ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SS x HP] แค้นร้าย ศาสตราจารย์ที่รัก [ Snape x Harry ]

    ลำดับตอนที่ #3 : หาเหตุผล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.6K
      85
      18 เม.ย. 59



     *เปิดเพลงก่อน ฟังไปพลางๆ ระหว่างอ่านนะคะ ^^~




     

     

     


     

    ตอนที่ 3     หาเหตุผล

     

     

     

     

    นานเท่าไหร่ไม่รู้ แฮร์รี่วิ่งมาถึงหอคอยกริฟฟินดอร์ พึมพำรหัสผ่าน หายใจหอบ อยากเข้าไปข้างในให้เร็วที่สุด

     

    เสียงเฮดังลั่นทำให้แฮร์รี่สะดุ้งสุดตัว งานเลี้ยงฉลองชนะการแข่งขันมาจัดขึ้นในวันนี้อีกครั้งเพื่อรอแฮร์รี่กลับมา ซึ่งรอนมาย้ำกับเขาไว้แล้วตั้งแต่ตอนกลางวันว่าในคืนนี้พวกเขาจะจัดงานรอ ถ้าหากเขาสามารถขอมาดามพอมฟรีย์ออกมาจากห้องพยาบาลได้ ซึ่งมาดามพอมฟรีย์ได้บอกไว้ว่า อาจจะ

     

    เขาก้าวเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นรวม รอยยิ้มค่อยๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้า ถูกฝาแฝดเฟร็ดจอร์จอุ้มลอยขึ้นพลางร้องเชียร์ 

     

    แฮร์รี่ถูกวางลงกลางกลุ่มผู้ร่วมฉลอง และถูกสวมกอดจากหลายๆ คนในนั้นด้วยความภาคภูมิใจ

     

    “ไง แฮร์รี่ แขนนายดูปกติแล้วนะ”

     

    “ใช่ มาดามพอมฟรีย์รักษาเก่งหน่ะ”

     

    รอนได้ยินก็เลือกที่จะเงียบ เมื่อเห็นหน้าเพื่อนสนิทที่ดูนิ่งๆ และไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องพยาบาลก่อนที่เขาและมาดามพอมฟรีย์จะเข้าไปถึง

     

    และเมื่อตอนกลางวันที่เขาและเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปเยี่ยมแฮร์รี่ (เมื่อคืนนี้ไม่มีโอกาถามเพราะมาดามพอมฟรีย์ไล่เขาให้กลับออกไป) ถึงจะพยายามเค้นถามเพื่อนยังไง แฮร์รี่ก็ไม่ยอมปริปากพูดออกมาสักคำ ถึงทุกอย่างมันจะดูน่าสงสัย แต่แฮร์รี่ก็พูดแค่เพียงว่าสเนปเอายามาให้ เพียงเท่านั้น

     

    แต่ให้ตายเถอะเคราเมอร์ลิน! สเนปเนี่ยนะ จะเอายามาให้แฮร์รี่! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องมนุษยธรรมทั้งหลายทั้งแหล่อีกนั่นหรอก !

     

    เฮอร์ไม่โอนี่ก็คิดไม่ต่างกัน เมื่อรอนเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง เธอยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเลย ที่ศาสตราจารย์สเนปเอายาเข้าไปให้แฮร์รี่ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีด้านบวกมากกว่ารอน เพราะคิดว่า ‘อาจจะเป็นไปได้ก็ได้

     

    เมื่องานเลี้ยงจบลง ทุกคนต่างแยกย้ายไปยังหอนอนตัวเอง รอนนั่งจ้องหน้าแฮร์รี่ซึ่งกำลังนั่งกินแซนวิชที่ดอบบี้เอามาวางไว้ให้ตรงโต๊ะข้างเตียง

     

    “จะพูดอะไรก็พูดมาเถอะรอน นายจะนั่งมองฉันอีกนานไม๊”

     

    “เอ้อ” รอนอึกอัก “โทษที นายกินไปเถอะ” พูดจบก็ทิ้งตัวลงนอน

     

    แฮร์รี่มองเพื่อนที่ล้มตัวลงนอนพลางถอนหายใจ “เค้าแค่เอายามาให้ฉันจริงๆ รอน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่มันก็ทำให้ฉันหายแล้ว เห็นไหม” เขายกแขนให้ดู “แล้วก็ไม่มีอะไร เพราะฉะนั้นเลิกสงสัยเธอ เพราะฉันก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน”

