ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "MEAN BOY" มนุษย์ชานยอล | CHANBAEK KAIHUN

    ลำดับตอนที่ #25 : Chapter 24 :: His University Life (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.3K
      106
      18 ต.ค. 57

     

     

     

    Chapter 24

    His University Life

     

     


     

    ปัง!

     

    ประตูห้องปิดลงเสียงดังพร้อมกับแผ่นหลังที่ดันไว้ราวกับกลัวว่าตำรวจที่ขับสวนมาเมื่อครู่จะไล่ตามมาเอา Wii ในกระเป๋าคืนพร้อมกับแถมข้อหาลักขโมยของในบ้านตัวเองมาอีกหนึ่งกระทง

     

    ริมฝีปากยังคงอ้าพะงาบ ๆ เพื่อโกยอากาศเข้าปอด ทั้งที่จากบ้านแบคฮยอนมาที่นี่ใช่ว่าเขาจะใช้สองขาวิ่งเสียเมื่อไหร่ แน่นอนว่าปาร์คชานยอลซิ่งดูคาติยอดรักปาดซ้ายปาดขวามาจนถึงหน้าหอพัก จอดเสร็จก็รีบวิ่งร้อยเมตรชายขึ้นมาบนชั้นสี่ทั้งที่มีลิฟท์ตั้งโด่รออยู่ชั้นหนึ่ง

     

    ขายาวเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียงหลังจากเรียกสติกลับมาได้ วางกระเป๋าเป้ไว้บนเตียงอย่างเบามือแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนพื้นห้องที่มีซากเสื้อผ้าใส่แล้วกระจายอยู่เต็มไปหมด นึกแล้วก็อับอายกับความกากของตัวเองตอนป๊ะหน้ากับแบคฮยอน เวรตะไลไฟไหม้ทั้งที่กะแล้วว่ายังไงก็ต้องหนีทันถ้าได้ยินเสียงรถขับเข้ามาจอดในบ้าน แต่นี่อะไร แบคฮยอนล่องหนได้เหรอถึงได้โผล่มาตอนที่เขาเพิ่งกินขนมปังเสร็จแบบนั้นแถมยังหาว่าเขาเป็นโจรอีก

     

    เด็กหนุ่มมองไปยังเพดานห้องแล้วก็เบ้ปาก ป่านนี้คงโดนน้าชายคงสาปแช่งไม่เหลือชิ้นดีที่เขากลับไปเอาของที่บ้านแถมยังแอบแดกนั่นนี่เพราะความหิวอีก แต่จะให้ทำไงได้ครับ ชีวิตเด็กหอค่าใช้จ่ายบานตะไท ไหนจะโดนแม่ดัดเส้นให้เงินใช้น้อยมันเลยเป็นเรื่องสุดวิสัยจริง ๆ ที่จะแอบกินตอนกลับไปเอาของ

     

    นึกแล้วก็น้อยใจ แม่น่าจะคิดบ้างว่าการใช้ชีวิตแบบนี้มันต้องจ่ายค่าข้าวทุกมื้อ นี่ยังไม่รวมค่าโค้กที่ต้องซื้อมาแช่ตู้เย็นติดไว้ตลอดอีกนะ แต่จะกลับไปขอโทษน้าชายแล้วใช้ชีวิตเหมือนเดิมก็ไม่ได้อีก ถ้าไม่ติดว่าไปทำเท่จูบแบคฮยอนวันนั้นเรื่องมันคงไม่ยุ่งยากแบบนี้หรอก

     

     

    เพราะมึงคนเดียวเลยปาร์คชานยอล กระดร๊ออออออออ

     

     

    ล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดโทรหาเพื่อนสนิท เนื่องจากช่วงต้นเดือนเสือกสาระแนไปแดกบุฟเฟ่ เที่ยวผับตามประสาเด็กเห่อหะมอยเลยกลายเป็นว่าปัจจุบัน  ณ ตอนนี้พี่กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง โคฟเป็นเอกราช สุวรรณภูมิไปโดยปริยาย อย่าถามครับว่าใครเป็นแฟน นี่ปาร์คชานยอลกำลังอยู่ในช่วงทำใจหลังจากเลิกกันมา เฮิร์ทสุด ต้องหาอะไรมาทำอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะไม่คิดถึง ซึ่งกูมโนเองว่าคน ๆ นั้นคือแบคฮยอน

     

     

    อะไร ไม่ต้องด่าเลย ถึงแบคฮยอนไม่ได้เป็นแฟนกูแต่กูเป็นแฟนแบคฮยอนเองฝ่ายเดียวก็ได้เว้ย

     

     

    ( ฮัลโหล ว่าไงมึง )

     

    อยู่บ้านเปล่าวะ

     

    ( เปล่าอ่ะนี่กูอยู่ข้างนอก มีไรว้า )

     

    ไปทำไร ทำไมมึงไม่อยู่บ้านอยู่ช่องให้พ่อแม่อุ่นใจ รู้ไหมว่ากูหิว นี่กะจะไปอาศัยใบบุญกินข้าวเย็นฝีมือแม่มึงสักหน่อยทำไมเสือกออกไปข้างนอก ถ้ามึงกลับบ้านช้ากูไม่ต้องไปขอข้าววัดแดกเลยเหรอ

     

    ( กูออกมาจ่ายตลาดกับหม่อม แค่นี้ก่อนนะมึงแกเรียกกูละ )

     

    พอจบประโยคจื่อเทาก็วางสายไป ทิ้งไว้แค่เพื่อนสนิทผู้ไม่มีอันจะแดกนอนคว้างอยู่บนพื้นอย่างน่าสมเพช เด็กหนุ่มยกตีนขึ้นถีบอากาศอย่างหัวเสีย ทำไมทุกอย่างดูเหมือนจะขัดใจไปหมด ตั้งแต่เปิดเทอมใหม่แทนที่ปาร์คชานยอลจะสนุกกับชีวิตอิสระแต่นี่อะไร

     

    มันก็สนุกหรอกตอนเอนจอยกับการเที่ยวผับ เล่นเกมโต้รุ่ง ไปไหนมาไหนก็ได้ไม่ต้องรายงานใคร แต่พอทุกอย่างจบลง ช่วงที่ต้องให้สมองได้พักผ่อนคือเวลานอนนั้นภาพของน้าชายตัวเล็กก็ลอยเข้ามาในหัวให้ได้คิดตลอด

     

     

    เบื่อ เซ็ง นอยด์

     

     

    เมื่อชั่วโมงก่อนหน้านี้ปาร์คชานยอลต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากที่จะไม่มองหน้าแบคฮยอนทั้งที่โคตรคิดถึงจนอยากดึงเข้ามาฟัดแก้มแรง ๆ เอาให้กลิ่นหอมหายไปทั้งตัวเลย ไม่ได้หื่นนะเว้ยที่พูดนี่มาจากความคิดถึงทั้งนั้น แต่น้าชายใจร้ายของเขาคงไม่คิดถึงกันหรอก ป่านนี้คงไปมีความสุขกับไอ้ครูเส็งเคร็งนั่นอยู่แหง ๆ

     

     

    เหอะ พอวกกลับมาเรื่องนี้วันดี ๆ ก็กลายเป็นขี้หมาไปในบัดดล

     

     

    ขายาวพาดลงบนเตียงหกฟุต ถึงมันจะกว้างกว่าเตียงที่บ้านแต่เชื่อเถอะว่าเด็กตัวสูงยังคงชอบเบียดไปนอนรวมร่างกับผนังแล้วเว้นที่ว่างอีกฝั่งนึงไว้ให้นักฟุตบอลทั้งสโมสรลงเตะได้ ก็คนมันไม่ชิน ไอ้เตียงหอกนี่ก็ดูจะมีประโยชน์ก็ตอนไอ้เทามาค้างด้วยตอนเลิกเรียนค่ำนั่นแหละ นอกนั้นก็ไม่เห็นสาระอะไรเลยนอกจากการเป็นส่วนเกินที่ทำให้พื้นที่ในห้องนี้แคบลง

     

    สไลด์มือถือเล่นแก้เซ็งแต่ยิ่งเซ็งกว่าเดิมนี่คืออะไร ปาร์คชานยอลรู้สึกว่าโลกนี้มันจะทำตัวมีปัญหากับเขาเกินไปแล้ว นี่หงิดจนอยากวิ่งออกไปนอกระเบียงแล้วตะโกนว่า พ่องตายยยยยยยยยยยยยยยยยยย ดัง ๆ ถ้าไม่ติดว่าอีเจ๊เจ้าของหอเป็นมนุษย์ป้าผู้โหดสัด

     

    ในเมื่อชีวิตไม่มีอะไรดีไปกว่านี้เด็กหนุ่มก็ไม่ต่างจากหมาจนตรอก นิ้วยาวกดเข้าเบอร์โทรของหญิงสาวคนหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน ปาร์คจียอน สาวงามแห่งวิศวะที่หนุ่ม ๆ ต่างให้ความสนใจตั้งแต่วันแรก แต่นางเสือกเดินเข้ามาหาเขาแล้วเปิดประโยคว่า

     

     

    เป็นแฟนกันไหม เราชอบนาย

     

     

    นี่เงิบไปหลายวิ พอจียอนหัวเราะออกมาเท่านั้นแหละบรรยากาศเลยผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย แน่นอนว่าปาร์คชานยอลไม่ได้ตอบรับคำขอเพราะไอ้เทาเข้ามาช่วยชีวิตไว้พอดี คุณผู้หญิงทั้งหลายครับการเป็นสาวมั่นมันเป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องจีบนี่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ชายเถอะ ไม่ก็รอดูท่าทีเขาก่อนไหม ไม่ใช่เจอหน้าแล้วเข้าชาร์จใส่แบบนาง

     

