ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [นิยายแปล] Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru

    ลำดับตอนที่ #35 : 2-14 Episode 11

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.96K
      109
      21 ต.ค. 59

    Chapter 2Turbulence in Royal Capital

    Episode 11 การต่อสู้ที่สับสนวุ่นวาย

    สุภาพบุรุษทั้งหลาย, จงน้อมรับถ้อยคำจากองค์หญิง! จงเงียบสงัดเพื่อรับฟัง และตราตรึงมันสู่ดวงวิญญาณของพวกเจ้า! ได้เวลาแล้วที่จะเชิดเกียรติ จงทุ่มลมหายใจจนเฮือกสุดท้าย จงต่อสู้จนกว่าจะจบสิ้นกันไปข้างหนึ่ง!!”

    โอ่ววว--------------------------------------!!!

    เช่นเคย, ถูกถาโถมโดยมอนเตอร์ที่กำลังตื่นเต้น (x10000) ซึ่งถูกกระตุ้นด้วยฝีมือของคนที่คุณก็รู้ว่าใครที่มีอารมณ์ดีอย่างยิ่ง ด้วยเหตุที่ว่ามา ผมจึงเรียก(ดาบ)กุหลาบแห่งเหล่าคนบาปและสวมชุดพร้อมรบด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย จากตำแหน่งบนหัวของเท็นไกในร่างมังกร ผมกวาดสายตามองโดยรอบของกองทัพฝ่ายผม

    สายตาพราวระยับและเปล่งประกายที่ส่งมาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของผมจนไม่สามารถผิดพลาดได้ ความตั้งใจจึงเหมือนถูกกดดันอยู่ไม่น้อย
    อุหว่า~ รู้สึกปวดกระเพาะเสียจริง

    การได้พูดคุยกับองค์หญิงเป็นความยินดีเกินจะคาดฝัน, นั่นคือคำร้องที่ผมได้รับมาจากเท็นไก
    นี่ผมควรจะพูดยังไงดีละถึงจะแค่ 2-3 ครั้ง,หรือควรจะพูดเหมือนตอนก่อนออกรบกับสมาชิกกิลด์ดี?

    อืม ถ้าเช่นนั้นจะขอแนะนำตัวก่อน เราคือฮิยูกิ หัวหน้ากิลด์— อุ หมายถึง นายเหนือหัวแห่งจักรวรรดิสีเลือด เมื่อสักครู่มีรายงานว่าพบผู้ซุ่มโจมตีอยู่ทางป่าด้านขวาของพวกเจ้าราวๆ 150 คน ใครยังว่างอยู่ก็ให้ไปจัดการซะ
    ไม่จำเป็นต้องปกป้องศูนย์บัญชาการ เช่นนั้นแล้วให้เคลื่อนไหวตามความเหมาะสมแล้วกำจัดศัตรูเสีย จะดีมากถ้าใครว่างแล้วไปคุ้มกันให้มอนเตอร์ที่ใช้เวทมนต์ ในสงครามนี้ถึงจะไม่ชนะก็ช่าง เราคุมทุกอย่างไว้แล้ว พวกเจ้าไม่ต้องกดดันจนตัวตาย อา แต่ถึงจะตาย เราก็ยังสามารถจัดการได้
    เพราะฉะนั้นวันนี้ทุกคนก็ไปสู้ให้เต็มที่ซะ!!”

    ชั่วขณะนั้น กองทัพมอนเตอร์ก็ทำหน้าราวกับจะพูดว่า ห๊ะ? ออกมา, เท็นไกขู่คำรามด้วยเสียงกังวาน

    ชิ สุภาพบุรุษทั้งหลาย ยังไม่เข้าใจอีกรึ! ตราบที่พวกเรายังอยู่ที่นี้, จักรวรรดิสีเลือดอันยิ่งใหญ่ย่อมไม่มีวันพ่ายแพ้! ไม่ต้องหนี ไม่ต้องถอย ไม่ต้องกลัว ไร้ทางเลือกแล้วอย่างไร จงมุ่งไปข้างหน้า! จนกว่าจะได้มาซึ่งชัยชนะ แม้เจ้าจะปรารถนาที่จะตายก็ไม่ได้รับอนุญาต! ตราบเท่าที่องค์หญิงสนับสนุนพวกเจ้า ย่อมไม่มีอ่อนล้าหรือทอดกายเป็นซากศพ! จงอย่าหวั่นเกรงที่จะล้ม จงปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเจ้า! จงต่อสู้จนกว่าดวงวิญญาณของเจ้าจะดับสูญ!! ----นี่คือสิ่งที่องค์หญิงกล่าว!!!”

