ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #25 : ต้นกำเนิดลมปราณ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.25K
      73
      3 ต.ค. 60


         หลังจากกินข้าวต้มฝีมือตาเฒ่าเรียบร้อยแล้ว  ผมก็ช่วยเก็บช่วยล้างไปตามประสาเพื่อตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ  ระหว่างนั้นเองที่ศอกเจ้ากรรมดันไปพลาดโดนถ้วยใบเล็กบนโต๊ะร่วงหล่นลงมา  พริบตานั้นคลื่นพลังลมปราณจากร่างก็ทำงานโดยอัตโนมัติ  มันแผ่พุ่งเข้ารับถ้วยที่ตกได้ทันท่วงทีก่อนจะพลิกกลับขึ้นไปวางบนโต๊ะได้อย่างนิ่มนวล  แหม่ช่างเป็นพลังที่สะดวกสบายเสียเหลือเกินนะนี่?

         "โฮะโฮ่!  พ่อหนุ่มเจ้าฝึกวิชายุทธเช่นกันรึนี่?"

         ตาเฒ่าทำท่าประหลาดใจเล็กน้อย  แต่ผมสิโคตรประหลาดใจเลยที่ตาแก่เก็บของป่าตัวเล็กหลังโก่งแบบนี้รู้เรื่องวิชาลมปราณด้วย  หรือว่าแกจะเป็นยอดฝีมือในตำนานเหมือนที่เห็นในหนังกำลังภายในจริง ๆ กันหว่า

         "เอ่อ... เมื่อครู่ข้าเผลอใช้ออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจน่ะ  คงจะเป็นเพราะพรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่เกิดกระมัง?  ข้าไม่เคยฝึกไอ้วิชาอะไรนั่นหรอก"

         ผมโกหกออกไปเพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกต  ขืนบอกความจริงออกไปไม่แน่ว่าอาจโดนพวกเทียนซานกับห้าสำนักใหญ่ตามมาถล่มถึงที่อีก  ตาแก่ได้ยินก็ลูบคางเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่

         "อืมม พรสวรรค์แต่เกิดงั้นรึ?  เจ้านี่ช่างโชคดีจริง  ข้าเองสมัยหนุ่ม ๆ ก็เคยฝากตัวเป็นศิษย์สำนักใหญ่ในเมืองเหมือนกันนา  ถึงจะไม่ได้เรื่องได้ราวจนต้องออกจากวงการมาเก็บของป่าเช่นนี้ก็เถอะ! ฮ่า ๆ"

         แล้วแกก็คุยฟุ้งเรื่องในอดีตเสียยกใหญ่  ว่าเคยท้าดวลตัวต่อตัวกับปรมาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรทอง  เคยสู้กับเส้าเทียนอิ้งประมุขพรรคเทียนซาน (ก่อนทำพิธีเทียบร่างเชิญวิญญาณ) โม้ขนาดว่าเคยอัดกับเทพเซียนในอดีตมาแล้ว โหย... ตื่นก่อนดีกว่ามั้ยตาแก่  ถ้าเคยทำทั้งหมดที่ว่ามาจริงป่านนี้คนยกย่องเป็นยอดยุทธเหนือจอมยุทธทั้งโลกแล้ว  ไม่มาต๊อกต๋อยเดินเก็บของป่าแบบนี้หรอก  แถมเคยตบกับจอมมารยุคก่อนนี่อายุก็น่าจะเกินร้อยแล้วมั้งแบบนั้น?  ขี้ฮกทั้งเพ!

         "นี่เรื่องจริงนะ! ข้าไม่โกหกเอ็งหรอก ฮ่า ๆ"

         ว่าแล้วแกก็โชว์สกิลการเดินลมปราณให้ดู  แน่นอนว่ากระแสปราณที่วิ่งผ่านทั่วร่างของตาแก่ไม่อาจเทียบกับพวกตัวระดับท็อปของวงการได้เลยสักนิด  แต่เดี๋ยวนะ? รู้สึกเหมือนมีอะไรแปลก ๆ ต่างไปจากทุกทีนี่หว่า  ตรงไหนกันนะที่มันแปลก ๆ ไป?

         "ท่าทางจะรู้สึกตัวแล้วนะพ่อหนุ่ม  นี่ล่ะคือเคล็ดลับสุดยอดของวิชาที่ตกทอดกันมาของสำนักข้า ลมปราณทวนทิศ  ยังไงเล่า!"

         พออีกฝ่ายพูดมาแบบนี้ผมเลยนึกออกในที่สุด  ว่าตามปกติแล้วกระแสปราณที่ไหลเวียนตามร่างกายที่รู้สึกสัมผัสได้จากทุกคนนั้นมักจะไหลไปในทางเดียวกันเสมอ  คือไหลวนจากขวาไปซ้ายเวียนไปจนทั่วร่างกาย  แต่กระแสปราณของตาแก่นี่กลับตรงข้ามกันเลย  นั่นคือไหลจากทางซ้ายย้อนไปขวา  เฮ้ยเพิ่งรู้นะว่ามีคนทำแบบนี้ได้ด้วย!  เอ่อ... แล้วจะทำไปทำไมกันหว่า?  มันให้ผลต่างกับปกติยังไงกันแน่?

         "นี่เจ้ามัวแต่เหม่อลอยไม่ได้ฟังที่ครูอาจารย์สอนสั่งเลยหรือ  ไม่รู้หรือไงว่าลมปราณที่เดินกลับด้านจะทำให้เกิดอะไรขึ้น!"

