คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ตอนที่ 18 : สงครามนางฟ้า(กับจอมมาร)
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะแสงแดดจากหน้าต่างที่ลืมเอาม่านลงไว้ตั้งแต่เมื่อคืน สายลมแผ่วๆพัดเอากลิ่นของทะเลเข้ามาในห้อง กลิ่นเค็มๆของทะเลผสมกับอากาศปลอดโปร่งทำให้ฉันละความคิดที่จะนอนต่อก่อนจะพลิกตัวไปด้านข้างเพื่อบิดขี้เกียจน้อยๆ...
โซลนอนอยู่ข้างๆ กำลังหลับตาพริ้ม...เสียงหายใจแผ่วๆอย่างสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าเขากำลังหลับสนิท...
เวลาที่นอนหลับ เหมือนเด็กจังเลยแฮะ
“ อ้าว...ริช...ตื่นแล้วเหรอ”
“อืม...สักพักแล้วล่ะ”
คนถามหลับตาหันหน้าหนีแสงแดดที่ส่องเข้ามาก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วหันมาส่งยิ้มให้ฉัน
“ฉันจะออกไปเดินเล่น นายจะนอนต่อก็ได้นะ เดี๋ยวสายๆฝากนายปลุกคนอื่นๆด้วยแล้วกัน”
ฉันพยักหน้าไปทางคนอีกสองคนที่ยังนอนหลับไม่รู้เรื่อง คนหนึ่งคือเทียนหอมที่นอนข้างๆกันกับฉัน นางฟ้าหลับตาพริ้มให้ความรู้สึกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่บอบบางซะเหลือเกิน...
... อีกคนคือโซล ที่นอนอยู่บนโซฟาตัวกว้าง(จนฉันคิดว่ามันเป็นเตียงขนาดเล็ก ไม่น่าจะสัญชาติโซฟาเลยด้วยซ้ำ) ผ้าห่มที่คาดว่าจะโดนถีบตั้งแต่เมื่อคืนตกลงไปกองอยู่ที่พื้น เซโร่มองตามก่อนจะส่ายหน้าช้าๆแล้วหัวเราะเบาๆ
“ไอ้บ้านี่...หมดมาดดีไซเนอร์ชื่อดังเลยให้ตาย”
“ก็คงจะเหนื่อย ไม่มีเวลานอนนานๆแบบนี้บ่อยๆละมั้ง อย่าพึ่งปลุกเลยนะ นายเองก็นอนต่ออีกหน่อยเถอะ”
“ไม่เอาล่ะ ฉันอยากไปเดินเล่นกับเธอนี่”
“แต่ฉันอยากเดินคนเดียว”
ฉันตัดบทก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นแล้วลงจากเตียงนอนโดยระวังไม่ให้ปลุกเทียนหอมที่นอนอยูข้างๆ ก่อนจะเดินผ่านเซโร่ที่มองตามมาด้วยสายตาผิดหวัง...
...สายตาคู่นั้นทำให้ฉันหวั่นใจ กลัวที่จะใจอ่อนอีกครั้ง...นั่นทำฉันต้องรีบออกไปจากตรงนี้
...ทำไมกันนะ...
กลิ่นเค็มๆของทะเลผสมกับเสียงคลื่นทำให้ใจของฉันสงบ...เกลียวคลื่นที่พัดผ่านเท้าทั้งสองข้างอย่างนุ่มนวลชวนให้รู้สึกผ่อนคลายจากความสับสนที่ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร
...เรื่องเมื่อวาน...การกระทำจากความไร้สติที่เกิดขึ้นในห้อง...
จนถึงเดี๋ยวนี้ฉันก็ยังหาเหตุผลให้กับตัวเองไม่ได้เลยว่าทำไมฉันต้องทำแบบนั้น ทำไมฉันถึงได้ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความรู้สึกแบบนั้น...
