ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] EX-Friend?! (KaiDO and exo) [อยู่ในช่วงรีไรท์]

    ลำดับตอนที่ #15 : EX-Friend?! :: Chapter 12 'เล่นน้ำทะเล' (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.91K
      3
      4 ต.ค. 56

    chapter12

     

     

              ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาในกลางดึก จริงๆไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลับไปตอนไหน แต่ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเกิดอาการอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา ผมขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะเห็นว่าไฟในห้องนอนยังคงถูกเปิดไว้ ผมเห็นร่างของเพื่อนร่วมห้องของพวกนั่งฟุบหลับอยู่กับโต๊ะตัวข้างๆเตียง พลางสายตาผมก็มองผ่านนาฬิกา ขณะนี้เวลาตี2พอดี ตื่นมาได้จังหวะมากโด คยองซู

     

              ผมเดินกะเผลกๆไปยังห้องน้ำ พยายามเกาะกำแพงเอาไว้ ผมไม่อยากปลุกไคมาช่วยผมตอนนี้หรอก เห็นอย่างนี้ผมก็เป็นคนมีมารยาทมากพอนะครับ!

     

             

     

              เมื่อผมทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็เดินเกาะกำแพงกลับมาที่เตียงอย่างเดิม ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ยังสิ่งมีชีวิตอีกอย่างที่ตอนนี้กำลังหลับอยู่ที่โต๊ะ ผมเลยเปลี่ยนเป้าหมายเป็นเดินไปที่โต๊ะตัวนั้น

     

              "ไค ไคๆ ไคอา จงอิน จงอินอา คิมจงิน!" ตอนแรกระดับความปลุกผมก็อยู่ในขั้นสุภาพอยู่นะครับ แต่พออีกคนนั้นหลับไม่รู้เรื่องก็เลยต้องค่อยๆเพิ่มระดับเสียงไปอีก จนในที่สุดก็กลายเป็นความหงุดหงิดไปซะงั้น

     

              "หือ?" ไคค่อยๆลืมตาก่อนจะมองหน้าผมอย่างงงๆ

     

              "ไปนอนที่เตียง มานอนตรงนี้ทำไม" ผมพูดออกไป

     

              ".." ไคไม่ตอบอะไร แต่เดินหลับตาไปที่เตียง ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงที่เตียงอย่างว่าง่าย แต่ยังไม่ลืมที่จะกลิ้งไปอีกฝั่งของเตียงเพื่อให้เหลือที่ให้ผมนอนได้อย่างง่ายๆไม่ต้องอ้อมเตียงขึ้นไปนอนอีกฝั่ง

     

              "เฮ้อ..." ผมเห็นดังนั้นจึงได้แต่ถอนหายแล้วเดินกะเผลกๆลงไปนอนตามไป

     

     

     

              ...ไอ้นี้ เวลานอนขี้เซ้าเหมือนเดิมเลยแหะ

     

     

              ผมอมยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องของอีกคนนึง ก่อนจะทิ้งตัวลงนอน ยังไม่ลืมดึงผ้าห่มมาคลุมด้วย ผมว่าทะเลที่นี้กลางวันเหมือนจะร้อนมากๆนะครับ แต่พอตกกลางคืนก็หนาวมากๆเหมือนกัน อากาศเหมือนทะเลทรายเลย

     

              "หนาว.." อยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงบ่นของคนข้างตัว ก่อนที่คนข้างตัวจะจะเอื้อมมือมาดึงตัวผมเข้าไปในอ้อมกอดของเขา

     

              "!!!" ผมตกใจ แต่ยังไม่ได้โวยวายอะไรเพราะตอนนี้มันเป็นเวลากลางคืน แล้วผมเองก็ง่วงเหมือนกัน

     

              คราวนี้จะปล่อยไปก่อนล่ะกัน..

     

     

              แล้วนอนแบบนี้..มันก็อุ่นดี!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              ปัง!

     

              "สวัสดีตอนเช้า~~~~"

     

              อยู่ดีๆผมก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นอย่างตกใจเพราะอยู่ๆก็มีเสียงเปิดประตูดังปัง และต่อมาก็มีเสียงของคนที่เปิดประตูก็เอ่ยขึ้นอย่างเสียงดัง และแน่นอน..ทั้งเสียงเปิดประตูและเสียงทักทายนั้นจะมีสาเหตุจากใครอื่นไม่ได้นอกจาก..

