ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพลิงรักมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ ๓ นักสืบจำเป็น (๑)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 638
      4
      12 ส.ค. 59


    เพลิงรักมาเฟีย มีจำหน่ายแบบอีบุ๊คที่เว็บเมพนะคะ ส่วนรูปเล่มติดต่อที่สนพ.ไลต์ออฟเลิฟ

    ช่วงค่ำวันเดียวกันเวลาหนึ่งทุ่มตรง รถซีตรอง ดีเอช 21 ก็เคลื่อนเข้าสู่ตัวคฤหาสน์คาร์มิโอด้วยอัตราความเร็วค่อนข้างช้า หลังจากที่ทนคำรบเร้าจากคุณแม่บ้านซึ่งขยันกดโทรศัพท์เน้นย้ำตั้งแต่ก้าวออกจากร้านอาหาร จนกระทั่งถึงเวลาออกจากที่ทำการบริษัทใหญ่ ด้วยสาเหตุที่ใครบางคนเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หลังจากบินหนีความวุ่นวายไปพักผ่อนอย่างสบายใจกับดาราสาวชื่อดังของฮอลลีวูด

    เมื่อรถจอดสนิท ชายหนุ่มก็ผลักประตูก้าวลงมา นำพาร่างกายสูงใหญ่เดินผ่านประตูเข้าสู่ตัวบ้าน เมื่อเข้ามาด้านในก็ต้องหยุดชะงัก มุมปากได้รูปยกยิ้มน้อยๆ เมื่อได้ยินเสียงบางอย่างดังออกจากห้องนั่งเล่น เพลงรักคลาสสิกที่ผู้เป็นบิดาชอบฟังอยู่เสมอถูกบรรเลงด้วยเครื่องเสียงยี่ห้อดัง ขายาวๆ ก้าวตรงไปยังจุดหมาย ยืนกอดอกจ้องมองคนเป็นบิดาที่ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเอ่ยขัดจังหวะ

    “เมืองอังกฤษไม่เหลือสถานที่ให้พ่อท่องเที่ยวแล้วเหรอครับ”

    คนเป็นพ่อกดรีโมตคอนโทรลปิดเสียงเพลงแล้วลุกขึ้นจากโซฟานุ่ม หมุนกายตรงมาหาบุตรชายตัวดีด้วยสีหน้าเรียบสนิท

    “คงอย่างนั้นแหละไอ้เสือ” ฟาบริชยักไหล่ก่อนจะทำหน้าประหลาด เมื่อดวงตาปะทะกับเสี้ยวหน้าของผู้เป็นพ่อที่ดูแปลกไปกว่าเคย

    “ผมว่า กลับมาคราวนี้ ท่านเฟร์บริชแห่งคาร์มิโอดูหนุ่มขึ้นนะครับ สงสัยงานนี้สาวใหญ่แห่งฮอลลีวูดฝีมือคงใช้ได้”

    มือหนาของคนเป็นพ่อตบลงบนไหล่บึกบึนค่อนข้างแรง ก่อนจะเลื่อนไปยีศีรษะทุยลูกรักอย่างที่เคยทำ เจ้าตัวถึงกับรีบหลบแต่ก็ช้าไป สุดท้ายทำได้เพียงยกมือปัดผมของตัวเองให้เข้าที่

    “เล่นแบบนี้อีกแล้วพ่อ ผมเสียทรงหมด” พึมพำเบาๆ แค่นั้นก่อนจะโผเข้ากอดท่าน ยิ้มกว้างให้ แล้วผละไปนั่งโซฟาที่อยู่ใกล้ๆ จ้องมองคนเป็นบิดาด้วยสายตาที่เข้าใจกัน

    “ไงไอ้เสือ พักนี้มีใครมากระตุกหนวดเล่นหรือเปล่า”

    ชายหนุ่มพยักหน้าเป็นการยอมรับ

    “ก็พวกไม่เอาไหน ผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับ พ่อไม่ต้องห่วงหรอก”

    มาเฟียใหญ่กระตุกยิ้ม สบตากับบุตรชายคนเดียวด้วยความห่วงใย ฟาบริชยิ้มให้ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงคล้ายประชด