ความรู้สึกที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
หรือบางทีฉันอาจจะรู้...แค่ไม่อยากจะยอมรับ
แต่ผู้หญิงที่ใจเต้นเพราะผู้ชายสองคน...เลวที่สุด...แต่ฉันก็ยังทำ
“ทำไมหนีมานั่งคนเดียวละคะ”
“...”
ฉันเมินหน้าหนีคนที่เดินมานั่งข้างๆ เจ้าของรอยยิ้มหวานๆที่ฉันไม่เคยมี...รอยยิ้มที่ทำให้ฉันเคยเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้เห็น แต่ในตอนนี้ มันกลับทำให้ฉันรู้สึกรำคาญ...รอยยิ้มเดิมที่ไม่เหมือนเดิม...
เทียนหอมหลับตาพลางสูดอากาศของทะเลเข้าเต็มปอดแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ดวงตาคู่สวยทอดมองออกไปไกล มองจากแววตาที่กำลังครุ่นคิด...ฉันรู้ว่ายัยนี่กำลังคิดอะไรอยู่...แต่ที่ยังไม่รู้คือ ยัยนางฟ้านี่จะมาไม้ไหน
“เธอตามฉันออกมาทำไม”
“ไม่รู้เหมือนกันสิคะ...”
“วันนี้ดูเธอสดชื่นเป็นพิเศษนะ มีอะไรอยากพูดกับฉันรึไง”
ฉันพูดเสียงเรียบ ตามปกติฉันกับเทียนหอมก็ไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรกันอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะไปไหนมาไหนด้วยกันตอนอยู่ในโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ก็เถอะ แต่ก็แค่เพราะยัยนี่เป็นนางฟ้าของเซโร่
และจอมมารกับนางฟ้า ไม่มีทางที่จะสนิทกันถึงขั้นนั้นได้หรอก...
ยิ่งเธอเป็นนางฟ้าของคนที่ฉันมีใจ...ฉันยิ่งอยากอยู่ให้ห่าง
แล้ววันนี้ ยัยนี่เป็นฝ่ายมาหาฉันก่อนทั้งๆที่ปกติเป็นฝ่ายหนีตลอด แถมยังมาด้วยสีหน้าแบบนี้ จะให้ฉันเข้าใจว่ายังไงกันล่ะ
“ริชคะ...”
“ว่าไง”
“คุณคิดยังไง...กับ...โซล”
ผิดคาดที่คำถามที่ฉันคิดว่าจะถามถึงความรู้สึกที่ฉันมีให้กับเซโร่ กลับกลายเป็นผู้ชายอีกคนที่ทำให้ฉันสับสนอยู่จนถึงเดี๋ยวนี้
เหมือนวีดิโอที่กรอกลับอย่างรวดเร็ว ภาพหลายอย่างโลดแล่นอยู่ในความคิด เทียนหอมจ้องหน้าฉันเหมือนกับกำลังรอลุ้นผลสอบ แม้ว่าใบหน้านั้นจะยังคงยิ้มสวยส่งมาให้ แต่ฉันก็มองเห็นได้ถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในนั้น
หลายสิ่งที่ฉันมองข้ามไปเพราะไม่คิดว่ามันจะมีโอกาสได้เกิดขึ้น
บางสิ่งที่ฉันไม่ทันระวังเพราะมัวแต่ไปใส่ใจกับสิ่งอื่น
ทำไมคนอย่างฉันถึงได้พลาดท่าและโง่ขนาดนี้...