     

              ไอ้ลู่ฮาน! ปลุกแบบมีมายาทได้ไหม

     

     

              "อือ~"แต่คนข้างตัวผมนั้นยังไม่มีท่าทีที่จะตื่นเลยซักนิด แล้วมีการบิดตัวออกห่างจากลู่ฮานอีก

     

              "อุ้ย นอนกอดกันด้วย ฉันไม่กวนแล้ว แค่จะมาบอกว่า เซฮุนทำข้าวเสร็จแล้วนะ อาบน้ำแล้วกินข้าวกัน เดี๋ยวคริสกับเพื่อนฉันจะมาแล้วนะ เราไปเล่นน้ำกัน"ลู่ฮายพูดพร้อมทำสีหน้าล้อเลียนผมเล็กน้อย ก่อนจะทำท่าทีว่าย่องออกจากห้องนอนผม แต่มันกับปิดประตูซะดังเลย

     

              ปัง!

     

              "นี้ไค ปล่อยก่อนจะไปอาบน้ำ นายก็นอนต่อไปสิ" ผมพูดพร้อมดันแขนของคนที่นอนกอดผมออก คนข้างตัวไม่ได้มีท่าทีขัดขืนแต่ยังใด ทำให้ผมลุกออกมาจากเตียงได้อย่างง่ายดาย

     

     

              ผมเดินกะเผลกๆไปยังกระเป๋าเดินทางของผมก่อนจะหยิบพวกข้าวของเครื่องใช้ในห้องน้พทุกอย่างออกมา รวมถึงเสื้อผ้าที่คิดว่าจะใส่ลงเล่นน้ำวันนี้ ผมใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการอาบน้ำไม่ให้แผลผมโดนย้ำ แต่มันก็ดูจะเว่อร์ไปนะครับถ้าจะบอกว่ามันไม่เปียกเลย ที่จริง.. เรียกว่ามันเปียกชุ่มไปเลยก็ได้ครับ

              เมื่อผมทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ผมก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วนะครับ (ผมรู้นะคนอ่านคิดไรกัน) ผมเห็นคนที่นั่งอยู่บนเตียงกำลังยิ้มหน่อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงเหมือนแอปพิเคชั่นอะไรซักอย่างดังขึ้น ก่อนที่ลอยยิ้มของเขาจะกว้งขึ้นด้วย

     

              ..เหอะ คุยกับแฟน..

     

              ผมรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณทันทีว่าไคต้องคุยกับแฟนของเขาแน่เลย เลยทำทีเป็นไม่สนใจ เดินกะเผลกๆไปเก็บของใส่กระเป๋าเดินทาง

     

              "อาบเสร็จแล้วหรอ พอดีเลย อย่าเพิ่งลงไปข้างล่องก่อนฉันล่พ เข้าใจไหม" ไคเงยหน้าจากโทรศัพท์ก่อนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วเดินผ่านผมไปที่กระเป๋าเดินของเขา ก้มลงหยิบของอยู่สองสามทีแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

     

              ชิ! มีความสุขมากเลยสินะ

     

     

              ผมนั่งลงบนเตียง ก่อนจะเอาผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดผมตัวเองอย่างหมั่นไส้ เหอะ ดีเหมือนกันโมโหแบบนี้หัวแห้งเร็วดี!

     

              ผมได้ยินเสียงอีกคนที่อยู่ในห้องน้ำ พึมพำก้องห้องน้ำ แต่จับใจความไม่ได้ว่าร้องเพลงหรือคุยโทรศัพท์ ผมไม่คิดจะสนด้วยว่าจะทำอะไร อยากทำอะไรก็ทำไปสิ ให้ตายสิผมว่าผมบ้าไปแล้วนะ ผมคิดว่าผมจะไม่อารมณ์เสียกับเรื่องของไคแล้วนะ ทำไมผมคุมอารมณ์กับเรื่องแค่นี้ไม่ได้เนี่ย
     

