ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Yaoi ; SJ]>_ Hot ! Guy~...ผมชอบคนยั่ว!

    ลำดับตอนที่ #22 : _ C H A P T E R 1 8 : หึ ง & ห ว ง (1 0 0 % ) + HBD ม.หมี : )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.77K
      17
      18 ม.ค. 53

                 

     

                    ทางด้านโรงเรียนมัธยม ช่วงเช้าของวันนี้ผ่านไปอย่างน่าเบื่อ เพราะขาดคนที่คอยสร้างสีสันอย่างฮันคยองและฮยอกแจ ทงเฮและคิบอมจึงต้องนั่งเหงากันอยู่หลังห้องสองคน ถึงคิบอมจะคอยหาโอกาสแกล้งแหย่ทงเฮอยู่บ่อยๆ แต่บรรยากาศมันก็ยังคงดูเหงาๆพิกลเมื่อขาดเพื่อนอีกสองคนไป

     

                เนื่องจากวันนี้ฮันคยองและฮยอกแจไม่มาโรงเรียน ท่าเป็นแบบนี้ตามปกติแล้วคิบอมคงจะต้องลงไปกินข้าวกลางวันเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้มีทงเฮอยู่ด้วย คิบอมจึงชวนแกมบังคับให้ทงเฮตามลงไปให้ได้...  

     

    ในขณะที่ทงเฮและคิบอมกำลังเก็บของลงใต้โต๊ะเพื่อที่จะลงไปข้างล่าง ก็ได้มีกลุ่มนักเรียนชายราวๆ10คนพากันกรูเข้ามาในห้อง พร้อมหนังสือนิตยสารในมือคนละเล่ม

     

                “ทงเฮ~

     

    “ฮ..ฮะ??”ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียกก็ได้พบกับกลุ่มนักเรียนชาย คาดว่าน่าจะเรียนอยู่ชั้นปีเดียวกัน

     

    “หนังสือเล่มใหม่ของนายออกมาแล้วนะ  น่ารักมากเลย><~

     

    “หนังสืออะไรหรอ?”ทงเฮถามพลางทำหน้าตาสงสัยมากขึ้นไปกว่าเดิม เค้าไม่ได้เขียนพวกpocket  book หรือว่าอะไรทำนองนั้นซักหน่อย=   =

     

    “ก็Hot guyไง...เนี่ยๆ” พูดแล้วก็วางหนังสือนิตยสารเล่มหนึ่งลงตรงหน้าทงเฮ

     

    หน้าปกปรากฎรูปที่เขากำลังนอนกอดตุ๊กตากระต่ายแล้วยิ้มออกมาอย่างน่ารัก เขาจำได้แม่นว่าเขาเพิ่งถ่ายรูปเซ็ตนี้ไปเมื่อไม่นานนี้เอง ที่จำได้ก็เพราะว่าหนีคิบอมไปถ่ายจนเกิดเป็นรื่องเป็นราวนี่แหละ

     

    “ออ..อันนี้เอง แหะๆ^^  ทงเฮบอกแล้วส่งยิ้มแหยๆออกไปให้กลุ่มผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า สายตาคู่หวานก็เหลือบมองไปทางคิบอม ที่ตอนนี้กำลังหันออกไปทางนอกหน้าต่างหน้าสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก

     

    “นายน่ารักมากเลยอ่ะ พวกเราขอลายเซ็นหน่อยดิ นะๆ”ว่าแล้วก็คะยั้นคะยอยื่นหนังสือกองใหญ่ไปให้ทงเฮ  ทงเฮหันไปหาคิบอมอีกครั้งราวกับขอคำตอบ ซึ่งคิบอมก็ยังคงทำหน้านิ่งมองไปนอกหน้าต่างอยู่เหมือนเดิม ทงเฮจึงงตัดสินใจรับหนังสือมาเพราะคิดว่าคิบอมคงอนุญาตแล้ว จากนั้นก็ค่อยๆเขียนชื่อของตัวเองลงบนปกหนังสือทีละเล่ม เสร็จแล้วจึงยื่นคืนไปให้กลุ่มผู้ชายที่ยังคงยืนรออยู่ตรงหน้า

     

    “ขอบคุณนะๆ”

     

    “ไม่เป็นไรฮะ^^

     

    “นายน่ารักจริงๆนะเนี่ย ยังไม่มีแฟนใช่มั้ย??”

     

    “....”  เจอคำถามานี้เข้าไปทงเฮก็ถึงกับเงียบแล้วหันไปมองคิบอม ซึ่งคิบอมเองก็กำลังมองมาทางทงเฮเหมือนกัน สายตาที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งของคิบอมทำเอาทงเฮถึงกับไม่กล้าตอบคำถามออกไป เพราะกลัวคำตอบจะไปขัดใจคิบอมเข้า

     

    “เอ่อ..คือ”

     

    “ฉันว่าน่ารักแบบนี้คงมีแล้วแหละว่ะ”

     

    “เออ คงนั่งอยู่แถวๆนี้ด้วย” พูดแล้วหนึ่งคนในกลุ่มก็ชำเลืองมองไปทางคิบอมด้วยความอิจฉา คิดว่าตัวเองคงเดาไม่ผิดแน่ๆว่าคนที่นั่งทำหน้าบูดอยู่ริมหน้าต่างคงเป็นแฟนของทงเฮ

     

    “นั่นดิ...งั้นเราก็ไปกันเหอะ” ว่าแล้วทั้งกลุ่มก็พากันเดินออกไปนอกห้อง คิบอมจึงยอมปริปากพูดออกมาหลังจากที่เมื่อกี้เงียบอยู่นาน

     

    “แจกลายเซ็นเสร็จแล้วหรอ  พ่อนายแบบยั่ว”

     

    “อย่าเรียกแบบนั้นสิฮะ(. .)”

     

    “หึ..แล้วนี่จะไปกินข้าวได้รึยัง หิว=  =

     

    “ป..ไปสิฮะ” ทงเฮพูดแล้วก็เดินตามคิบอมออกไป แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาออกจากห้อง ก็มีเด็กนักเรียนหญิงม.ต้นหน้าตาน่ารักวิ่งเข้ามาขวางประตูเอาไว้ซะก่อน

     

    “แฮ่ก...โอ๊ย เกือบไม่ทันซะแล้ว><” เมื่อเด็กหญิงวิ่งมาจนเจอทงเฮแล้วก็หยุดหอบด้วยความเหนื่อยจากการที่วิ่งข้ามตึกมา

     

    “คือว่า...มีอะไรหรอ?” ทงเฮพูดแล้วมองหน้าเด็กหญิงที่มีความสูงอยู่ในระดับเดียวกัน น่าอายจริงๆ  ทั้งๆที่อยู่ม.ปลายปีสุดท้ายแล้วแท้ๆแต่กลับมีความสูงเท่ากับเด็กผู้หญิงที่อยู่แค่

    ม.ต้นTT

     