    หลังจากนั้นชั่วอึดใจ
    อุโห่ววว-----------------------------------------!!!!!”
    ฮุเร่ จักรวรรดิสีเลือด------------------!!!

    ชัยชนะแด่ฮิยูกิ-ซามะ!!!
    ชีวิตนี้ถวายแด่ฮิยูกิ-ซามะ----------------!!!
    มอนเตอร์ทั้งหมดชูกำปั้นขึ้นเหนือหัว และระเบิดเสียงดังกึกก้อง

    ไม่นะ ไม่ได้หมายความอย่างนั้นซะหน่อย…. อา ส่วนการซุ่มโจมตีกับการคุ้มกันหายไป คงไม่เป็นไรสินะ

    อา-, เห็นละ ดูท่าทางจะพุ่งเข้าไปหาตรงๆกันเลยสินะ

    ระวังลูกธนูในป่ากันหน่อยสิ อ๊า มีคนเจ็บจนได้ ผมบอกเรื่องนี้ไปแล้วนะ!

    “…ช่วยไม่ได้ เราจะเข้ารบเหมือนเคย เท็นไก ฝากศูนย์บัญชาการด้วย

    ไม่ให้กระผมไปด้วยจะดีหรือขอรับ?”

    ถ้าเจ้าไปด้วย พวกหน้าใหม่พวกนั้นคงไม่ได้ประสบการณ์อะไร แล้วเท่าที่เห็นการโจมตีของศัตรูก็ไม่ถึงขั้นสะกิดเราได้ด้วยซ้ำไป, ไม่เป็นปัญหาหรอก
    อา แต่ถ้าผมยืนเงียบๆแล้วถูกอะไรอย่างเวทมนต์ที่โจมตีเป็นวงกว้าง ผมก็อาจจะตายได้

    รับทราบแล้วขอรับ แต่ถึงอย่างนั้นก็โปรดระวังตัวด้วย
    เท็นไกส่งผมลงนิ่มๆด้วยขาหน้าอย่างนอบน้อม ก่อนจะบินห่างออกไปอย่างเคารพ

    —มิโคโตะ ฝากเจ้าสนับสนุนด้วย

    ตามแต่ท่านประสงค์เจ้าค่ะ องค์หญิง
    มิโคโตะที่อยู่ในชุดพร้อมรบบินมาอยู่ข้างผม, เธอโค้งคำนับ

    หลังจากที่ผมเก็บดอกกุหลาบแห่งเหล่าคนบาปใส่ช่องเก็บของ ผมก็เรียกอุปกรณ์เฉพาะอีกชิ้น, ไม้เท้ายาวของอาชีพนักบุญที่ทำจากเงิน มีดีไซน์การตกแต่งเป็นรูปดอกกุหลาบและมียอดบนสุดเป็นพระจันทร์เสี้ยว

    ดอกกุหลาบแห่งความลับ

    ผมแกว่งมันครั้งหนึ่งเพื่อตรวจสอบสภาพ อืม, ไม่มีปัญหา ใช้งานได้
    มันเป็นไอเทมเฉพาะของสายอาชีพนักบวชซึ่งสร้างผ่านสกิลของช่างตีเหล็ก การสร้างเป็นพิเศษและตีเสริมถึง 7 ครั้ง (ปกติ พวกบ้าเกมจะเสริมความแข็งแกร่งมากกว่า 7 ครั้ง เพราะแค่นี้ไม่เพียงพอ....เฮ, ผมนะเหรอบ้าเกม? ผมแค่ตัดสินใจไว้ตั้งแต่วันแรกที่เล่นแล้วต่างหาก) ส่งผลให้ผลการฟื้นฟูเพิ่มขึ้นมาก จากค่าพื้นฐาน

    เพราะอัตราการใช้ MP ต่อสกิลยังเหมือนเดิม สำหรับผมที่วิ่งไปทั่วไม่ต่างจากอากาศธาตุในสนามรบจึงเป็นปัญหาไม่น้อย (TL: วิ่งไปใช้สกิลทั่วสนาม)
    และคงไม่มีทางอื่น นอกจากใช้ของอย่าง MP potions.
    ด้วยเหตุนั้น ผมจึงตัดสินใจใช้อาวุธลับอีกอย่าง

    อามาริ (เสมือนไม่มี)

