บทที่ 14 รับน้องสุดแสบ แสบถึงทรวงจ้าาาา ~ 4 อัพ
“ เหอ ๆๆ กว่าจะโผล่หัวมาได้ ทำอะไรอยู่เป็นนานสองนาน ” วิสกี้เอ่ยแซววอดก้าทันทีที่เห็นร่างสูงในชุดปกปิดกระโดดลงมาจากยอดไม้ วอดก้าที่วางเจ้าหญิงคนงามให้เพื่อน ๆ ของเจ้าหล่อนแล้วก็เตรียมจะเขกกระบาลเพื่อนสนิทในทันที แต่ติดที่เตกีล่าและรัมห้ามเอา ห้าสาวหล่อสุมหัวกันนับธงของตัวเองในทันที แม้จะเหนื่อยจากการหา ( จิ๊ก ) ธงเขาแต่มันก็ยังมี………….
“ เหอ ๆๆๆ ไอ้วิสกัส ฉันได้ธง 30 อัน แกได้ 28 ธง มองมุมไหนก็แพ้ ดังนั้น….” วอดก้าตะโกนลั่น “ จ่ายตั้งค่าพนันมาซะ ”
ดูเหมือนวิสกี้จะไม่ยอมแพ้ กระโดดหลบมือที่จะคว้าคอของเขาไว้แล้วตะโกนกลับ
“ เรื่องอะไรหล่ะเฟ้ย !!! นี่ไม่นับเพราะน้องสาวแกรวมให้ แล้วยังงี้จะนับได้ไง อีกอย่างฉันชื่อ วิสกี้ ไม่ใช่วิสกัส อาหารที่แกรับประทานนะ ไอ้คุณเพื่อน ” วอดก้าคิ้วกระตุก ฝ่าพระบาทคันยิบ ๆ และมีอาการกระตุกถี่ ๆ และดูเหมือนสาวหล่อเจ้าปัญหาจะเห็นเหมือนกัน วิสกี้ฉีกยิ้มแห้ง ๆ ให้ก่อนจะวิ่งหนี
“ ว้ากกกกก !!! เขาขอโตดดด ” วอดก้าฉีกยิ้มเหี้ยม แล้วพูดอย่างอำมหิต
“ ไอ้วิสกัส เอ็งตาย !!! ” และแล้วการวิ่งไล่เตะกันของสองสาวไม่สมหญิงก็เกิดขึ้นโดยมีจินหัวเราะก๊ากอยู่ไม่ห่างและเตกีล่าที่กุมขมับด้วยความปวดหัว
“ อืม…..วอดก้าได้ธง 30 อัน วิสกี้ 28 อัน จิน 22 รัม 29 ผม 31 รวมกันได้ …..140 เป๊ะ ขาดอีก…”
“ ขาดอีก 35 อัน ใช่ม๊ะ ? ” วอดก้าที่เตะวิสกี้เรียบร้อยแล้วพูดต่อด้วยรอยยิ้ม เตกีล่าพยักหน้าให้เป็นเชิงถูก ก่อนที่อีกสี่หน่อจะมารวมกัน
“ รู้สึกว่าที่เก็บธงสุดท้ายจะอยู่เกือบสุดป่า และปักอยู่ที่หินผา ณ จุดสูงสุด แหม….พี่ ๆ ละก็ ช่างหาแหล่งบันเทิงอารมณ์ได้ถูกที่จริง ๆ ” จินพูดทบทวน เมื่อนึกถึงอีกอย่างหนึ่งที่คอยเฝ้าธงอยู่จากการดักฟังแผนพี่ ๆ นัยน์ตาห้าคู่ประสานกันก่อนจะแสยะยิ้ม
“ เบฮามอสที่เกิดจากการใช้ธาตุผสมสี่ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ผสมได้ไงวะ” วอดก้าถามอย่างมึน ๆ ก่อนจะยิ้ม “ แต่ยังไงก็หมาในดี ๆ นี่เอง ”
จินผิวปากหวิวด้วยความถูกใจกับคำพูดของวอดก้า ส่วนรัมและเตกีล่ายิ้มบาง ๆ ด้วยความขำเพราะเบฮามอสคือสัตว์อสูรที่เกิดจากการร่ายเวทผสานอย่างน้องสามธาตุขึ้นไปโดยหัวที่มีจะมีเท่ากับจำนวนธาตุ นักเวทต่างขนาดนามเบฮามอสว่าคือสัตว์ที่อึด ถึก ทนและน่ารำคาญที่สุดเพราะทันทีที่มันบาดเจ็บ มันจะไล่ฆ่าเราไม่มีหยุดจนกว่าจะได้ขย้ำเราจนตาย ยิ่งถ้ามันคลั่งไม่ต้องพูดถึงเพราะมันจะทำลายทุกอย่างที่ขวางทาง
“ เดี๋ยวก่อน ๆ แล้วเราจะทำไงกับพวกอาเจ๊ล่ะ เฮ้ย !!! ” วิสกี้ร้องลั่นพลางกระโดดหลบบอลพลังที่พุ่งหมายซัดปากคนปากสุนัขโดยเจ้าหญิงวีร์แอน คู่ปรับเก่าที่กำลังฉีกยิ้มสยองไม่ไกล บอลพลังเพลิงลูกนั้นระเบิดออกเป็นรัศมีกว้างเกือบสามเมตร เผาทุกอย่างให้กลายเป็นจุลจนเป้าหมายอีกยิ้มแห้ง ๆ ด้วยความผวา