    “คือเพื่อนหนูเค้ามีธุระกับโอปป้าน่ะค่ะ..แอมเบอร์! เร็วๆสิ”เด็กหญิงชะโงกหน้าออกไปนอกห้องแล้วกวักมือเรียกเพื่อนอีกคนหนึ่ง

     

    “มาแล้วๆ โทษทีหยิบฉันหนังสืออยู่น่ะ><”ใบหน้าหล่อคมของเด็กหญิงมาหยุดอยู่ตรงหน้าทงเฮ  ดวงตากลมโตกับจมูกโด่งรับกับใบหน้าเรียว ดูยังไงก็หล่อ ช่างขัดกับชุดยูนิฟอร์มของผู้หญิงที่เจ้าตัวสวมใส่อยู่เหลือเกิน

     

    “เราสองคนมีอะไรกับพี่หรอ?” ทงเฮพูดแล้วมองใบหน้าของเด็กสองคนตรงหน้าสลับกันไปมาด้วยความสงสัย

     

    “อ่า โอปป้า ..คือฉันชอบโอปป้ามาเลยอะ เซ็นหนังสือให้ฉันหน่อยนะ><”เด็กผู้หญิงหน้าหล่อพูดแล้วยื่นหนังสือสองเล่มที่อยู่ในมือให้กับทงเฮ

     

    ทงเฮได้ยินเช่นนั้นจึงคลายความสงสัยแล้วรับปากกาจากเด็กหญิงมาเซ็นด้วยท่าทางเคอะเขิน เพราะความรู้สึกตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างจากการถูกผู้ชายมาบอกรักเลยซักนิด-  -;;

     

    เซ็นเล่มแรกเสร็จทงเฮก็ส่งคืนให้เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า พอก้มหน้าลงมาจะเซ็นเล่มต่อไป แต่แค่เห็นหน้าปกก็ถึงกับชะงักแล้วรีบเอาหนังสือขึ้นมากอดไว้แนบอกทันที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองคิบอมด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย

     

    “อะไรของนาย=  =

     

    “คิบอมอย่ามองสิฮะ...”

     

    “จะมาอายอะไรฉัน นู่น...นายควรอายน้องผู้หญิงเค้ามากกว่า=  =”คิบอมพูดแล้วทำหน้าตาราวกับว่าที่ทงเฮกำลังเขินมันเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะความจริงก็ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเห็นเรือนร่างของคนตัวเล็กนี่ซะเมื่อไหร่กัน กับเรื่องแค่นี้ไม่รู้ว่าจะอายไปทำไม..

     

    ซึ่งความจริงแล้วที่คิบอมพูดมาก็ถูก เขาควรจะอายน้องๆ2คนซึ่งเป็นผู้หญิงซะมากกว่า แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขากลับอายคิบอมที่เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ

     

     

    คงเป็นเพราะสายตาของคิบอมที่มองมาไม่เหมือนกับที่คนอื่นๆมองละมั้ง...

     

     

    ทงเฮรีบวางหนังสือลงบนโต๊ะแล้วเอามือปิดรูปตรงส่วนที่เป็นเรือนร่างของเขาไว้ให้เหลือแต่ส่วนที่เป็นฉากหลังก่อนจะรีบๆเซ็นให้เสร็จๆไปแล้วค่อยส่งหนังสือคืนให้เด็กผู้หญิงสองคนที่ยังยืนรออยู่

     

    “ขอบคุณนะโอปป้า ..โอปป้าน่ารักจังขอฉันกอดทีนะ><” ว่าแล้วก็เข้าไปสวมกอดทงเฮทันทีโดยไม่แคร์สายตาของใครคนนึงที่กำลังมองอยู่ ด้วยความสูงของแอมเบอร์ที่ดูจะมากกว่าทงเฮเวลากอดจึงทำให้เห็นแอมเบอร์ต้องก้มตัวลงไปหาทงเฮเล็กน้อย ถ้าตอนนี้แอมเบอร์ไม่ได้ใส่ชุดยูนิฟอร์มของนักเรียนหญิงอยู่ละก็ใครมาเห็นเข้าคงจะคิดว่าเป็นคู่รักชายหญิงกำลังกอดกันอยู่แน่ๆ           [(แอม=ชาย, หมวย=หญิง) + +;;]

     

    “อะ!..อา ฮะ” ตอนแรกทงเฮดูจะตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆก็ถูกกอด แถมคนที่กอดก็ดูเหมือนผู้ชายซะขนาดนี้ก็ให้ความรู้สึกเขินได้ไม่น้อยเหมือนกัน  แต่พอหันไปเห็นสายตาของคิบอมอาการเขินที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก็พลันหายทันทีพลางผละออกจากกอดของเด็กหน้าหล่อ

     

    “ขอบคุณนะโอปป้า^^

     

    “ไม่เป็นไรฮะ^^

     

    “ซอลลี่ ไปกันเหอะ” ว่าแล้วแอมเบอร์ก็จูงมือซอลลี่เด็กหญิงหน้าตาน่ารักออกไป แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องก็ได้ยินเสียงแข็งของคนหน้าบูดเรียกเอาไว้ซะก่อน

     

    “เดี๋ยว...”

     

    “อ..อะไรคะโอปป้า” ซอลลลี่ถามด้วยน้ำเสียงติดขัดเล็กน้อย เพราะซอลลี่เห็นตั้งแต่เมื่อกี้แล้วว่าคิบอมมีท่าทางไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ตอนที่แอมเบอร์เข้าไปกอดคนตัวเล็กแบบนั้น เลยพอจะเดาออกว่าคิบอมนั้นคิดอย่างไรกับคนตัวเล็กอยู่ การที่แอมเบอร์เข้าไปกอดแบบนั้นอาจจะทำให้คิบอมไม่พอใจก็ได้

     

    “เอาหนังสือมานี่สิ...” พูดพลางชี้ไปที่หนังสือสองเล่มที่อยู่ในมือของเด็กหน้าหล่อ

     

    “เล่มไหนคะโอปป้า” ซอลลี่ถามคิบอมออกไปอย่างสุภาพอย่างที่รุ่นน้องควรจะทำกับรุ่นพี่

     

    “เล่มที่นายแบบยั่วๆน่ะ...” คิบอมพูดโดยเน้นคำว่า ยั่วๆ เป็นพิเศษ ทำเอาเด็กหญิงสองคงมองหน้ากันอย่างเหลอหลารวมถึงตัวของทงเฮด้วย

     

    เมื่อเด็กทั้งสองมัวแต่มองหน้ากันไม่ยอมหยิบหนังสือให้คิบอมซักที คิบอมจึงเดินเข้าไปหยิบหนังสือเล่มที่ตัวเองต้องการออกมาเองรวมถึงปากกาด้วย   มือหนาวางหนังสือลงบนโต๊ะก่อนจะก้มลงไปเขียนอะไรสักอย่างแล้วส่งคืนไปให้ซอลลี่ที่กำลังชะโงกหน้ามองอย่างคนอยากรู้อยากเห็น

     

    ซอลลี่รับหนังสือมาไว้ก่อนจะค่อยๆอ่านพร้อมกับแอมเบอร์ที่ชะโงกหน้าเข้ามาดู...