     

    “นั่นสิ แค่มนุษยธรรมมั๊ง ฉันคงคิดในแง่ลบมากไป” รอนเออออเห็นด้วย “อาจจะรู้สึกผิดแทนทีมบ้านตัวเองที่ทำให้นายบาดเจ็บแบบน่าเกลียดแบบนั้น”

     

    แฮร์รี่หัวเราะเบาๆ “น่า นายอย่าคิดมากเลย ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว นายนอนไปเถอะ ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”

     

    ว่าแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัว เดินไปยังห้องน้ำพรีเฟค เปิดน้ำ ฟองสบู่ ลงไปแช่อย่างสบายใจ “เฮ้อ

     

    ร่างบางหลับตาลง ภาพสเนปก็ขึ้นมาในหัว ทั้งตอนที่เขาสัมผัส  ตอนที่ถูกร่างสูงจูบ

     

    เด็กหนุ่มเผลอยกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากตัวเองเบาๆ ทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนี้ เขาควรจะรังเกียจสิ ที่ถูกผู้ชายคนนั้นจูบ และทำรุนแรงแบบนั้น

     

    มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้

     

    และทำไมสเนปถึงได้ทำแบบนั้นกันแน่ ทั้งเรื่องที่เอายามาให้เขา แล้วทำไมคิดว่าเขาถึงโกหก เพราะเหมือนพ่อ? มันหมายความว่ายังไง ทำไมเขาถึงได้คิดแบบนั้น ทั้งยังจูบเขา และสัมผัสแบบนั้น มันคืออะไรกันแน่ นี่มันเป็นเรื่องที่สับสนจนน่ารำคาญจริงๆ

     

    ยังไงก็เถอะ ตอนนี้เขาเริ่มอยากรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ทุกอย่างมันดูน่าสงสัยไปหมด และที่แปลกที่สุดคือ ทำไมเขาถึงไม่รังเกียจผู้ชายคนนั้น เพราะรู้ทั้งรู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

     

    พ่อเขาทำอะไรไว้ ที่ผ่านมาในอดีตเกิดอะไรขึ้น และเรื่องทำหมดที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับสเนปมันคืออะไร

     

     

    -------------------------

     

     ชายร่างสูงในชุดสีดำเดินเข้ามายังห้องเรียนในคุกใต้ดิน สเนปสะบัดเสื้อคลุมไปด้านหลังและนั่งลงบนเก้าอี้ “เปิดตำราไปที่หน้าสองร้อยสิบสี่”

     

    ตามด้วยเสียงเปิดหนังสือของเหล่าเด็กนักเรียนเมื่อสิ้นคำสั่ง แฮร์รี่ซึ่งยืนอยู่ที่โต๊ะบริเวณกลางห้อง มองไปที่สเนปด้วยสายตาแปลกๆ ตั้งแต่เขาเดินเข้ามา

     

    การสอนดำเนินไปโดยที่สเนปไม่สนใจต่อสายตาคู่นั้น จนกระทั้งเกิดความผิดพลาดขึ้นเมื่อเชมัสเริ่มทำหม้อละลาย และก่อนที่ยาสัจจะเซรุ่ม (ซึ่งไม่ได้ใกล้เคียงเลย) จะหก หรือทำให้หม้อระเบิด สเนปร่ายคาถาให้มันหายไป และร่ายหม้อใหม่ขึ้นมาเพื่อให้เชมัสเริ่มปรุงยาใหม่อีกครั้ง

     

    “ตอบทีซิมิสเตอร์พอตเตอร์” เขาเริ่ม หันไปมองแฮร์รี่ที่ยืนอยู่โต๊ะเดียวกับเชมัสและรอน “มิสเตอร์ฟินิกันทำผิดพลาดตรงไหน”

     

    เด็กหนุ่มมองกลับไป ขมวดคิ้วนิดๆ “ผมไม่ทราบครับ” ตบท้ายอย่างสุภาพและเสียมิได้

     

    เขาจะรู้ได้ยังไง ไม่ได้มองเพื่อนร่วมชั้นของเขาตลอดเวลาสักหน่อย

     

