ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Great Warrior Online สงครามมหาราชันย์

    ลำดับตอนที่ #21 : Chap.XVII หมึกซิลล่าเพื่อนข้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 693
      5
      17 เม.ย. 58


    CHAPTER XVII.

     

     

     

     

    หมึกซิลล่าเพื่อนข้า

     

     






     

    'การเดินทางไปยังอาณาจักรหลวงกินเวลาสามวันเต็ม' นี่เป็นสิ่งแรกที่เทรซิสได้รู้หลังจากขึ้นเรือมาแล้ว ใบหน้าที่ปกติก็เรียบเฉยอยู่แล้วเหมือนจะเรียบตึงขึ้นอีกเมื่อคิดว่าต้องอยู่บนเรือร่วมกับผู้เล่นที่ดูจะเอะอะมะเทิ่งกันเหลือเกิน เด็กหนุ่มรีบหามุมสงบเพื่อลี้ภัยจากมลพิษทางเสียงที่จะได้พบเจอในอีก 72 ชั่วโมงนับจากนี้ อ่า..แค่คิดก็ปวดหัวตุบๆ แล้ว

     

     

     

    ห้องที่ปลีกวิเวกที่สุดเท่าที่จะหาได้ในเรือลำนี้ถูกยึดครองโดยผู้เป็นมิตรกับความสงบอย่างเทรซิสในทันที เสียงหัวเราะและพูดคุยที่ดังลอดประตูเข้ามาทำให้เทรซิสถอนหายใจเล็กน้อยแต่ไหนแต่ไรเขาก็เป็นพวกไม่ถูกกับเสียงดังๆ อยู่แล้ว ..แน่นอนว่าสถานที่ที่มีคนเยอะก็ไม่อยู่ในรายชื่อสิ่งโปรดปรานเช่นกัน.. เรย์นาจึงมักจะหลีกเลี่ยงงานรื่นเริง เธอเป็นอย่างนี้อยู่เสมอ ใส่ใจในสิ่งที่ไม่ควรใส่ใจ ทั้งที่ควรจะให้ความสนใจกับการผูกมิตรขุนนางเพื่อปูทางไปสู่การเป็นจักรพรรดินีมากกว่ามาสนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของอัศวินประจำตัว (ที่เทรซิสเองก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าตัวไปรู้มาได้อย่างไร) เพราะในอนาคตขุนนางเหล่านี้จะเป็นเสียงที่คอยสนับสนุนรวมทั้งคัดค้านแนวคิดของเธอ และทุกครั้งที่เทรซิสยกประเด็นนี้มาพูดก็จะได้รับคำตอบอย่างไม่ยี่หระกลับมา

     

     

     

    "พูดเป็นเล่นไป ข้าเป็นว่าที่จักรพรรดินีนะ ถ้ามัวแต่ไปห่วงความคิดของพวกขุนนางแล้วจะปกครองบ้านเมืองได้อย่างไร"

     

     

     

    เป็นอันจบบทสนทนา ไม่เคยมีใครเถียงชนะผู้หญิงคนนี้ได้จริงๆ คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจกับความดื้อดึงในแบบของราชวงศ์ แรงสะเทือนของเรือทำให้ของร่วงลงมาจากชั้นวางในห้องพักพร้อมกับดึงเขาออกจากภวังค์ เทรซิสสังเกตข้าวของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในห้องซึ่งก็ไม่เลวนัก เตียงไม้สำหรับหนึ่งคนสองเตียง ตู้ไม้สูงเท่าเอวหนึ่งตู้ โคมไฟตั้งโต๊ะรุ่นดึกดำบรรพ์และเซ็ตโต๊ะเก้าอี้ไม้อีกหนึ่ง... ถือว่าอยู่ได้สบายสำหรับคนอยู่ง่ายแบบเขา ดูเหมือนว่าคิเมร่าจะหามุมส่วนตัวได้แล้ว เตียงไม้ด้านซ้ายมีสิงโตขนาดยักษ์ที่พึ่งทำลูกเรือขวัญกระเจิงไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนอนหลับอย่างมีความสุขอยู่

     


     

    "จะว่าไปแล้ว คิเมร่ากินอะไรเป็นอาหารนะ.."
     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

     

     

    ก๊อก ก๊อก!

