ลำดับตอนที่ #25
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ต้นกำเนิดลมปราณ
หลังจากกินข้าวต้มฝีมือตาเฒ่าเรียบร้อยแล้ว ผมก็ช่วยเก็บช่วยล้างไปตามประสาเพื่อตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างนั้นเองที่ศอกเจ้ากรรมดันไปพลาดโดนถ้วยใบเล็กบนโต๊ะร่วงหล่นลงมา พริบตานั้นคลื่นพลังลมปราณจากร่างก็ทำงานโดยอัตโนมัติ มันแผ่พุ่งเข้ารับถ้วยที่ตกได้ทันท่วงทีก่อนจะพลิกกลับขึ้นไปวางบนโต๊ะได้อย่างนิ่มนวล แหม่ช่างเป็นพลังที่สะดวกสบายเสียเหลือเกินนะนี่?
"โฮะโฮ่! พ่อหนุ่มเจ้าฝึกวิชายุทธเช่นกันรึนี่?"
ตาเฒ่าทำท่าประหลาดใจเล็กน้อย แต่ผมสิโคตรประหลาดใจเลยที่ตาแก่เก็บของป่าตัวเล็กหลังโก่งแบบนี้รู้เรื่องวิชาลมปราณด้วย หรือว่าแกจะเป็นยอดฝีมือในตำนานเหมือนที่เห็นในหนังกำลังภายในจริง ๆ กันหว่า
"เอ่อ... เมื่อครู่ข้าเผลอใช้ออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจน่ะ คงจะเป็นเพราะพรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่เกิดกระมัง? ข้าไม่เคยฝึกไอ้วิชาอะไรนั่นหรอก"
ผมโกหกออกไปเพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกต ขืนบอกความจริงออกไปไม่แน่ว่าอาจโดนพวกเทียนซานกับห้าสำนักใหญ่ตามมาถล่มถึงที่อีก ตาแก่ได้ยินก็ลูบคางเหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่
"อืมม พรสวรรค์แต่เกิดงั้นรึ? เจ้านี่ช่างโชคดีจริง ข้าเองสมัยหนุ่ม ๆ ก็เคยฝากตัวเป็นศิษย์สำนักใหญ่ในเมืองเหมือนกันนา ถึงจะไม่ได้เรื่องได้ราวจนต้องออกจากวงการมาเก็บของป่าเช่นนี้ก็เถอะ! ฮ่า ๆ"
แล้วแกก็คุยฟุ้งเรื่องในอดีตเสียยกใหญ่ ว่าเคยท้าดวลตัวต่อตัวกับปรมาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักมังกรทอง เคยสู้กับเส้าเทียนอิ้งประมุขพรรคเทียนซาน (ก่อนทำพิธีเทียบร่างเชิญวิญญาณ) โม้ขนาดว่าเคยอัดกับเทพเซียนในอดีตมาแล้ว โหย... ตื่นก่อนดีกว่ามั้ยตาแก่ ถ้าเคยทำทั้งหมดที่ว่ามาจริงป่านนี้คนยกย่องเป็นยอดยุทธเหนือจอมยุทธทั้งโลกแล้ว ไม่มาต๊อกต๋อยเดินเก็บของป่าแบบนี้หรอก แถมเคยตบกับจอมมารยุคก่อนนี่อายุก็น่าจะเกินร้อยแล้วมั้งแบบนั้น? ขี้ฮกทั้งเพ!
"นี่เรื่องจริงนะ! ข้าไม่โกหกเอ็งหรอก ฮ่า ๆ"
ว่าแล้วแกก็โชว์สกิลการเดินลมปราณให้ดู แน่นอนว่ากระแสปราณที่วิ่งผ่านทั่วร่างของตาแก่ไม่อาจเทียบกับพวกตัวระดับท็อปของวงการได้เลยสักนิด แต่เดี๋ยวนะ? รู้สึกเหมือนมีอะไรแปลก ๆ ต่างไปจากทุกทีนี่หว่า ตรงไหนกันนะที่มันแปลก ๆ ไป?
"ท่าทางจะรู้สึกตัวแล้วนะพ่อหนุ่ม นี่ล่ะคือเคล็ดลับสุดยอดของวิชาที่ตกทอดกันมาของสำนักข้า ลมปราณทวนทิศ ยังไงเล่า!"
พออีกฝ่ายพูดมาแบบนี้ผมเลยนึกออกในที่สุด ว่าตามปกติแล้วกระแสปราณที่ไหลเวียนตามร่างกายที่รู้สึกสัมผัสได้จากทุกคนนั้นมักจะไหลไปในทางเดียวกันเสมอ คือไหลวนจากขวาไปซ้ายเวียนไปจนทั่วร่างกาย แต่กระแสปราณของตาแก่นี่กลับตรงข้ามกันเลย นั่นคือไหลจากทางซ้ายย้อนไปขวา เฮ้ยเพิ่งรู้นะว่ามีคนทำแบบนี้ได้ด้วย! เอ่อ... แล้วจะทำไปทำไมกันหว่า? มันให้ผลต่างกับปกติยังไงกันแน่?
"นี่เจ้ามัวแต่เหม่อลอยไม่ได้ฟังที่ครูอาจารย์สอนสั่งเลยหรือ ไม่รู้หรือไงว่าลมปราณที่เดินกลับด้านจะทำให้เกิดอะไรขึ้น!"
