ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน [ Living Normal Life ]

    ลำดับตอนที่ #36 : Good Bye...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 285
      0
      30 ธ.ค. 48

    ตอนนี้เป็นตอนที่พิมพ์ได้เร็วมากกกกกกก แบบว่าเร่งด้วยแหละ เลยออกมาแบบลวกๆไปนิด - -* วันนี้จะไปญี่ปุ่นก็เลยมาแปะไว้ก่อน จะกลับประมาณวันที่ 5 นะจ้ะ (กลับมาก็สอบเลย ฮือ...) ต่อจากตอนนี้คงจะมาช้าแล้วหละ เพราะว่าไปต่างประเทศ แล้วก็สอบด้วย แต่จะพยายามมาโพสอย่างที่สุดนะคะ เอาเถอะขอให้อ่านให้สนุกนะคร้าบบบบ ^ ^



    **********ฉันของคาโงเมะ*************



    “เอ๋!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จริงง่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ซังโกะที่หม่ำแฮมเบอร์เกอร์ตรงหน้าฉันอยู่ดีๆตะโกนออกมาเสียงดัง หลังจากที่ฉันบอกเรื่องอินุยาฉะไปอยู่ต่างประเทศอ่ะนะ คนในร้านเค้าหันมามองกันหมดแล้ว - -\"ยัยนี่นี่เว่อร์จริงๆ



    “จริงสิ มิโรคุไม่ได้บอกอะไรเธอเลยเหรอ” ฉันถามไป



    “เอ้ย.... อะไรกันเนี่ย ทำไมมันปุบปับงี้ล่ะ มิน่าล่ะ ช่วงนี้หมอนั่นถึงเงียบๆ...” ซังโกะพูดและกินแฮมเบอร์เกอร์ต่อ



    ฉันก้มหน้าและไม่ได้พูดอะไร คิดว่าเราเองก็ทำใจได้แล้ว...แต่มันก็อดเศร้าไม่ได้อยู่ดี... แต่เค้ามีเหตุผลที่จะต้องไปจริงๆนี่นา  เราพูดอะไรไม่ได้หรอก...



    ซังโกะมองหน้าฉัน เหมือนจะสังเกตุได้อะนะว่าฉันกำลังซึมเอามากๆ



    “คาโงเมะ....ไม่ต้องคิดมากนะ....” ซังโกะพูดเบาๆ เหมือนจะพยายามปลอบเรา แล้วซังโกะก็พูดปลอบฉันอีกเป็นชุดๆบางคำซังโกะพูดก็ไม่ได้เข้าหัวฉันหรอก แต่บางอย่างมันก็ช่วยได้มากทีเดียว ทำให้รู้สึกดีขึ้นมามากเลยล่ะ.....



    _________________________________________________________________________

    ผ่านมา 3 วัน...



    เหลืออีกแค่ 4 วันเท่านั้นที่อินุยาฉะจะอยู่ที่นี่... ฉันเลยชวนเขามาข้างนอกอะนะ.. ยังไงเจอกันบ้างแบบนี้ก็ดี... อินุยาฉะวันนี้ดูอารมณ์ดีมาก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอด แถมพูดมากอีกต่ะหาก (มากกว่าฉันอีกอ่ะ) หมอนี่ทำให้ฉันมีความสุขไปด้วยเลย... ดูยังไงๆน่ารักจริงๆแฮะ.. แถมพาฉันไปเที่ยวในที่แปลกทั้งนั้นวันนี้ อย่างแช่น ชุมนุมคนนแขก หมู่บ้านขายไส้กรอก บ้านแมว ห้องสัตว์เลื้อยคลาน และอื่นๆอีกมากมายที่ฉันยังไม่เคยไปเลยในชีวิตนี้...



