีเขา
ตั้งแต่ต้นจนจบเมอร์ลินไม่สามารถมองเห็นความคิดของชายคนนี้ได้
ความเร็วของหอกน้ำแข็งนั้นไม่ได้มีมากนัก ความเร็วนี้ไม่แม้จะสามารถแตะตัวของเมอร์ลินได้
เมอร์ลินทำการหลบหลีกหอกน้ำแข็ง ด้วยการทำความเข้าใจธาตุลมจนเข้าได้รับเจตจำนงแห่งลม การเคลื่อนไหวของเขานั้นจึงเต็มไปด้วยอำนาจของธาตุลม นั่นจึงทำให้เขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วเป็นอย่างมาก
แต่การโจมตีของฟรีซที่เป็นถึงจอมเวทย์อัศวินโต๊ะกลมนั้นย่อมไม่ใช่การโจมตีที่ธรรมดา
ทันใดนั้นเองหอกน้ำแข็งทั้งสามก็ขยายใหญ่ขึ้น หยดน้ำในอากาศนั้นเพิ่มอำนาจให้กับหอกน้ำแข็งทั้งสาม
การโจมตีของหอกน้ำแข็งทั้งสามนั้นจึงทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งพลังและความเร็วเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
เมอร์ลินหลบหลีกหอกน้ำแข็งทั้งสามอย่างยากลำบาก
ทันทีที่เมอร์ลินหลบหอกน้ำแข็งได้พ้น ด้วยการควบคุมของฟรีซ หอกน้ำแข็งเหล่านั้นก็ย้อนกลับมาโจมตีเขาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปรากฏเป็นเส้นแสงสีฟ้าที่เคลื่อนที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก
หลายครั้งที่เมอร์ลินถูกหอกน้ำแข็งเฉียดผ่าน อำนาจของความเย็นนั้นก็เริ่มที่จะแผลงฤทธิ์ เกล็ดน้ำแข็งจำนวนหนึ่งปรากฏยังจุดที่เฉียดผ่าน ความเย็นนั้นกัดกินร่างกายของเขา
สิ่งเหล่านี้ทำให้ความสามารถในการเคลื่อนไหวของเมอร์ลินถูกลดทอน
การทำให้ศัตรูถูกลดความเร็วลงได้มันคือความน่ากลัวของผู้ใช้เวทย์น้ำแข็ง
สายตาของเมอร์ลินจ้องมองการโจมตีนี้ ดวงตาเลเมเกทันนั้นจับจ้องมันได้อย่างชัดเจน สายลมเย็นที่หอบเอาความเย็นนั้นเพิ่มอำนาจให้กับเวทย์หอกน้ำแข็งของฟรีซ
การควบคุมเวทย์ของฟรีซนั้นไม่มีที่ติ แม้หอกนั้นจะเป็นเพียงแค่เข็มน้ำแข็งแต่เขาก็สามารถขยายมันให้ใหญ่ขึ้นได้ด้วยการควบคุมของเขา
ระหว่างหลบหลีกการโจมตีนั้นเมอร์ลินได้ทำความเข้าใจการโจมตีเหล่านี้ไปด้วย
“ทำไมท่านต้องบีบคั้นข้าขนาดนี้” ขณะทำการหลบหลีก เมอร์ลินกล่าวกระแทกเสียงออกไป
ฟรีซยังคงไม่ตอบเขาเพียงยิ้มอย่างสบายอารมณ์
นั่นจึงทำให้อารมณ์ของเมอร์ลินครุกรุ่นมากขึ้น
วงเวทย์บ่มเพาะทั้งห้าของเมอร์ลินถูกเร่งเร้าขึ้นมาอีกครั้ง พลังเวทย์ภายในร่างกายปะทุเอ่อล้นออกมาดั่งน้ำป่า
เขาไม่อาจตั้งรับด้วยการหลบหลีกแบบนี้ได้อีกต่อไป
เมอร์ลินทำการกวาดผ่านอาวุธของเขาอย่างทรงพลัง
หอกลองกินุสปะทะกับหอกน้ำแข็งทั้งสามอย่างรุนแรง
ปัง!!!!
พลังสั่นสะเทือนของหอกลองกินุสปะทะกับหอกน้ำแข็งทั้งสามก่อให้เกิดแรงระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
คลื่นพลังสั่นสะเทือนนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากมันสามารถทำลายหอกน้ำแข็งเหล่านั้นได้
แต่ทว่าพลังความเย็นที่ระเบิดออกมานั้นก็รุนแรงมากเช่นกัน
ซูม!