    จียอนบอกว่าเริ่มต้นจากเพื่อนก่อนก็ได้เธอไม่รีบแต่ถ้ามีผู้ชายมาจีบอย่าหึงแล้วกัน นี่ก็ไม่รู้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน มั่นหน้ายิ่งกว่าตอนไอ้เทาไปงานมีทแล้วมโนไปเองว่าพี่เซฮุนโบกมือให้มันคนเดียวยังไงอย่างนั้น

     

    ตอนนี้จียอนได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มของเขาแล้ว กลุ่มที่ว่าก็ Many Many People เหลือเกินทั้งหมดสามคนถ้วน ปาร์คชานยอล หวงจื่อเทา ปาร์คจียอน เพอร์เฟคสุดแลดูใหญ่โตอลังการ พูดก็พูดเถอะครับ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาคงงาบเธอแล้วไม่ต้องสืบ เมื่อก่อนเคยมีสโลแกนหล่อ ๆ ว่า เพื่อนกันมันส์ดี แต่กรณีนี้ขอยกเว้นหวงจื่อเทาไว้คนนึง

     

    ( จ๋าที่รัก )

     

    เย็นนี้กินข้าวกับใคร ไปกินด้วยได้เปล่า

     

    ( เอาดิ ชวนจื่อมาด้วยนะนี่เพิ่งซื้อฟิคเรื่องใหม่มา )

     

    อีกละ นี่ลืมบอกไปเลยว่านางเป็นสาววาย ที่ผูกมิตรกับไอ้ห่าเทาได้ง่าย ๆ ก็เพราะคุยเรื่องฟิคเรื่องเกย์กันตั้งแต่ต้นคาบนี่แหละ แถมยังติ่งพี่เซฮุนเหมือนกันอีก ไม่รู้ว่าพี่แกดังหรือว่าบุพเพกันแน่ มีปาร์คจียอนเป็นเพื่อนก็เหมือนได้คู่แข่งหัวใจเพิ่มมาอีก 1 ea ถึงจะรู้อยู่เต็มอกก็เถอะว่าตัวเองเป็นได้แค่แฟนคลับ เพราะแฟนครับของไอดอลของเขาคือไอ้พี่กากคิมจงอินที่ชอบย้ายไปอยู่ฝั่งตรงข้ามเวลาตีดอทเพื่อที่จะได้ฆ่าเขา

     

    มันไม่ว่าง ใสเจียเสียใจ

     

    ( ไม่เป็นไร เราจะได้สวีทกันสองคน )

     

    พูดงี้โทรชวนฮโยมินมาด้วยเถอะ

     

    ( ไม่เอาอ่ะ เรากลัวมันชอบตัว )

     

    เออ งั้นทำกับข้าวรอเลยเดี๋ยวไปกินด้วย เคนะ

     

    ( จุ๊บก่อนดิ )

     

    บาย

     

    ชานยอลตัดสายแล้วทิ้งแขนลงบนพื้น สายตานี่ก็ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนก็มองเพดานนี่แหละ ทำไงดีวะ พยายามยังไงก็ไม่หายคิดถึง ขนาดย้ายออกมาในที่ ๆ มองเห็นแบคฮยอนยากแล้วก็ยังเป็นแบบนี้ แถมเวลาก็ผ่านไปเป็นเดือน ๆ แล้วแทนที่จะดีขึ้น ใครบอกว่าเวลาจะทำให้คนเราลืมความรู้สึกที่มีต่อคน ๆ นึงได้ มันไม่เห็นจะจริงเลยสักนิดเดียว อ้อใช่ ไอ้พวกเพจคำคมในเฟซบุ้คทั้งหลายนั่นแหละที่คอยเสี้ยมให้เขาเป็นแบบนี้

     

     

     

     

    พี่ปีสองขอให้เราลงประกวดดาวคณะแหละ

     

    อ้อ ชานยอลขานตอบในลำคอขณะก้มหน้าก้มตากินโดยที่ไม่สนใจจะเงยหน้าขึ้นมาคุยกับเด็กสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเลย จียอนเท้าคางมองคนตัวสูงที่กำลังกินข้าวฝีมือเธอแล้วก็อมยิ้มอารมณ์ดี

     

    แล้วตัวล่ะได้ลงประกวดไหม?

     

    ไอ้เทาลงแล้ว

     

    หว่าย จะได้คู่กับจื่ออ่ะดิงานนี้

     

    เออ เวลากรรมการถามถึงความสามารถก็บอกไปเลยว่าเธอกับไอ้ห่าเทาตีคู่อ่านฟิคเกย์ข้ามวันข้ามคืนได้โดยไม่ต้องนอน เชื่อเถอะว่าไม่มีดาวเดือนคณะไหนทำแบบนี้ได้

     

    พอชานยอลพูดจบจียอนก็ระเบิดหัวเราะลั่นโดยไม่แคร์ภาพลักษณ์ ชานยอลเงยหน้าขึ้นแล้วหรี่ตามองผู้หญิงเส้นตื่นแล้วก็ระอา นี่ถ้าพวกผู้ชายทั้งหลายที่แอบปลื้มนางมาเห็นคงได้เฟดตัวถอยออกแทบไม่ทัน สติอยู่ไหน

     

    ก็ชอบนี่นา

     

    เดี๋ยววันแข่งจะไปเชียร์แล้วกัน

     

    เริ่ดอ่ะ ตัวซื้อกุหลาบมาให้เราด้วยนะ

     

    เงินจะกินข้าวยังไม่มี จะเอาเงินไหนไปซื้อกุหลาบให้คุณเธอครับนี่ถาม เด็กตัวสูงเลิกคิ้วมองคาดโทษคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม จียอนเบ้ปากแล้วเอื้อมมือมาลูบแขนเพื่อนชายอย่างเห็นใจ

     

    โอ๋นะ ไม่ได้ตั้งใจพูดเรื่องแบบนี้เลย เราลืมว่าตัวเซนส์ซิทีฟเรื่องมันนี่

     

    เครียด พูดเรื่องเงินแล้วเครียด

     

     

    กิ๊งก่อง!

     

     

    แป้บ จียอนชูนิ้วชี้แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูบ้าน ใครมาอีกล่ะหนิ ไหนว่าพ่อแม่ไปเที่ยวต่างประเทศสองอาทิตย์ นี่เพิ่งจะวันแรกเองไหม อย่าเพิ่งกลับมาเถอะขอกินข้าวฟรีอีกสักสามสี่ห้าหกวันก่อนเงินเข้า

     

    มาแล้วววววววววว

     

    ... ชานยอลหรี่ตาแล้วหันกลับไปมองข้างหลังแล้วก็เห็นไอ้เพื่อนเชี่ยที่บอกว่าไม่ว่างไปช้อปกับแม่กำลังแสลนเข้ามาข้างในพร้อมกับถุงพลาสติกในมือจำนวนหนึ่ง

     

    ว้อทซับแม๋น

     

    ซับพ่อง

     

    มาก็โดนเลย จื่อเทาว่าแล้ววางถุงลงบนโต๊ะก่อนจะแย่งเอาตะเกียบของจียอนมาคีบกับข้าวกินหน้าตาเฉย

     

    ไหนมึงบอกว่าไม่ว่าง?

     

    กูบอกจีจี้แล้วนะเว้ยว่าจะตามมาทีหลังอ่ะ จื่อเทาผินหน้าไปทางเด็กสาวที่กำลังยิ้มแห้ง ๆ อยู่

     

    จื่อไลน์มาบอกเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วแต่เราไม่ได้บอกตัวอ่ะ ลื๊ม

     

    เออนี่ หม่อมฝากนี่มาให้มึงด้วย ชานยอลขมวดคิ้วเมื่อเพื่อนสนิทดันถุงจากซุปเปอร์มาให้ กูเล่าให้แกฟังว่ามึงย้ายมาอยู่หอ ไม่ค่อยมีเงินใช้แกก็เลยซื้อของเผื่อมึง

     

    จริงดิ? เด็กตัวสูงอมข้าวไว้ในปากแล้วชะโงกหน้าดูในถุงแล้วก็พบว่ามีอาหารสำเร็จรูปที่สามารถเก็บไว้กินวันหลังได้จำนวนหนึ่ง แถมขนมปังและนมเป็นแกนลอนให้อีกต่างหาก ชานยอลยิ้มกว้างแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพื่อน

     

    แหม่ จากหน้ามือเป็นหลังตีน <- เทา

     

    อ่อนโยนเนาะรอยยิ้มเนี่ย <- จียอน

     

    ฝากขอบคุณแม่มึงด้วยนะเว้ย รักเลยอ่ะแบบนี้ รอดตายไปอีกครึ่งเดือน ชานยอลหน้าบานเป็นกระด้ง ไม่เสียแรงที่เขาทำตัวน่ารักกับแม่มันมาตลอด อยากจะมอบโล่แดซังแม่แห่งปีให้เหลือเกิน

     

    กูมีอะไรจะแนะนำมึงอ่ะเพื่อน จื่อเทาทำหน้าจริงจังแล้วย้ายไปนั่งข้าง ๆ คนตัวสูง

     

    ไร

     

    เห็นมึงไม่มีเงินใช้แล้วกูก็นึกอะไรขึ้นได้ มึงไม่ลองหางานพิเศษทำดูวะ พวกแคชเชียร์ตามมินิมาร์ท เซเว่นอะไรแบบนี้เขารับพาร์ทไทม์อยู่นะเว้ย

     

    ใช่ ๆ ช่วงนี้กระแสพนักงานหล่อบอกด้วยกำลังแรงนะ ถ้าเกิดมีติ่งไปเจอตัวกำลังคิดเงินนี่คงถูกถ่ายรูปไปอัพลงทวิต คราวนี้ล่ะดังเลย จียอนเสริม แต่ชานยอลกลับแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจนว่าเขาไม่เห็นด้วย

     

    ไม่เอาอ่ะ ทำงานแล้วกูจะเอาเวลาไหนไปเล่นเกมวะ

     

    ไม่มีจะแดกอยู่แล้วยังจะห่วงเกม เทาทำหน้าเซ็งแล้วขยับตัวออกเมื่อรู้สึกว่าความหวังดีของเขามันช่างไร้ค่าสิ้นดี

     

    ถ้าตัวขี้เกียจออกไปหางานทำก็ลองขายของในเน็ตดูไหมอ่ะ

     

    เออ เทาเห็นด้วยกับจียอน ทั้งคู่ไฮไฟฟ์กันแล้วหันหน้าเข้าหาเพื่อนตัวสูง คนขี้เกียจอย่างไอ้ชานยอลต้องทำแบบนี้แหละถ้าไม่อยากลงแรงแลกกับเงิน

     

    เด็กตัวสูงเงียบไประหว่างใช้ความคิด ซึ่งเขารู้สึกว่าวิธีนี้ดูเข้าท่าพอสมควร แต่ประเด็นคือจะขายอะไรดีล่ะในเมื่อตอนนี้การค้าขายในโลกอินเทอร์เน็ตมันค่อนข้างเกลื่อนกลาด แถมคู่แข่งเยอะยิ่งกว่าข้าศึกในเกมออนไลน์อีก

     

    ขายหมวกป่ะ

     

    ไม่ก็พวกเสื้อผ้า รองเท้า

     

    ของแฮนเมด?