     

     

    เสียงเคาะประตูดึงความคิดกลับมาในห้องแคบๆ แห่งนี้อีกครั้ง เทรซิสเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยก่อนเดินไปเปิดประตู ชายผมสีส้ม (สีผมของเกมนี้ทำให้เขาปวดหัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว) อายุมากกว่าเขาประมาณสองถึงสามปีเป็นคนเคาะ ..และเทรซิสก็ต้องนิ่วหน้าอีกครั้งเมื่อพบว่าตัวเองติดนิสัยประเมินลักษณะคู่สนทนาโดยอัตโนมัติมาจากเรย์นาเข้าแล้ว

     

     

    "เฮ้พวก! พวกเรานัดรวมพลกันในห้องอาหารเรือน่ะ ทุกคนเลย กะว่าจะแนะนำตัวกันสักหน่อย นายต้องไปด้วยนะ" เสียงทักทายดังขึ้นเมื่อแขกเห็นว่าเจ้าของห้องไร้ปฏิกิริยาที่แสดงถึงการต้อนรับใดๆ เขาพูดอย่างเป็นกันเองและเรียกเทรซิสอย่างสนิทสนมตั้งแต่นาทีแรกที่เจอกัน คนเป็นเจ้าของห้องยืนอึ้งอยู่พักหนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรบ้าง

     

     

    คุณเป็นใคร น้ำเสียงไร้อารมณ์จากเทรซิสหยุดความร่าเริงของเขาได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มหัวเราะแหะๆ เกาหัวแก้เก้อก่อนจะเริ่มแนะนำตัวเอง ฉันก็เป็นผู้เล่นที่จะไปอาณาจักรหลวงเหมือนนายนั่นล่ะ ชื่อเทมส์ ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ

     

     

                เทมส์ยื่นมือมาข้างหน้า เทรซิสมองนิ่งๆ นานเสียจนคนเป็นแขกกลัวว่าจะหน้าแตกรอบสองแต่ในขณะที่กำลังจะลดมือลงเด็กหนุ่มเจ้าของห้องก็ยื่นมือไปจับ เช่นกันครับ

     

     

    "แล้ว..นัดรวมพลเมื่อไหร่ครับ" เมื่อคำถามนี้หลุดออกไป เทรซิสก็รู้สึกผิดที่ถามขึ้นมาแทบจะในทันที..หรือบางที ต่อให้เขาไม่ถาม ผลลัพธ์ก็คงออกมาไม่ต่างกันนัก.. ผู้มาเยือนยิ้มร่าพร้อมกับตอบอย่างอารมณ์ดีว่า

     

     

    "ก็ตอนนี้ไง!"

     


     

     

    หลังจากที่ชายแปลกหน้าลากเทรซิสมาจนถึงจุดรวมพลก็ดูเหมือนว่าเจ้าของความคิดเผด็จการคนนี้จะพึ่งนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ได้ถามความสมัครใจของเพื่อนร่วมทาง แต่ในวินาทีถัดมาเขาก็ตระหนักว่าลากมาถึงที่ขนาดนี้แล้วคงไม่จำเป็นต้องถามความสมัครใจอะไรอีก นอกจากนี้เจ้าตัวก็ไม่ได้โวยวายอะไร

     

     