    “เหนื่อยยยยยยยย” ฉันพูดพร้อมเกาะแขนอินุยาฉะไปด้วย



    “เหนื่อยแล้วเหรอ เดียวจะพาไปอีกที่แล้วกลับแล้ว.. อันนี้นะดูแล้วจะต้องอึ้ง” มันพูดพร้อมลากฉันเดินไปไหนก็ไม่รู้ ก็เห็นพูดอยู่ทุกที่ เห็นแล้วจะอึ้งอยู่ได้ จะอึ้งในความพิสดารของนายน่ะสิ เธ่อ..... มันพาฉันเดินเข้าไปในตรอกเล็กๆตรอกหนึ่ง ไม่เห็นมีอะไรเลย มืดๆ...น่ากลัวออกอ้ะ



    “นี่...เดินเข้ามาในนี้นานแล้วนะ มันมีอะไรกันแน่...” ฉันถามไป และแล้วฉันก็เห็นทางออกของตรอกเล็กๆ จะว่าทางออกดีมั้ยอ่ะ ก็ไม่เชิง คือว่ามันเหมือนเป็นทางเข้าของสถานที่แสดงอะไรซักอย่างอะนะ เท่าที่ฉันเห็นก็มีโต๊ะ มีคนกินเหล้ากันอย่างสนุกสนาน แล้วก็มีเวทีใหญ่ๆอยู่ ไม่เห็นจะมีไรเลย  เราสองคนยืนอยู่ตรงนั้นจนม่านเวทีเปิดออก คนในร้านนั้นก็ตบมือกันใหญ่ เมื่อมีผู้หญิงเดินออกมากลุ่มนึง สวยๆทั้งน้าน...... แต่ทำไมเค้าถือดาบกันมาคนละเล่มนะ.... สงสัยเป็นโชว์มายากลแหง แบบพวกกินดาบไรเงี้ย...



    ซักพักพวกผู้หญิงก็ต่อตัวกัน แต่ละคนจะคาบดาบหรือเอาดาบไว้ตรงส่วนของร่างกายที่พอจะทำให้ดาบหล่นลงมาได้... แย้กกกกกจ๊ากกกกกกกก เสียวๆๆๆๆๆๆ มีผู้หญิงคนนึงอยู่ชั้นบนสุด นอนอยู่บนปลายดาบอ่ะ จ๊ากๆๆๆๆๆ  ฉันเริ่มหลับตา แต่อินุยาฉะมันไม่ยอมให้หลับอ่ะ



    แล้วก็มีโชว์อีกมากมายก่ายกอง แบบประเภทพวกนี้อ่ะ ก็หนุกดีน่ะ แปลกๆดี บางอย่างก็ทำเสียวเกินความจำเป็น? - -*



    “นี่เธอรู้จักที่แบบนี้ได้ไงเนี่ย?” ฉันถามระหว่างเดินกลับบ้านกับมัน



    “เดินมั่วๆเอาก็เจอของแปลกๆเองแหละ” มันพูด อ๊ะเหรอ นี่นายเดินมั่วขนาดนี้เลยเรอะ...



    พวกเราเดินคุยกันอยู่นาน เรื่องนู่นนี่นู่นนี่ จนกระทั่ง....



    “อีกหน่อยเราก็จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้อีกแล้วนะ...”ฉันพูด  อยู่ๆน้ำตาก็คลอเบ้าอย่างไม่มีสาเหตุ อินุยาฉะหยุดเดินแล้วจับมือฉันไว้ มันมองหน้าฉันแล้วยิ้มออกมา..... ยิ้มอีกแล้วเหรอ.... มันกุมมมือฉัน



    “แต่ฉันสัญญา...ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้....” มันพูด

    ก็ไม่เชื่อหรอกนะ.....ไม่คิดด้วย.... มันคงเป็นไปไม่ได้.... แต่อาจจะเป็นไปได้ก็ได้...  ไม่รู้.. ไม่รู่ว่าวันนั้นจะมีรึเปล่าก็ไม่รู้ ไม่รู้เลย....  ไม่อยากให้อินุยาฉะไปเลย แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่นา? อยู่น้ำตาก็ไหลออกมาจากตาฉัน... ทำไมฉันถึงชอบอ่อนไหวตอนอยู่ต่อหน้าอินุยาฉะทุกทีเลย? ในเมื่อที่ผ่านๆมาไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครเลย.....

    อินุยาฉะยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้กับฉันช้าๆ พร้อมกับยิ้มไปด้วย



    “...อ้าวร้องไห้ขี้มูกโป่งหมดแล้ว ดูไม่ได้เลยนะเธอ” มันพูดพร้อมกับยิ้มอีก แต่ฉันไม่แน่ใจว่ารอยยิ้มนั่นออกมาจากใจมันจริงๆรึเปล่า... น้ำตาฉันไหลมากขึ้นไปอีก...  และฉันก็ร้องไห้ระหว่างเดินกลับบ้านตลอดจนถึงห้องนอน โดยที่มีอินุยาฉะอยู่ข้างๆจนถึงตอนนั้น...



    *********ฉันของริน**********



    ฉันนั่งอยู่ในห้องคนเดียว....อยู่ในบ้านหลังเล็กๆที่แต่ก่อนมีทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ตอนนี้... เหลือเพียงฉันคนเดียว…. เหงา..เหงาเหลือเกิน บางทีก็ทนกับความเหงาแบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน... ชีวิตคนเรานี่แปลกนะ... จากที่เคยมีความอบอุ่น ความรัก ความสุข...ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ก็ไม่รู้... กลายเป็นว่าต้องอยู่ตัวคนเดียว..



    ฉันนั่งมองรูปที่คุณเส็ตโชมารุวาด เค้าวาดเสร็จก็เอามาให้ฉัน........ ก็นั่งมองอยู่นานอ่ะ อีกไม่กี่วันเค้าก็จะไปแล้ว... แล้วก็จะไม่กลับมาอีกเลยด้วย.. ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ ทำไมคนที่ทำดีกะเราต้องจากเราไปกันหมด.. ทำไมเราต้องมาอยู่คนเดียวแบบนี้ด้วย...  คิดไปคิดมา...น่าสมเพชตัวเองชะมัด...





    **********ฉันของอินุยาฉะ***********



    ต้องไปพรุ่งนี้แล้ว...เตรียมจัดของดีกว่าแฮะเรา.. ฉันไปหยิบกระเป๋าเดินทางมาและก็อาเสื้อผ้าทั้งตู้ ยัดเข้าไปข้างในกระเป๋า ยัดของไปเรื่อยๆจนเกือบจะหมดห้อง (กระเป๋าท่าจะใหญ่มากนะ)...และฉันก็เดินไปที่โต๊ะ เตรียมจะยัดของเข้าไปต่อ ทำไมโต๊ะเรามันรกงี้วะเนี่ย เออช่างมันเหอะๆ ยัดๆเข้าไปละกัน ฉันหยิบของทุกอย่างบนโต๊ะยัดเข้ากระเป๋าให้หมด รูปคิเคียวบนต๊ะฉันก็ยัดเข้าไปเหมือนกัน อย่างน้อยก็อยากจะเห็นหน้าคิเคียว แม้ฉันจะไปที่ไหนก็ตาม  อาวล่ะ เก็บของเสร็จแล้ว (เร็วมะ) ไปหาแม่ดีกว่า ชั้นล่างคงขนของกันอยู่ละมั้ง (แล้วเพิ่งมาขนตอนนี้เนี่ยนะ)  เอ้ย... ไปหาเจ้าชิบโปก่อนดีกว่า... ฉันเดินไปหามันที่ห้อง แต่ก็ไม่เจออ่ะ ไปไหนของมันนะ หาทุกห้องแล้วก็ไม่มี



    “เห็นชิปโปมั้ย?” ฉันถามแม่บ้านแถวๆนั้น



    “เห็นจัดของเสร็จก็ออกไปข้างนอกเลยล่ะค่ะ”

    หา ไปไหนของมันวะ ทำไมไปไหนแล้วทำไมไม่ยอมบอกอะ ไอ้เด็กนี่... แผลยังไม่หายแท้ๆ  ติ๊ดๆๆๆ ฉันรีบกดเบอร์โทรหาชิปโปทันที



    “แกอยู่ไหน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” เผลอตะโกนออกไปจนแม่บ้านข้างๆสะดุ้งเลยแนะ



    “โอย.....ไม่ต้องตะโกนก็ได้ไอ้บ้า” มันตอบมา เอ๊...ดูท่าจะไม่เป็นไรแล้วนี่?