     

    Donghae^^ [is mine (Kibum..)]

     

    O  O  เด็กหญิงสองคนดูจะมีสีหน้าตกใจเมื่ออ่านสิ่งที่คิบอมเขียนเสร็จ แอมเบอร์เองถึงกับหน้าถอดสีเพราะเมื่อกี้ตนเองพึ่งจะกอดทงเฮไปหยกๆ คิดว่าคิบอมคงโกรธแน่ๆถึงได้เขียนออกมาแบบนี้

     

    “หมดธุระแล้วก็ออกไปสิ=  =

     

    “ค่ะๆ ขอโทษแทนเพื่อนฉันด้วยนะคะโอปป้า” ซอลลี่เป็นคนพูดขอทษคิบอมแทนแอมเบอร์แล้วก้มหัวหลายๆครั้งก่อนจะรีบลากแอมเบอร์ออกจากห้องไป ตอนนี้ในห้องจึงเหลือเพียงคิบอมและทงเฮแค่สองคน

     

    “คิบอมเขียนอะไรลงไปหรอฮะ?” คนตัวเล็กถามขึ้นมาด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าเด็กหญิงสองคนมีอาการแปลกๆเมื่อได้อ่านข้อความ เลยอยากรู้ว่าคิบอมนั้นได้เขียนอะไรลงไป

     

    “ไม่ต้องรู้สักเรื่องได้มั้ย=  =

     

    “อ่า..งั้นไปกินข้าวกันมั้ยฮะ?” เมื่อคิบอมไม่บอกก็ไม่อยากเซ้าซี้ต่อเพราะกลัวว่าคิบอมจะรำคาญเอาได้ คนตัวเล็กเลยชวนคิบอมลงไปกินข้าวแทนเพราะเห็นเมื่อครู่บ่นว่าหิว

     

    “เหลือเวลาอีก15นาที... ไม่ต้องไปแล้วแหละ-  -“

     

    “อา...ขอโทษนะฮะ เพราะผมแท้ๆคิบอมเลยไม่ได้กินข้าวเลย(. .)” ร่างเล็กพูดแล้วก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด เพราะความจริงถ้าเขาจะปฏิเสธการเซ็นหนังสือพวกนั้นเขาก็ทำได้ แต่เขาเกรงใจคนอื่นเลยไม่อยากจะปฏิเสธเท่าไหร่นัก ..แต่ดันลืมนึกถึงคิบอมไปเลย..

     

    “หึ  ไม่เป็นไรหรอก”

     

    “(.  .)”

     

    “...เพราะวันนี้ฉันจะกินนายแทน...”

     

    “ห..ห้ะ!  อื้อ~” ยังไม่ทันที่ร่างเล็กจะได้พูดอะไรต่อก็ถูกคนตัวสูงก้มลงมาจูบเอาซะก่อน ปากหนาค่อยๆแตะเบาๆที่ปากบาง ก่อนจะเริ่มดูดเม้มมันเบาๆเหมือนแกล้งหยอกล้อ

     

    คนที่ถูกกระทำดูจะตกใจมาก  ถึงจะถูกคิบอมจูบเป็นครั้งที่สองแล้วแต่ก็ยังคงไม่ตัวไม่ถูกอยู่ดี  จึงได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้คิบอมจูบอยู่อย่างนั้น

     

    ร่างสูงเห็นคนตัวเล็กเอาแต่ยืนนิ่งเลยรู้สึกขัดใจเล็กน้อย มือที่ซุกซนจึงเริ่มอ้อมไปข้างหลังคนตัวเล็ก พร้อมค่อยๆไล้ลงต่ำจนถึงสะโพกมน ลูบแล้วก็บีบมันเบาๆ...

     

    “อะ...อื้ม” เสียงครางหวานหลุดออกมาจากปากของร่างเล็กเมื่อทนสัมผัสอันร้อนแรงจากทั้งสองทางที่คิบอมมอบให้ไม่ไหว จากที่ตอนแรกไม่รู้จะวางตัวอย่างไรแต่ตอนนี้แขนเรียวทั้งสองข้างกลับยกขึ้นแล้วโอบรอบคอของคิบอมเอาไว้โดยที่ไม่รู้ตัว กลีบปากบางอ้าออกเล็กน้อยเป็นการเปิดโอกาสให้ลิ้นหนาได้เข้ามาเก็บเกี่ยวความหอมหวานด้านในได้อย่างเต็มที่

     

    เวลาผ่านไปนานพอสมควรจนร่างเล็กหายใจไม่ออก มือน้อยกระตุกปกเสื้อของคิบอมเบาๆตามสัญชาตญาณ คิบอมจึงยอมถอนจูบออกมา แล้วมองเข้าไปในตาคนตัวเล็ก..

     

    “ทีหลังก็ไม่ต้องไปทำตัวยั่วให้ใครเค้ามาชอบอีกล่ะ ไม่งั้นจะโดนแบบนี้อีก=  =

     

    “ไม่ได้ยั่วซักหน่อยนะฮะคิบอม( .////.)”

     

    “หึ...ดูพูดเข้า   หมั่นไส้ว่ะ...”

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

    การเรียนในช่วงคาบบ่ายผ่านไปอย่างน่าเบื่อแบบทุกๆวัน เนื่องจากหนังท้องถึงหนังตาก็เริ่มหย่อนกันเป็นธรรมดา หลังจากกินข้าวแบบนี้ใครๆก็อยากนอนกันทั้งนั้น เว้นแต่คนน่ารักข้างหลังห้อง ที่เอาแต่ก้มหน้างุดด้วยความเขิน โดยเฉพาะเวลามองไปยังคนที่นั่งข้างๆ..

     

    จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น ในขณะที่ทุกคนกำลังเก็บข้าวเก็บของเพื่อที่จะกลับบ้านกันเหมือนทุกวัน ก็ได้มีใครคนหนึ่งเข้ามาเพื่อป่าวประกาศอะไรบางอย่าง

     

    “เอาละพวกห้องF ชั้นคิมฮีชอล หัวหน้าคณะสีSapphire blue หรือสีน้ำเงินของพวกเรา อย่างที่รู้ๆกันว่าอาทิตย์หน้าโรงเรียนของเราก็จะจัดกีฬาสีกันแล้ว ซึ่งปีนี้ก็จะเหมือนทุกปี คือโรงเรียนเราจะยกคาบบ่ายให้เพื่อให้ซ้อมกีฬาสี และกิจกรรมก็จะจัดสองวัน โดยวันแรกจะจัดที่สแตนด์สระว่ายน้ำ ส่วนวันที่สองในช่วงเช้าเราจะจัดพาเหรดกันที่สนามกลางส่วนช่วงบ่ายก็จะมีการแข่งบาส แต่ที่ปีนี้มีพิเศษกว่าทุกปีคือม.ปลายปีสามทุกห้องจะต้องคิดการแสดงมาห้องละอย่าง เพื่อแสดงให้ทุกๆคนดูในวันที่สองหลังจากกิจกรรมการแข่งบาสเสร็จ การแสดงจะเป็นอะไรก็ได้ ร้อง เล่น เต้น ได้หมดอ่ะ ทุกการแสดงเราจะมีคะแนนให้นะ คะแนนที่ได้จะเอามาบวกกับคะแนนคณะสีแล้วก็คะแนนจิตพิสัยด้วย”

     

    “ว้าว ว...” ทุกคนในห้องร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน เพราะอย่างที่รู้ๆกันว่าห้องบ๊วยอย่างพวกเค้าก็มักจะเสียคะแนนจิตพิสัยไปกับพฤติกรรมแย่ๆของคนบางกลุ่ม นี่จึงเป็นโอกาสดี ที่จะนำคะแนนของพวกเขากลับคืนมา...