     

    ของก็อป

     

    ไม่เอาอ่ะ ถ้าจะขายในเน็ตกะว่าจะทำพรีออเดอร์ดีกว่าจะได้ไม่ต้องสต็อกของ ชานยอลลูบคางใช้ความคิด เพราะถ้าซื้อของมาก่อนปัญหาแรกเลยคือไม่มีที่เก็บเพราะหอพักรูหนูก็ช่างแคบเหลือเกิน เดินสามก้าวก็สุดทางละ ไหนจะกลัวเรื่องขายไม่ออกแล้วของเหลืออีก ตอนนี้กับข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะกลายเป็นหมันไปแล้วเมื่อทั้งสามหน่อกำลังเข้าสู่โหมดจริงจัง ถ้าพรีออเดอร์เสื้อผ้าทั่วไปก็คงไม่ไหว คู่แข่งเยอะเกิน

     

    มึงก็คิดลายขึ้นมาเองดิ เก่งโฟโต้เฉาะไม่ใช่เหรอวะ

     

     

    ปิ๊ง!

     

     

    ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาเพิ่งรู้ว่าหวงจื่อเทาฉลาดก็วันนี้แหละ ชานยอลหันไปมองเพื่อนด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคำขอบคุณก่อนจะวางมือลงบนหัวมัน จื่อเทาทำหน้าอึนเพราะไม่เข้าใจว่าตอนนี้ชานยอลกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน และจียอนก็เช่นกัน

     

    ดี เดี๋ยวกูจะไปลองออกแบบเสื้อดู

     

    เอาเลย ๆ ถ้าคิดลายได้แล้วเดี๋ยวเราช่วยโปรโมตร้านตัวในไอจี

     

    เยี่ยม แบบนี้สิถึงน่ารัก ชานยอลโน้มตัวไปเกาคางจียอนเหมือนลูกหมาซึ่งเด็กสาวก็แหงนหน้าให้เล่น

     

    มันต้องอย่างนี้ดิว้าเพื่อนกู จื่อเทาตบโต๊ะแล้วทำหน้ามุ่งมั่น

     

    ชานยอลยื่นมือมาข้างหน้าแล้วจื่อเทาก็วางมือทับลงไปและตามด้วยจียอนเป็นคนสุดท้ายก่อนที่ทั้งสามคนจะกลอกตามองกันอย่างจริงจังแล้วตะโกนลั่นบ้าน

     

    ไฟติ้ง!!!”

     

     

     

     
     

     

    กาแฟครับ

     

    ขอบคุณครับพี่อี้ฟาน แบคฮยอนยิ้มแล้วรับแก้วกาแฟมาวางไว้ก่อนจะหันไปสนใจกับสมาร์ทโฟนอีกครั้ง

     

    ในห้องพักครูยามเช้า ตอนนี้มีเพียงแค่อาจารย์อีกสามท่านเท่านั้นที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกว่าไม่ได้อยู่ตามลำพังกันสองคน อี้ฟานเท้าแขนลงบนโต๊ะส่วนมืออีกข้างวางลงบนไหล่คนตัวเล็กพร้อมกับโน้มลงไปดูว่าแบคฮยอนกำลังสนใจอะไรอยู่

     

    จะสั่งของในอินเทอร์เน็ตเหรอ?

     

    ครับ พี่สนใจไหม? ร่างเล็กหันไปถามร่างสูงที่ใบหน้าห่างกันแค่คืบเดียว อี้ฟานยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าถ้าแบคฮยอนว่าดีเขาก็ว่าดีเช่นกัน

     

    ลายสวยดีนะ แต่ถ้าพี่ใส่คงไม่เหมาะเท่าไหร่

     

    เอาไว้ใส่ที่บ้านไงครับ รวมค่าจัดส่งแล้วหกพันวอนเอง อี้ฟานขมวดคิ้วเล็กน้อยระหว่างใช้ความคิด นึกขำอยู่ในใจตอนเห็นแบคฮยอนกำลังมองหน้าเขาระหว่างรอคำตอบ มันน่ารักจนอยากหยิกแก้มเบา ๆ ให้หายหมั่นเขี้ยว

     

    งั้นสั่งเผื่อพี่ตัวนึงนะครับ อย่าลื่มดื่มกาแฟล่ะเดี๋ยวจะเย็นซะก่อน อี้ฟานยิ้มแล้วลูบหัวอีกคนอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินไปเอาหนังสือเตรียมพร้อมสอนในเช้าวันนี้ แบคฮยอนพยักหน้าแล้วหันไปโบกมือให้คนตัวสูงจนกระทั่งอีกฝ่ายจะออกไปจากห้องพักครู

     

    ช่วงนี้ทุกอย่างเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง ถึงจะไม่มีความสุขแต่อย่างน้อยอู๋อี้ฟานก็ไม่ได้รู้สึกแย่ไปกว่าเดิม จะบอกว่าเป็นเพราะชานยอลย้ายออกไปจากบ้านแบคฮยอนก็คงไม่ถูกเสียทีเดียวแต่มันก็มีส่วนอยู่บ้าง มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่พระเจ้าได้สร้างความเห็นแก่ตัวมาให้มนุษย์ทุกคน ซึ่งพวกเขาจะแสดงออกให้เห็นหรือจะฝังมันเอาไว้ในจิตใต้สำนึกก็อีกเรื่องนึง

     

    อู๋อี้ฟานไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นความผิดของเขาที่รู้สึกแบบนี้ เขาไม่ใช่พระเอกละครที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้นางเอกมีความสุขโดยที่ไม่สนใจว่าจุดจบของเรื่องนั้นตัวเองจะต้องเจ็บปวดแค่ไหน เพราะทางที่ดีที่สุดสำหรับชายหนุ่มคือการที่แบคฮยอนมีความสุขได้เพราะเขา

     

    มันจะมีสักกี่คนที่ยอมให้คนที่เรารักไปรักคนอื่นโดยที่เราทำได้เพียงแค่ยืนมองอยู่เฉย ๆ แล้วรับความเจ็บปวดไว้คนเดียว? บ้าน่า...ถ้าทำแบบนั้นก็อยู่คนเดียวไปเถอะ อย่าคิดที่จะมีความรักเลย

     
     

     

    ความรักคือความเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว ไม่งั้นปาร์คชานยอลคงไม่คิดหนีไปหรอก

     

     

     
     

    60%

     

      

     วันนี้เป็นวันประกวดดาวเดือนคณะ และปาร์คชานยอลก็ได้พบกับเรื่องช็อกโลกซึ่งก็คือรางวัลเดือนมหาลัยนั้นเป็นของไอ้ห่าเทา อันที่จริงตอนดูตอนมันตอบคำถามก็แอบกลั้นขำอยู่นานพอสมควร วูบหนึ่งเกือบลืมไปแล้วว่าคนที่อยู่บนเวทีนั่นคือไอ้มนุษย์มุ้งมิ้งที่ชอบอ่านฟิควายไปวัน ๆ แต่พอมันได้จับไมค์แล้วยืนรอฟังคำถามจากกรรมการเท่านั้นแหละ พระเอกละครช่อง SBS ยังต้องศิโรราบให้กับมัน

     

    นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ปาร์คชานยอลรู้สึกว่าหวงจื่อเทาควรจะทำแบบนี้มานานแล้ว นั่นก็คือการทำตัวหล่อให้สมกับเบ้าหน้าอันโหดสัดของมันบ้าง ไม่ต้องพูดถึงสาว ๆ ที่อยู่ข้างล่างเวทีเลยครับ นั่นก็กรี๊ดจนลืมหายใจ ไม่ต้องสืบเลยว่าหลังจากวันนี้ไอ้เทาจะฮ๊อตมากแค่ไหน สภาพปาร์คชานยอลในตอนนี้เหมือนคุณพ่อมีหนวดที่กำลังมองดูลูกชายซึ่งกำลังได้ดิบได้ดีอยู่บนเวทียังไงอย่างนั้น

     

    ตอนนี้ทั้งสามคนนั่งอยู่ม้านั่งใต้ตึกคณะ หวงจื่อเทากับปาร์คจียอนนั่งตีคู่โซ้ยข้าวกล่องจากมินิมาร์ทข้างตึกอย่างหิวโหยเพราะอดข้าวมาตั้งแต่ช่วงเช้า นี่ก็เกือบห้าโมงเย็นแล้วเพิ่งจะได้กิน สภาพเสื้อผ้าหน้าผมคือจัดเต็ม คนที่ผ่านไปมาก็มองกันเป็นตาเดียวกันไม่ต้องห่วงมันแล้วภาพล้งภาพลักษณ์

     

    ชานยอลเลื่อนขวดน้ำไปให้เพื่อนทั้งสองก่อนจะอ้าปากหาวหวอด ๆ พอเห็นอย่างนั้นจื่อเทาเลยต้องถามเพราะเป็นห่วง