    ทางเทรซิสเองก็เริ่มปลงกับความวุ่นวายบนเรือที่ชักจะมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้ถ้าเจอสัตว์อสูรประหลาดๆ เข้า เขาก็คงไม่แปลกใจแล้ว เด็กหนุ่มกระแอมเล็กน้อยก่อนจะดึงแขนกลับมา คนนำทางสะดุ้งและหันมายิ้มเจื่อนๆ ให้คนที่ถูกตัวเองลากมาอีกรอบ " 'โทษทีๆ พอดีลืมตัวน่ะ"

     
     

    ห้องโถงของเรือที่ถูกสถาปนาเป็นห้องอาหารนั้นถือว่าดูดีทีเดียวเมื่อมองถึงภาพรวมของเรือลำนี้ ทั้งลูกเรือและผู้โดยสารเกือบทั้งหมดมารวมตัวกันตามคำบอกเล่า มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ยังคงประจำอยู่ในห้องเครื่อง จำนวนคนโดยประมาณคือลูกเรือ 23 ผู้โดยสาร 14 เป็นจำนวนที่น้อยนิดจนไม่รู้ว่าได้กำไรหรือขาดทุนกันแน่ ส่วนตัวแล้วเทรซิสคิดว่าเป็นอย่างหลังแต่นี่เป็นเกมดังนั้นเขาไม่ควรจะคิดอะไรให้มันมากนัก

     

     

    ในกลุ่มผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้เล่นแบ่งออกเป็นโซโล่เพลเยอร์สองคนคือเทรซิสและชายที่มาห้องอาหารด้วยกัน ส่วนอีก12คนที่เหลือแบ่งเป็น2ปาร์ตี้ 5และ7คน ถึงจะบอกว่าเป็นการแนะนำตัวแต่ความจริงแล้วก็แค่มาให้รู้หน้าคนบนเรือเท่านั้น ห้องอาหารมีเสียงพูดคุยดังอยู่เนืองๆ หลักๆ แล้ว เสียงพวกนั้นมาจากจากปาร์ตี้ห้าคนที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด ถึงจะมีห้าคนแต่เสียงของพวกหล่อนก็ดังยิ่งกว่าผู้เล่นชายอีกเก้าคนเสียอีก

     

     

    ผู้เล่นทั้งเรือรวมถึงตัวเทรซิสด้วยมีจุดหมายเดียวกันคือเมืองเรเวนหรือเมืองแห่งอัศวินซึ่งตั้งอยู่ในอาณาจักรหลวง ดูเหมือนว่าทุกคนจะมีเป้าหมายที่แน่นอนสำหรับสิ่งที่จะทำเมื่อไปถึงกันหมดต่างจากเขาที่คิดแค่ 'ไปถึงแล้วค่อยว่ากัน' เป็นอันจบ ผู้เล่นทั้งสิบสามคน..ไม่รวมเทรซิส..พูดเรื่องสัพเพเหระกันอย่างสนุกสนานราวกับรู้จักกันมานาน ในขณะที่เด็กหนุ่มเริ่มหมุนแก้วในมืออย่างเหม่อลอยพลางหาวิธีชิ่งกลับห้องไปแบบเนียนๆ แต่ความคิดนั้นก็ต้องหยุดลงพร้อมกับบทสนทนาของผู้โดยสารที่กำลังคุยกันอย่างออกรส

     

     

    ลูกเรืออาวุโสคนหนึ่งซึ่งเทรซิสเดาว่าน่าจะเป็นหัวหน้าลูกเรือเดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเขา อัศวินผมเงินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าใบหน้าของลูกเรือคนนี้ติดจะเครียดเกินไป แก้วในมือถูกวางลงบนโต๊ะแสดงให้เห็นว่าเขากำลังตั้งใจฟังอะไรก็ตามที่ลูกเรือคนนี้กำลังจะพูดเช่นเดียวกับอีกสิบสามคนที่มีสีหน้าฉงนไม่แพ้เขา ลูกเรือคนนั้นกระแอมเพื่อเรียกความสนใจของคนทั้งสิบสี่ทั้งที่ไม่จำเป็น ทุกคนตั้งตารอสิ่งที่จะออกจากปากเขามานานแล้ว เส้นทางเดินเรือไปยังอาณาจักรหลวงนั้นมีสัตว์อสูรแปลกๆ ใต้ทะเลเต็มไปหมด เราไม่รู้ว่ามันมีมากมายแค่ไหนเพราะทะเลยังคงเป็นหนึ่งในสถานที่ลึกลับที่นักสำรวจยังไม่สามารถเข้าถึงได้ แน่นอนว่าความอันตรายของมันก็มากพอๆ กับความลึกลับ ปกติแล้วเรือของเรา..