    “—เจ้าค่ะ องค์หญิง
    ทันใดนั้นหยดน้ำสีแดงราวกับหยดเลือดก็ปรากฏขึ้นกลางฟากฟ้า คลื่นน้ำก่อตัวเป็นรูปร่างบอบบางที่ปกปิดสัดส่วนไว้ด้วยเสื้อคลุมผลึกอันเบาบาง, ร่างที่ดูราวกับเด็กสาวที่ทั้งร่างเป็นรูปสลักน้ำแข็งสีแดงฉาน

    เธอคืออามาริ –เจ็ดสัตว์ร้ายแห่งภัยพิบัติลำดับที่ 0, จิตวิญญาณน้ำระดับสูงสุด (ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เธอเปลี่ยนจากสีฟ้าสว่างมาเป็นสีแดง เมื่อตอนกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของผม) และเป็นคู่หูในตอนที่ผมเข้าสู่สภาพนักบุญ
    เหตุผลคือ--

    ฉันจะคอยดูแลพันธมิตร ใช้Pet Unisonเหมือนเคย!”

    รับทราบเจ้าค่ะ, องค์หญิง
    ชั่วขณะที่เธอพูดจบ เธอก็กลายเป็นลำแสงพุ่งเข้ามาอยู่ในอกของผม

    ผลคือ ค่าสถานะตอนนี้รวมจากที่ใสอุปกรณ์แล้ว เพิ่มสูงขึ้น

    เผ่าพันธุ์ : เจ้าหญิงแวมไพร์ {ผู้สืบเชื้อสายพระเจ้า}
    ชื่อ : ฮิยูกิ
    ฉายา : ท่านหญิงแห่งฟากฟ้า
    HP: 1,428,000 (+1,350,000)
    MP: 13,796,000 (+13,700,500)

    ปริมาณ MP ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นเพราะความโดดเด่นเฉพาะด้านของอามาริ ยิ่งไปกว่านั้น ข้อดีคือเมื่อใช้สกิล อัตราการใช้ MP จะลดลงครึ่งหนึ่ง และอัตราการฟื้นฟู MP โดยธรรมชาติเพิ่มขึ้น 30%
    ด้วยเหตุนั้น ถึงแม้ว่าอามาริจะไม่ได้เด่นมากในเชิงการต่อสู้ (อา ถึงตอนนี้เธอจะแข็งแกร่งกว่าผมไปมากเลยก็ตาม), เธอก็ยังจำเป็นมากสำหรับผมในสภาพนักบุญ

    เพราะอย่างนั้น เมื่อผมอยู่ในสภาพนี้เลยถูกเรียกว่ายมทูตในคราบนักบุญหรือแม่พระของผู้วายชนม์สองอันแรกก็ยังพอเข้าใจละนะ แต่อันสุดท้ายนี่สินักบุญผู้สร้างกองศพทุกที่ที่ย่างกรายมันไม่หยาบคายกันไปหน่อยหรือไง

    เอาละ, ไปกันเถอะ มิโคโตะ! อามาริ!”

    เจ้าค่ะ, องค์หญิง (TL: มิโคโตะกับอามาริ; แต่อามาริผสานร่างกับฮิยูกิไปแล้วจึงใช้『』)

    ในตอนที่พวกเราจะมุ่งไปยังสนามรบอย่างฮึกเหิม มาโรโดะก็ร้องผมให้หยุดลง

    จะเป็นอะไรไหมขอรับ, ถ้าจะขออนุญาตไปแนวหน้าด้วยคน?”

    “…อา ก็ได้อยู่นะ, ทำไมหรอ?”

    ดูเหมือนแรงผลักดันของพวกขุนนางจะจงใจให้ทหารกับชาวบ้านเป็นเครื่องสังเวย

    ก็เรื่องปกตินี่, ถึงทหารอาสาจะมีมากจนนับว่าเป็นกองทัพได้ แต่ก็ยังเป็นเพียงมือสมัครเล่น ไม่มีทางทำอะไรมากไปกว่าเป็นกำแพงมนุษย์ ถึงจะดูไม่ยุติธรรม แต่นี่เป็นวิธีใช้ประโยชน์ที่ดีที่สุดแล้ว
    อา ศึกที่เมืองอาระก็ใช้วิธีการแบบนี้เหมือนกัน (TL: คอนราดใช้วิธีนี้ถ่วงเวลาให้เด็กกับผู้หญิงหนี)
    แต่ถึงอย่างนั้น
    —อา เจ้าคงไม่ได้ต้องการพูดอะไรอย่าง
    ผมอยากปกป้องพวกเขาหรอกนะ?

