ย้อนเวลามาเป็น.....หมอเทวดา (จบแล้ว) (เปิดสั่งจองหนังสือ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2561 )
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ กำลังภายใน ผู้แต่ง : matsuiakira41
My.iD :
https://my.dek-d.com/matsuiakira41/writer/
ตอนที่ 121 : ภาค 4 บทที่ 6
“นี้พวกเจ้ารู้หรือเปล่า ท่านหมอที่สำนักวายุเทพพามา เป็นลูกศิษย์ของท่านหมอเทวดาที่เมืองเยี่ยน”คำบอกต่อกันของชาวบ้านทำเอาสำนักแพทย์หลวงที่เดินซื้อของในเมืองหันไปมอง เมื่อได้ยินถึงสำนักวายุเทพที่หาญกล้ามาตั้งค่ายรักษาอยู่ตรงข้ามพวกเขา
แถมระหว่างนี้ท่านรองเจ้าสำนักของพวกเขายังถูกคนของทางการจับกุมไปอีก แถมทางการยังไม่บอกเหตุผลที่ใช้ในการจับกุมท่านรองเจ้าสำนักออกมาอีก ทำให้สำนักแพทย์หลวงตอนนี้ต้องทำตัวสงบเสงี่ยมรีบร้อน ไม่คิดก่อความวุ่นวายเพิ่มเติม แต่คอยยืนฟังเงียบเพื่อเก็บไปรายงานให้ท่านเจ้าสำนักที่พึ่งเดินทางมาถึง
“พวกเรารีบนำเรื่องนี้ไปรายงานท่านเจ้าสำนักกันเถอะ”หลังจากที่ยืนนิ่งฟังชาวบ้านคุยกัน จนจับใจความสำคัญได้แล้ว พวกเขาต่างพยักหน้าเห็นพร้อมตรงกันว่าเรื่องนี้ต้องรีบนำไปรายงานท่านเจ้าสำนักให้รู้
หนึ่งในชาวบ้านที่ได้พูดคุยกันอยู่นั้น หันไปมองดูกลุ่มสำนักแพทย์หลวงเดินออกไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อตอนนี้เขาได้ทำตามที่ได้รับคำสั่งมาแล้ว ส่วนที่เหลือก็ต้องรอดูว่าจะออกมาเป็นยังไง แต่ตอนนี้เขาต้องรีบไปกระจายข่าวเพิ่มเติมเพื่อเรียกชาวบ้านให้ไปรวมตัวกันที่ค่ายรักษาสำนักวายุเทพต่อ
เฟยหลงตอนนี้กำลังยืนมองหม้อต้มยาเกือบห้าสิบหม้อ ที่วางอยู่รอบๆลานกว้างของค่ายรักษา เขาพอใจเป็นอย่างมากเมื่อตอนนี้กลิ่นของยาที่ส่งออกมา ทำให้จิตใจของเขาสงบลง รอบๆหม้อต้มยามีคนยืนเฝ้าอยู่ทุกจุด เพื่อป้องกันเหตุร้าย
“ท่านหมอขอรับ แม่นางหนีหวงมาแล้วขอรับ”หลิวเมิ่งที่ไปยืนเฝ้ารอหนีหวงที่หน้าค่าย เมื่อเห็นว่าหนีหวงเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆแล้ว เขาจึงรีบเข้ามารายงานให้ท่านหมอที่เฝ้ารอคอยอยู่นั้นให้ทราบ
“เดี๋ยวเจ้าบอกให้นางไปหาข้าที่ข้างในกระโจมได้เลย แล้วเจ้าก็มายืนเฝ้าตรงนี้แทน จนกว่าที่ข้าจะออกมา เจ้าห้ามให้ผู้ใดเข้าใกล้หม้อต้มยาเด็ดขาด”เฟยหลงหันมาบอกหลิวเมิ่ง ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปยังกระโจมรักษาที่อยู่ใกล้ๆ มือของเขาล้วงเข้าไปในชายเสื้อเพื่อจับขวดยาข้างในนั้นอีกครั้ง เพื่อตัดสินใจครั้งสำคัญ
หลิวเมิ่งที่ได้ยินอย่างนั้น ก็รีบเดินไปบอกหนีหวงก่อนที่จะกลับเข้ามายืนประจำที่ของเขา หน้าที่ที่ท่านหมอมอบหมายให้เขาดูแล เขาจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องผิดพลาดเป็นอันขาด
กระโจมรักษาค่ายสำนักวายุเทพ
เฟยหลงยืนมองกล่องไม้ที่บรรจุสมุนไพรต่างๆในนั้น เฝ้ารอการมาของหนีหวง รอได้ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงเปิดกระโจมว่าคนที่เขารอคอยนั้นมาถึงแล้ว เฟยหลงค่อยพลิกตัวหันกลับมามองหนีหวงที่ยืนนิ่งอยู่ตรงกลางกระโจม เขาใช้สายตาสำรวจว่ามีร่องรอยบาดเจ็บบนตัวหนีหวงหรือไม่