    “เดินทางปลอดภัยใช่ไหมครับ สาวหุ่นสะบึมที่พ่อควงไปเที่ยวอังกฤษด้วย เธอไม่ยอมมาทานมื้อค่ำเป็นเพื่อนพ่อใช่หรือเปล่า ป้าเรซานถึงได้กระหน่ำโทรตามผม หรือว่าอันที่จริงแล้วเธอกำลังควงหนุ่มคนใหม่ที่ยังหนุ่มแน่น ไม่แก่ชราภาพเหมือนกับพ่อ”

    คนเป็นพ่อถอนหายใจ เมื่อได้ยินน้ำคำแกมประชดนั้น พลางส่ายหน้าให้น้อยๆ ก่อนจะเอ่ยออกมา

    “ไม่เอาน่า แกก็รู้ว่าพ่อไม่เคยยกย่องใครนอกจากแม่ของแก”

    ได้ยินเช่นนั้นฟาบริช คาร์มิโอยกมือทั้งสองข้างขึ้นเป็นเชิงบอกบิดา พร้อมโพล่งออกมาเสียงดัง

    “แต่พ่อก็ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองห่างจากสตรีเกินข้ามวัน”

    “นั่นมันนิสัยของแกนะฟาบี้”

    ประธานใหญ่แห่งคาร์มิโอเอ่ยขึ้นเสียงดัง ฟาบริชกลั้นหัวเราะ ยักคิ้วให้คนเป็นพ่อนิดๆ

    “ก็ผมมันลูกพ่อนี่ครับ ต้องเหมือนกันยิ่งกว่าแกะสิ”

    “ฮาๆ ทานมื้อค่ำกันดีกว่านะลูก ใครบางคนเขาจะได้ยิ้มแก้มปริสักที แล้วเราจะได้คุยกัน”

    บุตรชายพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ไม่ถึงนาทีสองพ่อลูกก็ก้าวออกจากห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม เดินเข้าห้องอาหารก็พบกับแม่บ้านเรซานที่ขะมักเขม้นจัดเตรียมมื้อค่ำจ้าละหวั่น อาหารที่จัดขึ้นล้วนเป็นที่ชื่นชอบของสองพ่อลูก

    เจ้านายใหญ่และเจ้านายน้อยนั่งทานมื้อค่ำพลางพูดคุยกันอย่างเงียบๆ มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาบ้างประปราย แกมด้วยถ้อยคำประชดประชันบ้างบางครั้ง กว่ามื้อค่ำวันนี้จะสิ้นสุดลงก็กินเวลานานพอสมควรตามประสาของคนที่ไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าใดนัก

    คนประดิดประดอยอาหารยิ้มปลื้ม มีความสุขที่สุดในรอบเดือน นานมากทีเดียวกว่าจะได้จดจำภาพแบบนี้ นั่นเพราะเวลาของทั้งคู่แทบประสานกันไม่ได้ บางเวลาท่านประธานใหญ่ก็ติดงาน บางวันบุตรชายก็ไม่กลับเข้าคฤหาสน์ แต่สองพ่อลูกก็ยังคงหาเวลาพูดคุยกันบ่อยครั้ง แม้จะเป็นการสื่อสารแบบแปลกๆ ก็เถอะ

    เมื่ออาหารค่ำสิ้นสุด สองพ่อลูกก็ย้ายเข้าห้องทำงานที่อยู่อีกด้าน มาเฟียใหญ่ยืนกอดอก จ้องมองภาพเมียรักที่ประดับอยู่ข้างฝาผนังในห้องทำงานด้วยแววตาทอประกายอาลัยรัก ก่อนจะหมุนกายหันมามองใบหน้าของบุตรชายที่ได้เค้าโครงมาจากเมียรักค่อนข้างมากทีเดียว รู้สึกว่าฟาบริชจะเหมือนคนเป็นแม่มากกว่าพ่ออย่างเขาซะอีก