    ตอบสนองต่อคำพูดของผมและคำตอบของเขา--เท็นไกและมิโคโตะเกร็งตัวเตรียมป้องกันอย่างตึงเครียด
    อา ถึงไม่ทำอย่างนั้น, สิทธิ์ความเป็นตายของวงศ์วานก็อยู่ในมือของผมอยู่ดี
    หรือจะให้พูด แค่เท็นไกปล่อยลมหายใจสายฟ้าออกมาครั้งเดียว ผมนี่ละจะตายก่อน

    ไม่ไม่, ผมไม่กล้าถึงขนาดนั้น ขุนนางพวกนั้นชักใยให้ประชาชนตาดำๆ มาต่อสู้แก้แค้นให้เจ้าชายโดยไม่รู้อะไรเลย ผมเลยอยากจะเล่นไฟกับพวกเขาสักหน่อย (TL: ใครรู้บ้างว่าเผาถ่านคืออะไร..?)

    ถึงคำตอบจะดูซับซ้อนไม่ตรงประเด็น
    แต่ทั้งหมดนั้นก็เพราะอยากจะช่วยพวกเขาอยู่ดี

    ผมมองไปที่ดวงตาหลังหน้ากากของเขาอย่างต้องการหาความต้องการที่แท้จริง... แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจดี
    อาจจะเป็นเพราะหน้ากากก็ได้ ผมถึงมองไม่เห็นอะไรเลย แย่จัง

    เท็นไกกับมิโคโตะมองถามผมอย่างสงสัย

    อาทำตามที่เจ้าต้องการเถอะ ถึงยังไงพวกเราก็ต้องถูกโจมตีอยู่แล้ว เชิญจุดไฟตามสบาย แต่, ความสามารถของเจ้าลดลงครึ่งหนึ่งในช่วงกลางวัน อย่าลืมซะละ

    ด้วยคำพูดของผม ทำให้เท็นไกกับมิโคโตะคลายท่าทีลง

    เข้าใจแล้วขอรับ ถ้าเช่นนั้นผมขอตัวสักครู่
    พูดเช่นนั้นแล้ว, มาโรโดะก็ชักดาบยาวที่ได้รับจากผม –ที่ตกได้จากบอสระดับสูง,
    อสุราร่ายรำและมุ่งหน้าไปทางสนามรบอย่างใจเย็น

    —ถึงจะเป็นความต้องการขององค์หญิง, แต่ชายผู้นั้นดูไม่น่าไว้วางใจเท่าไรนักนะขอรับ

    เท็นไก, ที่ยังอยู่ในรูปมังกร, กล่าวกับผมเสียงเบา ผมพยักหน้าตอบ

    ถึงแม้ว่าเราจะถูกทรยศจริงก็ปล่อยให้เป็นเช่นนั้นเถอะ, และถึงเป็นเช่นนั้นก็ยังน่าชมดูไม่น้อย
    อา ถึงเขาอยากทรยศผมจริงๆ เขาก็ไม่กล้าปฏิวัติตรงๆหรอก

    —ประทานอภัย, เป็นกระผมเองที่กังวลมากเกินไป

    ไม่หรอก ช่วยได้มากเลย

    อ๊า! …กระผมไม่กล้ารับหรอกขอรับ

    เมินมอนเตอร์ยักษ์ที่กำลังซาบซึ้งอย่างล้ำลึก (เท็นไก), ผมมองไปที่มิโคโตะครั้งหนึ่งแล้วมองไปที่สนามรบ ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า

    พื้นที่รบกว้างมาก ดังนั้นเราต้องเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เราจะไม่หยุดรอเจ้าหรอกนะ มิโคโตะ

    ดิฉันจะติดตามท่านไปทุกที่แม้ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตามเจ้าค่ะ

    มิโคโตะก้มโค้งคำนับ, ผมก็ก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว

    ดี, มาเริ่มช่วงเวลาศึกซอมบี้กันเลยเถอะ!” (TL: ถึงตายก็จะถูกชุบให้ฟื้น = ไม่ยอมตาย= ซอมบี้)

     

    End

    Author Notes

    ด้วยเหตุว่า, ความสามารถในการต่อสู้ของอามารินั้นต่ำ เธอจึงไม่ได้ปรากฏตัวชัดบ่อยนัก แต่เธอก็เป็นสมาชิกสภาโต๊ะกลมจริงๆ

    Talk: อีกตอนตามที่บอกคะ ;แก้ไขคำผิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×