    “ไปไหนทำไมไม่บอก”



    “ต้องรายงานด้วยเหรอ?” มันตอบมากวนๆ เดี๋ยวเหอะ...ไอ้เด็ก... เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่แล้วนะ มันไม่รู้จักคำว่าสัมมาคารวะรึไงวะ? หรือว่ามันเห็นว่าฉันอายุเท่ามัน ถึงพูดกันแบบนี้ได้? มันเห็นว่าเราเป็นตัวอะไรวะเนี่ย?



    “เออไปไหนก็เรื่องของแก แค่นี้นะ” ไม่อยากจะคุยกับไอ้เด็กผีนี่แล้ว



    “เอ้ย บอกก็ได้... ตอนนี้ฉันอยู่ที่ศาลเจ้าฮิงุราชิ” มันรีบพูด เพิ่งมาบอกตอนที่จะวาง มันกะจะยั่วเรารึไงฟะ?



    “เหรอ เออ” ชักรำคาญเต็มทนละ



    “ถ้านายมารับจะดีมากเลย มาประมาณ 5 โมงนะ แค่นี้ ตู๊ดๆๆๆๆๆ” มันพูดเสียงแจ๋นแล้วก็วางหูไปเลย.... โหย..... ไม่รู้จะพูดยังไงกะความ บี๊บ (เซนเซอร์) ของมันจริงๆ นี่มันเห็นเราเป็นตัวอะไรกันแน่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!





    ********ฉันของเส็ตโชมารุ***********



    เก็บของเสร็จแล้ว.. เตรียมตัวพร้อมทุกอย่าง.... ฉันพร้อมที่จะไปแล้ว...(พูดหยั่งกะจะไปวันนี้) ตอนนี้ว่างๆไม่มีไรทำเลย......แล้วก็ไม่อยากขนของด้วย.....เฮ่ออออ...ขึ้นไปวาดรูปดีกว่า



    ฉันเดินขึ้นไปชั้นบนสุด และก็เปิดประตูห้องวาดรูปของฉันเอง.............. เข้ามาทีไรจะรู้สึกชอบทุกที...... ห้องนี้ใหญ่มาก....มีอุปกรวาดรูปของฉันตั้งแต่เล็กจนโตวางกระจัดกระจายอยู่รอบๆห้อง.... ผนังที่เคยเป็นสีขาวล้วนตอนนี้มันแทบไม่เหลือสีขาวเลย.... ตั้งแต่เด็กๆล่ะมั้งที่แม่เป็นคนสร้างห้องนี้ให้.....ตอนแรกๆห้องไม่มีอะไรเลยนอกจากผนังสีขาวกับกระจกบานนึง......ถ้าจำไม่ผิดเราเข้าห้องนี้ตั้งแต่... ยังเดินไม่ได้เลยมั้ง..... เด็กๆรู้สึกจะเห่อห้องนี้มาก.....เข้ามาวาดผนังทุกวัน...วาดผนังตามความรู้สึกของตัวเอง...วาดตั้งแต่ยังวาดรูปไม่เป็นเลย... วาดจนมาถึงวันนี้... ฉันเคยวาดรูปตอนที่แม่เสียไปด้วย......วาดเจ้าอินุยาฉะด้วยมั้ง....ตอนที่มันเพิ่งเกิด.....วาดท่านอิซายูอิกับท่านพ่อ...... บางทีก็วาดมั่วๆตามความต้องการ... รู้สึกภาพล่าสุดที่เราวาด........จะวาด..................เด็กผู้หญิง........อายุประมาณ 16........ น่าตาน่ารัก...... เอ.....มันคุ้นๆยังไงอยู่เนี่ย......สงสัยนี่คงเป็นรินล่ะมั้งนะ...เออใช่...เราเคยวาดรูปยัยนี่ด้วยหนิ... ไม่ใช่แค่รูปเดียวด้วย.....เฮ่อ........ ถ้าเราไป เค้าคงเครียดน่าดู.. ก็ไม่มีใครแล้ว...... แต่เรื่องงานเค้าก็เอาอ่ะนะ...เค้าตกลง.....