    ผมเลิกเสร็จผมตัวเองแล้วล้มลงนอนแทน เดี๋ยวก็ต้องออกไปทะเล เดี๋ยวมันก็แห้งเอง ไม่จำเป็นต้องเช็ดมันหรอก เหนื่อย.. คิดได้อย่างนั้นก็พลิกตัวหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงมากดเล่นซะเลย แต่เหมือนผมจะลืมไปว่าที่นี้ไม่มีเน็ต.. ทำให้โทรศัพท์ผมมีสภาพเหมือนกับอัมพาฒ เพราะแค่คลื่นโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยจะมี เน็ตก็ไม่มี แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย ผมเลยหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปตัวเองซะเลย.. ไม่เคยหรอครับ ไม่มีอะไรทำก็ถ่ายรูปตัวเองเล่นๆน่ะ

     

     

              "ออกมาก่อนแทนที่จะเช็ดผมให้เรียบร้อย นี้มานอนถ่ายรูปตัวเองเล่น" เสียงของคนที่เพิ่งเดินออกมาด้วยสภาพไม่เรียบร้อยนัก.. เอิ่ม.. เอ่ยขึ้น..

     

              ก็บอกว่าไม่เรียบร้อยก็คงไม่ใช่หรอกครับ อย่างน้อยไคก็ใส่กางเกงเรียบร้อยแล้ว.. แต่ก็ปล่อยให้ท่อนบนโล่งไว้.. ทำไมไม่ใส่เสื้อ(ว่ะ) คิดว่าหุ่นดีแล้วจะอวดให้คนอื่นดูหรือไง ไม่อิจฉาหรอกโว้ยยยย ถึงจะไม่มีซิคแพ็คเป็นลูกๆ

    แต่ก็ไม่อ้วนนะโว้ยยยย สมส่วนอ่ะสมส่วน รู้จักป่ะ

     

              "เฮ้ย ปามาทำไม" คนที่ยืนหน้าห้องน้ำเอ่ยขึ้นอย่างงงๆ เมื่ออยู่ดีๆถูกปาหมอนใส่

     

              "หมั่นไส้! คนชอบแก้ผ้า" ผมบอกพร้อมเบะปาก

     

              "อย่าอิจฉา เอ๊ะไม่สิ อย่างนี้ต้องบอกว่า อยากจับสินะ" คนตัวสูงเอ่ยผมทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ผม

     

              "จับทำไมมีแต่พุง เหอะ!" ผมพูดพร้อมพลิกตัวหันหลังให้กับอีกคนที่ก้มลงหาเสื้ออยู่

     

              "ก็เห็นไม่ใช่หรอว่าพุงหรืออย่างอื่น ฮ่าๆๆ" หมอนี้พูดด้วยน้ำเสียงยียวน

     

     

              เออ! ไม่ใช่พุง รู้! รู้ด้วยว่าเป็นซิคแพ็ค แต่ไม่อยากยอมรับโว้ย!!!!

     

     

     

              "เหอะ!" ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่ว่าหมดอารมณ์ถ่ายรูปตัวเองแล้ว เลยโว้ยโทรศัพท์ไว้บนเตียงตามเดิม

     

              "แล้วทำไมไม่เช็ดผม อาบน้ำแล้วออกมานอน จะอาบทำไมเนี่ย" คนตัวสูงที่ตอนนี้ใส่เสื้อกล้ามเรียบร้อยแล้วเดินมาที่ปลายเตียง ก่อนจะทำหน้าและเสียงดุๆส่งมาให้ผม

     

              "ขี้เกียจ เดี๋ยวมันก็แห้ง"ผมพูดสั้นๆก่อนจะลุกขึ้นมาขัดสมาธิบนเตียง

     

              "เช็ดเดี๋ยวนี้ แล้วก็ยื่นขาลงมาได้แล้ว" อีกคนนึงสั่งขึ้นผมนั่งยองๆลงกับพื้น

     

              "อะไรของนาย" ถึงปากของผมจะถามไปแต่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย งงตัวเองเหมือนกันว่าจะถามทำไม คงเป็นเพราะอยากรู้ล่ะมั้งว่าอีกคนจะทำอะไร

     