วอดก้าหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ ยักไหล่แล้วบอกง่าย ๆ
“ ทิ้งไว้ที่นี่ก็สิ้นเรื่อง เดี๋ยวสักพักก็โดนตัวอะไรลากไปกินเองแหละ ” วิสกี้และจินตาโตก่อนจะตบมือด้วยความชอบใจพลางพูดทวนคำพูด
“ ช่าย ๆ ทิ้งไว้ที่นี่เดี๋ยวก็โดนลากไปกินเองแหละ ” วอดก้าพูดต่อ
“ แล้วถ้ารอดคงต้องเสียโฉม ” วิสกี้กับจินพูดน้ำเสียงยานคางต่อราวกับจะตอกย้ำให้ห้าเจ้าหญิงกลัว
“ ช่าย ๆ เสีย….ว้าก !!! ” วิสกี้และจินพูดไม่ทันจบก็มีอันต้องกระเด็นเพราะโดนสาวเจ้าถีบ วอดก้าตัวต้นเรื่องฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจที่ได้แกล้งทั้งสองก่อนจะหันมาถามโรมีเซียที่ยืนขึ้นได้แล้วว่า
“ แล้วพวกเธอจะเอายังไง กลับไปหาพวกพี่ ๆ เขาเลยก็แล้วกัน เพราะคนที่บาดเจ็บและคนอื่น ๆ ที่โดนรุ่นพี่จัดการถูกส่งไปจุดเริ่มต้นหมดแล้ว ” โรมีเซียเลิกคิ้วก่อนจะถาม
“ เธอรู้ได้ไง ” วอดก้ายักไหล่ด้วยมาดกวน ๆ ก่อนจะพูดกวนประสาทเจ้าหญิง
“ เรื่องจิ๊บ ๆ พอดีคนมันเก่ง ” แต่ดูเหมือนโรมีเซียจะใจเย็นขึ้น เธอจึงถามต่อโดยไม่สนคำพูดกวนประสาท
“ ถ้าพวกฉันจะไปด้วยจะได้ไหม ? ” วอดก้าตาโตอย่างเสแสร้งก่อนจะตอบ
“ มิมีปัญหาหรอกกระหม่อม เพียงแต่กระหม่อมคิดว่าฝ่าบาทอาจจะมีฝีมือไม่พอ ”
“ หมายความว่าไงย่ะที่บอกว่าพวกเรามีฝีมือไม่พอ ” ลีนนัวส์แยกเขี้ยวใส่ เตกีล่าที่เงียบมานานจึงพูดบ้าง
“ ก็อย่างที่กล่าวไปนั่นแหละ เพราะพวกเราจะไปสู้กับเบฮามอส มีพวกเธอไปจะเกะกะ ” พูดตรง ๆ ไม่มีอ้อมค้อมอะไรทั้งนั้น ลีนนัวส์และวีร์แอนเตรียมจะกรี๊ดใส่แต่วาลและฟัวร์ร่าห้ามไว้ก่อน ส่วนโรมีเซียก็มีสีหน้าครุ่นคิด
“ งั้นพวกเราขอไปดูใกล้ ๆ ได้หรือเปล่า ฉันอยากเห็นเบฮามอสแล้วเผื่อจะช่วยอะไรพวกเธอได้บ้าง ”
“ ก็ได้ อยากไปก็เชิญแต่พวกเราไม่ขอรับประกันความปลอดภัยนะ ดังนั้นไปแล้วโปรดดูแลตัวเองด้วย ” วอดก้ากล่าวเป็นเชิงเตือน หันมาสบตากับอีกสี่คนที่เห็นด้วยก่อนจะอุ้มโรมีเซียในท่าเจ้าหญิงทันที
“ จะทำอะไร ” เจ้าหญิงคนงามแห่งนาโวลล์ถามเสียงแหว วอดก้าเลิกคิ้วอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะบอก
“ จับแน่น ๆ ล่ะ ” เมื่อหันมาทางคนอื่นก็อยู่สภาพไม่ต่างกัน แม้จินและวิสกี้จะโดนจิกตบไปบ้างด้วยความหมั่นไส้ของลีนนัวส์และวีร์แอน แต่สาวเจ้าก็ให้ความร่วมมือ ร่างสูงพยักหน้าให้กันแล้วพุ่งทะยานไปยังสุดเขตป่าด้วยความเร็ว เป้าหมาย ธงที่ปักอยู่ ณ หินผา
อีกด้านหนึ่ง
“ ว้ากก !!!!!! ช่วยตูด้วย !!!! ”
“ กรี๊ดดดดดดดดด !!! เอามันออกปายยยยย ”
“ ไอ้รุ่นน้องปีหนึ่ง พวกเอ็งตายแน่ เฮ้ย !!! ใครใช้พลังธาตุดินวะ ”
“ ไอ้โร เอ็งใช้น้ำพัดพวกต่อไปเด่ะ ตูจะตายอยู่แล้วเนี่ย ”
“ เฮ้ย !!! ไฟไหม้ ดับไฟเซ่ !!”