     

    กึก!

     

                เสียงอันไม่น่าพิสมัยดังขึ้นมาขัดกะลาสีเรือ ผู้เล่นมองหน้ากันอย่างหวาดๆ ต่างจากลูกเรือที่ถอนหายใจเหมือนเป็นเรื่องปกติ หัวหน้ากะลาสีเรือก็เช่นกันเขาเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนจะพูดต่อ ปกติแล้วเรือของเราก็จะถูกพวกมันโจมตีหลังออกจากฝั่งมาได้ขนาดนี้ ไม่มีอะไรหรอก.. ฉันแค่อยากบอกให้พวกเธอรู้ไว้น่ะ

     

     

    แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกฟะ!!”

     


     

     

    เทรซิสไม่ควรพูดว่า ถ้าเจอสัตว์อสูรประหลาดๆ เขาก็คงไม่แปลกใจ เพราะถึงเขาจะไม่แปลกใจ แต่ความวุ่นวายบนเรือลำนี้ก็มากพออยู่แล้วและเขาก็ไม่ต้องการให้มันวุ่นวายมากกว่าเดิม ลูกเรือรีบกลับไปที่ห้องเครื่องส่วนผู้โดยสารเช่นเทรซิสกำลังสาละวนอยู่ในโถงอย่างสับสนก่อนที่เทมส์จะวิ่งพรวดพราดออกไปเพื่อดูโฉมหน้าของสัตว์อสูรแปลกๆ ที่ว่า

     
     

    ไม่ทันนับเลขถึงสิบ ประตูก็ถูกกระแทกออกอย่างแรงโดยคนที่พึ่งออกไป เทมส์วิ่งหน้าตื่นกลับมา เสียงกลืนน้ำลายดังเอื๊อก! ยิ่งทำให้คนในห้องโดยสารใจเสียหนักกว่าเดิมแต่ในที่สุดเขาก็เค้นเสียงออกมาจนได้ มะ.. หมึก.. *หมึกซิลล่า

     
     

    ฮะ?”

     
     

    หมึกซิลล่าอยู่ตรงหัวเรือ..

     

    ตัวอะไรวะนั่น ผู้เล่นชายคนหนึ่งพึมพำออกมา และนั่นก็เป็นสิ่งที่อยู่ในความคิดของทุกคน.. ยกเว้นเทมส์ไว้คนหนึ่ง

     
     

    ไม่รู้จักรึไง ก็อดซิลล่าอ่ะ! นี่ก็หมึกซิลล่าไง!”

     

     

    ชายหนุ่มผมส้มโวยวาย ต่างจากปฏิกิริยาของเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกสิบกว่าคน เกิดเดดแอร์ขึ้นชั่วขณะหลังจากได้ยินคำอธิบายที่ออกจะทะแม่งๆ ของม้าเร็วคนนี้ เหมือนจะได้ยินเสียงแก้วแตกมาจากเทมส์ เทรซิสกระแอมเบาๆ เพื่อเรียกความสนใจซึ่งมันก็ได้ผลอย่างดี ยังไงก็ตาม เราไปดู เอ่อ.. หมึกซิลล่านั่นหน่อยดีมั้ย

     

     