              อีกคนไม่ตอบ แต่ดึงกล่องปฐมพยาบาลที่ไม่รู้ทำไมมาอยู่ในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ออกมา ก่อนจะค่อยๆแกะผ้าพันแผลที่เซฮุนเคยพันไว้ออก ก่อนจะหยิบยาในกล่องออกมาใส่แผลให้ผม แล้วหยิบผ้าพันแผลออกใหม่ขึ้นมาพัน

    แทน อ้อ... เปลี่ยนผ้าพันแผลนี้เอง

     

              "เสร็จแล้ว ทีนี้ก็ไปกินข้าวกันได้ซะที" อีกคนลุกขึ้นยืน ก่อนจะทำท่าอุ้มผม แต่ผมยกมือห้ามไว้ก่อน

     

              "ฉันพอเดินเองได้แล้ว เมื่อคืนก็ลุกไปเข้าห้องน้ำเอง" ผมลุกขึ้นยืนให้ดู ถึงมันจะเจ็บเล็กๆแต่ว่าถ้าลงน้ำหนักดีๆก็ไม่เจ็บมากหรอก

     

              "เอางั้นหรอ" ไคมองผมอย่างไม่มั่นใจ

     

              "อือ" ผมเดินกะเผลกๆ ไปที่ประตูก่อนจะหันหลังมามองหน้าอีกคนที่ทำหน้าเครียดอยู่ ผมทำหน้าห้ามประมาณว่าทำไมไม่เดินตามมา

     

              "เอางี้ดีกว่า"อีกคนนึงพูดขึ้น ก่อนจะเดินเข้ามาโอบเอว.. ไม่ใช่สิเรียกว่าพยุงมากกว่า บอกตรงๆผมว่ามันไม่ได้ช่วยให้ผมเดินสะดวกขึ้นหรืออะไรหรอกนะครับ ผมว่าทำให้ผมอึดอัดมากกว่า แต่ผมก็ไม่ได้เอ่ยปากห้ามอะไรอีก

    คน ไม่ใช่เพราะว่าอะไรหรอกนะครับ... ก็แค่กลัวไอ้บ้านี้จะอุ้มผมลงไปจริงๆขึ้นมา..

     

     

              .....จริงๆนะ

     

     

     

     

     

     

              "มากันแล่ว~~~~" และก็เป็นเสียงของลู่ฮานเช่นเดิมที่ดังขึ้นทักพวกผมสองคน

     

              ผมหันไปมองที่โต๊ะกินข้าวที่ตอนนี้ลู่ฮานกำลังยิ้มหน้าบานรออาหารที่เซฮุนกกำลังยกมาเสริฟ ทำให้ผมคิดอะไรได้นิดนึง.. เซฮุนมานี้มาเป็นคนใช้ไอ้ลู่ฮานจริงๆ ผมลพสายตาจากลู่ฮานไปมองน้องชายตัวสูงของผม เซฮุนอยู่

    ในสุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นธรรมดาสำหรับคนจะไปเล่นน้ำทะเล แต่ที่ไม่ธรรมดาคือมันใส่ผ้ากันเปื้อนเสริฟอาหารเนี่ยแหละ...

     

              ..ลู่ฮานคือสิ่งมีชีวิต..ที่ปลุกความมุ้งมิ้งในตัวน้องชายผมจริงๆ

     

              เซฮุนส่งสายตามาให้ผมเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร ผมเองก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์อยากจะถามด้วยว่ามองแบบนั้นหมายความว่าไง ผมเดินมาถึงก็นั่งลงกับเก้าอี้ตัวข้างๆลู่ฮาน โดยที่ไคนั่งลงข้างๆผม ถึงที่ข้างๆเซฮุนจะว่าง แต่

    ผมก็พอรู้ว่าสองคนนี้เหมือนมีเรื่องไม่พอใจกันอยู่ อย่างไงคงไม่ไปนั่งด้วยกันหรอก

     

     

              "โอ๊ะ! ฉันได้ยินเสียงเรือ ต้องเป็นคริสแน่เลย มาไวจังน๊าาาา ฉันออกไปรับก่อนนะ"ลู่ฮานพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรือ แล้วยังไม่ทันได้รอให้พวกผมขานตอบเจ้าตัวก็รีบวิ่งไปที่หน้าบ้านทันที

     

              พนันกับผมไหมว่ามันไม่ได้คิดถึงน้องชายของมันหรอก!

