หลังจากผ่านมรสุมหนักหน่วงที่มหาลัยมาแล้ว บอกตามตรงว่าผมหมดกำลังใจไปหลายอย่าง
ทั้งเรื่องเรียน(เนื้อหาหนัก งานเยอะ) เรื่องเพื่อนใหม่(บางคนเชื่อใจไม่ได้) และเรื่องความรัก(ทำให้เขาเดือดร้อนซะงั้น)
ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ผมอยากจะหวนนึกย้อนไปถึงชีวิตมัธยมที่แสนจะเป็นสุข
การได้ไปเจอเพื่อนดีๆทุกวัน เรียนในห้องเดียวกันสนิทกันมากแบบนั้น คงไม่มีวันเกิดขึ้นได้ในมหาลัย เพราะอารมณ์ความรู้สึกมันต่างกันมาก ความเป็นเพื่อนหลายปีในโรงเรียนที่แม้จะคับแคบ เรียนแต่วิชาเนื้อหาซ้ำๆ ขึ้นลงอาคารเรียนวุ่นวาย มาบัดนี้ผมกลับคิดถึงมันมาก และยิ่งมาอยู่ในช่วงที่ท้อแท้ถึงขีดสุดแบบนั้น ทำให้ผมตัดสินใจกลับมาเยี่ยมโรงเรียนเก่าของผม
เมื่อเห็นโรงเรียนที่พลุกพล่านไปด้วยรุ่นน้องในชุดนักเรียนนั่งฟังอาจารย์เรียนอยู่ ตึกเรียนที่แสนคุ้นเคย เดินขึ้นเดินลงทุกวัน ผมรู้สึกราวกับว่าผมยังเป็นนักเรียนของที่นี่อยู่ เหมือนกับว่าตื่นเช้ามาในวันพรุ่งนี้ผมก็ยังคงใส่ชุดนักเรียนเดินขึ้นลงอาคารสูงเก้าชั้น นั่งฟังอาจารย์เรียน คุยบ้างหลับบ้างแซวอาจารย์บ้างไปวันๆ ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าตื่นมาแล้วผมพบว่าผมยังเป้นแค่เด็กนักเรียนชั้นมัธยมที่โอดครวญเรื่องรายงานจากอาจารย์ การบ้านที่มหาศาล เพราะผมปรารถนาอยากกลับไปมีชีวิตแอบบนั้นอีกครั้ง
ชีวิตที่ทุกเช้าก็มานั่งรวมกันที่ใต้ทางเชื่อม เข้าแถวหน้าเสาธง ร้องเพลงชาติเพลงโรงเรียน พูดคุยกันในแถว ตอนพักเที่ยงไปแย่งเก้าอี้กันในโรงอาหาร แล้วไปรอเรียนคาบต่อไปที่ห้อง แซวอาจารย์ แอบอ่านการ์ตูน แอบคุย แอบหลับ (มีตั้งใจเรียนบ้าง) ตอนเย็นก็ขึ้นรถเมล์กลับด้วยกันเป็นกลุ่มไม่ก็ไปร้องคาราโอเกะที่ห้างใกล้ๆ ตู้แคบๆ เพลงละ10บาทก่อนกลับ ไปเที่ยวบ้านเพื่อนเวลามีรายงานไม่ก็ไปเที่ยวเรื่อยเปื่อย ไปร้านเกมด้วยกัน เวลาไปเที่ยววันหยุดก็นัดกันมาเจอที่โรงเรียน ดูหนังด้วยกัน มันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก
ผมเคยถ่ายรูปและถ่ายวิดีโอเพื่อนๆในห้องช่วงก่อนจะจบม.6 เป็นอะไรที่มีสีสีนมาก ทุกคนรักกันมาก ผมดูทีไรก็ยิ้มได้ทุกที เวลาหมดกำลังใจสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผมยิ้มและก้าวต่อไปได้ ผมเอารุปพวกนั้นมาทำเป็นการ์ตูนห้องกับเพื่อนคนนึง ซึ่งเพื่อนของผมคนนี้ก็บอกผมว่า "จะมีซักกี่ครั้งในชีวิตที่ได้ทำเรื่องแบบนี้ ถึงมันจะไร้สาระก็เถอะ" ผมคิดว่าเพื่อนคนนี้พูดถูกต้องทุกอย่าง พอเรียนมหาลัยแต่ละคนก็คงไม่มีเวลาว่างมาคิดถึงเรื่องแบบนี้อีกแล้ว และเรื่องไร้สาระนี้ทำให้ผมได้ไปเที่ยวบ้านเพื่อนกับเพื่อนอีกหลายคน ไปกินข้าวด้วยกัน เตะบอลด้วยกัน บางครั้งก็นัดไปเที่ยวสยาม ไม่ได้ทำอะไรหรอก ก็แค่เดินเที่ยวไม่ได้ซื้ออะไร เราแค่เดินไปคุยไปถึงเรื่องที่เราอยากจะคุยกับเพื่อน ไม่แม้แต่จะร้องเพลง ดูหนัง แต่พวกเราก็มีความสุขกัน
และช่วงนี้ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ผมที่คิดถึงเพื่อนเก่า พวกเราต่างก็คิดถึงกันแบบไม่ได้นัดหมาย เพื่อนของผมบางคนที่แม้จะสนิทกันในห้องแต่คิดว่าอีกไม่นานก็คงไม่ได้ติดต่อกันกลับโทรมาหาผมก่อน บางคนที่ไม่ชอบอ่านนิยายหรือดูการ์ตูนยังพยายามหาลิงค์นิยายผมจนเจอและเข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจผม จะมีสักกี่คนกันที่อวยพรให้เพื่อนของเขาโชคดีจากใจจริงแบบนี้
วันนี้ผมยังเจอรุ่นน้องที่ตามอ่านนิยายผม เขารู้ว่าใกล้จะถึงวันเกิดของผมก็ชวนผมไปเลี้ยงฉลอง แม้ผมจะไม่ว่างเพราะมีกิจกรรมของคณะ แต่ก็ยังพยายามหาเวลาว่างในวันถัดมาเพื่อพาผมไปดูหนังด้วย โดยรุ่นน้องคนนี้จะเลี้ยงหนังผม แค่นี้ผมก็ปลื้มใจแล้ว นอกจากนี้ก็ยังเจออาจารย์ที่ผมเคารพรัก พุดคุยกันเรื่อยเปื่อยทั่วไป บรรยากาศเก่าๆก็กลับมาอีก
แม้จะยึดติดกับวันเวลาในอดีต แต่สิ่งเหล่านี้กลับทำให้ผมรู้ว่าผมควรก้าวต่อไป แต่ละคนให้กำลังใจผมเยอะมาก ทำให้ผมนึกอยากลองที่จะตั้งใจเรียน ตั้งใจเขียนนิยาย และเต็มที่กับชีวิตนักศึกษาต่อไปอีกสักพัก จนกว่าผมจะหมดกำลังใจ หรือเพื่อนๆไม่มีกำลังใจให้ผมแล้ว
ผมคิดถึงเพื่อนๆทุกคนจากใจจริง
ผมขออวยพรล่วงหน้าก่อนวันเกิดของผม(วันที่4 กค. ที่ผมไม่ว่างเพราะต้องไปกิจกรรมคณะ) ให้เพื่อนสธ. รุ่นน้อง และอาจารย์ทุกคนขอจงมีแต่ความสุขตลอดไปด้วยเถอะ สาธุ
ผมจะรีบเรียนมหาลัยให้จบ เพื่อกลับมาพบปะกับเพื่อนเก่าทุกคนอีกครั้ง
ไม่บอก
เขียนโดย
( () /v\ P l_ I ( /\ T E l)
แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม
27 มิ.ย. 51
242
3
ความคิดเห็น
ยินดีที่ได้รู้จักนะคร๊ะ
HBD.....
เอ่อ..ชีวิตมัธยมเปงอารายที่สนุ๊กกกกสนุกคร่ะTT^TT
(อยากได้เดจาวูอ่ะ ยางมีอยู่ม๊ายยยยยT~T)
PS. แกล้งงอนอย่างนี้เพื่อให้เธอง้อ รู้ไหมหนอฉันรออยู่นะ ชอบเวลาที่เธอ เอาใจฉัน นี่ถ้าไม่รักไม่แกล้งให้ง้อ จะไม่แกล้งหน้างออย่างนั้น ถ้ารักกัน ยอมหน่อยนะเธอ