เหล่ารุ่นน้องที่ถูกรุ่นพี่จัดการและใช้เวทส่งตัวกลับมาที่จุดเริ่มต้นมองภาพตรงหน้าตาปริบ ๆ กับความฉิบหายที่เกิดขึ้นในกับดักและพันธนาการมหาโหด เหล่ารุ่นพี่กว่าห้าสิบคนพากันวิ่งวุ่นหนีกับดักมากมายที่ก่อให้เกิดความซวยตั้งแต่ใบมีดลมที่พาจะกุดหัวทุย ๆ ให้หลุดจากบ่า ต่อร้ายกว่าร้อยตัวที่เสกขึ้นจากมนตร์ดำ คำสาปลวงตาที่ทำให้นัยน์ตามืดบอด กับดักธาตุที่ถูกตั้งไว้อย่างซับซ้อนมากมายเกินไป โรที่แทบจะร้องไห้หันไปเร่งจีน เพื่อนสาวที่มีหน้าที่แก้ข่ายพันธนาการด้วยความร้อนรนเพราะต้องวิ่งหลบของจากกับดักที่มีมากมายไล่ตั้งแต่ของเล่นเล็กน้อย ๆ ถุงเท้า รองเท้า เก้าอี้ รีโมท และอีกมากมายสารพัดที่เขาสงสัยว่ามันไปหามาจากไหน
“ ไอ้จีน….เสร็จยังว่ะ พวกตูจะตายห่ากับกับดักแล้วเนี่ย ไหนเอ็งบอกสิบนาที นี่มันครึ่งชั่วโมงแล้วนะเฟ้ย !!! ” จีนหันมาแยกขี้ยวใส่ก่อนจะเอียงหัวหลบสากกะเบือจากคนที่โดนกับดักแล้วด่ากลับ
“ เอ็งมาทำแทนไหม ? ฉันก็ต้องหลบกับดักนะเว้ย เหนื่อยก็เหนื่อย มาคุ้มกันฉันเซ่วะ !!! ” จีนว่า ได้ยินเสียงโป๊ก !!! ดังลั่นกับเสียงร้องโอดโอยของใครคนหนึ่งที่ตะโกนขึ้น
“ ใครโยนสากมาฟ๊ะ !!! ”
“ เออ ๆๆ เดี๋ยวจะไปช่วย แต่ขอเอาตัวเองให้รอดก่อน ” ว่าแล้วก็หลบครกหินที่ลอยมาจากด้านซ้าย เริ่มรู้สึกเกลียดส้มตำที่ชอบทานซะแล้ว
โป๊ก !!!
“ แล้วครกมันลอยมาจากไหนว่ะเนี่ย !!! ไม่แถมมะละกอให้ตูเลยหล่ะ ” ผู้โชคร้ายจากครกและสากเอ่ยประชด และสมพรปากปรารถนา ลูกมะละกอทั้งยวงลอยไปกระแทกหน้าทันที
โรส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับกับดักที่ไอ้เด็กแสบมันทำ มองความวิบัติและหายนะเบื้องหน้าพร้อมกับหัวเราะแผ่วเบาในลำคอ
“ ดีจริง ๆ ที่ไอ้เด็กพวกนี้อยู่หออัคคี ” หรือจะซวยหว่า ? โรคิดก่อนหัวจะถูกกระแทกด้วยอะไรบางอย่างจนลงไปนอนวัดพื้น มองสิ่งที่กลิ้งหลุน ๆ ไปมาอยู่ไม่ไกล
แม่งเอ๊ย !!! รองตีน ( เท้า ) อีแตะมันยังใส่ในกับดัก ขอให้มันใส่มะม่วงดิบลงไปด้วยเหอะ โรคิดประชดก่อนจะได้ยินเสียงร้องของใครอีกคนที่โดนกับดัก
“ อ้าก !!! มะม่วงดิบลอยมาจากไหนว่ะ !!! ”
ฟุบ !!!