     

    มึงไม่นอนอีกแล้วเหรอ

     

    เออ ถ้านอนกูตื่นมาเรียนคาบแรกไม่ทันแน่ ชานยอลว่าแล้วแนบหน้าลงกับโต๊ะไม้ ความรู้สึกตอนนี้ถ้าให้เทียบกับเกมออนไลน์ HP คงอยู่ประมาณ 20% และพร้อมจะตายได้ทุกเมื่อเพียงแค่เดินสะดุดก้อนหิน

     

    ช่วงนี้นอนเช้าทุกวันเพราะติดเกม ขาดเรียนก็บ่อยจนไอ้เทาต้องตามไปลากคอถึงหอเขาถึงยอมไปเรียนด้วย ซึ่งชานยอลคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นที่จะเล่นเกม เที่ยวผับ หลีหญิง ขาดเรียน ก็ไม่รู้ว่ามันจะซีเรียสอะไรนักหนา

     

    เทากับจียอนผลัดกันบ่นจนเขาแทบจะท่องได้อยู่แล้ว บอกว่าใกล้จะสอบมิดเทอมแล้วนะ ควรอ่านหนังสือบ้างอย่าเอาแต่เล่นเกม ก็เข้าใจหรอกนะว่าหวังดี แต่ตอนนี้ปาร์คชานยอลไม่มีกระใจจะทำอะไรทั้งนั้น และเพื่อนทั้งสองคนก็คงไม่มีทางเข้าใจอารมณ์คนติดเกมหรอก

     

    เสื้อมึงขายดีป่ะ

     

    พอได้ว่ะ กูงงมากว่าทำไมถึงมีเด็กผู้หญิงสั่งซื้อเยอะจัง ทั้ง ๆ ที่ลายมันน่าจะโดนใจผู้ชายมากกว่า

     

    เขาอาจจะซื้อเพราะตัวหล่อก็ได้ จียอนว่าแล้วแย่งขวดน้ำจากจื่อเทาไปดื่ม

     

    เออจริง ความหล่อของฉันมันห้ามได้ที่ไหนล่ะ เธอเองก็ซื้อเพราะเหตุผลนี้สินะจีจี้ ชานยอลขมวดคิ้วแล้วชี้ไปยังหญิงสาวที่กำลังนั่งอมยิ้มเขินก่อนจะฟาดแขนเขาเบา ๆ

     

    คลบ้า

     

    สวีทกันแบบนี้ถ้าเป็น msn ตัวกูคงเป็นสีเทาเพราะ Appears Offine โอ้ย!” จื่อเทาพูดจบก็สะดุ้งสุดตัวเพราะถูกจียอนหยิก เฮ้ย อย่าดิ เราเซ้นซิทีฟตรงซอกคอนะเว้ย

     

    อะไรอ่ะ เราทำจื่อมีอารมณ์เหรอ เด็กสาวทำตาเป็นประกายแล้วเอาศอกสะกิดเพื่อนตัวสูง

     

    ไม่ จื่อเทาตอบเสียงแข็งก่อนจะขยับออกราวกับว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของร้อนที่ไม่ควรนั่งอยู่ใกล้นาน ๆ

     

    ดีกรีเป็นถึงคู่ขวัญของคณะ ชานยอลส่ายหน้าหน่าย ๆ กับภาพตรงหน้าแล้วกินขนม

     

    ถ้าลายแรกเข้าท่ามึงก็ทำลายที่สองต่อเลยดิ การตลาด ๆ จื่อเทาทำหน้าจริงจัง ถ้าเป็นเรื่องสนับสนุนให้เพื่อนหาเงินเองล่ะก็ขอให้บอก

     

    จะให้คิดปุบปับมันก็ไม่ได้ป่ะวะ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลาอารมณ์ศิลปินถึงจะมา

     

    ขี้เกียจก็บอกมาตรง ๆ เหอะเพื่อน

     

    โห ตัวเท่จังเลยอ่ะ ขนาดตอนทำตัวกากยังเท่เลย จียอนมองคนตัวสูงด้วยแววตาของหญิงสาวที่กำลังตกหลุมรักในหลุมดักควายขนาดใหญ่ ชานยอลใช้เวลาทบทวนประโยคนี้อยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ได้แต่หรี่ตามอง สรุปนี่ชอบหรือหลอกด่ากู

     

    แล้วมึงจะไปไหนต่อวะ จื่อเทาถาม เพราะตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปทำอะไรต่อแล้วหลังจากได้รับรางวัลเดือนมหาลัยมาแบบงง ๆ ส่วนจียอนก็ได้รางวัลขวัญใจช่างภาพไปเพราะนางเล่นหูเล่นตาเก่ง ชานยอลเงียบไปแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนทั้งสอง

     

    กูว่าจะกลับหอไปนอนเอาแรง คืนนี้จะไปกินเหล้ากับพวกไอ้คยองซูสักหน่อย

     

    กินอีกแล้วเหรอว้า มึงขายเสื้อได้แทนที่จะเก็บเงินไว้ซื้อข้าวแดกอ่ะ จื่อเทาทำหน้าเนือย เขารู้สึกผิดหวังอยู่เล็ก ๆ ที่ได้ยินเพื่อนพูดแบบนี้

     

    เออน่า กูไม่ได้เจอเพื่อนในวงนานแล้วนาน ๆ ทีขอหน่อยเหอะ ผ่อนคลายบ้างไรบ้าง ชานยอลทำหน้าเซ็ง ไอ้ห่าเทาเริ่มจะโคฟเวอร์เป็นแบคฮยอนเข้าไปทุกวันแล้ว ไม่รู้จะบ่นอะไรนักหนา

     

    นาน ๆ ทีไรวะ วันก่อนมึงก็เพิ่งไปแดกกับพวกขี้กาวหลังเซคอ่ะ จื่อเทาพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก ส่วนจียอนก็พยักหน้ารัว ๆ เป็นเชิงบอกว่าเห็นด้วยกับจื่อเทาทั้งหมด

     

    แล้วไง? กูจะไปมึงไม่ไปก็นอนดูดนมแม่อยู่บ้านซะ ชานยอลเลิกคิ้วมองอีกคนอย่างหัวเสีย จื่อเทาเบ้ปากงอนแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะโยนฝาขวดน้ำใส่หัวเพื่อนตัวสูงจนกระเด็นลงไปบนพื้น

     

    มึงแม่งแย่อ่ะ

     

    ทำไม จะต่อยกูไง? เอาดิ ๆ ชานยอลลุกขึ้นยืนแล้วยั่วโมโหเพื่อนสนิทโดยการยื่นแก้มเข้าไปใกล้ ๆ แต่เจ้าตัวก็ต้องสะดุ้งถอยกลับมาเพราะถูกหญิงสาวอีกคนหยิกแก้มเข้าให้ อะไรจีจี้ห้ะ อะไร

     

    อย่าแกล้งจื่อดิ เห็นไหมว่าหน้าบึ้งแล้ว

     

    เออ บึ้งจนเขียวไปหมด ชานยอลกลอกตาไปมาแล้วจื่อเทาก็นั่งลงกับที่แรง ๆ จนเขารู้สึกเจ็บหรรมแทนเหลือเกิน

     

    โอ๋นะจื่อ เดี๋ยวเราพาไปกินของหวานแล้วเมนชั่นไปกดดันไรท์เตอร์ให้อัพฟิคที่จื่อติดนะ จียอนลูบหัวเพื่อนตัวสูงอย่างเอ็นดู ชานยอลขยับปากเลียนแบบขณะที่จื่อเทากำลังมองมาด้วยสายตาคาดโทษ

     

    มึงไม่ค่อยเข้าเรียนเดี๋ยวก็ไม่มีสิทธิ์สอบหรอก

     

    เออน่า ก็ยังไม่หมดโควตาป่ะวะ

     

    ต้องรอให้หมดก่อนเหรอ มันไม่เหมือนมัธยมนะมึง กูว่าเพลาเรื่องเกมเรื่องเที่ยวแล้วมาตั้งใจเรียนเหอะ เทาขยับมานั่งข้างชานยอลแล้วเขย่าแขน

     

    ...

     

    จื่อพูดถูกอ่ะ แค่อ่านหนังสือมันไม่พอจริง ๆ นะตัว

     

    เออ ช่วงนี้รายงานก็เยอะ ไหนจะเรียนยากขึ้นอีก จื่อเทาเสริม

     

    แต่พูดก็พูดเถอะ เขาเข้าใจว่าเพื่อนทั้งสองคนหวังดีแต่ตอนนี้มันก็ยังไม่มีอะไรแย่จนน่าเป็นห่วงป่ะวะ สองคนนี้ก็ซีเรียสจัง ชีวิตวัยรุ่นมหาลัยมันมีอะไรอีกเยอะกว่าการเข้าเซคแล้วนั่ง ๆ เรียน ๆ นะเว้ย

     

    มึงจะไปไหนอ่ะ?