     

    “อือ..ที่จะมาบอกก็แค่นี้แหละ ตั้งใจทำกันล่ะ^^” คุณประธานคนสวยแจกยิ้มไปทั่วห้องเสร็จแล้วก็ทำท่าจะเดินออกไป แต่ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเดินย้อนกลับเข้ามาในห้องแล้วตรงเข้าไปหาทงเฮ

     

    “สวัสดี^^” คนสวยพูดแล้วฉีกยิ้มกว้างออกอย่างคนใจดี

     

    “สวัสดีฮะ^^” ทงเฮกล่าวทักทายแล้วส่งยิ้มกลับไปตามมารยาท

     

    “ทงเฮใช่มั้ย?”

     

    “อา..ใช่ฮะ ผมลีทงเฮ”

     

    “อ่า..ตัวจริงน่ารักกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแหะ”คุณประธานคนสวยพูดแล้วก้มลงไปจ้องใบหน้าหวานใกล้ๆอย่างพิจารณา ทำเอาคนหน้าหวานถูกมองถึงกับเขินไปเลยทีเดียว

     

    “แหะ~...แล้วมีธุระอะไรหรอฮะ?”คนตัวเล็กยกมือขึ้นมาเกาแก้มแก้เขิน ก่อนจะถามถึงจุดประสงค์การมาของฮีชอล

     

    “เออ ..นายช่วยมาเป็นคนเดินถือป้ายคณะสีเราให้หน่อยได้ปะ?”

     

    “หือ?”

     

    “ขบวนพาเหรดน่ะ” เห็นคนตัวเล็กเอียงคอแล้วทำหน้าไม่เข้าใจ ฮีชอลจึงพูดเพื่อคลายความสงสัย

     

    “เอ่อ..” ทงเฮอ้ำอึ้งก่อนจะหันไปหาคนที่นั่งอยู่ข้างๆราวกับขอความเห็น ซึ่งคิบอมก็ไม่ได้มีท่าทางขัดใจหรือว่าพูดโต้แย้งอะไร ทงเฮเลยคิดเอาเองว่าคิบอมคงจะอนุญาตแล้ว 

     

    ซึ่งความจริงแล้วคิบอมก็คิดจะอนุญาติ เพราะช่วงกีฬาสีเขาเองก็ต้องซ้อมบาสทุกวัน ฮันคยองเองก็ด้วย ส่วนฮยอกแจก็คงต้องซ้อมว่ายน้ำ ถ้าปล่อยคนตัวเล็กไว้คนเดียวก็เป็นห่วง เพราะฉะนั้นให้อยู่กับคนที่ไว้ใจได้แบบฮีชอลน่าจะดีที่สุด เวลาเลิกซ้อมจะได้กลับบ้านพร้อมกันตามปกติด้วย

     

    “ก็ได้ฮะ”

     

    “อ่า  ดีจัง! งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนกลางวันฉันมาหาที่ห้องนะ เดี๋ยวพาไปห้องคณะสี”

     

    “โอเคฮะ^^

     

    “อือ งั้นฉันไปก่อนละ บ๊ายบาย^^” คุณประธานคณะสีคนสวยโบกมือลาทงเฮแล้วเดินออกจากห้องไป จากนั้นคิบอมที่นั่งเงียบทำหน้าบูดอยู่นานก็ยอมปริปากพูดออกมา

     

    “เดี๋ยวนี้ดังใหญ่แล้วนะ มีคนรู้จักเต็มเลยนิ...”คิบอมพูดประชดประชันใส่ทงเฮด้วยความหมั่นไส้ แล้วชำเลืองหางตามองร่างเล็กที่กำลังจ้องเขาตาแป๋วอยู่ในตอนนี้

     

    “ผมไม่ได้ดังสักหน่อยนะฮะคิบอม”

     

    “แค่คนรู้จักเยอะใช่มั้ยล่ะ...หึ” ร่างสูงพ่นลมออกทางจมูกแบบที่ชอบทำแล้วแค่นยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอาเป้ใบใหญ่ของตัวเองพาดบ่าแล้วเดินออกจากห้องไป...

     

    รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่มีคนเข้ามาหาคนตัวเล็กมากมายขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย หรือแม้กระทั่งทอม...แถมคนพวกนั้นจะขอจะทำอะไรคนตัวเล็กก็ตามใจไปซะทุกอย่าง ทั้งๆบางอย่างที่ดูจะมากเกินไป เช่นการที่แอมเบอร์เข้ามากอดเมื่อตอนกลางวัน แม้ความจริงแอมเบอร์จะเป็นผู้หญิง แต่คิบอมก็ไม่พอใจอยู่ดี...

     

     

    ...เพราะเขาไม่ต้องการให้ใครมาแตะต้องทงเฮทั้งนั้น...

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ฮันคยองใช้เวลาในช่วงบ่ายอยู่ในห้องนอนของตัวเอง พยายามคิดแล้วคิดอีกว่าต่อจากนี้ควรจะวางตัวอย่างไรถ้าเกิดเจ้าเพื่อนตัวเล็กเปลี่ยนไป  แต่ดูเหมือนว่าคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เพราะฉะนั้นควรปล่อยให้มันเป็นในสิ่งควรเป็นดีกว่า...

     

    ร่างหนาเดินไปยังห้องที่เจ้าเพื่อนตัวเล็กอาศัยอยู่ทั้งวัน  ขณะนี้ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว เลยตั้งใจว่าจะขับรถพาเจ้าเพื่อนตัวเล็กไปส่งที่บ้าน  แต่พอเข้าไปในห้องก็พบว่าเจ้าเพื่อนตัวเล็กยังคงนอนหลับสนิทอยู่

     

    “ฮยอก..”  ฮันคยองเรียกเบาๆพร้อมสะกิดแขนเรียวของฮยอกแจ

     

    “อืม ม....” ใบหน้าหวานค่อยๆปรือตาขึ้นมาช้าๆ พอภาพตรงหน้าชัดขึ้นแล้วพบว่าคนที่มาปลุกคือฮันคยองหน้าหวานก็ถึงกับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

     

    “หายปวดหัวแล้วใช่มั้ย?” ฮันคยองถามแล้วเอามือไปแตะที่หน้าผากของเจ้าเพื่อนตัวเล็กด้วยความเป็นห่วง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเจ้าเพื่อนตัวเล็กปัดมือของเขาทิ้งก่อนจะตอบกลับมาสั้นๆ

     

    “อืม...”