ปลายเท้าของวอดก้าสัมผัสพื้นอย่างแผ่วเบา วางโรมีเซียลงแล้วหันไปสังเกตรอบ ๆ โดยปล่อยโรมีเซียให้วิ่งไปหาเพื่อนของหล่อน ๆ รัมที่วางวาลแล้วยิ้มบาง ๆ อาบยาพิษ ไปให้หญิงสาวจนใบหน้าหวานแดงนิด ๆ จินที่กำลังเถียงกับลีนส์นัวส์อย่างเผ็ดร้อนหยุดชะงักเมื่อสัมผัสถึงพลังที่รุนแรงขุมหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกล
“ หลบไปก่อน มันอันตราย ”
วอดก้าสั่งห้าสาวเสียงเคร่งเครียด ก่อนที่ทั้งห้าจะยอมหลบไปโดยดีทิ้งเหล่าสาวน้ำเมาให้เตรียมต่อสู้ วอดก้าเรียกดาบกุหลาบคิมหันส์ออกมาทันทีด้วยความเยือกเย็น รัมซึ่งรู้หน้าที่ร่ายมนตร์ต้องสาปเตรียมทันที
โฮก !!!
เสียงร้องคำรามดังลั่นจนเหล่าเจ้าหญิงตกใจ ตามด้วยเสียงกระแทกและเสียงของสัตว์มหึมาที่วิ่งมาทางที่มีผู้บุกรุกอย่างวอดก้า
อัพเพิ่มอีก 20 % ค่ะ
“ เอดีมซีม ” เสียงร่ายเวทดังอย่างแผ่วเบาพร้อมกับการปรากฏตัวของสัตว์อสูร เงาใหญ่ทาบทับพวกเขาในทันที วอดก้าเลิกคิ้วกับขนาดที่ออกจะใหญ่เกินมาตรฐานสากลไปมากโข วิสกี้หน้าเหวอพร้อมกับหันไปถามวอดก้าข้าง ๆ
“ ไอ้วอด ที่รุ่นพี่เขาสร้างมันเกินมาตรฐานไม่ใช่เหรอวะ รู้สึกว่าเบฮามอสมันควรจะสูงแค่ 5 เมตร นี่มันปาไป 10 เมตรกว่าแล้วนะโว้ย !!! ” วิสกี้ย้ำคำว่าควรเพราะไอ้สูงที่ยืนน้ำลายยืดอยู่เนี่ยมันออกจะใหญ่กว่าหมาที่เคยเห็นตามท้องตลาด ( ตลาดไหนว่ะ ) จินหัวเราะร่าเริง โบกเคียวเรียวไปมา อาวุธในมือทอประกายเรืองรองจากการดูดพลังแสงจันทร์และความมืด ซึ่งจินขนานนามมันว่า ‘ กลืนรัตติกาล ’
“ บ้าสิ เนี่ยแหละระดับสมบูรณ์ ไอ้ที่แกเจอมันเบบี้ว่ะเพื่อน ตามมาตรฐานสากลประมาณสิบเมตรแหละ เวิร์ค !!! ” วิสกี้ทำหน้ามึน ๆ หันไปถามเตกีล่า
“ จริงเหรอวะเติร์ค ” เตกีล่าพยักหน้า หมุนหน้าจอโน้ตบุคซ์ไปทางวิสกี้ มือเรียวดันกรอบแว่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ จริงวะ มาตรฐานสากลบอกแบบนั้นจริง ๆ เบฮามอสที่ดีต้องสูงประมาณสิบเมตรเพียงแต่ไอ้ตัวนี้ดันสีรุ้งทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นสีน้ำตาล คงเพราะธาตุที่ผสานกันเกินสองธาตุ สีขนเลยเปลี่ยน ” วอดก้าหัวเราะก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม
“ งั้นหมาน้อยตัวนี้ก็แหกคอกสินะ ” รัมขมวดคิ้วก่อนจะพูดแก้ให้คำพูดของวอดก้าไปในทางที่ดีกว่าเดิม
“ เขาเรียกว่าพันธุ์ทางหรือพันธุ์ผสมผสาน ไม่ใช่แหกคอกหรอกนะวอดก้า ”
อีกสามเสียงคิดในใจ
แล้วมันต่างจากเดิมตรงไหนวะเนี่ย !!!