     

             

     

              "คริส~~" เสียงลู่ฮานเรียกคนตัวสูงที่ถือกระเป๋าเดินเข้าบ้านมา เรียกเสร็จก็กระโดดขึ้นเกาะคนตัวสูงทันที ต้องใช้คำว่า'เกาะ'จริงๆนะครับ เพราะคนเป็นน้องยังไม่ทันเอามือไปรับคนเป็นพี่เลย แต่คนเป็นพี่นี้ลอยขึ้นจากพื้น

    เรียบร้อยแล้ว

     

              "ฮยอง.. ผมหนัก"คนเป็นน้องเอ่ยอย่างเซ็งๆ เขาเองก็รู้ว่าคนเป็นพี่ไม่ได้คิดถึงเขาขนาดวิ่างมากอดหรอกนะ เพียงแค่เห็นเขาถือของมาหนักเลยอยากแกล้งด้วยการเพิ่มน้ำหนักอีกนิด.. นิดที่ว่าก็คือน้ำหนักตัวของลู่ฮานเองไง

     

              "มาแล้วหรอคริส เอาเลย์เพื่อนสาวฉันมาหรือเปล่าาาาาา" ผม ไค เซฮุนเดินตามลู่ฮานออกมาที่หน้าบ้านก็ได้เห็นบทสนทนาที่เกิดขึ้น

     

              "นี้ลู่ฮาน ถึงจะฟังเกาหลีไม่เก่ง แต่ฉันรู้นะว่านายเรียกฉันว่าไง" เสียงนึงดังขึ้น แต่ว่าร่างสูงของคริสและลู่ฮานที่เกาะกันอยู่นั้นบังพวกผม ทำให้ไม่ได้เห็นหน้าของคนพูด

     

              "เลย์~~ คิดถึง~" ลู่ฮานกระโดดลงจากคริสแล้วก็โผล่กอดใส่เพื่อนชาวจีนของตน คราวนี้ไม่เหมือนกับคริสที่ยังส่งตัวอยู่ได้ เพราะคราวนี้ทั้งลู่ฮานและเพื่อนชาวจีนของเขานั้นล้มหงายไปกับพื้นเรียบร้อยแล้ว ลู่ฮานนะไม่เจ็บ

    หรอก คนที่เจ็บควรจะเป็นเพื่อนชาวจีนของลู่ฮานมากกว่า เพราะนอกจากจะรับแรงกระแทกเต็มๆแล้วยังต้องรับน้ำหนักของลู่ฮานอีก

     

              "เล่นอะไรเนี่ย" คริสที่ยืนมองอยู่ก็เข้าไปดึงลู่ฮานมาจากเพื่อนของพี่ชายตน เพราะรู้สึกสงสารเพื่อนชาวจีนของลู่ฮานขึ้นมา

     

              "ทุกคนออกมาพอดีเลย คริสนี้ไม่ต้องแนะนำแล้วเนาะ นั้นแนะนำคนนี้ดีกว่า"ลู่ฮานพูดขึ้นเมื่อตัวเองลุกยืนเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะดึงเพื่อนชาวจีนขึ้นมา แล้วหันมาพูดกลับพวกผม

     

              "เอ่อ.. สวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนของลู่ฮาน เป็นคนจีน ผมชื่อ.."สำเนี่ยงแปลกๆออกมาจากอีกคนที่กำลังมึนๆจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ทันได้พูดจบก็มีอีกเสียงนึงพูดขึ้นแทรกขึ้นมา

     

              "คุณเลย์! คุณเลย์ใช่ไหมครับ "อยู่ดีๆน้องชายตัวดีของผมก็พูดแทรกขึ้น ทำให้พวกผมเกิดอาการงงกันขึ้น มองหน้ากัน ขนาดลู่ฮานยังมองหน้าผมอย่างงงๆ ผมเองก็ไม่รู้คำตอบของสิ่งที่มันสงสัยอยู่ แล้วจริงๆผมก็สงสัย

    เหมือนกันว่าสองคนนี้รู้จักกันหรอ ไม่ใช่สิต้องบอกว่าน้องผมรู้จักเพื่อนของลู่ฮานได้อย่างไร เพราะดูเหมือนคุณเลย์เขาจะไม่รู้จักเซฮุนเหมือนกัน ดูจากสีหน้ามึนงงไม่ต่างจากพวกผม

