ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศาสตราคู่กู้แผ่นดิน

    ลำดับตอนที่ #167 : เล่ม 5.2 - ตอนที่ 67.2 แรกประกาศศักดา (3)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.04K
      0
      7 มิ.ย. 51

    “อาหารเช้าพร้อมแล้วพี่โรส” เทโอกล่าวพร้อมเปิดประตูเข้ามาที่ห้องนอนของหญิงสาว
                    หญิงสาวรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษเมื่อพบว่าตนเองตื่นขึ้นมาบนที่นอนอันหนานุ่ม ชีวิตที่ไม่ต้องออกผจญภัยท้าทายความเสี่ยงมันช่างสงบสุขและแสนสบายเสียนี่กระไร แต่หญิงสาวก็มิอาจหลอกตัวเองได้นานเกินสิบอึดใจ เมื่อคำนึงได้ว่าเหล่าสหายและผู้คนหมู่มากกำลังตกอยู่ในอันตราย จึงลุกขึ้นผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปที่ห้องอาหาร
                    ลุงกอร์ดอนอยู่ในชุดที่น่าเกรงขามเช่นเคย ทันทีที่โรสเปิดประตูเข้าไปลุงก็เดินเข้ามาโอบหัวไหล่ด้วยความเอ็นดู กล่าวต้อนรับหลานสาวที่รักราวกับเป็นธิดาในไส้ของตนว่า “ตลอดหลายปีมานี้เจ้าไม่เคยห่างเหินบ้านไปเป็นเวลานานมาก่อน การเดินทางครั้งนี้ทำให้ข้าคิดถึงอยู่ไม่เสื่อมคลาย พวกลุงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หลานโรสกลับมาเยือน แม่ครัวได้เตรียมอาหารพิเศษมีแต่ของที่เจ้าชอบทั้งนั้น นั่นลงก่อนแล้วพวกเราค่อยสนทนากัน”
    จอมแพทย์วีที่นั่งอยู่ด้านข้างกล่าวสนับสนุนว่า “ท่าทางหลานโรสจะมีเรื่องอัดอั้นตันใจใช่หรือไม่ ในเมื่อมาถึงหมู่บ้านเงาจันทร์แห่งนี้แล้วก็สามารถบอกเล่าให้พวกเราฟังได้อย่างเต็มที่ ปัญหาทุกประการก็จะค่อยๆคลี่คลายลงได้เอง”
    โรซาไลน์พยักหน้ากล่าวว่า “ขอบคุณท่านลุง ท่านหมอ” จากนั้นจึงนั่งลงข้างเทโอนั่งรับประทานอาหารเช้าอย่างเอร็ดอร่อย
    บุคคลทั้งสี่ที่มิได้สนทนาตามประสาคนใกล้ชิดมานานก็คุยเรื่องสัพเพเหระในระหว่างเวลารับประทานอาหาร ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกันยกใหญ่ จนกระทั่งช่วงเวลาอาหารผ่านพ้นไปลุงกอร์ดอนที่มีศักดิ์เป็นหัวหน้าหมู่บ้านจึงออกปากถามว่า “หลานโรสมีเรื่องอันใดที่จะปรึกษาพวกเราหรือ?
    “ท่านลุงและท่านหมอคงจะทราบดีถึงสถานการณ์ทางชายแดนฝั่งตะวันตก ว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้นจนกลายเป็นสงครามระหว่างเมืองเจนีสและจักรวรรดินอร์ หลานไม่อยากจะกล่าวอ้อมค้อมอันใด จากการที่หลานได้ออกไปเผชิญโลกกว้างภายนอกเป็นเวลาเกือบเดือนก็ได้เข้าไปพัวพันกับเรื่องราวเหล่านี้จนมิอาจถอนตัวขึ้น สหายทั้งสองซึ่งก็คือลูทและบลูรวมไปถึงมือปราบไกได้พยายามอย่างสุดชีวิตในการยับยั้งสงครามและการปฏิวัติของเวอร์น่อน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มิอาจจะต้านทานได้ พวกเราจึงถูกท่านผู้ปกครองคาร์ลแห่งนอร์ตะวันออกส่งมายังเจนีสเหนือเพื่อเป็นกองกำลังสนับสนุนช่วยเหลือผู้นำการาดอส ซึ่งกองกำลังของกลุ่มปลดปล่อยเจนีสนั้นเป็นรองอยู่มาก แต่พอหลานไปถึงที่เมืองเจนีสเหนือกลับเห็นสภาพของผู้นำการาดอสที่บาดเจ็บสาหัสปางตาย หลานและครูชานอนที่เชี่ยวชาญเอลแห่งแสงทดลองใช้เอลรักษาก็มิอาจเยียวยาได้ จนเราทั้งสองได้ข้อสรุปว่าการที่ผู้นำการาดอสสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ถึงทุกวันนี้ก็เป็นเพราะศาสตร์แห่งซันภายใน ที่แข็งขืนต่อยมทูตยืนหยัดประคองชีวิตไว้ หลานจึงรีบเดินทางทั้งกลางวันกลางคืนจากเมืองเจนีสเหนือตัดเข้าป่ามาทางลัดเพื่อมาขอความช่วยเหลือจากท่านหมอ ขอให้ท่านเห็นแก่ประชาราษฎร์อีกหลายหมื่นคนได้โปรดช่วยชีวิตผู้นำการาดอสไว้ด้วยเถิด” โรซาไลน์กล่าวขอร้องด้วยน้ำเสียงที่ทั้งจริงใจและหนักแน่น
    หัวหน้าหมู่บ้านกอร์ดอนและจอมแพทย์วีทั้งคู่ต่างทอดถอนหายใจพร้อมๆกัน ทั้งสองส่ายหน้าไปมาจนทำให้โรซาไลน์เกิดความสงสัย จนต้องเอ่ยปากถามว่า “มีปัญหาอันใดอย่างนั้นหรือท่านลุง ท่านหมอ?
