คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : L O N E W O L F | Epilogue
? cactus
Epilouge
เบอร์ลิน, สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ปี 2021
“ต้องขอบคุณฉันอย่างนั้นใช่ไหม”
แบคฮยอนหัวเราะเสียงสดใส
แก้มทั้งสองเป็นสีแดงจัดด้วยอากาศต้นฤดูใบไม้ผลิ อดีตร้อยเอกปาร์คชานยอลยิ้มตอบ
ก่อนประสานมือของตัวเองซึ่งอยู่ใต้ถุงมือผ้ากำมะหยี่กับมือของอีกฝ่าย
“ว่ายังไงว่าตามกัน”
ไม่ว่ากี่ครั้ง
ความทรงจำนั้นก็ทำให้หัวใจของชายหนุ่มร่างสูงเต็มตื้นขึ้น
อาจเป็นครั้งแรกที่เทพเจ้าแห่งโชคชะตาเข้าข้างกัน
ชานยอลจึงรอดชีวิตจากทะเลเพลิงในวันแห่งหายนะ
เพราะแบคฮยอนทำให้ปืนพกของเขาใช้การไม่ได้อยู่ก่อนหน้านั้น
และชายหนุ่มร่างสูงที่หมดอาลัยตายอยากไม่ใส่ใจจะแก้ไข
ระหว่างการโรมรันเพื่อมีชีวิตรอดครั้งสุดท้าย กระสุนของซอนบีจึงไม่ได้คร่าชีวิตเขา
มีแต่ชานยอลที่พรากลมหายใจของอีกฝ่ายไปในนัดเดียว
เลือดของแม่ที่ชุ่มโชกเสื้อผ้าช่วยรักษาชีวิตของเขา
ทำให้ชานยอลหายใจได้ท่ามกลางควันที่พวยพุ่ง
เขาตื่นขึ้นท่ามกลางซากปรักหักพังและหลบหนีไป
ปะปนกับนายทหารชั้นประทวนที่เส้นขนานที่สามสิบแปดเป็นเวลากว่าหนึ่งปีเจ็ดเดือนจึงสบโอกาส
วินาทีที่ก้าวข้ามเส้นพรมแดน และชูมือทั้งสองขึ้นเพื่อแสดงออกว่ายอมจำนน
หัวใจของเขาโลดเต้นด้วยความหวังเพียงหนึ่งเดียว
คือจะได้พบชายหนุ่มร่างเล็กอีกครั้ง ไม่ว่าอีกคนหนึ่งจะยังมีอดีตผู้บังคับบัญชาในหัวใจหรือไม่ก็ตาม
“ฉันรู้แต่ว่าเซฮุนปลอดภัยดี
และจนเดี๋ยวนี้เขาก็ยังอยู่ที่นั่น” ชายหนุ่มร่างสูงเคยเล่าให้แบคฮยอนฟังในวันแรก
ๆ ที่กลับมาพบกัน “ซึงวานนำ เอ้อ... ส่วนที่เหลืออยู่ของมินโฮไปประกอบพิธี
อย่างน้อยที่สุด เขาก็เป็นพ่อของเด็กคนนั้น... ลูกของเธอ”
เพราะเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพรรคแรงงาน
รวมถึงนายทหารชั้นสัญญาบัตรแห่งกองทัพประชาชน
เขาจึงถูกกักบริเวณด้วยความเป็นกังวลว่าจะเป็นสายลับอยู่นาน
ก่อนพ่อค้าในตลาดเมียงดงซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นนักสังคมสังเคราะห์รับอุปการะ
ให้ชานยอลเป็นหลานชายบุญธรรม การตามหาอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาเริ่มต้นในวันนั้น
และไม่เคยหยุดเลยกระทั่งพบอีกฝ่ายที่ร้านของตัวเอง
“ยังอยากเรียนภาษาเยอรมันอยู่หรือเปล่า”
ชายหนุ่มร่างสูงหัวเราะด้วยมุมปาก
“ที่นี่... ตอนนี้เนี่ยนะ”
“ก็ได้หรอก
ถ้าต้องการ”
“แบคฮยอน! ”
ชานยอลส่งเสียงกระเง้ากระงอด “เรามาฮันนีมูนกันนะ! ”
“ฮันนีมูนแล้วยังไง
อย่างกับว่าเรารู้จักความหวานชื่นดีนักนี่” ชายหนุ่มร่างเล็กว่า “พูดก็พูดเถอะ
ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว จะให้มาทำกระหนุงกระหนิงอย่างคนหนุ่มสาว... ”
“ครับ...
ครับ พี่ชาย”
“อา...
ดีใจสินะที่อ่อนกว่าถึงสี่ปี” แบคฮยอนทำปากยื่น “พูดก็พูดเถอะ นายว่าต้องการความโรแมนติก
แต่... เยอรมนีเนี่ยนะ! ”
“ก็นายใช้ภาษานี้ได้นี่
จะได้ไม่ลำบาก”
“โธ่...
อย่างน้อยก็ควรจะเป็นออสเตรียซี่”
เพราะอย่างนี้เองเขาจึงตกหลุมรักแบคฮยอน...