“น่าแปลกนะ ฉันนึกว่าเธอจะถามเรื่องของเซโร่ซะอีก”
“กับเขาคนนั้น ฉันไม่มีอะไรจะต้องถามนี่คะ ก็เลยไม่รู้ว่าจะถามอะไร”
“แล้วมาอยากรู้เรื่องอะไรระหว่างฉันกับโซลล่ะ”
“ก็แค่เรื่องทั่วไปน่ะค่ะ”
“แล้วมาอยากรู้เรื่องทั่วไปอะไรของคนอื่นเขาล่ะ คนที่เธอควรสนใจมันน่าจะเป็นเซโร่ไม่ใช่เหรอ”
ฉันปรายสายตามองหน้าเทียนหอมอย่างเย็นชา ใบหน้าสวยๆหันมายิ้มให้อย่างที่ดูก็รู้ว่าไม่เสแสร้งที่จะเก็บอาการอีกต่อไป เธอขยับเข้ามาใกล้อีกนิดพร้อมเสียงกระซิบที่ทำให้ใบหน้าสวยๆนั้นร้ายขึ้นมาในทันที
“ก็ตั้งแต่คุณทำให้ใจของเขาเปลี่ยนไป ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องสนใจอะไรอีกรึเปล่า”
น้ำเสียงเยียบเย็นที่ปลายเสียงติดจะสั่นน้อยๆ บอกอะไรได้หลายอย่างและ...ทำให้ฉันคาดไม่ถึงอีกด้วย คงเพราะประโยคนั้นมันหมายถึงเซโร่ฉันถึงได้รวนขึ้นมาซะเฉยๆ
“เธอรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่เปลี่ยนคือใจของเซโร่ ไม่ใช่ใจของเธอ”
“...”
“หรือที่จริงแล้ว ใจเธอไม่เคยเปลี่ยน...”
“...”
“แต่มันไม่เคยมีเซโร่อยู่ในนั้นมาตั้งแต่ต้นแล้วกันแน่”
เทียนหอมเบิกตากว้าง แต่เพียงครู่เดียว เธอก็ทำสีหน้าปกติอย่างรวดเร็ว สีหน้าที่มองมาที่ฉันไม่มีความหวาดหวั่นเหมือนเคย แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เธอเก็บไว้มานาน...
“ฉันไม่เข้าใจเธอเลยสักนิดเดียว!! ริชแบรนน์!!!”
“ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมาเข้าใจนี่”
“เธอมีโซลอยู่ข้างๆ แล้วก็ยังพยายามที่จะเรียกร้องความสนใจจากเซโร่!! เธอต้องการอะไรกันแน่ เซโร่ไม่เคยให้ความสำคัญกับใครมากเท่ากับเธอ แม้แต่กับฉัน!! ฉันคนนี้ที่เป็นแฟนของเขาก็ยังสำคัญน้อยกว่าเธอ!”
เทียนหอมระเบิดโพล่งออกมารวดเดียวจนหายใจไม่ทัน สีหน้าที่เจือความหงุดหงิดพร้อมกับอาการหอบน้อยๆช่างดูน่าขันเมื่อนึกถึงคำพูดที่เธอเพิ่งจะพูดออกมา
“มีอะไรที่อยากจะพูดอีกมั้ย”
“ กับโซลก็เหมือนกัน...” เทียนหอมสูดลมหายใจช้าๆอย่างคนที่พยายามจะระงับอารมณ์โกรธเอาไว้ในใจเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่า อาการวีนของตัวเองไม่ได้ช่วยให้ฉันเกิดปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเลยสักนิดเดียว
“ในเมื่อเธอไม่เคยมีใจกับใคร ทำไมถึงได้จับผู้ชายไว้ทั้งสองมือ ทำไมถึงไม่ปล่อยให้เขาไปหาคนที่รักเค้า ทำไมยังรั้งเขาเอาไว้ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่เคยมีใจให้ ”
“...”
“ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียวว่าทำไมผู้หญิงใจร้ายอย่างเธอถึงได้โชคดีมีคนมารักตั้งมากมาย ไม่ใช่แค่โซลกับเซโร่เท่านั้นนะ กับซีซาร์ เธอก็ยังไปหว่านเสน่ห์ไว้จนทำให้ใครต่อใครต้องเสียใจ”
สายตาที่จ้องมองมาของเทียนหอมเต็มไปด้วยความโกรธเคือง มันฉายชัดซะจนปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมาเธออาจจะเก็บกดมันเอาไว้...