     

    “แล้วจะให้ไปส่งที่บ้านมั้ย?” ฮันคยองถอนหายใจออกมาหนึ่งครั้งก่อนจะถามต่อไป

     

    “ไม่เอา พ่อกลับแม่ทะเลาะกันอยู่...ไม่อยากกลับ” ฮยอกแจตอบเสร็จก็มีสีหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ฮันคยองเลยพอจะเดาออกว่านี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เมื่อคืนเจ้าเพื่อนตัวเล็กต้องออกไปกินเหล้าจนเมามากมายขนาดนั้น เพราะครั้งก่อนที่พ่อกับแม่ของฮยอกแจทะเลาะกัน ฮยอกแจก็มาร้องไห้และปรับทุกข์กับเขา แล้วก็ไม่อยากจะกลับไปที่บ้าน เหมือนกับในตอนนี้..

     

    “แล้ว....จะอยู่ที่นี่หรอ?”

     

    “ทีแรกก็กะว่าอย่างนั้น แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว...อยากไปบ้านคิบอม” ตอนแรกที่ฮยอกแจออกจากบ้านมาเค้าก็กะว่าไปที่ผับเสร็จแล้วก็จะมาขอยู่กับฮันคยองสักพักเหมือนคราวที่แล้ว แต่เนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเช้ามันทำให้เขารู้สึกอึดอัดและน้อยใจ เลยขอไปอยู่กับคิบอมเพื่อนอีกคนแทนดีกว่า เพราะว่าเขากับคิบอมก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก คิดว่าคิบอมคงจะรับฟังปัญหาของเขาได้เหมือนกัน

     

    “อืม เปลี่ยนชุดสิ แล้วเดี๋ยวไปส่ง” ฮันคยองพูดแล้วชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้าที่เมื่อเสื้อผ้าไว้สำหรับให้แขกที่มาพักเปลี่ยน พอจะรู้ว่าตอนนี้เพื่อนตัวเล็กรู้สึกยังไงเลยไม่อยากจะพูดอะไรให้มันมากมาย

     

    “อืม...ขอบคุณ” ฮยอกแจกล่าวขอบคุณแต่ก็ยังไม่มองหน้าฮันคยองอยู่ดี

     

    “หึ...แกคงอึดอัดสินะ”

     

    “.....”

     

    “งั้นฉันไปก็ได้”

     

    “....”

     

    “ขอโทษที่ทำให้แกลำบากใจ” ฮันคยองพูดแล้วมองหน้าของฮยอกแจ แม้ฮยอกแจจะไม่มองหน้าเขาก็ตาม เมื่อเห็นฮยอกแจยังคงนั่งนิ่งไม่หันมาคุยกับเขาสักคำก็ถอนหายใจหนึ่งครั้ง ก่อนจะตัดสินใจหันหลังเดินออกจากห้องไป.....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ฮึก...ไอ้โง่ ที่มันอึดอัดแบบนี้ก็เพราะแกนั่นแหละไอ้บ้าเกิง  แค่คำๆเดียวพูดออกมามันจะตายรึไงกัน...”

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    คิบอมและทงเฮกลับมาถึงบ้านในช่วงเวลาเย็นๆตามปกติ ทั้งสองคนพากันเดินเข้าไปในบ้าน แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าบนโซฟาในห้องรับแขกได้มีใครคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว

     

    “เห้ย!! มาได้ไงวะ=[]=” เสียงของคิบอมทำให้คนที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนซฟาต้องหันมาตรงด้านหน้าประตูเพื่อกล่าวทักทายและส่งยิ้มให้แบบที่ชอบทำ ติดตรงที่ว่ายิ้มครั้งนี้ดูจะฝืนๆจะทุกครั้งไปหน่อย

     

    “หวัดดี^^ คืนนี้ขอมาอยู่ด้วยคนนะ”

     

    “หะ=[]=  เมื่อได้ยินคิบอมก็รู้สึกประหลาดใจจนต้องอ้าปากค้างอีกรอบ อยู่ๆเจ้าฮยอกกแจตัวยุ่งก็จะมาขอยู่ด้วย จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ฮยอกแจมานอนที่บ้านก็เมื่อตอนม.ต้น เพราะว่าตอนนั้นพ่อและแม่ของฮยอกแจต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ ฮยอกแจไม่อยากอยู่ในบ้านตามลำพังจึงมาขออยู่กับคิบอม

     

    “ทำไมต้องตกใจนาดนั้นหะได้บอมบูด-  -  แล้วนี่ทงเฮมาอยู่ที่นี่ได้ไง?” ฮยอกแจถามขึ้นเมื่อเห็นคนตัวเล็กที่ยืนทำตาแป๋วอยู่ข้างๆคิบอม ทั้งๆที่ในเวลานี้ควรจะกลับไปอยู่ที่บ้านของตนเอง ถ้าจำไม่ผิดคิบอมเคยบอกว่าบ้านของทงเฮอยู่แถวนี้ ถึงได้ติดรถไปโรงเรียนด้วยกันทุกวัน

     

    “คือ...” คนตัวเล็กไม่กล้าตอบความจริง เพราะรู้ถ้าตอบไปฮยอกแจคงได้โวยวายอีกแน่ๆ

     

    “ทงเฮเค้าก็อยู่ที่นี่” เมื่อเห็นคนตัวเล็กไม่กล้าตอบ คิบอมเลยอาสาตอบแทน

     

    “”ห้ะ!!....อยู่ที่นี่!! ..อยู่กับนายอะนะ!!?? ได้ไงล่ะ!“ เมื่อได้รู้ความจริงฮยอกแจก็ได้โวยวายลั่นบ้านเป็นการใหญ่อย่างที่ทงเฮิดเอาไว้ไม่มีผิด

     

    “อืม-  -“ คิบอมตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ทำให้ฮยอกแจรู้สึกหมั่นไส้มากขึ้นไปอีก

     

    “แล้วไหนตอนแรกบอกอยู่บ้านใกล้กันเฉยๆ!