     

    ไปซื้อพุดดิ้งร้านลุงชิน

     

    พุดดิ้งเหรอ? ไปด้วยดิ!” จียอนลุกขึ้นแล้วรีบคว้ากระเป๋ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคนตัวสูง ชานยอลพยักหน้าส่ง ๆ เป็นเชิงบอกว่าก็แล้วแต่ก่อนจะก้มลงมองจื่อเทาที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม จื่อไปไหม

     

    ไม่อ่ะ เราจะกลับบ้าน

     

    เอ้า ทำไมไม่ไปด้วยกันล่ะ

     

    เราคิดถึงแม่ คิดถึงบ้านด้วย ลูกที่ดีต้องไม่เถลไถล พูดจบก็ย่นจมูกเผยอปากใส่ไอ้เพื่อนชั่วก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้เดินดุ่ม ๆ ออกไป ชานยอลเบ้ปากเป็นรูปตีนแล้วยกเท้าขึ้นถีบอากาศจนกระทั่งเพื่อนตัวเขียวเดินหายลับไปนั่นแหละเขาถึงได้หยุด

     

    ห่านี่อ้อนตีน เดี๋ยวมึงเดี๋ยว

     

    จื่อหวังดีหรอก ทำไมตัวไม่ฟังบ้างอ่ะ

     

    ไม่ต้องเลย ถ้ายังพยายามพูดให้ฉันกลับไปเป็นคนดีอีกก็ไม่ต้องไปด้วยกันแล้ว

     

    โอเค จียอนทำท่ารูดซิปปากแล้วเกาะแขนชานยอลไปด้วยกันโดยไม่แคร์สายตาหนุ่มสาวมากมายที่นั่งอยู่ละแวกนั้น

     

     

     

     

     

     

    แท็กซี่จอดลงหน้าร้านลุงชิน เด็กหนุ่มจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วก็เปิดประตูลงไปโดยไม่รออีกคนที่ยังคงอยู่ในรถ จียอนทำตาโตเมื่อเห็นว่าชานยอลกำลังจะเข้าไปในร้านก่อนจะรีบวิ่งตามไปหยุดอยู่ข้างหลังพร้อมกับอมลมไว้ในแก้มอย่างงอน ๆ

     

    อ้าวชานยอล?

     

    สวัสดีครับลุงชิน

     

    สวัสดีค่ะ

     

    โอ้โห เข้ามหาลัยแล้วสินะ แล้วนั่นใครน่ะแฟนเหรอ? ชายวัยกลางคนถามพร้อมกับยิ้มให้กับเด็กสาวที่กำลังเขินอยู่

     

    เปล่าครับ แค่เพื่อนกัน

     

    โหย ตัวอ่ะ จียอนผลักแขนเพื่อนตัวสูงเบา ๆ แล้วลุงชินก็หัวเราะ

     

    ไม่เจอกันตั้งนาน นึกว่าหันไปกินร้านอื่นแล้วซะอีก

     

    ไม่มีทางครับ ร้านไหนก็ไม่สู้ร้านลุงชินหรอกนี่พูดเลย ชานยอลชูนิ้วโป้งแล้วก้มลงมองของหวานที่ตั้งเรียงกันอยู่ในตู้กระจก ในนั้นมีพุดดิ้งรสใหม่อยู่หลายอย่าง คิดว่าวันนี้จะลองกินดูสักหน่อย เอาพุดดิ้งมะพร้าวอ่อนกับชาเขียวครับ แล้วก็...

     

    เด็กหนุ่มชะงักเมื่อหันไปเห็นพุดดิ้งสตรอว์เบอร์รี่ที่วางอยู่ข้าง ๆ พุดดิ้งมะม่วง ลุงชินมองอีกคนที่เงียบไปหากแต่สายตายังไม่ละออกจากตู้กระจก ชายวัยกลางคนยิ้มแล้วเท้าแขนลงกับตู้แช่

     

     เมื่อวานก่อนน้าชายของเราก็มานะ

     

    ชานยอลเงยหน้าขึ้น แน่นอนว่าลุงชินก็รู้ว่าแบคฮยอนชอบพุดดิ้งรสสตรอว์เบอร์รี่ เด็กหนุ่มยังคงมองไปยังชายวัยกลางคนที่กำลังเอาขนมหวานออกมาจากตู้เย็นก่อนจะหันมาทางเขา

     

    น้าผมเป็นยังไงบ้าง

     

    ก็ตัวเล็กเหมือนเดิม คงไม่โตไปกว่านั้นแล้วล่ะ ลุงชินพูดติดตลกหากแต่ไม่มีเสียงหัวเราะจากคนตรงหน้า ชานยอลหลุบสายตาลง เขากำลังอยากรู้เรื่องของแบคฮยอนมากกว่านี้แต่...ลุงถามแบคฮยอนว่าหลานชายไม่มาด้วยเหรอ? เขาเลยบอกว่าเราย้ายไปอยู่หอแล้ว ชานยอลพยักหน้าก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย

     

    เขาด่าผมไหม...? สิ้นสุดคำถามชายวัยกลางคนก็หัวเราะ

     

    จะด่าได้ยังไง แบคฮยอนแค่บอกว่าหอพักที่นั่นใกล้มหาลัยมากกว่า เราเลยย้ายไปอยู่เพราะจะได้ไม่ต้องยุ่งยากกับการเดินทาง

     

    ...

     

    ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะ? ไม่ได้คุยกับน้าเลยเหรอ?

     

    ... ชานยอลไม่ได้ตอบคำถามในทันที เด็กหนุ่มเงียบไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วส่ายหน้าช้า ๆ

     

    โทรหาน้าบ้างสิ ถ้าไม่นึกถึงเขาก็ให้นึกถึงตัวเราเอง ลุงชินยิ้มบาง ๆ ก่อนจะยื่นพุดดิ้งให้เด็กหนุ่มพร้อมกับมองด้วยแววตามีความหมายอย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่ายังมีครอบครัวที่เป็นห่วงในวันที่เราเหนื่อย นั่นน่ะกำลังใจชั้นดีเลยนะ ชายวัยกลางคนหัวเราะ

     

    ...

     

    เวลามีปัญหาเพื่อนกับแฟนก็ช่วยหาทางออกให้เราไม่ได้ทุกเรื่องหรอกนะชานยอล

     

    ...

     

    ตอนสมัยเรียนลุงก็เคยไปอยู่หอพักเหมือนกัน ตอนนั้นลุงมีความสุขมากกับชีวิตอิสระ อยากทำอะไรก็ทำไม่ต้องกลัวว่าจะถูกพ่อแม่ด่า แต่พออยู่ไปได้สักพักความเหงาก็มาเยือน เขาหัวเราะตอนไม่มีคนคอยบ่นเราก็สบายหู แต่มันแย่ตรงที่ว่าพอรู้สึกอิ่มตัวกับความสนุก อิ่มตัวกับสิ่งใหม่ ๆ รอบข้างแล้วเราจะคิดถึงเสียงบ่นของเขา

     

     

    ไอ้เด็กเวร! ทำไมไม่รู้จักเก็บห้องดี ๆ ห้ะ!’

     

    ข้าวผัดพลีชีพอ่ะดิ รสชาติอย่างกับอาหารหมาหมดอายุ

     

    ปาร์คชานยอล!!!!’

     

     

    ไม่มีที่ไหนอบอุ่นเท่าบ้านของเราหรอก จริงไหม?

     

     

     

     

     

     

    หลังจากนั้นชานยอลก็จ่ายเงินเสร็จสรรพพร้อมกับจูงมือจียอนออกไปนอกร้าน เด็กหนุ่มกวักมือเรียกแท็กซี่แล้วยัดเด็กสาวเข้าไปในรถพร้อมกับพุดดิ้งหลายถ้วยในถุงที่เขาตั้งใจว่าจะเก็บไว้กินตอนเล่นเกมคืนนี้

     

    ชานยอล? เดี๋ยวสิ

     

    จียอนทาบมือลงบนกระจกแล้วมองเพื่อนตัวสูงอย่างไม่เข้าใจ ชานยอลไม่ยอมพูดอะไรสักคำแต่กลับบอกพิกัดบ้านเธอให้แท็กซี่รู้แถมยังย้ำอีกว่าให้ออกรถได้เลย

     

    เด็กตัวสูงมองตามแท็กซี่ที่กำลังเคลื่อนตัวออกไป เขายืนอยู่ตรงนั้นประมาณห้านาทีเห็นจะได้ก่อนจะหันไปทางประตูหน้าร้านซึ่งมีใครคนหนึ่งยืนอยู่ ใบหน้าของลุงชินยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มตามประสาผู้ใหญ่ใจดี ทั้งคู่มองหน้ากันอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรก่อนที่ชานยอลโค้งหัวให้เป็นการบอกลา

     

    ขายาวก้าวไปตามฟุตปาธอย่างไม่เร่งรีบ เรื่องที่คุยกับลุงชินเมื่อกี้เหมือนกับม้วนหนังที่กลอเล่นซ้ำ ๆ ให้เขาเก็บมาคิด ปาร์คชานยอลที่ดูเหมือนดอกไม้แห้งเหี่ยวคนนั้นได้ย้อนกลับมาอีกแล้วหลังจากที่เขาพยายามยัดเยียดปาร์คชานยอลขี้เกม ปาร์คชานยอลขี้เหล้าให้อยู่พักใหญ่ ๆ ถ้ามันจะทำให้ลืมแบคฮยอนไปได้ช่วงหนึ่ง

     

     

    แต่ว่ามันแย่ว่ะ เขาจะจัดการความรู้สึกที่กำลังขัดแย้งของตัวเองยังไงดี?

     

     

    ใจหนึ่งมันบอกให้ปล่อยเลยตามเลย ส่วนอีกใจก็บอกให้กลับไปขอโทษแบคฮยอนซะทุกอย่างจะได้จบ ๆ ซึ่งมันคงไม่ง่ายอย่างนั้นแน่ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วคงใช้เวลานานพอสมควรกว่ามันจะจางลงจนทำให้จำไม่ได้ แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ สมองของคนเรามักจะจดจำเรื่องแย่ ๆ แทนที่จะจดจำเรื่องดี ๆ เอาไว้

     

     

     

     

    จื่อเทาถอนหายใจทันทีที่เงยหน้าขึ้นแล้วเห็นแสงสีวาววับหน้าประตูทางเข้าผับ เด็กหนุ่มก้มลงมองสมาร์ทโฟนที่ขึ้นแจ้งเตือนว่ามีคนไลน์เข้ามาแล้วก็กดเข้าไปอ่าน ซึ่งไม่พ้นโดคยองซูที่เอาแต่เร่งให้เขารีบมาด้วยเหตุผลว่าชานยอลเมาจนอ้วกจนเพื่อน ๆ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

     

    ด้วยความที่คนพวกนั้นอยู่คนละมหาลัย ทุกคนเลยห่าง ๆ กันไปไม่ได้เข้าห้องซ้อมเหมือนอย่างเคย เพราะฉะนั้นมันคงไม่แปลกที่พวกเพื่อนในวงดนตรีจะไม่รู้ว่าหอพักของชานยอลอยู่ที่ไหน

     

    เด็กตัวสูงถอนหายใจอีกครั้งแล้วบอกตัวเองว่ารีบทำให้มันจบ ๆ และเขาก็คงทำมันคนเดียวไม่ได้แน่ จื่อเทาเคาะสมาร์ทโฟนลงบนฝ่ามือเบา ๆ พลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ ไม่นานนักคนที่รออยู่ก็วิ่งมาทางนี้

     

    น้าแบค!”