    .......วาดรูปดีกว่าแฮะเรา.... ฉันเดินไปหยิบพู่กันกับสีมาและเริ่มละเลงผนังที่เหลือสีขาวๆอยู่นิดหน่อย... อยากวาดนกตัวหนึ่งที่บินจากนกอีกตัวไปและไม่กลับมาอีกเลย....





    *******ฉันของชิปโป********



    และแล้ววันนี้ก็ถึงวันที่จะย้ายไปอเมริกาแล้ว เรานี่โชคดีหรือโชคร้ายกันแน่น้า โดนรุมอัดเสร็จก็ได้ไปอเมริกาเลย เหอะๆ เจ้าอินุยาฉะนี่ใจดีเป็นบ้า แต่ฮ้าวววววววววววว ง่วงจังงงงงงง ตื่นตั้งแต่ตี 2 แนะ เครื่องบินออกตั้งตี4 เฮ่ออออออออ นอนก่อนดีมั้ยเนี่ย.... แล้วเมื่อไหร่พวกคาโงเมะจะมาน้า.... โคร่กกกกกกกก คร่ากกกกกกกกกก ว้ากกกกกกกก เสียงท้องร้องของฉันเอง ก็แหม่ ข้าวเย็นยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา.....



    “หิวเหรอ?” อินุยาฉะถาม แหม่ ไม่หิวมั้งแบบนี้น่ะ



    “หิวดิ นี่ พาไปกินข้าวหน่อยสิ น้า น้า น้า น้า น้า น้า” ฉันอ้อน สร้างความรำคาญแก่มันเป็นอย่างยิ่ง



    “เออ..” มันพูด อ้าว ทำไมคราวนี้มันยอมเราง่ายๆวะ ปกติจะโวยแล้วนี่นา ช่วงนี้มันแปลกๆแฮะ แต่ก็ดี จะได้ใช้มันได้เยอะๆฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



    _________________________________________________________________________

    เรามากินร้าน Burger King กัน ฉันสั่งเบอร์เกอร์อันที่แพงที่สุดในร้านมากิน ซึ่งอินุยาฉะไม่บ่นอะไรเลยซักคำ เอ๊.... แปลกๆนะเนี่ย แต่ช่างเถอะ หม่ำล่ะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบ



    “ชิปโป.....แกว่าฉันควรจะไปดีมั้ย......” อยู่ๆมันก็พูดขึ้น  อ่าว นี่แกเพิ่งจะมาลังเลตอนที่จะไปเนี่ยนะ บ้าแล้ว



    “ไอ้บ้า มาถึงขนาดนี้แล้วยังจะกลับได้อีกเหรอ” ฉันตอบไป



    “มันก็จริง.... แต่แกว่าฉัน....ฉันจะทิ้งคาโงเมะได้เหรอ...” เอ่อ...มันก็จริง แต่ว่านะ..... ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะพูดแบบนี้อีก แต่มันถามมาฉันคงจะตอบตามความคิดของฉันล่ะนะ



    “อินุยาฉะ...นี่นายมีสมองรึเปล่าห้ะ”



    “หา?...”มันฉุนขึ้นมาทันควัน ว่าแล้วเชียว มันก็สมควรจะโมโหแหละ



    “ฉันรู้ว่านายไม่อยากทิ้งคาโงเมะไปหรอก.... แต่นายลองคิดดูดีๆ…ง่ำๆ” ฉันพูดพร้อมกับกินเบอร์เกอร์ไปด้วย



    “คิดอะไร?” มันถามมาอีก จะให้คิดอะไรเล่า มันอายุ 17 แน่นะ? สมองตื้นจริงๆเล้ย



    “.........นายคิดว่า คาโงเมะหรือไปอเมริกาอย่างไหนสำคัญกว่ากัน?...... เป็นฉันนะ ถึงจะคิดว่าคาโงเมะสำคัญแค่ไหน แต่ยังไงฉันก็จะไปอเมริกา”