“ เออ ๆๆ ช่างเหอะ จะอะไรก็ช่าง รีบ ๆ ออกกำลังกายได้แล้ว ฉันเริ่มหิวข้าวแล้ว ” วอดก้าพูดพลางลูบท้องด้วยความหิว อีกสี่สาวพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ลมเริ่มหนุนกลายเป็นใบมีดลมอันแหลมคม เตกีล่าสะบัดมือเบา ๆ มีดมากกว่าสิบเล่มก็พุ่งทะยานฝังเจ้าเนื้อของเบฮามอสอย่างแม่นยำ
โฮก !!!! สัตว์อสูรสี่ธาตุร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด หัวที่อยู่กึ่งกลางพ่นธาตุดินเข้าปะทะเพื่อทำลายมีดของเตกีล่า แต่นั่นเป็นเพียงตัวล่อ เพราะรัมร่ายเวทสายฟ้าเอาไว้ที่พื้น ทันทีที่ขาของมันข้างหนึ่งก้าวเข้าไปในวงแหวนเวท สายฟ้านับร้อยก็ฟาดลงมาทันที
“ แหงะ…..ปวดตาวะ ” วิสกี้บ่นด้วยความทรมารลูกตาตัวเอง แต่เมื่อหันมองวอดก้า จิน เตกีล่าและรัมก็พบว่าทั้งสี่ใส่แว่นตากันแดดเรียบร้อย
วอดก้าที่เห็นสายตาตะลึงของวิสกี้ ยักคิ้วให้อย่างกวนบาทา ส่งสายตาเยาะเย้ยเต็มที่ ‘ ไอ้ฟายยยยย ’
อ๊ากกกกกกกกก !!! โดนมันด่าอีกแล้ว
วิสกี้คิดในใจอย่างแค้นเคือง ขลุ่ยหยกในมือถูกบีบแน่น ก่อนจะวิสกี้จะใช้เวทประสานกับดนตรีคือการเล่นดนตรีโดยเสียงของดนตรีจะกลายเป็นพลังโจมตีตามเนื้อของบทเพลง
และตอนนี้เจ้าของกำลังเล่นด้วยความแค้นเคืองอย่างเต็มที่ หมอกสีแดงน่าหวาดหวั่นค่อย ๆ กระจายตัวช้า ๆ ผสานเสียงกรีดร้องจากขลุ่ยในมือ บทเพลงที่แฝงความรุนแรงและโทสะไว้เต็มเปี่ยมกลายเป็นพลังสีดำพุ่งโจมตีเบฮามอสนับร้อย
กรี๊ซ !!!
บึม !!!!
โรมีเซีย วาลช่า ฟัวส์ร่า ลีนส์นัวส์และวีร์แอนได้แต่มองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึงราวไม่เชื่อสายตาตัวเอง เบฮามอสสี่ธาตุ สามหัว ซึ่งถือเป็นสัตว์ที่ดุร้ายและต้องใช้คนมากกว่ายี่สิบกว่าคนต่อธาตุ แต่นี่……เพียงห้าคนแต่กลับสู้ได้อย่างสู้สี ทั้งยังดูเหมือนการเล่นมากกว่าเพราะวอดก้ายังคงหาวหวอด ๆ ในขณะที่มือยังสาดพลังใส่ไม่หยุด วิสกี้กับจินยังคงทะเลาะกันไปมาระหว่างสู้อย่างกับการหลบกรงเล็บของเบฮามอสเป็นเรื่องง่าย ๆ รัมยืนอยู่กับที่ บ้างเบี่ยงหัวหลบพลังที่พลาดมาโดนแต่ก็ดูจะสบายหรือเกิน ส่วนเตกีล่านั้นลงไปนั่งทำอะไรบางอย่างกับหน้าจอโน๊ตบุคซ์ราวกับเพื่อนของเขากำลังเล่นกับลูกแมวจึงไม่มีอไรน่าสนใจอย่างงั้นแหละ
“ พวกนี้ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่าเนี่ย ” โรมีเซียพึงพำกับความสามารถที่ดูจะยังมีอีกมากของหัวหน้าระดับชั้นปีหนึ่ง ก่อนที่ห้าสาวที่กำลังยืนดูการต่อสู้ของทั้งหมดจะต้องเบิกตากว้างเมื่อต้นไม้ที่ถูกถอนรากโดยเบฮามอสพุ่งมาทางพวกเธอด้วยความเร็ว และเพราะด้วยความตกใจจึงทำให้ไม่มีใครทันที่จะป้องกัน
ก่อนที่ทันใดนั้นร่างสูงของใครคนหนึ่งจะหายแวบมาอยู่ด้านหน้าพวกเธอด้วยความไว กุหลาบคิมหันต์ตวัดเพียงครั้งเดียว ต้นไม้ใหญ่ก็แยกเป็นส่วนกระจุยเพียงพริบตาเดียว ได้ยินคนที่เข้ามาปกป้องพวกเธอพึมพำคำว่าน่าเบื่อก่อนที่ร่างสูงจะหายไปอยู่ข้างจินอีกครั้ง
สายตาคมสบตากันอย่างเข้าใจความหมาย พลังกดดันพวยพุ่งออกจากร่างสูงทั้งสองในทันที
ดาบและเคียวของวอดก้าและจินเปล่งประกายสีดำและขาว ในระยะรอบตัวเบฮามอสมีดาบสีขาวจากพลังเวทของวอดก้าและสีดำจากพลังของจินผุดขึ้นจากพื้นนับร้อย สองสาวหล่อหันมาสบตาด้วยรอยยิ้มเหี้ยม
เป๊าะ !!!