คือจริง ๆ ผมก็ไม่ได้อยากรู้หรือสนใจเรื่องนี้นักหรอก แต่ในเมื่อตาแก่คะยั้นคะยอขนาดนี้เลยต้องนั่งฟังแกเล็คเชอร์เสียหน่อย ถือว่าฆ่าเวลาแก้เบื่อไปในตัวด้วย เฒ่าเก็บของป่าจึงได้เริ่มสาธยายตั้งแต่ความหมายแรกเริ่มของลมปราณกันเลยทีเดียว โดยลมปราณนั้นมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับระบบไหลเวียนของพลังงานในร่างกาย กล่าวคือการเดินลมปราณเป็นการดึงพลังที่แฝงในร่างออกมาใช้นั่นเอง อธิบายคร่าว ๆ เส้นเดินพลังของมนุษย์ปกติจะเริ่มจากขวาไปซ้าย เมื่อปรับสภาพลมปราณให้เข้าที่ พลังภายในจะวิ่งไปตามแนวดังกล่าวและปะทุออกจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หัวไหล่ ศอก เข่า ศีรษะ ฯลฯ กำลังที่ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับพลังวัตรสะสมของแต่ละบุคคล
"พูดให้ชัด ๆ คือเส้นพลังจากขวาไปซ้ายนั้นสอดคล้องกับหลักธรรมชาติในจักรวาล หากแต่ถ้าฝืนธรรมชาติผลที่ได้จะย้อนกลับเป็นอีกแบบไงล่ะ!"
หากว่าการเดินพลังตามปกติคือการสร้างเสริมกำลังในร่างให้แข็งแกร่ง การเดินพลังทวนทิศก็จะทำให้พลังนั้นอ่อนลงหรือดับสลายไปนั่นเอง อ้าวแล้วแบบนี้จะมีประโยชน์อะไรกันหว่า ยิ่งเดินพลังก็ยิ่งอ่อนแอลงไม่ใช่เรอะ! ไร้สาระจริง ๆ ตาแก่นี่ ผมนี่ออกอาการเซ็งเลยว่าตกลงตรูมานั่งฟังเรื่องปัญญาอ่อนให้เสียเวลาตัวเองทำไมกันเนี่ย?
"เจ้าพูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่รู้ถึงพิษสงของมันล่ะสิ ช่วยไม่ได้ข้าจะแสดงให้ดูสักกระบวนท่าก็แล้วกัน ฮ่าห์!"
ว่าแล้วตาแก่ก็ฝืนสังขารเดินลมปราณกลับด้านทันที ก่อนจะฟาดฝ่ามือใส่โต๊ะตัวที่ผมนั่งกินข้าวต้มเมื่อกี้อย่างรุนแรง ผลที่ได้คงไม่ต้องถาม... สภาพแหลกเละดูไม่ได้เลยเชียว แต่เป็นมือของตาแก่นะไม่ใช่โต๊ะ!
"อ๊าก! เป็นไปไม่ได้ ๆ"
ผมถอนหายใจยาวในระหว่างที่ช่วยปฐมพยาบาลมือของแกแบบตามมีตามเกิด เวรกรรมอายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วดันเล่นพิเรนทร์ไม่ได้ดูสังขารตัวเองเล๊ยย! ตาเฒ่านั่งหงอยคอตกเพราะวิชาสุดภาคภูมิใจของแกเหลวไม่เป็นท่า เอาน่าอย่างน้อยก็ช่วยให้ผมได้เรียนรู้เรื่องของพลังลมปราณขึ้นมาอีกนิด และด้วยความเป็นห่วงคืนนั้นผมจึงอาสาอยู่ค้างคืนเป็นเพื่อนแกเพื่อคอยดูไม่ให้ตาแก่ทำอะไรบ้าห่าม ๆ อีก
@@@@@@@@@@@@
กาลผ่านไปกว่าค่อนคืน ตาเฒ่ารอจังหวะให้เจ้าหนุ่มนั่นนอนหลับสนิทเสียก่อน แล้วค่อยย่องดอดออกจากกระท่อมเพื่อมาพบกับพลพรรคเทียนซานนำโดยเส้าเทียนอิ้งในร่างสุนัขน้อยน่าชังที่ยืนสังเกตความเป็นไปอยู่นานแล้ว
"ไม่นึกว่าจะได้พบกันอีกในลักษณะเช่นนี้นะตาเฒ่า!"
เส้าเทียนอิ้งเอ่ยทัก ทันใดนั้นร่างของตาเฒ่าหลังโก่งก็กลายสภาพกลับไปเป็นตาแก่ขี้เมาที่โชคดีเคยเจอในเมืองก่อนหน้านี้ มัจจุราชหัวเราะหึหึในลำคอก่อนจะบอกกับจอมมารว่า
"เป็นไง อยู่ในร่างสุนัขแล้วสะดวกสบายดีใช่มั้ย?"
เส้าเทียนอิ้งคำรามฮึ่มฮั่มในลำคอ ที่แท้เป็นฝีมือของเจ้านี่เองในการขัดขวางพิธีเทียบร่างเชิญวิญญาณครั้งล่าสุด อย่างไรก็ดี จอมมารสั่งห้ามมิให้ลูกพรรคลงมือทำร้ายเจ้ามัจจุราชตนนี้ เพราะมันมีเรื่องต่าง ๆ มากมายให้ต้องสอบถามจนแน่ใจเสียก่อน เกี่ยวเนื่องกับเรื่องวิชาเซียนและมิติกาลเวลา รวมถึงภพชาติอื่นในจักรวาลอีกด้วย...
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น