     

              "คะ ครับ ผมชื่อเลย์ จริงๆชื่อจางอี้ชิง แต่ว่าพวกคุณเรียกผมว่าเลย์แหละครับ" คุณเลย์หันมามองหน้าทุกคนอย่างมึนงง

     

              "จริงๆด้วย ผมว่าแล้วว่าต้องเป็นคุณเลย์ ผมติดตามงานของคุณมาตลอดเลยนะครับ รู้ไหมคุณเป็นไอดอลผมถาจับมือคุณเลย์ เพิ่มอกาการงงให้พวกผมไปอีกเท่าตัว

     

              "เอ่อ.. ครับ ผมดีใจจริงครับคุณ.."คุณเลย์พูด

     

              "ผมโอเซฮุนครับ ไม่ต้องเรียกคุณหรอกครับอายุน้อยกว่าคุณครับ ผมขอเรียกคุณเลย์ว่ารุ่นพี่ได้ไหม รุ่นพี่เป็นไอดอลผมจริงนะครับ ผมฝันมาตลอดที่จะได้เจอคุณ ผมอยากจะรีบเรียนให้จบแล้วทำงานกับคุณจริงๆ ผมดีใจ

    มากๆ" เซฮุนเอ่ยประโยคยาวๆอย่างชื่ชม

     

              "นี้พวกนายรู้จักกันหรอ" แล้วเป็นลู่ฮานเองที่ถามคำถามที่ทุกคนกำลังสงสัยอยู่

     

              "ใครจะไม่รู้จักรุ่นพี่เลย์ล่ะครับ เขาเป็นตากล้องชื่อดังระดับโลกเลยนะ แล้วยังเป็นไอดอลของผมอีก"เซฮุนเอ่ยขึ้นแทน

     

              "อะไรกัน สรุปแล้วนายมันก็แค่แฟนคลับเลย์นิ" ลู่ฮานเอ่ยอย่างเซ็งๆ

     

              "ผมไม่เป็นแฟนคลับนะครับ ผมเป็นคนที่ติดตามผลงานของรุ่นพี่เลย์ต่างหาก" เซฮุนเถียงขึ้น..

     

     

              .....เอ่อ..เซฮุนอา... มันต่างกันตรงไหน..

     

     

              "เอาล่ะๆ มาแนะนำตัวต่อ ทุกคนๆ นี้เลย์นะ เพื่อนชาวจีนของฉันเอง ถึงจะบอกว่าเพื่อนกันแต่ที่รู้ๆคือฉันคบแต่เด็กๆอะนะ เลย์เนี่ยเด็กกว่าฉันปีนึง เพราะงั้นก็อายุเท่าคริส" ลู่ฮานเอ่ยเรียกความสนใจจากทุกคนอีกครั้ง

     

              "ไม่ต้องเรียกพี่นะครับ ถือว่าเราอายุเท่ากันเลยนะครับ"คุณเลย์พูดขึ้นอย่างอายๆ

     

              "ได้ยินนะทุกคน อ้อ เรียกเลย์เป็นเพื่อนได้ทุกคนยกเว้นเซฮุนนะ เพราะนายเด็กกว่าเราอยู่แล้วไม่ถือใช่ไหม"ลู่ฮานพูดขึ้นแต่ไม่ใช่ประโยคคำถามซักเท่าไหร่ เพราะมันคือประโยคบังคับมากกว่า

     

              "ครับ!"เซฮุนพูดขึ้นอย่างเต็มใจ

     

              "เอาล่ะเลย์ ฉันคงไม่แนะนำคริสนะพวกนายคงใช่ไหม"คุณเลย์พยักหน้าว่าตาม "ทางนี้เป็นเพื่อนฉัน คนดำๆนั้นจงอิน คนเตี้ยๆนั้นคยองซู ส่วนประธานแฟนคลับนายชื่อเซฮุนเป็นน้องชายของคยองซู " ลู่ฮานพูดขึ้นพร้อมชี้หน้าพวกผมไล่ทีละคน

     

              "สวัสดีครับ คุณจงอิน คุณคยองซู เซฮุนอา"คุณเลย์หันมาทักทายพวกผมอย่างเป็นทางการ

     