    **********ฉันของคาโงเมะ********



    ว้ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นี่มันตีสามกว่าๆแล้ว มาไม่ทันแหงเลยยยยยย ก็ทำไงได้อ่ะ  เราปั่นจักรยานมานี่นา แถมมีรินจังซ้อนท้ายอีกต่ะหาก ยังไม่พอ หลงทางมาไม่รู้กี่สิบกว่ารอบแล้ว



    “พี่คาโงเมะ เลยแล้วๆ สนามบินอยู่โน่นนนนนน” รินจังตะโกน ตายล่ะวา... ต้องขับย้อนไปอีกแล้ว เอาไงเอากัน ปั่นโลดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด





    *********ฉันของซังโกะ***********



    เฮ่อ.... นึกว่าจะมาหาไม่ทัน รถติดมากๆ แต่ในที่สุดก็ได้เจอหน้าอินุยาฉะจนได้ ว่าแต่คาโงเมะไปไหนนะ? พวกอินุยาฉะเค้าจะไปเข้าเครื่องแล้วนะ ตอนนี้ทุกคนมากันหมดเลยเหลือแต่คาโงเมะกับรินจังน่ะแหละที่ไม่ได้มา แม้แต่โซตะน้องชายคาโงเมะยังมาถึงก่อนเลย แต่ทำไมพี่น้องไม่มาด้วยกันล่ะเนี่ย? พึลึกจริงๆเล้ย คาโงเมะนี่ไปไหนแล้วชอบมาสายนัดอยู่เรื่อย ยิ่งนี่มันเป็นเวลาสำคัญมากนะ



    \"ไปดีมาดีนะ\" มิโรคุ กับพวกเพื่อนๆก็มีกันหมดแล้ว....



    \"นายไปโรงเรียนคงเหงาแย่ ยังไงก็ก็ให้โชคดีล่ะกันนะ\" อายูมิ เอริ ริกะ ก็มาแล้ว....



    “อินุคุง...เส็ชชี่คุง..ถึงยังไงพวกเราก็จะคิดถึงเธอไม่มีวันลืมเลยจ้ะ.....” ขนาดพวกแฟนคลับของเจ้าพวกนี้มันยังมาแล้วเลย



    “ขอให้โชคดีนะ ไอ้หูหมา” แม้แต่โคงะกับพวกแก๊งก็มา.....



    “โชคดีนะไอ้หนู สู้ๆน่อ” ลุงโทโตไซยังมา......



    “ขอให้คุณไปดีมาดีนะครับ อ้อ แล้วอย่าลืมผมนะครับ อ้อ นี่ครับ ของเพื่อสุขภาพ งูดอง ไข่เน่า จิ้งจกหมัก กระดูกไก่เสริมแคลเซียม แมงสาปปิ้งมีอีกนะฮะ ลูกตาวัว.....”



    “พอเหอะ หยะแยง แล้วนายเป็นใครกันห๊ะ” อินุยาฉะพูดขัดไอ้หมอนี่ นั่นสิ มันเป็นใครกันเนี่ย.... ไม่เห็นจะรู้จักเลย แถมท่าจะบ้าแฮะ ยาดงยาดองยาหมักยาอะไรของมันไม่รู้เต็มไปหมด น่าขยะแขยงอ่า...



    “ผมโฮโจไงครับ ที่เคยฝากยาไปให้กินครั้งนึงไง จำไม่ได้เหรอ? เอ.... แต่ว่าผมเคยฝาก....เคยฝากให้คุณแน่เหรอเนี่ย เอ...ชักจะไม่แน่ใจแฮะ” เฮ่ออออออออออออออออ.... แม้แต้ไอ้บ้าที่ไหนมันยังมาเลย แล้วเธอไปไหนกันล่ะเนี่ย คาโงเมะ...ริน...