    “นั่นสิ อย่างเธอจะไปรู้อะไร” เขาส่ายหน้า มองแฮร์รี่แล้วถอนหายใจ “มิสเตอร์ฟินิกันใส่ส่วนผสมผิดขั้นตอน งั้นเธอตอบคำถามนี้สิ อะไรที่ผิด” เขาหันไปทางแฮร์รี่อีกครั้ง เด็กหนุ่มกำมือเบาๆ รู้สึกเคืองผู้ชายร่างสูงตรงหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ผมไม่ได้มองเชมัสตลอดเวลาที่เขาทำ ผมจะทราบได้ยังไง”  เสียงของเขาแสดงอารมณ์หงุดหงิดอย่างห้ามไม่ได้ นี่สเนปต้องการอะไร!

    “มิสเตอร์ฟินิกันใส่ขนจอบเบอร์นอลล์หลังจากเคี่ยวไป 12 นาที ซึ่งความจริงแล้วต้องเป็นสิบห้านาที” ร่างสูงตอบอย่างเย็นชา รวมไปถึงสายตานั้นด้วย ที่เย็นชา ทั้งเยอะเย้ยเขา “กักบริเวณมิสเตอร์พอตเตอร์หนึ่งทุ่มตรงเป็นเวลาห้าวัน ตั้งแต่” เขาก้มลงมาใกล้แฮร์รี่ พูดเสียงต่ำ  วันนี้”

     

    เด็กหนุ่มกำหมัดแน่น โกรธทั้งคำพูดและท่าทางที่สเนปปฏิบัติกับเขา นี่มันไม่ยุติธรรม!

     

    สเนปถอยหลัง เดินกลับไปที่โต๊ะตัวเอง “เหลือเวลาอีกสามสิบนาที” เขากล่าวเสียงดัง นักเรียนทุกคนต่างรีบลงมือทำต่อด้วยความร้อนรน

     

    ส่วนแฮร์รี่ยืนสงบสติอารมณ์อยู่ที่โต๊ะ รอนมองไปที่เพื่อนด้วยความเข้าใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย แฮร์รี่ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ ทำงานตรงหน้าให้เสร็จ

     

    ----------------------------

     

    “ให้ตายเถอะแฮร์รี่ นั่นมันไม่ยุติธรรมเลย!” เฮอร์ไมโอนี่คิ้วขมวด สายตาหงุดหงิดแสดงออกมาพอๆ กับน้ำเสียง

     

    “ทำไงได้หล่ะเฮอร์ไมโอนี่ ฉันไม่ได้จ้องเชมัสตลอดเวลาสักหน่อย” น้ำเสียงเขาหงุดหงิดไม่ต่างกัน “นั่นคงเป็นความผิดใหญ่หลวงสำหรับเขาหล่ะ ไม่เข้าใจ ทำไมเขาหาเรื่องฉันได้ตลอด”

     

    “แฮร์รี่ เธอต้องไม่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปอีกนะ นี่มันไร้สาระเกินไป!

     

    “สำหรับสเนป เวลาแฮร์รี่ทำอะไรผิด ทุกอย่างมันก็ เกินไป ทั้งนั้นแหละ” รอนพูดขึ้นมา “ฉันว่าต้องทำใจหรือเปล่าที่ต้องเป็นแบบนี้”

     

    “ให้ตาย! ไม่ได้นะ เธอต้องทำอะไรสักอย่างนะแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่ยังคงใส่อารมณ์กับเรื่องนี้

     

    “ฉันว่าฉันทำอะไรไม่ได้หรอก แต่ก็จะลองดูนะ ต้องไปแล้วหล่ะ รอน เฮอร์ไมโอนี่ ถ้าสายเขาคงจะหาเรื่องกักบริเวณฉันได้มากกว่าเดิม” เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย วางหนังสือในมือลง สวมเสื้อคลุม แล้วเดินออกไปจากหอคอย รับรู้ได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของเพื่อนทั้งสอง

     

    --------------------------------

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นเมื่อนาฬิกาภายในห้องตีเวลาหนึ่งทุ่มพอดี “เข้ามา”

     

    แฮร์รี่เปิดประตูเดินเข้าไป แล้วปิดประตูลง หันไปเผชิญหน้ากับคนที่เขาเกลียด และมั่นใจว่าอีกฝ่ายก็เกลียดเขาเช่นกัน

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×