แบคฮยอนที่ตรงไปตรงมาและเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่
ความเข้มแข็งของอีกฝ่ายปลุกเร้าความต้องการเอาชนะคะคานในตัวเขา
ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นความนับถือและเข้าอกเข้าใจในที่สุด
“ไม่เอาน่า”
ชานยอลตะล่อมอย่างใจเย็น “ฉันอยากอยู่กับนายที่นี่ เพราะเจ้านี่ต่างหาก... ”
อดีตผู้ติดตามชะงักฝีเท้า
หันไปมองกำแพงขนาดใหญ่วาดลวดลายด้วยสีสันอันสดใสซึ่งทอดตัวเหยียดยาว
บางส่วนเก่าคร่าด้วยกาลเวลา ทว่าความหมายและความทรงจำกลับแจ่มชัด
ตรึงแน่นในอิฐทุกก้อนและทุกเส้นสายที่ร้อยเรียงเป็นเรื่องราว
“นายหมายถึง...
กำแพงเบอร์ลิน”
“แน่เหมือนแช่แป้ง”
มือทั้งสองประสานกันแนบแน่น
คล้ายจะไม่มีสิ่งใดพรากคนทั้งคู่จากกัน ชายหนุ่มร่างสูงพาอีกคนหนึ่งไปยังแนวรั้วโลหะเตี้ย
ๆ ทาสีแดง ซึ่งมีแม่กุญแจคล้องอยู่ประปราย “มาอธิษฐานกันเถอะ” เขาชักชวน “ที่นี่...
ที่ครั้งหนึ่งเป็นเครื่องกีดกั้นคนจากสองฝั่ง แต่เดี๋ยวนี้ได้รับการพิสูจน์แล้ว
ว่าต่อให้ยาวกว่านี้อีกร้อยเท่าก็ไม่มีประโยชน์”
แม่กุญแจของพวกเขาเป็นสีฟ้าสด
คล้ายท้องฟ้าเหนือกรุงเปียงยางในวันที่อากาศแจ่มใส
“จะเขียนว่าอะไรดี”
แบคฮยอนกระซิบ
เขาไม่ได้ละสายตาจากคนรักเลย
เมื่อเขียนลงไปอย่างตั้งอกตั้งใจ...
มนุษย์ทั้งสอง ในสถานที่และสถานการณ์ซึ่งความรักไม่อาจผลิบานได้
“พูดได้ดี”
ชายหนุ่มร่างเล็กพูดกลั้วหัวเราะ “แล้วคำอธิษฐานล่ะ”
“ให้นายเขียนดีกว่า”
อดีตผู้บังคับบัญชาส่งปากกาหมึกซึมให้ พลางจุมพิตที่หน้าผากของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
ก่อนก้มลงอ่านข้อความของแบคฮยอน ซึ่งแน่นอน... เขาไม่รู้สึกผิดหวังเลย
จงอย่าเป็นอย่างเรา
และจงเป็นอย่างเรา
“เป็นอย่างไหน... ” ชายหนุ่มร่างสูงถามเสียงพร่า
แทนคำตอบ
แบคฮยอนเขย่งปลายเท้าขึ้นและจูบเบา ๆ ที่คางของเขา “เป็นอย่างนี้” อีกคนหนึ่งตอบ
พลางกอดชานยอลไว้แน่น “แต่โชคดีกว่านี้หน่อย”
“ฉันเห็นด้วย...
เห็นด้วยที่สุด”
สองเสียงหัวเราะสอดประสาน
กังวานเช่นเดียวกับเสียงของระฆังจากโบสถ์ซึ่งอยู่ไกลออกไป เพียงแต่สายลมต้นฤดูใบไม้ผลิกลับหอมหวานยิ่งขึ้น...
เมื่อเสียงหัวเราะนั้นขาดหาย
แทนที่ด้วยอ้อมกอดและจุมพิตจากสองหัวใจ
ชดเชยคำสัญญาบนแม่กุญแจสีฟ้าสดที่ว่างเว้นไว้...
ว่าจะไม่มีวันทอดทิ้งกันนั่นเอง
จบบริบูรณ์
#ฟิคเปียงยาง
ได้เดินทางมาถึงบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว
เราคงไม่รู้จะพูดอะไร นอกจากขอบคุณจริง ๆ ค่ะ ที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้
ผูกพันกับเรื่องนี้มาก เพราะอยู่กับมันมาหนึ่งปีเต็ม ไม่นับเวลาสำหรับหาข้อมูลประกอบ
และมันให้อะไรเรามากเหลือเกิน ซึ่งเราหวังว่ามันจะได้ให้อะไรบางอย่างกับคนอ่านของเราด้วยเหมือนกัน :)
เราเขียนเรื่องนี้บนฐานของความคิดว่า ไม่ว่าจะเห็นแตกต่างกันเท่าไหร่ ขอให้จำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นมนุษย์เหมือนกัน
ไม่รู้ว่าเราสื่อสารประโยคที่ว่าได้ชัดเจนแค่ไหนในเรื่องนี้ หรือทำได้อย่างมีชั้นเชิงหรือเปล่า
เพราะเราก็ยังต้องพัฒนาการเขียนของตัวเองอีกมาก
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับแรงใจ เพราะเราคงไม่สามารถเขียนเรื่องที่หนักเท่ากับเรื่องนี้ได้อีกระยะหนึ่ง
(โนดราม่านะเตง เก๊าแค่ออกฝึกสอน เก๊าแค่ไม่ว่าง 555)
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านฟิคแปลก ๆ เรื่องนี้นะคะ
คนเขียนอวดเพื่อนได้แล้วว่านี่ไง มีคนอ่านนะยะ มีคนอ่านจริง ๆ 555
ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
Danke fuer alles ค่ะ :)
Tschuess!
จนกว่าจะพบกันใหม่
(ซึ่งก็อีกไม่นานหรอก เพราะมีตอนพิเศษ เฮ้อม... ขอซึ้งหน่อยก็มะได้)
/กอด
โรมจักร
ความคิดเห็น