    _________________________________________________________________________

    ผ่านมา 20 นาที.... อินุยาฉะกับที่บ้านของเขากำลังจะเดินเข้าไปรอเครื่องบิน...... ตายล่ะวา ทำไมคาโงเมะยังไม่มาล่ะ.... คาโงเมะไปไหนกัน โทรตั้งนานก็ยังไม่รับเลย......ทำไงดีนะ........



    “ซังโกะ คาโงเมะกับเด็กคนนั้นมาแล้วครับ...นั่นไงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” มิโรคุพูดพร้อมชี้ไปที่ประตู เอ้ย มาแล้วจริงๆด้วย สองคนนี้ไปทำอะไรกันมาเนี่ย ทั้งสองคนสับขาวิ่งมาอย่างสุดชิวิต  อินุยาฉะกับเส็ตโชมารุหยุดดูทันที



    “คาโงเมะ!!!!!!!” อินุยาฉะตะโกน และเดินไปหาคาโงเมะทันที



    “แฮ้กๆๆๆ.....แฮ้กๆ..... คุณ.....คุณเส็ตโช.......” รินพูดไปหอบไป น่าสงสารจังเลย... เหมือนอยากพูดอะไรซักอย่างเลยแฮะ





    ******ฉันของริน*********



    “................ค่อยๆพูดก็ได้..............”คุณเส็ตพูด...... โอย เหนื่อยๆๆๆๆ เหนื่อยมากมาย เกือบมาไม่ทันแล้วสิเรา ถ้ามาไม่ทันนี่ซวยเลย อดให้ของสำคัญแก่เขา...



    “แฮ่กๆ....ร.......ริน..รินให้.......” ฉันพูดพร้อมกับยื่นรูปที่ฉันวาดเองไปให้



    “............นี่วาดเองเหรอ?.............” เค้าถามพลางมองรูป ฉันพยักหน้า แหะๆ อายอ่ะ ถึงวาดไม่ค่อยเก่ง แต่ก็ตั้งใจนา



    “............หน้าฉันเป็นแบบนี้เหรอเนี่ย?.........” เขาถามพลางมองดูรูปอีกที 555555555 คงงั้นมั้ง แหม่ ก็เราวาดไม่เก่งนี่นา วาดได้แค่นี้ก็บุญแล้ว



    “ไม่เหมือนหรอกค่ะ แต่นี้รินตั้งใจวาดน๊า ตั้งใจวาดสุดฝีมือเลย” ฉันพูดไป

    ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่เราเห็นเค้ายิ้มหน่อยๆนะ? ยิ้มเหรอ นี่เค้ายิ้มจริงๆเหรอเนี่ย?



    “........................ขอบใจ................” เขาตอบ



    “...ขอให้คุณ...โชคดีนะคะ...” ฉันพูดไปแบบไม่รู้ตัว



    “..................”



    “....ขอให้มีความสุข...ขอให้เจอแต่สิ่งดีๆ…..” ฉันพูดพร้อมกับคิดถึงเวลาที่เราเคยอยู่ด้วยกัน...



    “..................”



    “คุณช่วยฉันทุกครั้ง....ช่วยฉันออกมาจากความเจ็บปวด...”



    “.............”



    “ยังไงก็ขอให้คุณมีความสุขนะ.......แล้วก็.....”



    “................................”



    “....ถ้าคุณมีความทุกข์เมื่อไหร่.... ขอให้ดูรูปที่รินวาดให้นะ.........จะได้นึกถึงรินไง........”ฉันพูดพร้อมกับยิ้ม อายอ่ะ แต่ก็อยากจะพูดแบบนี้จริงๆนะ...เพราะตอนที่ฉันเศร้า.....ก็ดูรูปที่เค้าวาดให้เหมือนกัน..........



    “..........เข้าใจแล้ว....”



    “......จะเก็บรูปนี้เป็นอย่างดี...........และฉันก็จะไม่ลืมเธอ.........” เค้าเสร็จก็โผเข้ามากอดฉันทันที ว้ากๆๆๆๆ อายๆๆๆๆ  ต่อหน้าคนเยอะแบบนี้มัน......



    “.........ฉันสัญญา........”





