cnntuntrain55
ดู Blog ทั้งหมด

ชาและการดื่มชา(2)

เขียนโดย cnntuntrain55

茶与饮茶     ชาและการดื่มชา      (ตอนที่  2)


 

           ประเทศจีนมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล  อีกทั้งชนพื้นเมืองก็มีมาก    ในยุคที่ต่างกันและต่างพื้นที่กัน    ความเคยชินในการดื่มชาก็ต่างกันด้วย

           ในสมัยอดีต   คนมักจะนำชามาต้มดื่มกัน    เวลาต้มก็จะเติมต้นหอม , ขิง , เกลือ , และผิวส้มลงไปเป็นส่วนผสม   จนกระทั่งถึงราชวงศ์เอวี๋ยน元朝   yuán cháo คนนิยมดื่มชากันแบบเอาน้ำร้อนเติมใส่    และจะไม่ใส่ส่วนผสมอื่นเพิ่มเติม   และใช้เวลาในการชงชาเพียง  10  นาทีเท่านั้น    สะดวกสบายมากและยังคงรสชาติดั้งเดิมของชาด้วย

            โดยปกติคนทางเหนือจะชอบดื่มชาดอกไม้    ชาวเมืองเจียงซูและชาวเจ้อเจียงชอบดื่มชาเขียว ชาวฝูเจี้ยนและชาวกวางตุ้งชอบดื่มชาอูหลง   ชนพื้นเมืองและผู้ที่อยู่ตามแนวชายแดนชอบดื่มชาจิ๋งยา   ชาวมองโกเลีย   เวลาดื่มชามักจะเติมนมและเกลือลงไป   เรียกว่า   “ ชานม 奶茶   nǎi chá

ชาวทิเบต    เวลาดื่มชาจะเติมเนยและเกลือลงไป   เรียกว่า   “ ชาเค็ม 酥油茶   sū yóu chá

ในการดื่มชานั้น    ชาวจีนจะพิถีพิถันในการชงชามาก    เช่น

1.            น้ำที่นำมาใช้ในการชงชานั้นต้องดี    ชาที่ชงออกมาจะได้รสชาติที่ดั้งเดิมชองชาออกมา

ชาวจีนเชื่อกันว่าน้ำที่ใช้ในการชงชาแล้วได้รสชาติที่ดีที่สุด คือ  “ น้ำแร่ ” 泉水   quán shuǐรองลงมา    คือ   “ น้ำจากแม่น้ำเจียง  ” 江河的水   jiāng hé de shuǐ       

รองลงมาอีกก็  คือ   “ น้ำฝน ”井水   jǐng shuǐ

ถ้าหากใช้น้ำก็อก自来水   zì lái shuǐมาชงชา    รสชาติจะต่างกันมาก

2.            อุปกรณ์ในการชงชา   จะต้องพิถีพิถันเช่นกัน    เช่น  กาชงชา   หรือถ้วยชา    ขนาดต้องเล็ก

นิดหน่อย     ดีที่สุดควรทำมาจากเครื่องปั้นดินเผา    รองลงมาอาจใช้อุปกรณ์ที่ทำจากแก้วก็ได้  

แต่จะไม่นิยมใช้อุปกรณ์ชงชาที่ทำจากโลหะเด็ดขาด


 

       

             ในประเทศจีน   การดื่มชาถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง    ผู้ที่ดื่มชาโดยใช้การดื่มแบบชามใหญ่ ๆ  คำใหญ่ ๆ นั้น   เป็นเพียงแค่การดื่มเพื่อดับกระหายเท่านั้น  จะไม่สามารถรับรู้ถึงรสชาติที่แท้จริงของชาได้   เพราะฉะนั้นเวลาดื่มชานั้น    ควรจะค่อย ๆ จิบ , ชิม   ทีละเล็กน้อย    เพื่อที่จะได้ซึมซาบรสชาติของชา   วิธีการเช่นนี้   เราเรียกว่า 品茶   pǐn  chá   แล้วเราจะซึมซับรสชาติของชาได้อย่างไรหละ

            วิธีการดื่มชาอย่างมีศิลปะ  

-                   หลังจากชงชาเสร็จแล้ว  ให้นำถ้วยชาที่ชงแล้วมาดมที่ปลายจมูกสักครู่   วิธีการเช่นนี้เรียกว่า 闻香   wén xiāng

-                   ต่อจากนั้นให้ชื่นชมน้ำชา   ใบชา   และสีของชาที่อยู่ในถ้วยชาสักครู่   วิธีการเช่นนี้เรียกว่า 观色   guān

-                   หลังจากนั้นก็ดื่มน้ำชาสัก  1  คำเล็ก ๆ อมไว้ในปากสักครู่     ค่อย ๆ ซึมซับและชื่นชมในรสชาติของชานั้น  สุดท้ายก็ค่อย ๆ ดื่มชานั้น  วิธีการเช่นนี้เรียกว่า赏味  shǎng wèi



ประเพณีการดื่มชา

ในอดีตกาล   การดื่มชาถือเป็นกิจกรรมที่หรูหรา , สูงส่ง งดงาม    ซึ่งนักประพันธ์    นักกวี   นักวาดภาพทั้งหลาย    มักจะขาดการดื่มชาไม่ได้    พวกเขาคิดว่า   “ ชา ”   คือ   แรงบันดาลใจในการเขียน หรือ วาดภาพ  ,  ความหอมของชานั้นจะทำให้พวกเขามีความคิด ( มโนคติ )  ที่ดี   และเกิดแรงดลใจในการสร้างงานประพันธ์ , ผลงานที่ดี    นักประพันธ์เหล่านี้ชอบที่จะดื่มชา  และมักจะเขียนกลอนเกี่ยวกับชาขึ้นมากมาย    มีผู้ประเมินว่าในแต่ละยุค , สมัย  ว่ามีผู้ประพันธ์กลอนเกี่ยวกับชามาแล้วหลายพันบท

ในอดีตกาล    ประเพณีการแต่งงานก็มักจะมี  “ ชา ”  เป็นของขวัญ     และในพิธีหมั้น   ฝ่ายหญิงจะต้องรับ   “ ใบชา ”    ซึ่งเป็นของหมั้นที่ฝ่ายชายมอบให้    เรียกว่า 受茶   shòu chá

ในปัจจุบัน  “ ใบชา ”  มักจะถูกนำมาเป็นของมอบให้ซึ่งกันและกัน   ซึ่งถือเป็นการกระชับมิตรสัมพันธ์กันอีกวิธีหนึ่งของชนเผ่าต่าง ๆ    ส่วนการบริการน้ำชาให้กับแขกที่มาเยือนดื่มนั้น  ได้กลายเป็นเรื่องที่พบเห็นเป็นปกติธรรมดาในชีวิตประจำวันของคนจีนไปแล้ว



ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
เกร็ดสาระน่ารู้ดีค่ะ ภาพสวยอ่ะ เหมาะเจาะ และก็ชาน่าดิ่มมาก... กกกกก