     

    โทษที รอนานไหม คนตัวเล็กหอบหายใจหนัก แล้วจื่อเทาก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบ ตอนนี้เขาเริ่มจะรู้สึกผิดที่โทรตามน้าชายของเพื่อนให้ออกมาดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้ แต่เพราะคนตรงหน้าเคยบอกไว้ว่าถ้าเป็นเรื่องของชานยอลให้รายงานตลอด ได้เข้าไปดูมันหรือยัง?

     

    ยังเลย ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน

     

    โอเค งั้นเข้าไปข้างในกัน แบคฮยอนว่าแล้วจื่อเทาก็เดินตามหลังมาติด ๆ

     

    ทั้งคู่เดินเบียดเสียดผู้คนเข้าไปในผับ เสียงเพลงที่ถูกรีมิกซ์ดังออกมาจากลำโพงตัวใหญ่จากทุกทิศทางเร้าให้หนุ่มสาวทั้งหลายเพลิดเพลินไปกับการมึนเมาในค่ำคืนนี้ แบคฮยอนไม่รู้ตัวว่าคิ้วทั้งสองข้างกำลังขมวดเข้าหากันเพียงแค่กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำสองเหมือนวันนั้นที่ได้คุยกับชานยอลเป็นครั้งสุดท้าย

     

    การที่เขามาที่นี่มันจะทำให้เด็กคนนั้นหงุดหงิดหรือเปล่า? ชานยอลจะรำคาญน้าชายขี้บ่นอย่างเขาจนต้องเดินหนีไปเหมือนกับตอนนั้นไหม? และถ้าใช่...เขาจะทำยังไง?

     

     

     

    ทำไมถึงกลัวไปหมดแบบนี้ล่ะ...

     

     

     

    เทา!” เจ้าของชื่อพยักหน้ารับเมื่อเห็นจงแดโบกมือให้อยู่ตรงมุมอับทางด้านในสุด ทั้งคู่เดินไปหยุดอยู่ตรงนั้นที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ชานยอลนอกจากเฮนรี่ที่กำลังก้มลงเก็บซากเศษแก้วช่วยเด็กเสิร์ฟโดยที่เจ้าของผลงานนั้นฟุบหลับคาโต๊ะไปแล้ว

     

    แม่งแดกอย่างกับสามล้อถูกหวย หวัดดีครับน้า จงแดบ่นอุบอิบแล้วเอ่ยทักทายคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หวงจื่อเทา

     

    นี่กูเพิ่งกินไปได้นิดเดียวเองนะ คยองซูส่ายหัว

     

    ขอบใจมากนะที่ช่วยดูแลมัน แบคฮยอนก้มลงดูบิลที่เสียบอยู่ในกล่องซึ่งติดอยู่ข้างโต๊ะก่อนจะควักกระเป๋าเงินออกมาแล้ววางเงินลงบนโต๊ะจำนวนหนึ่ง นี่คือส่วนของชานยอล ถ้าขาดเท่าไหร่ก็ฝากบอกเทามานะเดี๋ยวน้าจะโอนเพิ่มให้ เอาล่ะ แกมาช่วยน้าหน่อย แบคฮยอนหันไปขอความช่วยเหลือจากเด็กตัวสูงแล้วจื่อเทาก็พยักหน้ารับ

     

    น้าชายตัวเล็กกับเพื่อนสนิทช่วยกันหิ้วปีกคนเมาคนละข้างโดยที่มีจงแดคอยแหวกทางเดินให้ แบคฮยอนมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่กำลังเดินหลับตา สภาพของพวกเขาทั้งสามคนช่างทุลักทุเลจนคยองซูต้องเข้ามาช่วยอีกแรง

     

    เปิดประตู ๆ จงแดบอกคยองซูที่วิ่งนำไปหยุดอยู่ข้างรถเมื่อแบคฮยอนกดปลดล็อกเรียบร้อยแล้ว เด็กตัวสูงถูกประคองเข้าไปนอนตรงเบาะหลังอย่างหมดสภาพ พอเห็นแล้วน้าชายตัวเล็กเลยไม่เสียเวลามากไปกว่านี้

     

    ขอบใจอีกครั้งนะ เดี๋ยวน้าจะพามันไปส่งเองเขาหันไปบอกลาเด็กหนุ่มทั้งสองคนที่เป็นเพื่อนในวงดนตรีของชานยอลก่อนจะพยักหน้าบอกเทาให้ขึ้นรถ

     

     

     

     

     

     

    เกือบสิบห้านาทีในการเดินทางและแล้วรถยนต์ก็ขับมาจอดลงตรงหน้าหอพักตามที่หวงจื่อเทาบอก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาหอพักของหลานชาย แบคฮยอนยืนสำรวจภายนอกอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเข้าไปช่วยเทาประคองร่างชานยอลออกมา

     

    ประตูห้องถูกเปิดออกด้วยเท้า ทั้งคู่กำลังเจอศึกหนักเมื่อชานยอลเอาแต่จะทิ้งตัวอยู่นั่น มันทำให้พวกเขาเหนื่อยขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่าเพราะไอ้เด็กนี่ใช่ว่าจะตัวเล็กเสียเมื่อไหร่ จื่อเทาเอื้อมไปกดเปิดสวิตซ์ไฟดวงเล็กแล้วทิ้งร่างของเพื่อนสนิทลงบนเตียงใหญ่

     

    ชานยอลนอนแผ่หลาอย่างคนหมดสติโดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกน้าชายกับเพื่อนสนิทยืนมองอยู่ แบคฮยอนหอบหายใจเล็กน้อยและจื่อเทาก็เช่นกัน คนตัวเล็กหันไปตบบ่าเด็กตัวสูงแล้วยิ้มบาง ๆ

     

    ขอบใจนะ

     

    เฮ้ย ไม่เป็นไรเลยน้าเรื่องแค่นี้เอง จื่อเทายกมือขึ้นระดับหัวไหล่แล้วโบกไปมา

     

    ถึงจะพูดงั้นก็เถอะ ถ้าไม่มีแกน้าก็ไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริง ๆ เด็กตัวสูงคิ้วตก เขารู้สึกสงสารน้าชายตัวเล็กสุดใจเพราะเพื่อนสนิทของเขาเอาแต่ทำเรื่องน่าปวดหัวให้อยู่เรื่อย

     

    โหน้าแบค...พูดงี้ได้ไง เรื่องแค่นี้ผมเต็มใจทำอยู่แล้ว ยังไงมันก็เพื่อน

     

    อืม ถือว่าชานยอลมันได้เพื่อนดี แบคฮยอนตบบ่าเด็กหนุ่มอีกครั้งแล้วจื่อเทาก็หัวเราะ

     

    แล้วน้าจะกลับเลยไหม?

     

    พอได้ยินคำถามคนตัวเล็กก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องที่มีสภาพเละไม่เหลือชิ้นดี บนพื้นก็มีแต่ถุงพลาสติกห่อเสื้อ ไหนจะเสื้อผ้าที่กองอยู่ตรงมุมห้อง แถมถ้วยรามยอนสำเร็จรูปที่ซ้อนกันอยู่ตรงโต๊ะคอมพ์นั่นอีก

     

    เดี๋ยวน้าไปส่งแกก่อนแล้วจะกลับมาดูมันอีกทีแล้วกัน แบคฮยอนว่าแล้วเอี้ยวตัวหันกลับแต่ก็ถูกเด็กหนุ่มคว้าแขนเอาไว้

     

    ไม่ต้อง ๆ เดี๋ยวผมกลับเองดีกว่า

     

    เฮ้ยไม่ได้ แกอุตส่าห์นั่งแท็กซี่ออกมาน้าก็ต้องไปส่งสิ

     

    ไม่เป็นไรน้า อยู่ดูแลมันต่อเหอะ ผมกลัวมันอ้วกใส่เตียงแล้วพรุ่งนี้มันจะไม่มีที่นอนอ่ะ จื่อเทาผินหน้าไปทางเพื่อนสนิทที่นอนสิ้นสภาพอยู่บนเตียง เมื่อวานมันก็ไม่ได้นอนด้วย พอไปกินเหล้าเลยน็อกมั้ง

     

    ...

     

    น้า

     

    อือ ทั้งคู่มองหน้ากัน เขาเห็นว่าสายตาของจื่อเทากำลังฉายแววเห็นใจเขามากแค่ไหน

     

    เหนื่อยไหม

     

    ...

     

    อดทนอีกนิดนึงนะ ผมกำลังพยายามเกลี้ยกล่อมมันอยู่

     

    ...