เฟี้ยว !!! บึม !!!! ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงระเบิดดังขึ้นถี่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด วอดก้ากับจินหันไปรับที่อุดหูจากเตกีล่าแล้วกล่าวขอบคุณเบา ๆ โล่งหูขึ้นเยอะ ควันปรากฏฟุ้งมากมาย เมื่อควันเริ่มจางหาย วอดก้าก็ต้องแท็กมือกับจินเพราะตอนนี้ร่างของเบฮามอสถูกเสียบด้วยพลังมากมายจนไม่สามารถขยับตัวได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้มันสร้างความลำบากอีก รัมที่มองหัวเบฮามอสที่ยังขยับไปมาด้วยความคิดที่อยากจะหลุดพ้นแต่มีหรือ ผู้ใช้เวทมนตร์ต้องสาปจะยอม
เปรี้ยง !!! ฉึก !!! เปรี้ยง !!! เปรี้ยง !!!
เสาดินที่ปลายถูกเหลา ( ไม่ใช่ดินสอ ) ให้แหลมคมพุ่งจากพื้นดินด้วยความเร็ว เสียบเข้ากลางหน้าผากของหัวเบฮามอสทั้งสามอย่างสยดสยอง ร่างของมันกระตุกเล็กน้อยแล้วนิ่งสนิทไป ไม่มีโอกาสได้สู้แม้แต่น้อย
วอดก้าเบ้หน้าเพราะเลือดของเบฮามอสพุ่งเข้าใส่หน้าทุกคนราวท่อประปาแตก วอดก้าถอดแว่นตาประหลาดกับหมวกออกแล้วโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี ทั้งหมดก็ถอดสิ่งที่ปกปิดออกไม่ต่างกัน เตกีล่าเบ้หน้าก่อนจะถอดแว่นตาที่อาบเลือดของเบฮามอสออกมาเช็ด ก่อนวอดก้าจะหัวเราะหึ ๆ เมื่อได้ยินเสียงจินและวิสกี้ที่ตะโกนขึ้น
“ เหม็นเลือดหมาโครต ๆ เลยวะวอดก้า หาน้ำล้างให้หน่อยดิ ” วิสกี้พูดพลางเบ้หน้าก่อนที่ทั้งห้าสาวหล่อจะต้องตาเบิกกว้างเพราะสายน้ำจากพลังเวทพุ่งเข้าหาทั้งหาตามคำเรียกร้องทันที
และผลคือ……ถึงแม้จะล้างเลือดเบฮามอสได้หมดแต่ต้องแลกกับการเปียกชุ่ม เสียงหัวเราะหึ ๆ ด้วยความสะใจของลีนส์นัวส์และวีร์แอนบ่งบอกได้ทันทีว่าใครทำ
“ อยากได้น้ำล้างเลือดไม่ใช่เหรอ นี่ก็ได้ล้างสมใจ…ละ..แล้ว ” คำพูดในลำคอของสองเจ้าหญิงหยุดชะงักเมื่อได้เห็นใบหน้าของทั้งห้าได้ชัดตา ใบหน้าของวอดก้าที่เปียกซกราวลูกหมาตกน้ำนั้นนิ่งสนิท นัยน์ตาสีม่วงคมเข้มยังคงเรียบเฉย มุมปากมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่ชวนให้หญิงสาวหัวใจวายกับท่าทางนั้น มือเรียวเสยผมสีน้ำตาลอมแดงขึ้นอย่างเซ็กซี่ ไหล่กว้างน่าซบกับผิวขาวเนียนราวนายแบบนั้นชวนที่อยากจะตกเป็นทาสของเขามากมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