    ********ฉันของคาโงเมะ*********



    วิ่งมายังไม่พูดอะไรเลย เจ้าอินุยาฉะก็ดึงฉันเข้าไปกอดและ เฮ้ยอย่าเพิ่งงงง



    “ยัยบ้า ทำไมมาช้านัก” มันพูด โอ้ยยยยย ช่างมันเหอะน่า



    “เอาน่าๆ ยังดีกว่าไม่มานะ อ่ะนี่ ฉันให้” ฉันพูดพร้อมกับหยิบเครื่องรางมา.. อินุยาฉะหยิบไปแล้วก็ดูใหญ่เลย



    “เครื่องรางจากศาลเจ้าฮิงุราชิ เก็บไว้ดีๆล่ะ”



    “ขอบใจนะ” มันพูดพร้อมกับยิ้มออกมา ยิ้มแบบนี้อีกแล้ว.....ยิ้มแบบนี้....



    “เจ้าบ้า ทำตัวไม่น่ารักเลย ยิ้มแบบนี้ฉันเสียใจนะ” ฉันเอามือไปบิดหน้ามันอย่างแรงเลย



    “โอ้ยยยยยยยยยย เจ็บ ฉันแค่ยิ้มเอง เธอทำไมล่ะเนี่ย”

    ฉันนิ่งอยู่ซักพัก และมองหน้ามัน...



    “...ทำตามความรู้สึกสิ...ทำในสิ่งที่คิด...อย่าฝืน...”



    “คาโงเมะ.....”



    “....เธอไม่ต้องฝืนยิ้มหรอก....”



    “ท่านอินุยาฉะ เร็วหน่อยครับ เราต้องรีบแล้วนะ” เสียงปู่เมียวกะดังขึ้น... เค้าจะต้องไปแล้ว...



    “.......คาโงเมะ” มันเรียกฉันอีก เหมือนทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง



    “...หืม...?”



    “....จำที่ฉันพูดได้มั้ย? ว่านี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน” มันพูด คราวนี้มันก็ยังยิ้มอยู่อีก.... แต่ฉันรู้สึกได้ว่า...เป็นรอยยิ้มที่มากจากใจจริงๆ



    “จำได้...” ทำไมตาเรามันเกิดร้อนขึ้นมาซะเฉยๆนะ?



    “...คำพูดนั้น เธออย่าลืมนะ...”



    “.....อืม...จะไม่ลืม” และแล้ว น้ำใสๆก็ร่วงลงมาจากตาฉัน

    อินุยาฉะยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะโผมากอดฉันอย่างแรง โอ้ยยยยยเจ็บ เกือบล้มลงพื้นเลย



    “รักที่สุดเลยยยยยยยยย” มันตะโกน แล้วก็หัวเราะ ไม่รู้ทำไมฉันต้องบ้าหัวเราะไปกับมันด้วย รู้สึกแปลกๆ..... มันอบอุ่นยังไงก็ไม่รู้....



    “ไปเร็วววววววววววเข้า” ปู่เมียวกะเรียกอีก



    “เราจะไม่ลืมพวกเธอเลยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!” ทุกคนตะโกน



    สองพี่น้องโบกมือให้ทุกคนพร้อมกับรอยยิ้ม และท่าทีเหมือนเดิม... ทั้งคู่เดินเข้าประตูบานนั้นไป.. เดินหายไปจากสายตาฉัน …. ตอนนั้นเองทำให้ฉันร้องไห้ออกมา เศร้าเหลือเกิน....แต่มันเหมือนมีความสุขปะปนอยู่ด้วย อบอุ่นจริงๆนะ...... จะเรียกว่าเศร้าหรือมีความสุขดีนะ?...... ตั้งแต่ทั้งคู่เดินจากไป เรายังรู้สึกเหมือนเดิม รู้สึกเหมือนทั้งสองคนยังอยู่ข้างๆ เหมือนยังคงความผูกพันไว้.... แปลกจริงๆนะ...... ยังไงก็ขอให้โชคดีนะ......อินุยาฉะ......



    จบ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×