     

    ถ้ามันคิดได้แล้วกลับไปอยู่บ้านอะไร ๆ ก็น่าจะดีกว่านี้ น้าจะได้ไม่ต้องไปเที่ยวโฆษณาเด็กในโรงเรียนให้ซื้อเสื้อมันด้วย

     

    ไม่เป็นไรน่า แบคฮยอนหัวเราะเบา ๆ แล้วล้วงกระเป๋าเงิน

     

    เฮ้ยน้า ไม่ต้อง ๆ

     

    แกนั่นแหละไม่ต้อง เอาไปเลย คนตัวเล็กยัดเงินใส่มือเด็กหนุ่มถ้าไม่ให้ไปส่งก็นั่งแท็กซี่กลับบ้านซะ ถึงแล้วไลน์มาบอกน้าด้วย

     

    ฮึก

     

    ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้

     

    น้าอ่ะ ผมจะร้องไห้แล้วนะ จื่อเทาเบะปากก่อนจะเซเล็กน้อยเพราะถูกผลักหัวเบา ๆ

     

    นั่งติดประตูแล้วก็จำทะเบียนรถไว้ด้วยล่ะ

     

    ครับ เด็กหนุ่มพยักหน้าแล้วโค้งหัวเล็กน้อยแล้วเดินไปหยุดอยู่หน้าประตู จื่อเทาหันกลับมามองน้าชายเพื่อนสนิทเป็นครั้งสุดท้ายแล้วโบกมือลา แบคฮยอนพยักหน้าก่อนที่ประตูจะปิดลง

     

    ความเงียบปกคลุมโดยรอบ หลังจากนั้นเสียงลมหายใจแผ่วเบาที่กำลังผ่อนเข้าออกของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็ลอยเข้ามาให้ได้ยิน แบคฮยอนหันไปมองหลานชายที่หลับไม่ได้สติ เขายืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก่อนจะเดินดูรอบห้อง

     

    คนตัวเล็กยกขาข้างขวาขึ้นเมื่อเผลอเดินเตะอะไรบางอย่าง มันคือแผงสก๊อตเทปใสที่อยู่ข้าง ๆ กับกองเสื้อที่อยู่ในซองพลาสติก แบคฮยอนถอนหายใจเบา ๆ แล้วก้มลงเก็บของให้เข้าที่ เขาใช้เวลาอยู่กับตรงนั้นพักใหญ่ ๆ ก่อนจะเดินไปหยิบไม้กวาดมาทำความสะอาดและปิดท้ายด้วยการถูห้องให้

     

    อือ...

     

    เสียงของคนที่นอนอยู่บนเตียงเรียกความสนใจจากร่างเล็กให้หันไปมองแล้วก็พบว่าคนเมากำลังจะตกเตียงอยู่แล้ว แบคฮยอนวางกะละมังใบเล็กไว้บนโต๊ะคอมพ์แล้วบิดผ้าขนหนูให้พอหมาด ๆ ก่อนจะพลิกคนตัวโตให้นอนหงาย

     

    อื้ออ!!”

     

    หึ... แบคฮยอนแค่นหัวเราะเมื่อไอ้เด็กอวดดีกำลังส่งเสียงไม่พอใจออกมาทันทีที่เขาถลกเสื้อยืดสีฟ้าขึ้นจนถึงแผงอก

     

    อื้ออ!! อย่า...มา...ยุ่ง!! โอ๊ะ!!!” คนเมานิ่วหน้าเจ็บเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกตบหัวอย่างแรง จนถึงตอนนี้ปาร์คชานยอลก็ยังคงหลับตาอยู่โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าน้าชายกำลังจะช่วยเช็ดตัวให้

     

    ถอดเสื้อออก

     

    ...ไม่

     

    บอกให้ถอดไง

     

    เป็นใครมาสั่งวะ...จะมาถอดส้งถอดเสื้อ...บั๊ดเหนี่ยวเลย... เด็กหนุ่มโบกมือที่ไร้เรี่ยวแรงไปมาก่อนจะพลิกไปนอนหน้าคว่ำกับหมอนเมื่อคนตัวเล็กกำลังช่วยถอดเสื้อออกให้

     

    กล้าไหมล่ะ

     

    อือ...กล้าดิ... เสียงแผ่วเบาลอดผ่านหมอนใบใหญ่ออกมา ได้ยินแล้วก็หมั่นไส้เลยผลักหัวมันให้จมลงกับหมอนอีกสักทีโอ้ย! เจ็บนะเว้ย...

     

    ก็จงใจให้เจ็บ

     

    อย่าโหดดิ...ไม่ได้ชื่อแบคฮยอนซักหน่อย...พอได้ยินชื่อตัวเองหลุดออกมาจากปากคนเมาน้าชายตัวเล็กที่คุกเข่าอยู่บนเตียงเลยชะงักไป แบคฮยอน...

     

    ...

     

    อยู่ไหน...

     

    ...

     

    แบคฮยอน...

     

    ...

     

    แบค...

     

    ก็อยู่นี่แล้วไง มือเล็กบีบเสื้อยืดของหลานชายที่เพิ่งถอดออกมาเอาไว้แน่น นัยน์ตาเรียวยังคงจับจ้องไปยังเสี้ยวหน้าของหลานชายตัวโตที่ฟุบอยู่กับหมอน

     

    บยอนแบคฮยอนได้แต่บอกกับตัวเองว่าเด็กคนนี้กำลังเมา เขาเชื่อว่าถ้าปาร์คชานยอลอยู่ในสภาพปกติครบร้อยคงไม่มีทางเรียกชื่อเขาแน่ ๆ ทำยังไงดี...ถ้าชานยอลตื่นขึ้นมาเห็นเขาในตอนนี้แล้วโวยวายไล่ให้กลับ เขาจะต้องทำยังไง?

     

    ...

     

    ...

     

    โลกหยุดหมุนอีกแล้ว ทันทีที่ปาร์คชานยอลปรือตามองมาทางนี้น้าชายตัวเล็กก็แข็งทื่อเป็นก้อนหิน แบคฮยอนเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังกลั้นหายใจก็ตอนที่เริ่มรู้สึกว่าระบบการหายใจเข้าออกติดขัดนี่แหละ

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขากลายเป็นคนขี้กลัวแบบนี้ บยอนแบคฮยอนกลัวแม้กระทั่งริมฝีปากได้รูปที่กำลังทำท่าเหมือนจะพูดอะไรออกมา ซึ่งเขาได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้ชานยอลออกปากไล่เขาเลย

     

    แบคฮยอน...

     

    ...

     

    มาทำอะไรในฝันคนอื่นเนี่ย...

     

    ...

     

    รู้ว่าผมคิดถึงเลยมาเข้าฝันอ่ะดิ... เด็กหนุ่มยังคงปรือตามองคนตัวเล็ก แต่น่าแปลกที่ริมฝีปากที่เขากลัวว่าจะพูดจาตัดพ้อนั้นกำลังยิ้มอยู่ แบคฮยอนก้มลงมองมือตัวเองที่อีกคนเลื่อนเอื้อมมากุมไว้ พูดอะไรบ้างสิ...

     

    ...

     

    ถึงจะเป็นความฝันแต่ผมก็ยังอยากได้ยินเสียงน้านะ...

     

    ...

     

    พูดอะไรก็ได้ให้ผมรู้สึกว่ากำลังฝันดีอยู่... เสื้อยืดสีฟ้าร่วงลงบนหน้าขา แบคฮยอนค่อย ๆ เลื่อนลงไปนอนบนเตียงตามแรงดึงของคนเมาที่คิดว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้มันคือความฝัน ซึ่งเขาก็ไม่คิดจะเอาเข็มเจาะฟองสบู่เพื่อปลุกให้ชานยอลตื่น

     

    แกตัวร้อนไปหมดแล้ว

     

    ... ชานยอลปรือตามองอีกคนที่ใบหน้าห่างกันแค่คืบเดียว เสียงของน้าชายตัวเล็กของเขาแผ่วเบาเหมือนจะกระซิบ แต่เชื่อเถอะว่ามันทำให้หัวใจที่เคยเหี่ยวเฉากลับมาพองโตได้อย่างน่าประหลาด

     

    ชานยอลยิ้มบาง ๆ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงเมื่ออีกคนกำลังช่วยซับเอาความร้อนออกจากใบหน้าเขาด้วยผ้าขนหนูเย็น ๆ ถ้าจะให้เปรียบเทียบล่ะก็ตอนนี้ปาร์คชานยอลก็คงไม่ต่างจากดอกไม้กลางที่โล่งแห้งแล้งที่เพิ่งได้รับการรดน้ำ

     

    แบคฮยอนค่อย ๆ เช็ดตัวให้เด็กตัวสูงเริ่มตั้งแต่ใบหน้ามาถึงซอกคอ ไล่จนถึงแผงอกและแขนแกร่งทั้งสองข้าง แน่นอนว่าเขาไม่ได้รู้สึกเขินอายกับร่างกายของชานยอลที่ต่างไปจากเมื่อสิบปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง แต่สิ่งเดียวที่ทำให้บยอนแบคฮยอนหัวใจเต้นแรงได้ก็คือการได้อยู่กับเด็กคนนี้อีกครั้ง

     

    ผมคิดถึงน้า...

     

    ...

     

    แบคฮยอน...ได้ยินผมไหม...

     

    ได้ยินแล้ว แบคฮยอนหลุบสายตาลงแล้วก็ต้องค้างมือไว้อยู่ตรงแผงอกเมื่อมือใหญ่ทาบลงบนแก้มเขาพร้อมกับไล้นิ้วหัวแม่มือตามแก้มเนียนอย่างเบามือ

     

     

     

    บ้าไปแล้ว ชานยอลกำลังมองเขาด้วยสายตาแบบนั้น

     

     

    ในฝัน...ผมจะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม? เสียงแหบพร่าเอ่ยถามราวกับกำลังอนุญาต แบคฮยอนกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก เขากำลังอยู่ในสถานการณ์ชวนอึดอัดสุด ๆ ทั้งที่กำลังรู้สึกดีอยู่ลึก ๆ

     

    ร่างเล็กเบิกตาโพลงเมื่อชานยอลรั้งเอวของเขาเข้าไปชิดกับแผงอกแกร่ง พอเงยหน้าขึ้นจมูกก็เฉียดปลายคางเด็กตัวสูงไปก่อนจะกลับมาสบตากันอีกครั้ง พอเห็นว่าน้าชายตัวเล็กไม่ตอบคำถาม เด็กหนุ่มก็ถือวิสาสะเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ จนปลายจมูกชนกัน

     

    ชานยอล...