สองสายตาของทั้งคู่ต่างคอยสังเกตกันและกัน ว่ามีตรงไหนที่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อเห็นว่าอีกคนปลอดภัยดีไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน คนที่เริ่มบทสนทนาก่อนคือหนีหวง
“ข้าทำทุกอย่างตามที่เจ้าต้องการแล้วนะ ตอนนี้ผู้คนคงจะทยอยเดินทางมาที่ค่ายอย่างที่เจ้าต้องการ”หนีหวงบอกให้เฟยหลงรู้ ถึงเรื่องที่เขาได้ขอร้องให้นางทำ คือปล่อยข่าวเรื่องที่เขาเป็นลูกศิษย์ของหมอเทวดาที่ผู้คนล่ำลือว่าอยู่ที่เมืองเยี่ยนออกไป ให้ชาวบ้านได้รู้
“ข้าขอบใจเจ้ามากสำหรับเรื่องนี้”เฟยหลงขอบคุณหนีหวงที่ช่วยปล่อยข่าวนี้ออกไป เฟยหลงสูดลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง ก่อนตัดสินใจที่จะดึงขวดยาที่เก็บไว้ในแขนเสื้อออกมา พร้อมกับยื่นขวดยานั้นไปตรงหน้าหนีหวง
“ขวดยาอะไรหรือเฟยหลง”หนีหวงก้มมองขวดยาที่เฟยหลงส่งมาให้นาง พร้อมกับเอ่ยถามว่ามันคืออะไร
“ข้าต้องการให้รองเจ้าสำนักและเจ้าสำนักสำนักแพทย์หลวงทานยานี้ เจ้าทำให้ข้าได้หรือไม่หนีหวง”เฟยหลงไม่บอกว่าคือยาอะไร แต่เขาบอกให้หนีหวงรู้สิ่งที่เขาต้องการให้หนีหวงทำ
“ได้ ข้าจะทำให้เจ้าภายในคืนนี้”หนีหวงเอื้อมมือไปหยิบขวดยาที่เฟยหลงส่งมาให้ถือไว้ ก่อนที่จะเก็บมันไว้ข้างในแขนเสื้อของตัวเองอย่างดี หากเฟยหลงไม่อยากบอกนางก็จะไม่คาดคั้นอะไรเขา นางเชื่อว่าก่อนที่เฟยหลงจะมอบขวดยานี้ให้กับตัวเอง เขาต้องตัดสินใจดีแล้วถึงผลลัพธ์ของมัน
ยาในขวดนี้คนที่ให้เขามาคือหญิงสาวผู้ลึกลับคนนั้น นางให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะใช้หรือไม่ หญิงสาวผู้ลึกลับคนนั้นไม่ได้บังคับเขา แต่นางกลับสั่งให้เฟยหลงไปสอบถามผู้คนเอง ว่าสองคนที่เขาเอ่ยชื่อมานั้นสมควรหรือเปล่า ที่จะทานยาที่อยู่ในขวดนี้
ตอนที่เขาได้รู้เรื่องที่ทั้งสองคนได้ทำขึ้นมานั้น ทำเอาเฟยหลงต้องน้ำตาไหลออกมา เมื่อคิดว่าในอดีตที่ผ่านมานอกจากท่านอาจารย์ของเขาแล้วที่ต้องเสียชีวิต ไหนจะฟางเซียนที่ถูกวางยาพิษไม่ให้ก้าวหน้าอีก และที่สำคัญเขาคิดว่าการลอบสังหารครอบครัวของเจ้าของร่างที่เขาอาศัยอยู่ คงจะต้องเกี่ยวข้องกับสองคนพี่น้องนั้นแน่นอน แถมยังมีผู้คนอีกนับไม่ถ้วนที่ต้องตกเป็นเหยื่อของคนทั้งคู่
ค่ายทหารเมืองชิงอัน
หยวนกงเดินเข้ามาข้างในค่าย พร้อมกับทหารของเขาเพื่อเข้าไปพูดคุยกับอดีตศิษย์พี่ที่เขาเคยนับถือ หลังจากที่มีคนของแม่ทัพเซี่ยได้เข้าไปรายงานให้เขารู้ถึงการจับกุมคนผู้นี้ หยวนกงหันไปมองรอบคุกที่ใช้คุมขังตัวนักโทษ เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ที่หนึ่งในคนรู้จักของเขาจะถูกจับกุมตัว
