茶与饮茶 ชาและการดื่มชา (ตอนที่ 2)
ประเทศจีนมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล อีกทั้งชนพื้นเมืองก็มีมาก ในยุคที่ต่างกันและต่างพื้นที่กัน ความเคยชินในการดื่มชาก็ต่างกันด้วย
ในสมัยอดีต คนมักจะนำชามาต้มดื่มกัน เวลาต้มก็จะเติมต้นหอม , ขิง , เกลือ , และผิวส้มลงไปเป็นส่วนผสม จนกระทั่งถึงราชวงศ์เอวี๋ยน(元朝 yuán cháo )คนนิยมดื่มชากันแบบเอาน้ำร้อนเติมใส่ และจะไม่ใส่ส่วนผสมอื่นเพิ่มเติม และใช้เวลาในการชงชาเพียง 10 นาทีเท่านั้น สะดวกสบายมากและยังคงรสชาติดั้งเดิมของชาด้วย
โดยปกติคนทางเหนือจะชอบดื่มชาดอกไม้ ชาวเมืองเจียงซูและชาวเจ้อเจียงชอบดื่มชาเขียว ชาวฝูเจี้ยนและชาวกวางตุ้งชอบดื่มชาอูหลง ชนพื้นเมืองและผู้ที่อยู่ตามแนวชายแดนชอบดื่มชาจิ๋งยา ชาวมองโกเลีย เวลาดื่มชามักจะเติมนมและเกลือลงไป เรียกว่า “ ชานม ”(奶茶 nǎi chá)
ชาวทิเบต เวลาดื่มชาจะเติมเนยและเกลือลงไป เรียกว่า “ ชาเค็ม ”(酥油茶 sū yóu chá)
ในการดื่มชานั้น ชาวจีนจะพิถีพิถันในการชงชามาก เช่น
1. น้ำที่นำมาใช้ในการชงชานั้นต้องดี ชาที่ชงออกมาจะได้รสชาติที่ดั้งเดิมชองชาออกมา
ชาวจีนเชื่อกันว่าน้ำที่ใช้ในการชงชาแล้วได้รสชาติที่ดีที่สุด คือ “ น้ำแร่ ”( 泉水 quán shuǐ)รองลงมา คือ “ น้ำจากแม่น้ำเจียง ”( 江河的水 jiāng hé de shuǐ )
รองลงมาอีกก็ คือ “ น้ำฝน ”(井水 jǐng shuǐ)
ถ้าหากใช้น้ำก็อก(自来水 zì lái shuǐ)มาชงชา รสชาติจะต่างกันมาก
2. อุปกรณ์ในการชงชา จะต้องพิถีพิถันเช่นกัน เช่น กาชงชา หรือถ้วยชา ขนาดต้องเล็ก
นิดหน่อย ดีที่สุดควรทำมาจากเครื่องปั้นดินเผา รองลงมาอาจใช้อุปกรณ์ที่ทำจากแก้วก็ได้
แต่จะไม่นิยมใช้อุปกรณ์ชงชาที่ทำจากโลหะเด็ดขาด
ในประเทศจีน การดื่มชาถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ผู้ที่ดื่มชาโดยใช้การดื่มแบบชามใหญ่ ๆ คำใหญ่ ๆ นั้น เป็นเพียงแค่การดื่มเพื่อดับกระหายเท่านั้น จะไม่สามารถรับรู้ถึงรสชาติที่แท้จริงของชาได้ เพราะฉะนั้นเวลาดื่มชานั้น ควรจะค่อย ๆ จิบ , ชิม ทีละเล็กน้อย เพื่อที่จะได้ซึมซาบรสชาติของชา วิธีการเช่นนี้ เราเรียกว่า“ 品茶 pǐn chá ” แล้วเราจะซึมซับรสชาติของชาได้อย่างไรหละ
วิธีการดื่มชาอย่างมีศิลปะ :
- หลังจากชงชาเสร็จแล้ว ให้นำถ้วยชาที่ชงแล้วมาดมที่ปลายจมูกสักครู่ วิธีการเช่นนี้เรียกว่า“ 闻香 wén xiāng ”
- ต่อจากนั้นให้ชื่นชมน้ำชา ใบชา และสีของชาที่อยู่ในถ้วยชาสักครู่ วิธีการเช่นนี้เรียกว่า “ 观色 guān sè ”
- หลังจากนั้นก็ดื่มน้ำชาสัก 1 คำเล็ก ๆ อมไว้ในปากสักครู่ ค่อย ๆ ซึมซับและชื่นชมในรสชาติของชานั้น สุดท้ายก็ค่อย ๆ ดื่มชานั้น วิธีการเช่นนี้เรียกว่า“赏味 shǎng wèi”
ประเพณีการดื่มชา
ในอดีตกาล การดื่มชาถือเป็นกิจกรรมที่หรูหรา , สูงส่ง งดงาม ซึ่งนักประพันธ์ นักกวี นักวาดภาพทั้งหลาย มักจะขาดการดื่มชาไม่ได้ พวกเขาคิดว่า “ ชา ” คือ แรงบันดาลใจในการเขียน หรือ วาดภาพ , ความหอมของชานั้นจะทำให้พวกเขามีความคิด ( มโนคติ ) ที่ดี และเกิดแรงดลใจในการสร้างงานประพันธ์ , ผลงานที่ดี นักประพันธ์เหล่านี้ชอบที่จะดื่มชา และมักจะเขียนกลอนเกี่ยวกับชาขึ้นมากมาย มีผู้ประเมินว่าในแต่ละยุค , สมัย ว่ามีผู้ประพันธ์กลอนเกี่ยวกับชามาแล้วหลายพันบท
ในอดีตกาล ประเพณีการแต่งงานก็มักจะมี “ ชา ” เป็นของขวัญ และในพิธีหมั้น :ฝ่ายหญิงจะต้องรับ “ ใบชา ” ซึ่งเป็นของหมั้นที่ฝ่ายชายมอบให้ เรียกว่า“ 受茶 shòu chá ”
ในปัจจุบัน “ ใบชา ” มักจะถูกนำมาเป็นของมอบให้ซึ่งกันและกัน ซึ่งถือเป็นการกระชับมิตรสัมพันธ์กันอีกวิธีหนึ่งของชนเผ่าต่าง ๆ ส่วนการบริการน้ำชาให้กับแขกที่มาเยือนดื่มนั้น ได้กลายเป็นเรื่องที่พบเห็นเป็นปกติธรรมดาในชีวิตประจำวันของคนจีนไปแล้ว
ความคิดเห็น