    ลุงกอร์ดอนเป็นคนกล่าวตอบว่า “มิใช่ปัญหาเรื่องที่ท่านหมอไม่ยอมหยิบยื่นความช่วยเหลือหรอกหลานเอย แต่เป็นเพราะว่าบุคคลที่ตายไปแล้วต่อให้แพทย์เทวดามาก็มิอาจปลุกชีพขึ้นได้”
    “ว่ากระไร!?” โรซาไลน์อุทานขึ้นมา “ไม่จริง ท่านผู้นำการาดอสสิ้นชีพได้อย่างไร?
    จอมแพทย์วีหยิบยื่นจดหมายฉบับหนึ่งส่งให้โรซาไลน์พร้อมกล่าวว่า “นี่เป็นจดหมายข่าวลับสุดยอดจากทางสำนักข่าวพิราบรายวัน หากมิใช่สมาชิกที่ถูกคัดเลือกให้มีสิทธิ์รับรู้ข่าวสารสำคัญแล้วก็มิอาจรับข่าวได้ จดหมายฉบับนี้พึ่งจะมาถึงเมื่อช่วงเช้าตรู่นี่เอง”
    สตรีผมทองอ่านจดหมายฉบับนั้นเสร็จสิ้นก็พลันเข่าอ่อน กล่าวขึ้นมาอย่างสิ้นหวังว่า “แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไร? อนาคตของเมืองเจนีสหมดหนทางเยียวยาแล้วจริงๆหรือ?
    เทโอน้องชายเอ่ยปากขึ้นเป็นครั้งแรกว่า “มิใช่อย่างนั้นหรอกพี่โรส ในตอนนี้มีข่าวลือหนาหูแพร่สะพัดมาว่าก่อนตายผู้นำการาดอสยกการปกครองให้กับมือปราบไก ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มตัวจากกุนซือราเมสและแม่ทัพมอริแกน หากมือปราบผู้นี้มีฝีมือที่แท้จริง ข้าเชื่อมั่นว่ากองกำลังปลดปล่อยเจนีสจะยังคงยืนหยัดต่อไปได้ พี่เองที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขาในช่วงหลายวันมานี้ย่อมทราบดีมิใช่หรือ?
    “มีเรื่องอย่างนี้ด้วยหรือ?” โรซาไลน์โพล่งออกมา ใจหนึ่งรู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของบุรุษผู้นี้แต่อีกใจหนึ่งก็ช่วยส่งกำลังใจไปให้ หากมิใช่บุรุษเหล็กคนนี้แล้วในสถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่มีใครอื่นที่เหมาะสมไปกว่าเขาอีก
    ลุงกอร์ดอนพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ใช่แล้ว ข่าวที่แม่นยำรายงานมาว่ามือปราบไกดำรงตำแหน่งนี้อยู่จริงๆ แต่ถ้าหากข้าเดาไม่ผิดทางนอร์คงจะไม่ปล่อยให้ขุนศึกคนใหม่ของเจนีสปีกกล้าขาแข็งหรอก มิดาสต้องดำเนินการอะไรสักอย่าง มีความเป็นไปได้ที่มันจะส่งทหารบุกเมืองเจนีสโดยฉับพลัน”
    โรซาไลน์ลุกขึ้นทันที กล่าวว่า “ลุงกอร์ดอนโปรดช่วยพวกเขาด้วยเถิด ข้าทราบว่าท่านลุงในสมัยก่อนเคยจับอาวุธต่อต้านพวกของเวอร์น่อนมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจจะร้ายแรงยิ่งกว่าครั้งนั้น หากได้ยอดฝีมือเช่นท่านลุงช่วยกอบกู้สถานการณ์ของกองทัพเจนีส พวกเราอาจจะมีหวังมากยิ่งขึ้น”
    ลุงกอร์ดอนทอดถอนหายใจอีกครา กล่าวว่า “หากลุงทำได้ก็คงจะลงมือไปแล้ว แต่หลานต้องทราบว่าลุงมิอาจกระทำเช่นนั้นได้อีก”
    “เพราะเหตุใดหรือ?