ไอเย็นแผ่ไปทั่วทุกสารทิศ อากาศราวกับถูกแช่ด้วยพลังแห่งความเย็น
ความเย็นสะท้านไปถึงกระดูกของเมอร์ลิน ใบหน้าของเขานั้นกลายเป็นบิดเบี้ยว
ความเย็นได้สร้างความเสียหายให้กับเมอร์ลิน
ขณะเดียวกันดวงตาสีน้ำเงินของเมอร์ลินก็เกิดแสงที่ไหววูบส่องประกายออกมา ภายในจักรวาลหัวใจบังเกิดสายลมสีเขียวห้อมล้อมวงเวทย์บ่มเพาะทั้ง 5 ของเขา
ความเข้าใจในธาตุลมของเมอร์ลินเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ต้นอ่อนธาตุลมเปล่งพลังที่เรืองโรจน์ออกมา
ทุกๆ การเคลื่อนไหวของเวทย์ธาตุน้ำแข็งของฟรีซนั้นถูกดวงตาเลเมเกทันบันทึกเอาไว้ ข้อมูลเหล่านั้นถูกสมองของเมอร์ลิน สร้างความเข้าใจก่อเกิดสำนึกรู้ในศาสตร์การเปลี่ยนแปลงและศาสตร์การควบคุมเวทมนต์ระดับจอมเวทย์
ศาสตร์ความรู้ของจอมเวทย์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจดูแคลน น้อยคนที่จะสามารถทำความเข้าใจกับศาสตร์เหล่านี้ได้ บางคนนั้นติดอยู่ในระดับนักรบเวทย์จนสิ้นอายุขัยแต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงศาสตร์เวทมนต์ของจอมเวทย์ได้
ดวงตาเลเมเกทันนั้นเป็นสมบัติลึกลับของมหาจักรพรรดิโซโลมอน มันได้มอบพรสวรรค์ให้กับผู้ที่ครอบครอง
พรสวรรค์ในการสร้างความเข้าใจในศาสตร์แห่งเวทมนต์ ไม่ว่าเวทมนต์นั้นจะเป็นตัวตนชนิดใด ผู้ครอบครองดวงตาเลเมกันทันนั้นสามารถสร้างความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
อีกทั้งสารานุกรมความรู้ที่บรรจุอยู่ภายในดวงตายังสามารถส่งเสริมความเข้าใจให้แก่ผู้ครอบครองมากยิ่งขึ้น
เมอร์ลินนั้นดั่งได้รับพรจากทวยเทพ เขาเปลี่ยนความเข้าใจในศาสตร์ของธาตุน้ำแข็งประยุกต์ให้เป็นธาตุลม
เมื่อสำนึกรู้ของความเข้าใจถูกสร้างขึ้นเจตจำนงธาตุลมของเขาก็แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
วงเวทย์บ่มเพาะทั้งห้าในจักรวาลหัวใจนั้นแผ่อำนาจธาตุลมออกมาอย่างทรงพลัง
วงเวทย์ทั้งห้าโคจรหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง เกิดเสียงครืนๆ กึงก้องในจักรวาลหัวใจ
วงเวทย์ทั้งห้าเปล่งพลังออกมาจำนวนมหาศาลมากกว่าเดิม พลังนั้นพลั่งพลูออกมาอย่างล้นหลาม
ในเวลาเดียวกัน ภายในความคิดของเมอร์ลิน ความเข้าใจในธาตุลมก่อกำเนิดเป็นเจตจำนงที่ถูกกระตุ้นด้วยพลังเวทย์ เพิ่มพลังให้แก่เขา
วูบ!!!!!
แสงสีขาวส่องสว่างจ้าภายในจักรวาลหัวใจของเมอร์ลิน
แววตาของเมอร์ลินนั้นเปล่งประกายออกมา
เด็กน้อยแสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา
มีเรื่องที่น่ายินดีเกิดขึ้น!
ขอบเขตของจักรวาลหัวในเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่งอย่างน่าตกใจ
วงเวทย์บ่มเพาะทั้งห้าหลอมรวมกันอย่างกะทันหัน
ไอเวทย์สีเทาได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสีขาวที่บริสุทธิ์
หนึ่งวงเวทย์บ่มเพาะสีขาวลอยเด่นอยู่กลางจักรวาลหัวใจของเมอร์ลิน
ภายใต้แรงกดดันของฟรีซ แรงกดดันของตัวตนระดับจอมเวทย์แท้จริงนั้นได้ทำให้เมอร์ลินได้บรรลุถึงขอบเขตใหม่ของพลังเวทย์
ระดับนักรบเวทย์!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน จู่ๆ เด็กนี่ก็สามารถก้าวข้ามกำแพงขอบเขตของพลังเวทย์ไปได้” ฟรีซแสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง
เมื่อเมอร์ลินเข้าสู่ขอบเขตนักรบเวทย์ พลังอักขระขั้นสีเขียวแบบไม่สมบูรณ์จึงถูกปลดล็อค
จักรวาลหัวใจของเมอร์ลินก่อเกิดอำนาจสีเขียวที่เปล่งประกายดั่งแสงของดวงอาทิตย์
วงเวทย์บ่มเพาะสีขาวโคจรไปรอบๆ อำนาจสีเขียวนั้นอย่างร่าเริง
แสงของอำนาจสีเขียวนั้นเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่วงเวทย์บ่มเพาะของเมอร์ลิน อำนาจของวงเวทย์บ่มเพาะนั้นจึงเพิ่มมากขึ้น
เมอร์ลินได้กลายเป็นนักรบเวทย์หนึ่งวงเวทย์ที่มีความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา หัวใจของเขาจึงเกิดความรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก
คิ้วเข้มของฟรีซถูกขมวดเข้าหากัน ฝ่ามือของเขาถูกผลักออกไปอีกครั้ง สายลมที่เยือกเย็นเกินธรรมดาถูกกวาดออกไปอย่างรุนแรง พลังความเย็นของเขานั้นสร้างความหนาวเย็นให้กับอากาศ
เบื้องหน้าปรากฏหอกน้ำแข็งจำนวนมาขึ้นกลางอากาศราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า
สายตาของฟรีซเปลี่ยนเป็นดุร้าย การโจมตีนี้ปราศจากซึ่งความปราณี
เฟี้ยว! เฟี้ยว! เฟี้ยว!
“จงหายไปซะ!”
เมอร์ลินกวัดแกว่งหอกลองกินุสออกไปรอบตัว การโจมตีด้วยอำนาจสั่นสะเทือนของเขาผสานเข้ากับเจตจำนงธาตุลม ความรุนแรงจึงเพิ่มขึ้นหลายเท่าทวี
ปัง! ปัง! ปัง!
หอกน้ำแข็งจำนวนมากถูกทำลาย
อำนาจความเย็นปะทะเข้ากับอำนาจสั่นสะเทือนที่ผสานกับเจตจำนงธาตุลมก่อให้เกิดการปะทะที่ยิ่งใหญ่กลางอากาศ
ผู้ใช้ความเย็นอย่างฟรีซนั้นอยู่ในระดับจอมเวทย์จึงทำให้สถานะของอำนาจความเย็นนั้นอยู่เหนือกว่าอำนาจสั่นสะเทือนที่ผสานกับเจตจำนงธาตุลมเพียงเล็กน้อย
ซูม!!!!!!
การโจมตีด้วยรูปลักษณ์หาใช่สิ่งที่น่าสนใจ การโจมตีที่ไร้ลักษณ์ไร้รูปร่างมากกว่าที่น่าสนใจ
พลังอำนาจทั้งสองปะทะกันก่อให้เกิดกลิ่นอายแรงกดดันที่น่าพรั่นพรึง
หลายคนที่ลอยดูการต่อสู้นี้ถึงกับหายใจติดขัด
“เด็กคนนี้สามารถทำลายการโจมตีของอัศวินโต๊ะกลมได้” ชายคนหนึ่งพูดออกมาด้วยสายตาไม่เชื่อ
ใบหน้าของฟรีซกลายเป็นน่าเกลียด นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก
การโจมตีของเขาถูกเด็กน้อยคนหนึ่งทำลาย
ชื่อเสียงอัศวินโต๊ะกลมของเขาจะต้องมัวหมองหากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป
วงเวทย์บ่มเพาะสีเงินทั้งสองวงของฟรีซเริ่มโคจรเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง พลังความเย็นระเบิดออกมาจากร่างของเขา สร้างพายุน้ำแข็งกวาดล้างไปทั่วบริเวณ
ความเย็นเยียบกัดกร่อนแทรกซึมไปทั่วทุกมุม
ร่างของฟรีซนั้นดั่งตัวตนของราชาน้ำแข็ง การแสดงออกของเขาได้กลายเป็นเยือกเย็นมากยิ่งขึ้น
“จงปรากฏออกมา ไฮดร้า!” ฟรีซตะโกนออกมาอย่างรุนแรง
ทันใดนั้นก็ปรากฏลำแสงความเย็นหลายสายปรากฏขึ้นกลางอากาศ พวกมันม้วนตัวรวมและพุ่งเข้าหาร่างของฟรีซ
ฟรีซชูมือทั้งสองข้างขึ้นด้วยท่าทางที่เย็นชา
ไม่นานนักมือที่เปลือยเปล่าของเขาก็ปรากฏถุงมือใสบริสุทธิ์คล้ายกับคริสตัล
อำนาจความเย็นอันมหาศาลแผ่ออกมาจากถุงมือนี้
ใบหน้าของฟรีซปรากฏรอยยิ้มที่เยือกเย็นและเอ่ยด้วยเสียงที่เย็นเฉียบ
“เด็กน้อยวันนี้ข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นพลังที่แท้จริงของน้ำแข็งมรกตผู้นี้”
ในทันใดนั้นเองแววตาของฟรีซเปลี่ยนเป็นจริงจัง
“ไม่ดีแล้ว”
ดวงตาของเมอร์ลินจ้องไปยังไอพลังที่เย็นเยียบของฟรีซ พลังความเย็นนั้นเหนือกว่าที่ผ่านมา
สัญชาตญาณของเมอร์ลินกำลังแจ้งเตือนอันตราย มันร้องเตือนว่าหากเขาสัมผัสกับพลังของถุงมือนั้นเขาอาจถูกแช่แข็งไปตลอดกาลและ กลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งที่ไร้ชีวิต
“จงแข็งไปซะ!” ฟรีซเค้นเสียงออกมา
คลื่นความเย็นอันมหาศาลระเบิดขึ้นกลางอากาศ ฝนน้ำแข็งจำนวนมากปรากฏขึ้นเต็มท้องฟ้า
ซ่า! ซ่า! ซ่า!
พลังความสามารถของถุงมือไฮดร้านั้นเป็นที่น่าครั่นคราม อาวุธวิญญาณชนิดนี้สามารถควบคุมน้ำที่อยู่ในอากาศได้
ภายในอากาศมีน้ำอาศัยอยู่เบาบางนั้นได้ถูกฟรีซใช้สามารถของถุงมือไฮดร้าทำให้เกิดความควบแน่นจนกลายเป็นน้ำแข็ง
“ฝนน้ำแข็งนี้จะทำให้เจ้าหมดสภาพ พลังความเย็นจะกัดกร่อนร่างกายเจ้า ร่างของเจ้าจะติดพิษความเย็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เจ้าจะสูญเสียความรู้สึกโดยสมบูรณ์ หลังจากนั้นเจ้าก็จะไม่อาจหลีกเลี่ยงการเป็นรูปปั้นน้ำแข็งได้”
ฟรีซอมยิ้มและเอ่ยออกมาอย่างพึ่งพอใจ
เมอร์ลินพยายามหลบหลีกฝนน้ำแข็งเหล่านั้น เขาใช้ความเร็วเคลื่อนไหวไปมาพร้อมกับใช้พลังคลื่นสั่นสะเทือนของหอกลองกินุสต่อต้านฝนน้ำแข็งเหล่านี้เอาไว้ ร่างของเขาปรากฏความเย็นล้อมรอบเป็นจำนวนมาก
ห่าฝนน้ำแข็งนั้นโจมตีลงมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการโจมตีระยะกว้างที่สมบูรณ์ของอาวุธวิญญาณชิ้นนี้ หากเป็นนักรบเวทย์ธรรมดาพวกเขาอาจเสียชีวิตตั้งแต่วินาทีแรกที่เวทมนต์นี้ถูกใช้งาน
แม้แต่เมอร์ลินเองก็มีเองก็มีสภาพที่ไม่ดีนัก เขาใช้หอกลองกินุสสร้างคลื่นสั่นสะเทือนกลางอากาศแผ่ขยายไปทั่วบริเวณ แต่ทว่าฝนน้ำแข็งนั้นไม่มีท่าทีที่จะหยุดตก
ยิ่งเมอร์ลินกวัดแกว่งหอกลองกินุสมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสูญเสียพลังเวทย์มากเท่านั้น น้ำยาฟื้นฟูเวทย์ของเขานั้นไม่อาจเติมเต็มได้ทัน