“เราไม่ได้พบกันนานเลยนะท่านพี่อู๋เฟย”เสียงที่ดังขึ้นมานั้น ทำให้อู่เฟยที่นั่งหลับตานิ่งสงบอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อเห็นว่าใครที่ยืนอยู่ข้างหน้าห้องขังแล้วอู๋เฟยต้องข่มกลั้นอารมณ์ตัวเองลงไป พร้อมกับหลับตาลงไม่ยอมพูดอะไรออกมา ทำเหมือนกับว่าข้างหน้านั้นไม่ได้มีใครยืนอยู่
“ท่านทำอย่างนี้ไปทำไมกัน ทำเรื่องโหดร้ายเยี่ยงนั้นได้ยังไงกัน”หยวนกงพูดออกมา เขาอยากถามว่าทำไมถึงทำเรื่องแบบนั้น ทำไมถึงกล้าทรยศความไว้ใจของทุกคน ชื่อเสียงเงินทองมันมีค่ามากกว่ามิตรภาพของพวกเราที่มีต่อกันหรือยังไง
“วันนี้ท่านอาจจะไม่ยอมพูดอะไรกับข้า แต่ข้าเชื่อว่าท่านคงไม่มีวันที่จะหลุดรอดไปจากห้องขังสี่เหลี่ยมนี้ได้ เพราะข้าจะทวงความยุติธรรมที่ท่านได้พรากมันไปจากผู้คน”อู๋เฟยลืมตาขึ้นมามอง สายตาของเขาที่มองหยวนกงเต็มด้วยความโกรธแค้นหยวนกง ที่เข้ามาขัดขวางแผนการครั้งนี้ของเขา
“ท่านแค้นข้าอย่างนั้นหรือ ข้าต่างหากที่แค้นท่าน ค้นที่ท่านพรากสหายคนสำคัญของข้าให้จากไปก่อนวัยอันควร ท่านทำให้สหายข้าต้องทุกข์ทรมานก่อนจากไป ท่านมีสิทธิ์อะไรมามองข้าเยี่ยงนี้”หยวนกงพูดทุกอย่างที่เขาเก็บไว้ในใจออกมาจนหมด เมื่อคนตรงหน้าของเขายังไม่ยอมรับในความผิดที่ตัวเองได้ก่อขึ้นมา
“ข้าทำอะไรผิด ทุกอย่างที่เจ้ากล่าวมานั้นข้าไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยท่านแม่ทัพใหญ่ ขอร้องท่านอย่าได้ปรักปรำข้าเลย”อู๋เฟยเอ่ยออกมาเสียงเรียบ ราวกับว่าทุกเรื่องที่หยวนกงเอ่ยออกมานั้นไม่ใช่ฝีมือของตัวเอง หยวนกงมองศิษย์ผู้พี่ที่วางตัวเองสูงส่ง คนตรงหน้าของเขาไม่ใช่คนเดิมที่เขาเคยรู้จักอีกต่อไปแล้วจริงๆ
“ท่านไม่ผิด ท่านช่างกล้าพูดคำนี้ออกมาได้ สมควรแล้วสมควรแล้วที่แม่นางเจ้าจิ่นไม่เลือกท่านเป็นคู่ชีวิต เพราะนางคงมองเห็นสันดานของท่านที่ท่านเก็บซ่อนเอาไว้”หยวนกงเอ่ยคำพูดตอกย้ำปมด้อยของอู๋เฟย เขาหัวเราะออกมาอย่างพอใจ เมื่อตอนนี้ได้มองเห็นร่องรอยความไม่พอใจของคนที่อยู่ข้างในห้องขังที่แสดงออกมา
“หยวนกง”อู๋เฟยคำรามออกมาเสียงดัง เมื่อได้ยินคำพูดที่หยวนกงเอ่ยออกมา เขาขยับตัวลุกขึ้นแต่ไม่สามารถเดินออกไปได้เมื่อทั้งแขนและขาของเขาถูกล่ามเอาไว้ด้วยโซ่
“ทำไม ท่านจะทำอะไรข้า ข้าพูดผิดตรงไหนทำไมท่านถึงรับไม่ได้”
“ข้าจะฆ่าเจ้าหยวนกง ฆ่าจะฆ่าเจ้าให้ตาย”หยวนกงมองดูชายชราตรงหน้าด้วยความสมเพช ดูท่าว่าเรื่องแม่นางเจ้าจิ่นจะเป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตของชายผู้ตามหาความสมบูรณ์แบบ หยวนกงมองดูอย่างนั้นก่อนที่เขาจะพลิกตัวเดินกลับออกไปข้างนอก พร้อมกับกำชับคนที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างหน้าให้เฝ้าให้ดี ห้ามให้ใครเข้าเยี่ยมหากว่าไม่ใช่คำสั่งมาจากเขา แม่ทัพเซี่ย และหนีหวง
.........................................................................................................................................................................
มาแล้วค่ะ หวังว่าทุกคนจะสนุกกับการอ่านนะคะ
แล้วพบกันบทต่อไปค่ะ เที่ยงแล้วอย่าลืมทานอาหารกันนะคะ
8 ความคิดเห็น