“เธอรู้มั้ยว่าแค่เธอไม่มาโรงเรียน เซโร่ก็ลืมทุกอย่าง...แม้กระทั่งฉัน!”
...ก็คงจะเป็นวันที่ไข้ขึ้นนั่นละมั้ง
“โซลที่ปกติก็แทบจะไม่มาเรียน กลับยอมโดดงานชิ้นสำคัญเพื่อให้ได้เจอกับเธอ”
แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวกับเธอตรงไหนไม่ทราบ
“แค่เธอเอ่ยปากไม่ว่าเรื่องไหนๆสองคนนั่นก็พร้อมจะทำให้ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะถูกหรือผิด”
แล้วคิดว่าคนอย่างฉันสนรึไงว่ามันจะถูกหรือผิด
“ทั้งๆที่เธอร้ายกาจมากขนาดนี้ แต่ทำไมกันนะ ริชแบรนน์...ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมทั้งโซลทั้งเซโร่กลับยังคบเธอเป็นเพื่อน”
ความผูกพันของพวกเราน่ะ...เธอไม่เข้าใจหรอก
“เธอมันคนไร้หัวใจ และคงจะไม่ใช่แค่ไร้หัวใจด้วยเพราะขนาดฉันพูดตั้งมากมายขนาดนี้เธอก็ยังคงเฉย ต้องเพิ่มเติมคำว่าไร้ความรู้สึก...”
“จะด่าว่าหน้าด้านหน้าทนเลยก็ได้นะ ไม่ต้องฝืนใจเปลี่ยนเป็นคำอื่นหรอก ไหนๆก็ร่ายยาวมาเป็นชุดแล้วนี่”
น้ำเสียงกึ่งสะอื้นที่เริ่มแผ่วลง ฉันได้แต่รับฟังอยู่เงียบๆทั้งๆที่ในใจกำลังหงุดหงิดกับสิ่งที่ได้ยิน...
ใครบอกว่านางฟ้านั้นแสนดี...เวลาได้ทีละด่าเป็นชุดชนิดคิดไม่ถึงเลยก็แล้วกัน!
“พูดจบหรือยัง”
“....ฮึก..”
เทียนหอมที่ดูท่าว่าจะโมโหแต่ทำอะไรไม่ได้ปล่อยโฮออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ น้ำตาใสๆไหลออกมาจากดวงตาคู่โต...แลดูทั้งเศร้าทั้งสวยในเวลาเดียวกัน
“ถ้าพูดจบแล้ว ถึงคราวที่ฉันจะพูดบ้างแล้วนะ”
“...”
“ฉันจะพูดให้เธอฟังแค่ครั้งเดียว เพราะงั้นเลิกสะอื้นอย่างน่ารำคาญแล้วตั้งใจฟังให้ดี”
“...”
“ข้อแรก เรื่องเซโร่กับฉันมันก็เป็นเรื่องของฉันกับเขา”
“เธอ!!..”
“ข้อสอง!..”ฉันขัดเสียงประท้วงของเทียนหอมพร้อมปรายสายตาเย็นชา “เรื่องของโซลกับฉันก็เป็นเรื่องของฉันกับโซล”
“นี่เธอจะกวนประสาทฉันรึไง!!”
“เปล่านี่”
ฉันตอบหน้าตาย ดูเหมือนว่านั่นจะยิ่งทำให้เธอโมโห ฉันยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลยนะ มาโมโหอะไรกัน - -
“เธอไม่คิดจะตอบอะไรฉันหน่อยรึไง”
“มีเรื่องอะไรที่ฉันต้องตอบอีกเหรอ ก็ตอบไปหมดแล้วนี่นา”
“ยัยบ้า!!จะกวนฉันไปถึงไหน!เธอยังไม่ได้ตอบอะไรกับฉันสักคำถามเดียวเลยนะ!!”