วิสกี้ที่แม้ตอนแรกจะบึ้งตึงก็กลับมามีรอยยิ้มขี้เล่นเช่นเคย มือเรียวลูบน้ำบนใบหน้าออกอย่างง่าย ๆ แต่ชวนหัวใจสั่น นัยน์ตาสีเขียวมรกตมองสบสายตาห้าคู่ด้วยรอยยิ้มยั่วเย้าและเย้าแหย่ให้ตกหลุมรัก ริมฝีปากสีแดงบางเฉียบขยับขึ้นเป็นรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันสีขาวเรียงอย่างเป็นระเบียบชวนให้เข้าใกล้
จินสะบัดหัวไปมาด้วยความปวดหูจากแรงกระแทกของน้ำสะบัดมือไล่ความเมื่อยขบเบา ๆ ก่อนนัยน์ตาสีแดงจะวกกลับมายิ้มหวานให้อย่างชวนละลาย ร่างสูงยังคงอมยิ้มกับท่าทางราวหนูน้อยที่ตกหลุมรักของทั้งห้า จนในที่สุดก็กลายเป็นเสียงหัวเราะแผ่วเบาราวกับเสียงดนตรีขับกล่อมจิตใจ
รัมที่ยังลูบหนังสือที่เปียกไม่ห่างพึมพำกับตัวเองอย่างไม่คิดจะใส่ใจ ใบหน้าเข้าสู่โหมดเย็นชาอย่างแท้จริงแต่ยิ่งเสริมนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนให้คมกริบ เวทในมือใช้ในการดึงน้ำที่แฝงในหนังสือออกจนกลายเป็นมีสายน้ำไหลเวียนรอบตัวรัมอย่างสวยงามจนเมื่อเสร็จนั่นแหละ เจ้าตัวจึงหันมายิ้มให้อย่างปลอดโปร่งและสุภาพเช่นเคยแต่กลับมีเสน่ห์จนแทบลืมหายใจ
เตกีล่าสะบัดแว่นในมือเบา ๆ แล้วใส่ไปอย่างเดิมด้วยใบหน้าเซ็งเล็ก ๆ ใบหน้าเรียบเฉยกวาดตามองรอบ ๆ ก่อนจะเลิกคิ้วใส่ห้าสาวที่มองพวกเขาอย่างตกตะลึงแต่ก็นั่นแหละ ด้วยความขี้เกียจพูดเตกีล่าจึงยังนิ่งเงียบแล้วเดินเข้าไปหาวอดก้า ใต้เท้าของห้าสาวหล่อสว่างวาบด้วยเวทมนตร์ก่อนเสื้อผ้าที่เปียกอยู่จะกลายเป็นแห้งเช่นเดิม
เป๊าะ !!!
วอดก้าดีดนิ้วเรียกสติของเหล่าเจ้าหญิงด้วยรอยยิ้มรื่นเริงราวมองทาสเบื้องหน้า พร้อมกับพูดหยอกเย้าโรมีเซียที่อยู่ไม่ไกล
“ เจ้าหญิง…..มองอย่างนี้ทรงตกหลุมรักความหล่อของกระหม่อมหรือยังไง ” โรมีเซียสะดุ้งก่อนจะตวาดกลับทั้ง ๆ ที่ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอาย
“ จะบ้าเหรอ ! งั้นนี่ก็คือสาเหตุที่พวกเธอชอบใส่อะไรปิดหน้าใช่ไหม ” โรมีเซียถามต่อ เริ่มเข้าใจอะไรราง ๆ เกี่ยวกับการกระทำของทั้งห้า
วอดก้าเบ้หน้า พยักหน้าช้า ๆ แล้วบอกเหตุผล
“ ถ้าเกิดเราใส่อะไรโดยไม่ปิดหน้า พวกฉันก็ตายพอดี ไม่อยากโดนผู้หญิงฉุดไปทำผัวหรอก ” วอดก้าพูดด้วยสีหน้าเซ็ง ๆ วีร์แอนและลีนส์นัวส์ร้องอ้ออย่างเข้าใจก่อนจะต้องร้องวีดว้ายเมื่อห้าสาวหล่อพากันอุ้มเจ้าหญิงทั้งหน้าในท่าเดิมเตรียมวิ่ง
โรมีเซียที่อุทาเบา ๆ รู้แล้วว่าพวกวอดก้ากำลังจะกลับจึงโอบรอบคอของวอดก้าด้วยความกลัวตก วอดก้ายิ้มขำ ๆ อย่างมีเสน่ห์ก่อนจะกระโดดด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิมจนในที่สุดก็มาหยุดที่จุดเริ่มต้น