     

    “เปลี่ยนแล้ว- -“

     

    “บ้า! ..อยู่ๆจะเปลี่ยนได้ไง นายไปหลอกอะไรทงเฮ บอกมานะๆ” ฮยอกแจไม่พูดเฉยๆกลับเข้าไปดึงเสื้อคิบอมแล้วเขย่าไปมา

     

    “ไม่ได้หลอกโว๊ย=  =! ก็ไอ้เซ่อนี่มันทำงานบ้านฉัน” คิบอมดึงมือของฮยอกแจออกแล้วปัดๆที่เสื้อของตัวเองก่อนจะตอบคำถาม แต่ดูเหมือนคำตอบของคิบอมจะทำให้ฮยอกแจสงสัยมากขึ้นกว่าเดิมอีก  ในขณะที่ฮยอกแจกำลังจะอ้าปากถามคิบอมเลยพูดขัดขึ้นมาซะก่อน

     

    “ไม่ต้องถามว่าทำงานอะไร”

     

    “ทำไมอะ-o-

     

    “ไม่รู้ซักเรื่องแกคงไม่ตายหรอก-  -“คำตอบของคิบอมทำเอาฮยอกแจพูดไม่ออก  จะหาว่าเขาเสือกว่างั้น?....แต่ก็อย่างว่า เวลาที่มีปากเสียงกับคิบอมทีไรฮยอกแจก็ไม่เคยชนะอยู่แล้ว

     

    “พวกคุณหนูครับ..อาหารเย็นเสร็จแล้ว เชิญไปที่ห้องอาหาได้เลยครับ เดี๋ยวกระผมขอตัวไปตามคุณหนูอีกสองคนข้างบนก่อน”คุณพ่อบ้านกล่าวหลังจากที่เดินออกมาจากห้องครัว วันนี้ต้องทำอาหารมากเป็นพิเศษ เพราะว่ามีคนมาร่วมโต๊ะมากกว่าทุกวัน

     

    “อือ” คิบอมรับคำสั้นๆ เสร็จแล้วพ่อบ้านจึงเดินขึ้นชั้นสองของบ้านไป

     

    ทั้งสามคนรวมกับเจ้าเด็กตัวน้อยอีกสองนั่งพร้อมหน้ากันอยู่ที่โต๊ะอาหาร  เริ่มรับประทานอาหารมื้อเย็นแล้วก็พูดคุยกันไม่หยุดจะมีก็แต่สองพี่น้อง คิบอม และจุนซัง ที่นานๆทีจะพูดออกมาสักครั้ง

     

    ฮานึลและฮยอกแจสนิทกันอย่างรวดเร็ว เพราะฮานึลเป็นเด็กที่คุยเก่งและน่ารัก ไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องเอ็นดูกันทังนั้น ถึงฮยอกแจจะไม่ชอบใจนักที่ฮานึลเรียวตัวเขาว่าพี่สาวเหมือนกับที่เรียกทงเฮ แต่พอเห็นหน้าตาน่ารักๆแบบนั้นแล้วก็โกรธไม่ลง

     

    หลังจากที่กินข้าวเสร็จแล้วก็ส่งเด็กน้อยทั้งสองเข้านอน  ส่วนเขาทั้งสามคนก็พากันมานั่งอยู่ที่ห้องนอนของคิบอม และนั่งดูหนังที่คิบอมชอบซื้อมากันจนถึงเวลาดึกดื่น

     

    “ฮ้าว ว.. ง่วงอ่ะ” ฮยอกแจหาวหวอดๆแล้วยกมือข้างนึงขึ้นมาปิดปากของตัวเอง

     

    “ก็ไปนอนดิ=  =” คิบอมตอบแต่สายตายังคงจ้องไปที่โทรทัศน์ เขายังไม่ง่วงเพราะชอบดูหนังและนอนดึกแบบนี้เป็นประจำ

     

    “นอนไหน?” ฮยอกแจถามแล้วใช้มือข้างหนึ่งขยี้ตาของตัวเองไปด้วย

     

    “แล้วแต่แกดิ-  -“

     

    “งั้นนอนกับทงเฮนะ” ฮยอกแจพูดยิ้มๆก่อนจะหันไปหาทงเฮที่ตอนนี้ได้นอนหลับไปก่อนเรียบร้อยแล้ว

     

    “ไม่ได้-  -!

     

    “ทำไมอ้ะ??”

     

    “ไม่ได้ก็คือไม่ได้  แกรออยู่ที่นี่แหละ เดี๋ยวฉันพาทงเฮไปส่งที่ห้อง” พูดเสร็จคิบอมก็วางรีโมทในมือลงบนโต๊ะ แล้วเข้าไปช้อนตัวคนตัวเล็กขึ้นมาอุ้มไว้อย่างเบามือที่สุดเพราะกลัวว่าคนตัวเล็กจะตื่น

     

    “นี่! ทำไมต้องอุ้มด้วยล่ะ!” ฮยอกแจเห็นแล้วก็แผดเสียงออกมาทันทีด้วยความอิจฉาจนคิบอมที่กำลังจะเดินออกจากห้องต้องหันกลับมาว่า

     

    “ชู่วว จะให้ทงเฮตื่นขึ้นมารึไง?” คิบอมพูดเบาๆแล้วส่ายหน้าไปมาช้าๆแล้วเดินออกจากห้องไป ซึ่งฮยอกแจก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากมองตามไปด้วยความอิจฉา 

     

    คนตัวเล็กในชุดนอนลายกาตูนซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าตัวเล็กน้อยดูยังไงก็น่ารัก พอได้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของคิบอมซึ่งดูสุขุมติดจะดุๆแบบนั้นแล้วดูยังไงก็เหมาะสมกัน

     

    ทำไมแกต้องเหมาะสมกับทงเฮขนาดนั้นด้วย ! ไม่อยากยอมรับหรอกนะ! หมั่นไส้เว้ย !’

     

    ไม่นานนักคิบอมก็เดินกลับเข้ามาในห้อง เพราะว่าห้องของทงเฮกติดอยู่กับห้องของเขาจึงใช้เวลาไม่นานนัก

     

    “ปิดไฟเลยนะ” คิบอมหันไปบอกเพื่อนที่นั่งอยู่บนเตียง ในขณะที่นิ้วเรียวแตะอยู่บนสวิตซ์ไปเรียบร้อยแล้ว

     

    “อ่าว..สรุปใหฉันนอนกับแกหรอ?”

     

    “อือ..หรือแกจะไปนอนห้องรับแขก=  =” คิบอมตอบออกไปอย่างกวนประสาท และที่ยอมให้ฮยอกแจนอนกับตัวเขาเองก็เพราะว่าฮยอกแจมาอย่างกระทันหันเลยยังไม่ได้สั่งให้คุณพ่อบ้านจัดเตรียมห้องไว้ให้ แล้วก็ไม่อยากให้ฮยอกแจได้ไปนอนกับทงเฮก็เท่านั้น

     

    “ไอ้นี่นิ-  - อุตส่าห์ถามดีๆ ...ปิดไฟเลยๆ”พูดเสร็จแล้วฮยอกแจก็รีบมุดตัวเลงใต้ผ้าห่มพร้อมๆกับที่คิบอมปิดไฟแล้วภายในห้องก็มืดสนิท ไม่เห็นแม้กระทั่งมือของตัวเอง

     

    คิบอมใช้เวลาสักพักในการปรับสายตาให้ชินกับความมืดภายในห้อง เสร็จแล้วค่อยเดินไปยังเตียงของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ได้มีเพื่อนตัวขาวนอนหันหลังให้อยู่ก่อนแล้ว

     

    ทั้งสองนอนตะแคงหันหลังให้กันโดยไม่พูดจากันสักคำ ตอนนี้ภายในห้องเงียบสนิทจนได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องปรับอากาศและเสียงลมหายใจของคนสองคนที่กำลังนอนหันหลังชนกันอยู่

     

    “นี่คิบอม...” คนตัวเล็กนอนไม่ลับ จึงเอ่ยขึ้นเพื่อที่จะชวนเพื่อนที่นอนอยู่ข้างๆให้หันมาคุยด้วย

     

    “....” เพื่อนที่นอนอยู่ข้างๆไม่ตอบอะไร มีเพียงเสียงลมให้ใจเข้าออกสม่ำเสมอ

     

    “หลับแล้วหรอ?”