         คือจริง ๆ ผมก็ไม่ได้อยากรู้หรือสนใจเรื่องนี้นักหรอก  แต่ในเมื่อตาแก่คะยั้นคะยอขนาดนี้เลยต้องนั่งฟังแกเล็คเชอร์เสียหน่อย  ถือว่าฆ่าเวลาแก้เบื่อไปในตัวด้วย  เฒ่าเก็บของป่าจึงได้เริ่มสาธยายตั้งแต่ความหมายแรกเริ่มของลมปราณกันเลยทีเดียว  โดยลมปราณนั้นมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับระบบไหลเวียนของพลังงานในร่างกาย  กล่าวคือการเดินลมปราณเป็นการดึงพลังที่แฝงในร่างออกมาใช้นั่นเอง  อธิบายคร่าว ๆ เส้นเดินพลังของมนุษย์ปกติจะเริ่มจากขวาไปซ้าย  เมื่อปรับสภาพลมปราณให้เข้าที่  พลังภายในจะวิ่งไปตามแนวดังกล่าวและปะทุออกจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หัวไหล่ ศอก เข่า ศีรษะ ฯลฯ  กำลังที่ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับพลังวัตรสะสมของแต่ละบุคคล

         "พูดให้ชัด ๆ คือเส้นพลังจากขวาไปซ้ายนั้นสอดคล้องกับหลักธรรมชาติในจักรวาล  หากแต่ถ้าฝืนธรรมชาติผลที่ได้จะย้อนกลับเป็นอีกแบบไงล่ะ!"

         หากว่าการเดินพลังตามปกติคือการสร้างเสริมกำลังในร่างให้แข็งแกร่ง  การเดินพลังทวนทิศก็จะทำให้พลังนั้นอ่อนลงหรือดับสลายไปนั่นเอง  อ้าวแล้วแบบนี้จะมีประโยชน์อะไรกันหว่า  ยิ่งเดินพลังก็ยิ่งอ่อนแอลงไม่ใช่เรอะ!  ไร้สาระจริง ๆ ตาแก่นี่  ผมนี่ออกอาการเซ็งเลยว่าตกลงตรูมานั่งฟังเรื่องปัญญาอ่อนให้เสียเวลาตัวเองทำไมกันเนี่ย?

         "เจ้าพูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่รู้ถึงพิษสงของมันล่ะสิ  ช่วยไม่ได้ข้าจะแสดงให้ดูสักกระบวนท่าก็แล้วกัน ฮ่าห์!"

         ว่าแล้วตาแก่ก็ฝืนสังขารเดินลมปราณกลับด้านทันที  ก่อนจะฟาดฝ่ามือใส่โต๊ะตัวที่ผมนั่งกินข้าวต้มเมื่อกี้อย่างรุนแรง  ผลที่ได้คงไม่ต้องถาม... สภาพแหลกเละดูไม่ได้เลยเชียว  แต่เป็นมือของตาแก่นะไม่ใช่โต๊ะ!

         "อ๊าก! เป็นไปไม่ได้ ๆ"

         ผมถอนหายใจยาวในระหว่างที่ช่วยปฐมพยาบาลมือของแกแบบตามมีตามเกิด  เวรกรรมอายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วดันเล่นพิเรนทร์ไม่ได้ดูสังขารตัวเองเล๊ยย!  ตาเฒ่านั่งหงอยคอตกเพราะวิชาสุดภาคภูมิใจของแกเหลวไม่เป็นท่า  เอาน่าอย่างน้อยก็ช่วยให้ผมได้เรียนรู้เรื่องของพลังลมปราณขึ้นมาอีกนิด  และด้วยความเป็นห่วงคืนนั้นผมจึงอาสาอยู่ค้างคืนเป็นเพื่อนแกเพื่อคอยดูไม่ให้ตาแก่ทำอะไรบ้าห่าม ๆ อีก 


    @@@@@@@@@@@@


         กาลผ่านไปกว่าค่อนคืน  ตาเฒ่ารอจังหวะให้เจ้าหนุ่มนั่นนอนหลับสนิทเสียก่อน  แล้วค่อยย่องดอดออกจากกระท่อมเพื่อมาพบกับพลพรรคเทียนซานนำโดยเส้าเทียนอิ้งในร่างสุนัขน้อยน่าชังที่ยืนสังเกตความเป็นไปอยู่นานแล้ว 

         "ไม่นึกว่าจะได้พบกันอีกในลักษณะเช่นนี้นะตาเฒ่า!"

         เส้าเทียนอิ้งเอ่ยทัก  ทันใดนั้นร่างของตาเฒ่าหลังโก่งก็กลายสภาพกลับไปเป็นตาแก่ขี้เมาที่โชคดีเคยเจอในเมืองก่อนหน้านี้  มัจจุราชหัวเราะหึหึในลำคอก่อนจะบอกกับจอมมารว่า

         "เป็นไง  อยู่ในร่างสุนัขแล้วสะดวกสบายดีใช่มั้ย?"

         เส้าเทียนอิ้งคำรามฮึ่มฮั่มในลำคอ  ที่แท้เป็นฝีมือของเจ้านี่เองในการขัดขวางพิธีเทียบร่างเชิญวิญญาณครั้งล่าสุด  อย่างไรก็ดี  จอมมารสั่งห้ามมิให้ลูกพรรคลงมือทำร้ายเจ้ามัจจุราชตนนี้  เพราะมันมีเรื่องต่าง ๆ มากมายให้ต้องสอบถามจนแน่ใจเสียก่อน  เกี่ยวเนื่องกับเรื่องวิชาเซียนและมิติกาลเวลา  รวมถึงภพชาติอื่นในจักรวาลอีกด้วย...


    จบตอน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×