    “หลานต้องลองคิดให้ถี่ถ้วน ในขณะนี้ลุงถือว่าเป็นบุคคลที่ดำรงตำแหน่งอันเป็นทางการของนครมิสต์ ถ้าหากลุงยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกรณีพิพาทระหว่างจักรวรรดินอร์และเจนีสเรื่องราวจะเป็นอย่างไร? แน่นอนพวกมันก็จะเหมารวมได้ว่าทางนครมิสต์ยื่นมือเข้าไปสอด สงครามจะแพร่กระจายจากรัฐหนึ่งไปอีกรัฐหนึ่งทันที ถึงแม้ว่าลุงยืนยันว่าดำเนินการในฐานะส่วนตัว ฝ่ายตรงข้ามก็คงจะไม่ยึดถือเอาเป็นเหตุผล แต่จะใช้เป็นข้ออ้างอันชอบธรรมในการบุกนครมิสต์ หลานอยากเห็นหมู่บ้านเงาจันทร์ลุกเป็นไฟอย่างนั้นหรือ? ในฐานะของหัวหน้าหมู่บ้านลุงมิอาจกระทำตามคำร้องขอได้ ถึงแม้ว่าในฐานะของลุงของหลานจะต้องการก็เถอะ และลุงก็เชื่อว่าแมกซิมิเลี่ยนพ่อของลูทก็คงจะคิดเช่นเดียวกัน” อดีตนักล่าสมบัติตัวฉกาจค่อยๆอธิบายให้กับหลานฟัง
    โรซาไลน์มีสีหน้าหม่นหมองลงในทันที กล่าวว่า “แต่ถ้าหากท่านลุงไม่ไปช่วย เมืองเจนีสเหนือก็อาจจะต้องลุกเป็นไฟ หลานก็ไม่อยากเห็นภาพเช่นนั้นเหมือนกัน ลุงเองที่เคยผ่านสงครามมาครั้งหนึ่งแล้วก็คงจะเคยเห็นภาพที่เมืองเจนีสเหนือลุกเป็นไฟมาก่อน หลานคิดว่าลุงคงไม่อยากเห็นภาพเช่นนั้นอีกใช่หรือไม่?
    กอร์ดอนพยักหน้าโดยมิอาจกล่าววาจาอันใด ภาพความวอดวายในอดีตเมื่อยี่สิบห้าปีก่อนยังคงฝังตรึงจิตใจชายวัยห้าสิบเศษผู้นี้อย่างไม่ลืมเลือน
    ยินเสียงของจอมแพทย์ชรานี่นั่งอยู่ด้านข้างกล่าวขึ้นแทนว่า “หากหลานโรสไม่รังเกียจ ข้าก็อยากจะไปเยือนเมืองเจนีสเหนือดูสักครั้ง เผื่อมีเรื่องราวประการใดก็อาจจะช่วยได้ ตัวข้านั้นไม่ผูกติดอยู่กับนครมิสต์หรือประเทศใดๆ หากจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือก็คงจะไม่เป็นอะไรกระมัง”
    ทั้งโรซาไลน์และเทโออุทานขึ้นดังอา ทั้งสองไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยินคำกล่าวเช่นนี้จากหมอวี โรซาไลน์จึงกล่าวขึ้นว่า “ขอบคุณท่านหมอวี เพียงแต่ที่เมืองเจนีสเหนือนั้นอันตรายยิ่งนัก ท่านหมอโปรดอย่าได้ห่างจากหลาน พอเดินทางไปถึงที่นั่นแล้วหลานจะร้องขอให้แม่ทัพมอริแกนช่วยหาผู้คุ้มกันส่วนตัวให้”
    ทันใดนั้นเองลุงกอร์ดอนก็หัวเราะฮาขึ้นดังลั่น จนผู้คนทั้งหลายไม่ทราบว่าในน้ำเต้านี้ขายยาอันใด
    “ข้าพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือท่านลุง?
    “ยอดคนอย่างหมอวีไม่จำเป็นต้องให้หลานคุ้มครองหรอก ต่อให้ข้าลงมือด้วยตัวเองก็ยังไม่แน่ว่าจะทำร้ายท่านหมอได้สักแผลหนึ่ง” ลุงกอร์ดอนตอบ
    คนหนุ่มสาวทั้งสองหันไปมองหน้ากันด้วยความสงสัย จากนั้นก็หันไปมองดูหมอวีอีกคราหนึ่ง ในใจคิดคำนึงตรงกันว่า แพทย์ชราผู้นี้น่ะหรือเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง?’
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×