     

    “อืม..หลับแล้ว”

     

    “อ้าว..หลับแล้วพูดได้ไง”

     

    “ก็รู้แล้วจะถามทำไมล่ะ-  -“

     

    “นี่...” คนตัวเล็กพลิกตัวหันมาอีกฝั่งแล้วใช้นิ้วเล็กๆจิ้มที่หลังของเพื่อเบาๆ

     

    “อะไร?” คิบอมตอบแล้วหันหน้ามาหาฮยอกแจ แต่ลำตัวยังคงหันไปอีกฝั่ง

     

    “ถามอะไรหน่อยดิ”

     

    “อะไรล่ะ -  -?”

     

    “ถ้าเกิดวันนึงแกรู้ว่าเพื่อนสนิทแกมาแอบชอบแก แกจะทำยังไงวะ?” ฮยอกแจถามพลางนึกไปเจ้าเพื่อนตัวสูง  ไม่รู้ว่าการที่มาอยู่กับคิบอม แล้วพูดจาใส่เพื่อนตัวสูงแบบนั้นในช่วงเย็นจะทำให้เพื่อนตัวสูงน้อยใจรึเปล่า เพราะตอนนั้นที่พูดไปก็ด้วยอารมณ์จริงๆ เลยลืมคิดไปว่าเพื่อนจะรู้สึกยังไง

     

    คิบอมได้ยินคำถามก็รู้สึกเอะใจ คิดว่าฮยอกแจอาจจะรู้แล้วเรื่องฮันคยองแอบชอบ จึงหันมาหาฮยอกแจทั้งตัวแล้วลองถามให้แน่ใจ

     

    “ทำไม?..แกไปรู้อะไรมา?”

     

    “ป..ป่าว แค่อยากรู้เฉยๆ”  ฮยอกแจโกหกแล้วหลุบสายตาลงต่ำ

     

    น้ำเสียงที่ฟังดูติดขัดบวกกับการที่ฮยอกแจหลบสายตานั้นทำให้คิบอมไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าที่ฮยอกแจพูดมานั้นคือความจริง แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมายจึงไม่คิดที่จะท้วงออกไป

     

    “หรอ  ก็...ถ้าเราชอบเค้าเหมือนกันก็บอกเค้าไปดิ”

     

    “อาหะ..” ฮยอกแจพยักหน้าช้าๆก่อนจะตั้งใจฟังต่อไป คิดไม่ผิดจริงๆที่มาหาคิบอม เพราะเวลาปกติแล้วคิบอมจะดูเฉยๆไม่ค่อยพูดจา แต่พอถึงเวลาที่มีปัญหาแบบนี้คิบอมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่คอยให้คำปรึกษาได้เสมอ

     

    “ถ้าไม่ชอบก็เฉยๆไว้ แล้วบอกเค้าว่าให้เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”

     

    “แล้วแบบนั้นความรู้สึกจะเหมือนเดิมหรอ?” ถึงคิบอมจะพูดแบบนี้ก็เถอะ แต่เขาเองก็เห็นมานักต่อนักแล้ว ว่าเพื่อนกัน เป็นแฟนกัน พอถึงเวลาที่เลิกกันก็มองหน้ากันไม่ติดซักคน..

     

    “ไม่เหมือนดิ...การแอบชอบเพื่อนมันถึงเป็นอะไรที่ขมขื่นสุดๆไง”

     

    “แล้ว...ถ้าเกิดเราไม่รู้ความรู้สึกของตัวเองล่ะ ทำไง??” ฮยอกแจเริ่มถามถึงปัญหาที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจของตัวเอง

     

    “ก็ลองถามตัวเองดูดิ”

     

    “ยังไง?”

     

    “ก็..อย่างเวลาอยู่ใกล้ค้ารู้สึกดีมั้ย”

     

    “อืม..ถ้าอย่างนั้นฉันคงจะชอบแก ชอบทงเฮ แล้วก็ชอบ...ไอ้เกิง...ด้วย” ฮยอกแจคิดตามคิบอมแล้วพูดยาวเป็นประโยค แต่ก็ดันมาสะดุดตรงชื่อเพื่อนคนที่กำลังคิดถึงอยู่ตอนนี้

     

    “ไม่ใช่แบบนั้นสิวะ-  -“ คิบอมพูดออกมาด้วยความหงุดหงิดในความที่เป็นคนเข้าใจอะไรยากของฮยอกแจ

     

    “เอ๊า  ..แล้วแบบไหนล่ะ?”

     

    “เอางี้..”

     

    “...?”

     

    “ถ้าแกอยากอยู่ใกล้ๆเค้า  แกอยากดูแลเอาใจใสเค้า แกมักจะคิดถึงเค้าเป็นคนแรก แล้วแกก็ไม่เคยโกรธเค้า ไม่ว่าเค้าจะทำผิดแค่ไหน..นั่นแหละ แกชอบเค้า”

     

    “อืม...”

     

    “นี่..แกถามเหมือนมีคนมาแอบชอบแกอย่างนั้นแหละ-  -“

     

    “อืม...ทำนองนั้นมั้ง”

     

    “ใคร?”

     

    “ที่แกพูดมาเมื่อกี้มันยังก้ำกึ่งๆว่ะ” ฮยอกแจเลี่ยงที่จะตอบคำถามของคิบอม เพราะคิดว่าถ้าคิบอมรู้ก็คงมีอาการช๊อกไม่ต่างจากเขา

     

    “โว๊ย=  =! ...อุตส่าห์พูดตั้งยาวยังจะก้ำกึ่งอีก”

     

    “ก็มันก้ำกึ่งจริงๆอะ”

     

    “เหอะ..งั้นนอนเถอะ เลิกไร้สาระได้แล้ว” พูดเสร็จคิบอมก็ตั้งท่าจะหันไปอีกฝั่งแต่ฮยอกแจดันพูดขึ้นมาซะก่อน

     

    “ไม่ไร้สาระนะ!

     

    “.....” เสียงตะคอกของฮยอกแจทำเอาคิบอมถึงกับหยุดการกระทำแล้วตั้งใจฟัง...