ในตอนนั้นเองฟรีซก็เปลี่ยนรูปแบบการโจมตี มือที่สวมถุงมือไฮดร้านั้นโบสะบัดอย่างมีรูปแบบ อำนาจความเย็นนั้นเปล่งประกายออกมาอย่างโชติช่วง
ห่าฝนน้ำแข็งส่วนหนึ่งก็เกิดการเปลี่ยนแปลง ฝนน้ำแข็งถูกลมเย็นหอบหมุนวนรวมตัวกันจนกลายเป็นพายุสังหารที่เยียบเย็น อำนาจความเย็นนั้นพุ่งสูงขึ้นเท่าทวี
ร่ายกายของเมอร์ลินถึงกับสะท้านและไร้ความรู้สึก
พายุฝนน้ำแข็งนั้นมุ่งโจมตีเมอร์ลิน พายุนั้นเต็มไปด้วยอำนาจของพลังความเย็นที่ดุร้าย
เมอร์ลินถึงกับกัดฟัน สีหน้าของเขาเหมือนกับกลืนยาขม
พลังปราณเซียนภายในร่างปะทุออกมาอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับพลังเวทย์ที่เอ่อล้นออกมาจากวงเวทย์บ่มเพาะสีขาว พลังทั้งสองผสานกันอย่างมีความแตกต่าง
กลิ่นอายพลังต่อสู้ของเมอร์ลินทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เถ้าธุลีโหมกระหน่ำ!
เมอร์ลินเค้นเสียงออกมาอย่างดุดัน หอกลองกินุสเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาจนสว่างจ้า
กลิ่นอายโบราณครอบคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า
พลังปราณหอกนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นกลางท้องฟ้า มันก่อตัวและหมุนวนดั่งพายุที่บ้าคลั่ง แสงของพลังปราณหอกหลากสีเปล่งประกายอำนาจออกมา ก่อให้เกิดเสียงดังราวกับฟ้าดินกำลังพิโรธ
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
ย๊าก!
พลังปราณหอกผสานความสามารถสั่นสะเทือนของลองกินุสทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
อำนาจของพายุหอกพุ่งไปยังพายุฝนน้ำแข็งของฟรีซ
พายุทั้งสองเกิดการปะทะกัน ห้ำหั่นกันอย่างดุร้ายและเกรี้ยวกราดไม่ยอมกัน
ทั้งสองฝ่ายนั้นควบคุมพายุที่บ้าคลั่งของพวกเขาอย่างใกล้ชิด นั่นเพราะอำนาจของพายุนั้นมีขนาดใหญ่ มันเป็นสิ่งที่ยากแก่การควบคุม หากไม่ควบคุมอย่างใกล้ชิด พวกเขาจะไม่อาจสามารถบังคับมันได้
ตูม!!!!!!!!!
อำนาจพลังทำลายล้างทั้งสองก่อให้เกิดแรงระเบิดที่รุนแรง คลื่นพลังมหาศาลกระจายออกไปรอบทิศทาง
พลังพายุของทั้งสองถูกทำลาย
ผลจากแรงระเบิดนั้นทำให้ทั้งฟรีซและเมอร์ลินกระเด็นออกไปคนละทิศละทาง
เมอร์ลินนั้นได้ใช้อำนาจของพลังอักขระขั้นสีเขียวป้องกันแรงระเบิด แม้ว่าอำนาจพลังอักขระขั้นสีเขียวนั้นจะแข็งแกร่งแต่มันก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความเสียหายจากแรงระเบิดนี้ได้ ดีที่มันเป็นความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนฟรีซนั้นคลื่นพลังสั่นสะเทือนของเมอร์ลินนั้นไม่อาจดูแคลนได้บวกด้วยแรงระเบิดที่รุนแรงทำให้ร่างของเขาปลิวไปตกด้านล่างและไหลไปกับพื้นเป็นทางยาวหลายร้อยเมตร
ตูม!
สังเกตว่าไรท์ใช้คำว่า "นั้น" เยอะจนเป็นเอกลักษณ์ //เยอะเกินไป(คหสต)
Thank you
เมอร์ลินฆ่ามันลูกฆ่ามานน
//อินจัด//
หมั่นไส้-ฟรีซ
อักขระเขียวถ้าไม่ใช่ระดับมหาจอมเวท ก็ไม่สามารถทำลายได้หนิ จะกลัวไปทำไม
อักขระเขียวก็ปลดล็อคแล้วใช้เยอะๆไปเลย