     

    เจ้าของชื่อชะงักไป เขาเห็นว่าแววตาของคนในฝันกำลังมองมาอย่างประหม่า ผ้าขนหนูที่เคยเย็นกำลังอุ่นร้อนเมื่อมันทาบอยู่กับแผงอกนานเกินไป เด็กหนุ่มโยนมันลงไปบนพื้นอย่างไม่ใยดีก่อนจะจับมือเล็กขึ้นมาทาบลงกับแก้มตัวเองทั้งที่สายตายังคงไม่ละห่างจากดวงหน้าขาว

     

    เปล่า...

     

    เสียงของคนเป็นน้าเบาลงแต่มันก็เป็นคำตอบที่ดี ร่างเล็กปิดเปลือกตาลงเพื่อรับจูบเด็กนิสัยไม่ดีที่ปั่นป่วนหัวใจเขามาตลอดหลายเดือน บยอนแบคฮยอนเป็นคนเก็บอาการเก่ง เป็นคนใจแข็ง แต่ทุกอย่างมันใช้กับปาร์คชานยอลไม่ได้เลยสักนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือปัจจุบัน ตั้งแต่ตอนที่ชานยอลเป็นเด็กงี่เง่าเขาก็ยอมมาตลอดจนถึงตอนนี้...

     

     

    เขาก็ยังยอมให้ไอ้เด็กนิสัยไม่ดีจูบอย่างเอาแต่ใจจนได้

     

     

    จากแค่ปากแตะปากเปลี่ยนเป็นจูบอย่างดูดดื่มเมื่อเขาปล่อยให้ลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปาก เสียงลมหายใจที่ประสานกันถี่กระชั้นมาพร้อมกับวงแขนที่รั้งอีกฝ่ายเข้ามากอดแนบแน่นด้วยความคิดถึง

     

    ในหัวของคนตัวเล็กนั้นขาวโพลน คำว่าผิดชอบชั่วดีนั้นถูกทิ้งไว้ข้างหลังแล้วปล่อยให้ความรู้สึกดำเนินไปและชานยอลเองก็เช่นกัน เด็กหนุ่มกำลังฝังตัวเองอยู่กับความฝันแล้วมีความสุขอยู่ตรงนั้นโดยไม่อยากตื่นมาเจอความจริง

     

     

    ความจริงว่าตัวเขาเป็นหลานและแบคฮยอนเป็นน้า

     

     

     

    แน่นอนว่าทั้งคู่รู้ดีถึงความสัมพันธ์เรื่องการนับญาติที่ไม่ได้เกี่ยวพันกันทางด้านสายเลือด แต่ยังไงซะปัญหาหลักของมันก็คือการนับญาติพี่น้อง คนที่เติบโตมาในเครือญาติเดียวกันมันยากที่จะลงเอยได้ง่าย ๆ

     

     

    ถ้าแม่ของชานยอลรู้ ถ้าแม่ของเรารู้ ถ้าทุกคนรู้ จะเกิดอะไรขึ้น?

     

     

    แบคฮยอนดันแผงอกแกร่งออกเมื่อเขารู้สึกหายใจไม่สะดวก แต่ก็แค่วินาทีเดียวเท่านั้นชานยอลก็ขึ้นคร่อมร่างของเขาพร้อมกับโน้มใบหน้าลงมาจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้ง

     

    เดี๋ยว...อื้ม...

     

    คางมนถูกเชยขึ้นมารับจูบร้อน หัวใจที่ว่าเต้นแรงอยู่แล้วมันกำลังจะระเบิดออกมาอยู่รอมร่อเพราะริมฝีปากของเด็กตัวสูง แบคฮยอนกำลังจะสติแตกเพราะสถานการณ์ในตอนนี้มันเริ่มจะย่ำแย่เมื่อมือของชานยอลกำลังค่อย ๆ ลูบตั้งแต่อกของเขามาจนถึงเป้ากางเกง

     

    คนตัวเล็กตะปบมือแกร่งไว้แล้วเบือนหน้าหลบไปอีกทาง เด็กหนุ่มปรือตามองอย่างขัดใจก่อนจะมองน้าชายในฝันที่กำลังขยับตัวออกห่างเขา

     

    ทำไมอีกอ่ะ...

     

    พอแล้ว ถ้ามากกว่านี้ฉันจะออกไปจากฝันแก

     

    ห้ะ? ชานยอลขมวดคิ้ว แบคฮยอนทำหน้าจริงจังก่อนจะกลอกตาล่อกแล่กกับคำโกหกคำโตที่เหมือนกับการหลอกเด็ก

     

    นอนไปเลย ร่างเล็กตบหมอนปุ ๆ แล้วชี้ย้ำก่อนจะมองไปยังหลานชายที่กำลังทำหน้าเซ็งอย่างสุดขีดเพราะถูกดับฝันกลางอากาศ

     

    โธ่แบคฮยอน...ผมไม่ตื่นหรอก...เรามาต่อกันเถอะนะ

     

    ไม่! หยุดเลยหยุด!” คนเป็นน้าชี้หน้าหลานชายที่กำลังคลานมาในท่าสิงโตที่พร้อมจะตะครุบเหยื่อได้ทุกเมื่อ นั่น...มึงจะเลียปากทำซากไรวะ!!! “ถ้ายังไม่หยุดฉันจะให้เรื่องอื่นมาเข้าฝันแกแทน

     

    ...

     

    นอน!”

     

    โห่ย...แบคฮยอนอ่ะ...

     

    นับหนึ่ง

     

    ...

     

    นับสอง

     

    ก็ได้...แต่ต้องให้ผมกอดนะ...

     

    อะไร แกมีสิทธิ์ต่อรองกับคนในฝันได้ด้วยหรือไง? แบคฮยอนเลิกคิ้วมอง นี่ก็เป็นบ้าเล่นกับมันนะกู -_-

     

    ไม่ได้ต่อรอง...แต่มันคือประโยคขอร้อง... จากสีหน้าสิงโตที่พร้อมจะงาบเหยื่อแปรเปลี่ยนเป็นลูกแมวในการ์ตูนเรื่องเชร็ค นี่ตาแป๋วเพราะฤทธิ์เหล้าหรือว่าอะไรอยากรู้หนาวด้วยอ่ะ...แบคฮยอนถอดเสื้อผมทำไม...

     

    อ้าว ไม่ถอดแล้วจะเช็ดตัวให้ยังไงวะ

     

    เหรอ...นึกว่าจะปล้ำซะอีก...

     

    ฝันซ้อนฝันชัด ๆ คนตัวเล็กแค่นหัวเราะ นี่มึงเมาจริงหรือเมาดิบ ชักจะสงสัยละ

     

    แบคฮยอนครับ... เอาสิ...คราวนี้มาลูกไม้สุภาพมาให้นอนกอดหน่อย...เดี๋ยวอีกแป้บเดียวก็เช้าแล้ว ผมยังไม่อยากตื่น...

     

    ...

     

    นะ...

     

    ...

     

    แบคฮยอนมองเด็กหนุ่มเปลือยท่อนบนที่กำลังฟุบหน้าลงกับหมอนขณะมองมาทางเขาด้วยแววตาหวานหยาดเยิ้มอีกทั้งมือแกร่งที่ยื่นมาเป็นการชวนนั่นอีก

     

    แค่กอดนะ?

     

    พอเห็นหลานชายพยักหน้ารับคนตัวเล็กเลยค่อย ๆ นอนลง เด็กตัวสูงยิ้มกว้างทั้งที่ยังปรือตาอยู่ ชานยอลขยับตัวเข้าไปกอดน้าชายเอาไว้ มันเริ่มจากกอดหลวม ๆ ก่อนจะค่อย ๆ แนบแน่นยิ่งขึ้นเมื่อแบคฮยอนซบหน้าลงกับแผงอกของเขา

     

    ไอ้เด็กบ้าเอ้ย...

     

    เปลือกตาปิดลงอีกครั้งเมื่อรู้สึกอุ่นใจแล้วว่าคนในอ้อมกอดจะไม่หายไปไหน ชานยอลกระชับกอดร่างเล็กไว้พร้อมกับกดปลายจมูกลงบนกลุ่มผมสีเข้มของน้าชายตัวเล็กของเขา

     

     



     

    มาเข้าฝันผมบ่อย ๆ นะ...ผมคิดถึงน้า

     

     

     

     

    TBC

     

     

     

    โถเด็กกะโปก

     

     

     

     

    #พื้นที่โฆษณา

    หลังจากลองจัดหน้าดูแล้ว มนุษย์ชานยอลรวมเล่มจะอยู่ที่ราคา 600 บาทโดยประมาณนะคะ (ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง) ส่วนค่าจัดส่งอยู่ที่ 70 บาทนะคะ (รวมแล้ว 670 บาท) ของมันหนัก ค่าจัดส่งแบบลงทะเบียนน่าจะอยู่ที่ 58 บาทไม่น่าเกินนี้ค่ะ ส่วนอีกสิบกว่าบาทที่เหลือเราจะซื้อกล่องกระดาษมาใส่ให้หนังสือจะได้ไม่บุบ (ไม่ใช่กล่อง BOXSET นะคะ)

     

    คือมีหนังสือ 2 เล่มกับของแถมเป็นสติกเกอร์ลอกติดของขนาด A5 เท่ารูปเล่มฟิคค่ะ เราขอไม่ทำกล่อง BOXSET เนอะ ทำแค่ซอมบี้พอแล้ว TT_TT

     

    เราจะเอาไปขายในงานฟิควันที่ 25 ตุลาด้วย ของแถมมีเหมือนกันแต่ไม่มีนัดรับในงานฟิคนะคะ ขอแยกกันกลัวงงค่ะ ตามไปซื้อในงานเลยง่ายกว่าเราขายไม่หมดหรอก คงได้หิ้วกลับบ้านแน่ ๆ ล่ะ

     

    เดี๋ยวถ้าทำปก ทำของแถมเรียบร้อยแล้วจะอัพเดทให้ดูนะคะ

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×