     

    “คนที่แอบชอบฉันคือไอ้เกิง!...ไง ดูมีสาระขึ้นมาบ้างรึยัง..”

     

    “.....” คิบอมไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย ไม่ผิดจากที่คิดไว้ตอนแรก ว่าฮยอกแจคงหมายถึงฮันคยอง

     

    “เงียบ...ช๊อกเลยดิ”

     

    “หึ..แกรู้แล้วหรอ?”

     

    “อือ..แกพูดเหมือนแกก็รู้แล้วอย่างงั้นแหละ”

     

    “อือ..รู้แล้ว”

     

    “หะ!...นานยัง?”

     

    “ตั้งแต่ปี1”

     

    “หะ!! ตั้งแต่ปีหนึ่งเลยหรอ?”

     

    “เออสิ...แกมันดันโง่ไม่รู้เอง”

     

    “อ้าว..ค..ความจริงฉันก็เอะใจมาตั้งนานแล้วเหอะ!” ฮยอกแจเถียงออกไปเพราะไม่อยากยอมรับว่าตัวเองโง่อย่างที่คิบอมได้ว่าไว้

     

    “หึ..แล้วนี่จะเอายังไงล่ะ”

     

    “อะไร?”

     

    “ไอ้ฮันมันรอมานานแล้วนะ ...รู้สึกยังไงก็รีบๆพูดเถอะ”

     

    “หึ...เก็บเอาคำพูดแกเมื่อกี้ไปบอกไอ้เกิงมันเถอะ”

     

    “หือ ..ทำไม?”

     

    “แค่ให้พูดว่าชอบมันยังไม่ยอมพูดเลย...แล้วอย่างนี้จะให้เชื่อได้ไง ฮึก...” พูดแล้วคนตัวเล็กก็ร้องไห้ออกมาหลังจากที่เก็บความรู้สึกต่างๆไว้มานานตั้งแต่ช่วงเช้า  มือเล็กค่อยๆยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้ตัวเองช้าๆ

     

    “หึ...บอกอะไรให้มั้ยไอ้โง่” คิบอมพูดแล้วดันหัวเพื่อนเข้ามาซบอกแกร่งของตัวเองเพราะรู้ว่าในเวลานี้เพื่อนคงกำลังต้องการคนปลอบใจ

     

    “ฮึก...อะไร”

     

    “ที่มันไม่ยอมพูดเพราะมันแคร์ความรู้สึกแกไง”

     

    “ฮึก...”

     

    “ฮันมันไม่ได้ชอบแกอย่างที่แกเข้าใจหรอกนะ”

     

    “ห..หืม?”

     

    “แต่ฮันมันรักแก...ไอ้ฮยอก”






    ________________


    แอ่ยยยยยยย><

    จะสามทุ่มครึ่งแล้วยังมีคนเข้ามาอ่านป่าวหว่า?


    ถ้าเข้ามาก็โชคร้ายหน่อยเด้อ5555


    แต่พรุ่งนี้ต้าอัพครบ100%แน่นอน!!!

              
    แล้วพรุ่งนี้ต้าก็จะขึ้นอิโทรฟิคเรื่องใหม่ให้ด้วย


    แค่ลองขึ้นอินโทรเฉยๆนะ ที่ต้าเคยเกริ่นๆไว้ว่าเป็นเรื่องฮันฮยอกอ่ะ

    เพื่อนมันอยากอ่านก็ลงสนองความต้องการมันหน่อย-  -

    ตอนนี้แม่ไล่- -

    งั้นต้าไปก่อนนะ

    บ๊ายบายค่า~~~

    พรุ่งนี้มาอัพๆๆๆๆๆ

    หิหิ... เม้นด้วยนะ!!!

    update : 110110

     ________________________

    อัพแล้วจ้า~~

    ขอโทษที่มันไม่ครบ100%และไม่ได้ขึ้นอินโทรเรื่องใหม่TT

    ความจริงวันนี้โรงเรียนต้าเลิกประมาเที่ยง กะจะกลับบ้านมาแล้วนั่งปั่นฟิค

    แต่โรงเรียนมันดันเอาอะไรไม่รู้มาอบรม

    กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบ5โมง

    ผลงานเลยออกมาอย่างที่เห็น
     
    55% TT

    ขอโทษนะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบวันนี้อีกต้าจะมาอัพเพิ่มให้แน่นอนค่ะ^^!






    ปล. บางคนอยากอ่านฮันฮยอก...

              บางคนอยากอ่านคิเฮ...
                 
                    จะเอาไงกับต้าคะ??

    55555 5ล้อเล่นๆ ยังไงต้าก็แต่งตามพล็อตเรื่องอยู่แล้ว ไม่มีตามรีเควสจ้า^^

    update : 120110

    _________________

    อ๊าก ก ต้าโดนแม่สั่งเลิกเล่นคอมละค่ะTT

    แต่ตอนนี้แอบเล่นอยู่=  =

    ต้าจะพยายามอัพให้มันค้างน้อยที่สุดแล้วเอามาลงให้นะ 

    เดี๋ยวต้าจะไปอัพเพิ่มแล้วเอามาลงให้อีก

    ถ้าแม่ยังไม่กลับบ้านซะก่อน-  -;

    update : 140110

    _____________

    โอ้จอร์จ โอ้ซาร่าห์ อาห้า~

    จะตีสี่แล้วเยี่ยมไปเลย-  -

    55555 5

    ปล่อยค้างไว้กี่วันหว่าจำไม่ได้-  -

    แต่พรุ่งนี้ต้าต้องออกไปเที่ยวกับที่บ้าน

    วันจันทร์-อังคารเข้าค่าย

    วันพุธไปทัศนศึกษา

    วันพฤหัสเรียนพิเศษ

    กว่าต้าจะอัพได้จริงๆก็วันศุกร์-  -

    วันนี้เลยถ่างตาอัพให้ 555 5  (จุ๊ๆ อย่าเอะไปนะเออ~ เค้าแอบย่องลงมา-..-)

    หิหิ.

    หลายคนบอกยิ่งลงยิ่งค้าง

    แป่ว ววว   พยายามให้มันไม่ค้างที่สุดแล้วนะนิ-  -

    แต่ก็เหมือนจะค้างอยู่ดี 

    อือ...ช่างเถอะ-  -

    วันจันทร์-อังคารต้าเข้าค่ายที่โรงเรียนเฉยๆ อาจจะกลับมาอัพเพิ่มนะจ้ะ^^

    ต้าไปนอนละนะ พรุ่งนี้ไปเที่ยวต้องตื่นเช้าอีก

    เจริญแท้=  =


    ......ราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่น้องชาว Y : )

    update : 170110





    ปลุกหมี. วันนี้วันเกิดพี่  ขอให้พี่มีความสุขมากๆนะคะพี่คัง สู้นะคะพี่ รีบกลับมาหาเอลฟ์นะ!!

    คิดถึงจะตายอยู่แล้ว ไฟท์ติ้ง^^!!!!





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×