              "สวัสดีครับ"พวกเราสามคนที่เหลือกล่าวพร้อมกัน

     

              "ทีนี้เข้าบ้านได้ยั้ง ร้อน ยังไม่ได้ทาครีมกันแดด"ลู่ฮานพูดพร้อมทำหน้างอ แล้วรีบเดินเข้าบ้านไปทันที

     

              คนที่เหลือก็มองหน้ากัน ก่อนจะยิ้มให้กับความเอาแต่ใจของลู่ฮาน เพราะทุกคนคงเจอฤทธิ์ของลู่ฮานม่บ้างไม่มากก็น้อย เลยไม่มีใครบ่นอะไรลู่ฮาน ทุกคนเลยเดินตามลู่ฮานเข้าบ้านไปอย่างเงียบๆ คงจะมีเสียงของเซฮุนที่อาสาช่วยถือของของคุณเลย์ให้ แล้วก็มีเสียงกล่าวชื่นชมคุณเลย์ตลอดไม่ขาดสาย...

     

              ....เซฮุน....คงได้เจ้านายใหม่เพิ่มอีกคนซะแล้ว

     

     

              "เลย์อา คริสอา ไปเก็บของข้างบนไป ห้องในสุดเลยนะ นอนห้องเดียวกันได้ใช่ไหม ไม่ได้ก็นอนนอกห้องซะนะ แล้วรีบลงมาด้วย หิว"ลู่ฮานพูดพร้อมทำหน้างอ ก่อนจะโยนกุญแจให้คริส ซึ่งทั้งสองก็ไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่ส่ายหน้าให้กับความเอาแต่ใจของลู่ฮาน

     

     

     

              ...บางทีผมก็สงสัยนะว่าเพื่อนผมคนนี้มันมีปุ่มสวิตซ์ปรับโหมดหรือเปล่า

     

     

              ...อารมณ์แปรปวนยิ่งกว่าผู้หญิงที่เป็นวันนั้นของเดือนอีก....











    ---------------------------------------------------------------------------------------
    สอบไม่เครียดเลย.. เครียดตรงไม่สบายเนี่ยแหละ~~~~~~~ เพื่อนมานอนหอไม่มีสมาธิแต่งเลยยยยยยยย

    แล้ว12%เนี่ย ไม่มีอารายยยยยย แค่เลขสวยเฉยๆๆ 5555 ขอขคุ๊ทุกคอมเม้นนะค่าาา อ่านทุกคอมเม้นจริงๆ

    ขอบคุณคอมเม้นนะคะ ซึ้งใจจริงๆ T T แต่ไม่รู้จะได้มาอัพอีกเมื่อไหร่ หากพรุ่งนี้ไม่มาก็เจอกันวันจันทร์เลยนะคะ

    บ๊ายบายยย ปย๊ง


    =============================================================
    มาลงให้อีกตอนตามสัญญา(?) คิดว่าคงเจอกันอีกทีวันจันทร์ จะมีใครคิดถึงไหม? (กล้าถาม)

    จริงๆตอนนี้ควรเสร็จตั้งนานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนมานอนด้วย..บวกไม่สบาย T T ขอโทษจริงๆค่ะ

    ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคอมเม้นจริงๆ มันเป็นกำลังใจมากๆค่ะ *โค้ง*

    ส่วนคนที่ถามหาเอ็นซี.. บอกตามตรงไรเตอร์คนนี้แต่งไม่เป็น ถนัดแต่อ่าน(อ้าว) ขอโทษนะที่นี้ด้วย แล้วใจจริงก็ไม่อยากเขียนด้วยล่ะค่ะ แบบว่า..ไม่อยากให้ใครมาอ่านนิยายเราเพราะฉากเอ็นซีนะคะ มันไม่ภูมิใจ

    แต่คนแต่งคนนี้จะพยายามแต่งให้ดีที่สุดนะคะ

    ปล.ชื่อตอนว่าเล่นน้ำทะเลแต่ยังไม่เจอน้ำทะเลยเลย..

    ปล.2 แต่ละตอนทำไมมันยืดยาวจัง เป็นนิยายที่ใช้เวลาดำเนินเรื่องนานมาก... (เขียนเองบ่นเอง)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×