วอดก้าวางโรมีเซียช้า ๆ อย่างทะนุถนอม เพราะไม่อยากเจอแบบวิสกี้และจินที่โยนคุณเธอลงพื้น เกือบได้รับโลงศพเป็นของขวัญ ส่วนโรมีเซียที่สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของวอดก้าก็พานหน้าแดงก่ำ รู้สึกในใจมันเต้นตุบ ๆ ราวจะออกมาข้างนอก
เหล่านักเรียนชั้นปีหนึ่งหันมามองผู้มาใหม่ก่อนจะหันไปมองเหล่ารุ่นพี่บ้าง โรมีเซีย วีร์แอน ลีนส์นัวส์ วาลช่า ฟัวส์ร่ามองอย่างงงๆ แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เคยหล่อเหลามีสิ่งปกปิดเช่นเคยก็พากันคิดในใจอย่างขำ ๆ
ท่าจะกลัวโดนฉุดจริง ๆ
ทั้งห้าคิดและดูเหมือนอีกห้าสาวหล่อจะรู้จึงแยกเขี้ยวแล้วส่งสายตาเป็นเชิงบอก
ก็กลัวนะสิ
และแล้วพวกวอดก้าก็แก้เวทพันธนาการที่ใช้ขังเหล่ารุ่นพี่ด้วยรอยยิ้มหวาบหวาม ( สยอง ) อย่างง่ายดาย พร้อมกับเตรียมที่จะชำระแค้นไอ้สูงห้าคนที่ยืนทำหน้าสบายอารมณ์แบบไม่รู้สึกรู้สา
“ วอดก้า ” โรเรียกชื่อผู้เป็นหัวโจกของกลุ่มเสียงเหี้ยม วอดก้าแคะหูเล็กน้อยก่อนจะขานรับ
“ ค้า ~~~ ” วอดก้า วิสกี้ จิน รัมและเตกีล่าสบตากันแล้วถิยหลังช้า ๆ อย่างรู้งาน มองกลุ่มรุ่นพี่กว่าห้าสิบคนที่ย่างสามขุมเข้าใกล้พร้อมประสานเสียงด้วยความสามัคคีเต็มที่
“ พวกเอ็งตาย !!! ”
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
|
#สายอวยวอดก้า
วิดก้าต้องเด่นที่สุด!" (ไรท์: ถ้าอยากให้เด่นขนาดนั้นมาเขียนเองมั้ยย่ะ!)
#โดนสายอวยตัวละครอื่นตบ
#สายอวยวอดก้า
วิดก้าต้องเด่นที่สุด!" (ไรท์: ถ้าอยากให้เด่นขนาดนั้นมาเขียนเองมั้ยย่ะ!)
#โดนสายอวยตัวละครอื่นตบ
PS. ทุกอย่างมี 2 ด้าน เช่นเดียวกับ ราตรีที่มืดมิดแต่กลับสวยงามอย่างประหลาด ซึ่งมันแล้วแต่ว่าใครจะมองด้านไหนเท่านั้นของมันเท่านั้น เช่นเดียวกับความรัก ที่มีทั้ง ความทุกข์และความสุข
PS. One Piece สมบัติในตำนานโดยเชื่อว่าซ่อนอยู่ในส่วนที่ลึกสุดของแกรนด์ไลน์โดยจ้าวแห่งโจรสลัด โกลด์ โรเจอร์ โดยวันพีซไม่มีใครรู้ว่าหน้าตาและรูปร่างเป็นอย่างไร [สมบัติอันล้ำค่าในตำนานนั้นคือ G-BOM ]
PS.
PS.
PS. ความรักของฉันเปรียบเสมือนแสงดวงดาวที่พร่างพรายอยู่บนฟากฟ้า งดงาม ยิ่งใหญ่ เปี่ยมไปด้วยความหวัง...หากแต่ไกลเกินไขว่คว้า
PS. เมื่อความตายเพรียกหา...เราจะทำอะไรได้นอกจาก\"ยอมรับความตายนั้น\"
PS. รักนะ แต่ไม่แสดงออก ^^
PS. ฉันมาเพื่อล่า ,,, ล่าสวาท นิยาย (<< นังนี่น่ากลัว T^T )
PS. ล้านถ้อยคำรักที่ฉันพร่ำบอก ก็อาจเป็นเพียงแค่ลมเท่านั้น
PS. สวัสดีชาวโลก :) <3