    เทมส์มองหน้าเทรซิสตาเป็นประกายราวกับจะขอบคุณด้วยกระแสจิต แต่เทรซิสก็เมินอย่างไม่ไยดีเขาเดินไปยังประตูไม้ที่ถูกพึ่งถูกประทุษร้าย น้ำทะเลสาดเข้าใบหน้าของเด็กหนุ่มเต็มๆ เมื่อสิ่งที่กั้นห้องนี้กับทะเลภายนอกถูกเปิดออก และสิ่งถัดมาที่เทรซิสเห็นนอกจากน้ำทะเลก็คือหมึกไซส์มหึมาหรือที่เทมส์เรียกว่าหมึกซิลล่านั่นเอง

     


     

    คนในเรืออ้าปากค้าง หมึกซิลล่าตัวเท่าตึกกำลังใช้หนวดหยุ่นๆ ของมันรัดเรือโทรมๆ ลำนี้อยู่ เทรซิสค้างอยู่ท่านั้น.. เขาอาจจะปอดแหกขึ้นมาก็ได้ แต่ขอเถอะสัตว์อสูรตัวจนาดนี้อาวุธกระจอกๆ จะทำอะไรมันได้ แค่มีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ก็มหัศจรรย์แล้ว เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ไม่ขยับเขยื้อนไปจากจุดเดิมแม้แต่น้อย พวกเขาเริ่มจะนับถือเทมส์ขึ้นมาจริงๆ แล้ว ที่ยังอุตส่าห์ถ่อสังขารกลับมาถึงนี่ได้

     
     

     

    สัตว์อสูร คราเคน  ชนชั้น อัศวิน  คลาส 4  ระดับ 150  ปรากฏตัว ผู้ที่ถูกสังหารจะถูกลด 150 ระดับ  ติดสถานะแพ้อาหารชนิดปลาหมึกเป็นเวลา 1 เดือน

     


     

    เสียงจากระบบยิ่งทำให้ใบหน้าของผู้เล่นโชคร้ายกลุ่มนี้ซีดเผือด ส่วนเทรซิสคิดว่าถ้าไม่ได้บอกผลกระทบจากการตายมาด้วยมันคงจะน่ากลัวกว่านี้ เขาค่อยๆ เดินถอยหลังกลับมาในก่อนก่อนปิดประตูดังปัง! ซ้ำ และผลที่ได้คือ สะดุ้งกันถ้วนหน้า เด็กหนุ่มผมสีซีดหันหลังกลับมามองและถามอย่างเลื่อนลอย เอาไงต่อ

     
     

    เดดแอร์รอบที่สอง.. ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเวลาเกือบหนึ่งนาทีที่มีเพียงเสียงน้ำสาดกระเซ็นจากภายนอกเท่านั้น ไม่รู้ว่าเพราะกำลังคิดแผนกันอยู่หรือว่ากำลังทำใจอดกินปลาหมึกไปอีกหนึ่งเดือนกันแน่ แต่ท้ายที่สุดความเงียบก็ถูกทำลายโดยเสียงตึง! ตามด้วยอาการสั่นสะเทือนไปทั้งลำเรือ เสากระโดงถูกหมึกซิลล่าเอาไปฝึกวิชากระบี่กระบองเสียแล้ว..

     

     
     

    เอาวะ! ยังไงก็ตายอยู่แล้ว ขอไปแตะสัตว์อสูรระดับอัศวินสักครั้งในชีวิตแล้วกัน เอ้า! ลุย!!












    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 
     - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    คราเคนอิสแบ็คค่ะ!! 5555 ยังจำสัตว์อสูรตัวนี้ได้มั้ยเอ่ย เพื่อนเก่าเพื่อนแก่นางเอกของเรา
    คราวนี้คนที่เจอเป็นเทรซิสแทน แถมมาแบบจอมทำลายล้างด้วย
     ส่วนตอนอื่นๆ กำลังทยอยรีไรท์นะคะ






     









    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×