เสียงปรี๊ดแตกของเทียนหอมทำให้ฉันอดนึกสนุกขึ้นมาไม่ได้ นิสัยเสียเริ่มกลับมาอีกแล้วสิ ว้า แย่จัง J
“ฉันตอบคำถามเธอแล้วนะ และในคำตอบของฉันก็ไม่มีคำว่าเทียนหอมเลยสักคำ แล้วทีนี้เธอจะอยากรู้เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของเธอไปทำไมกันล่ะ”
“L”
“คนอื่นเขาจะพูดได้นะว่าเธอน่ะ ชอบแส่”
สีหน้าของเทียนหอมเปลี่ยนจากแบบนี้ L กลายเป็นแบบนี้ O[_]O!! หึหึ เธอควรจะรู้อะไรเอาไว้สักอย่างนะ นางฟ้า...เรื่องความปากร้ายมีจอมมารที่ไหนเลยแพ้นางฟ้ากัน ยิ่งเป็นนางฟ้าหัดร้ายอย่างเธอ...ไม่มีทาง!!
“ปากเธอนี่มัน!”
“น่าจูบใช่มั้ยล่ะ แต่ฉันไม่มีรสนิยมชอบผู้หญิงอะนะ เพราะงั้นคงให้เธอจูบไม่ได้ - -“
ดูหน้าของนางฟ้าที่เหมือนอยากจะวิ่งเข้ามาจิกตีฉันนั่นสิ>< ฮ่าๆๆ
“หยุดกวนประสาทฉันซะเธอ มันไม่ได้ผลหรอก!แล้วตอบคำถามฉันมา...”
“ฉันไม่มีความจำเป็นต้องตอบในเรื่องที่ฉันไม่อยากจะตอบ”
ฉันหยุดความรู้สึกสนุกของตัวเองเอาไว้ ก่อนที่จะหลงสนุกมากไปกว่านี้แล้วมันจะเสียโอกาสดีๆนี้ไป
“ คราวนี้...มาถึงเรื่องที่ฉันต้องการจะรู้บ้างดีกว่า...”
“ฉันก็ไม่มีความจำเป็นต้องตอบในเรื่องที่ฉันไม่อยากจะตอบเหมือนกัน”
เทียนหอมเชิดหน้าอย่างถือดี สายตาบ่งบอกว่าขัดใจที่ฉันไม่ยอมเดินไปบนเงื่อนไขที่เธอกำหนด แล้วไอ้การก็อปประโยคของฉันมาใช้ประชดประชันฉันนี่มันอะไร - -
“บางทีเธอก็ควรจะรู้ได้ตั้งนานแล้วนะเทียนหอม...”
เป็นอีกหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ฉันเรียกชื่อจริงๆของยัยนี่ไม่ใช่การเรียนนางฟ้าเหมือนที่ผ่านๆมา...
“ว่าถ้าคนอย่างฉันอยากจะรู้อะไรก็ต้องรู้ อยากได้อะไรก็ต้องได้ และคนอย่างเธอก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะปฏิเสธฉัน...”
สายตาแข็งกร้าวของเทียนหอมเปลี่ยนไปเมื่อเห็นรอยยิ้มเย็นๆของฉัน...
“เลือกเอา จะตอบฉันหรือจะให้ฉันหาคำตอบเอง”
“เธอมัน...”
“ไม่ต้องชมหรอกว่าฉันมันร้าย J”
“ยัยจอมมาร!”
“โว้!นั่นล่ะงานถนัดเลย”
ระหว่างเรามีเพียงความเงียบ ผิดกันตรงที่เทียนหอมเงียบเพราะความกดดัน ในขณะที่ฉันเงียบอย่างคนกำลังนึกสนุก
...ไม่ฉลาดเอาซะเลยนะ จะหัดร้ายทั้งทีดันมาอวดดีกับจอมมาร...
ความคิดเห็น