    ฟาบริช คาร์มิโอเลือกนั่งบนโซฟานุ่มที่ตั้งอยู่กลางห้อง ส่วนผู้เป็นบิดานั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานซึ่งตั้งห่างออกไปเพียงสองวาเศษ สายตาที่เต็มไปด้วยความรักความห่วงใยยังคงทอดมองไม่ละไปไหน ก่อนที่ท่านจะเงยหน้าขึ้นมองเพดานและนึกถึงเหตุการณ์ที่ได้รับรายงานก่อนวันเดินทางกลับ

    “ไง สองวันก่อน ถึงขนาดต้องให้อาหารฉลามในท้องทะเลลึกไปหลายศพ พวกนั้นมันคงอิ่มไปเป็นสัปดาห์ คนของพวกเสือเฒ่าลอร์แกนใช่ไหม”

    บุตรชายพยักหน้าพร้อมบอกเล่า

    “คนเดิมนั่นแหละครับ ไอ้จิ้งจอกเฒ่าแห่งยุโรปเหนือ ประเภทกัดไม่ปล่อย”

    “ช่วงเวลาที่พ่อไม่อยู่ แกคงลำบาก ขอโทษนะฟาบี้ ที่พ่อทำให้แกต้องมาใช้ชีวิตแบบนี้ ทั้งที่ความจริงพ่อไม่ควรให้แกต้องมารับรู้กับงานด้านมืดของตระกูลเรา และเพราะพ่อ...แม่แกถึงต้องตาย”

    น้ำเสียงคนชราวัยห้าสิบเก้าปีค่อนข้างเจ็บปวดทีเดียว ดวงตาสีเพอร์ริดอตเช่นเดียวกับคนเป็นลูกทอดมองภาพถ่ายของเมียรักและจับจ้องอยู่อย่างนั้น เฝ้าแต่นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตเมื่อยี่สิบเก้าปีก่อน วันนั้นท่านและมาดามคาร์มิโอเดินทางไปดูโรงงานเจียระไนเพชรที่ปีการ์ดี แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถยนต์ส่วนตัวเกิดระเบิดขึ้น โชคร้ายที่เมียรักนั่งอยู่ในรถคันนั้นกับการ์ดมือขวาคนสนิทของท่าน สองชีวิตจบลงพร้อมๆ กัน ในขณะที่มาเฟียใหญ่ได้แต่ยืนมองภาพรถที่ไฟลุกท่วมอย่างช่วยอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง จะวิ่งเข้าไปช่วยก็ถูกยึดตัวไว้แน่นด้วยมือของการ์ดคนอื่นๆ ความเจ็บปวดนั้นมันมากมายเหลือเกิน ทรมานใจแทบขาด เมื่อเห็นร่างของภรรยาค่อยๆ กลืนหายไปกับเปลวไฟที่ลุกโชน น้ำตามาเฟียใหญ่เอ่อคลอ ท่านเบือนหน้าหนีจากบุตรชายที่จ้องเขม็ง

    “ไม่เอาน่าพ่อ ยี่สิบเก้าปีเต็มแล้วนะ ที่พ่อเฝ้าแต่โทษตัวเอง” ฟาบริชผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบาแล้วร้องบอกผู้เป็นบิดา “แม่ไม่โกรธพ่อหรอกครับ แม่รักพ่อมาก แม่คงอยากให้พ่อคลายความเจ็บปวดลง”

    “แกก็รู้ว่าพ่อรักแม่แกมากแค่ไหน” น้ำเสียงสั่นๆ ดังขึ้น มือคู่ใหญ่ยกบีบขมับตัวเองเบาๆ ขยี้บริเวณห่างตาไม่ปล่อยให้น้ำร้อนๆ หยาดริน พลางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ

    “ผมรู้ครับ...ผมก็รักพ่อ”

    สองพ่อลูกสบตากันด้วยความเข้าใจ ก่อนคนเป็นพ่อจะปัดเป่าความเจ็บปวดให้จางลง ท่านเหม่อมองไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ มองกลุ่มดอกไม้ลาเวนเดอร์ที่เมียรักชื่นชอบด้วยนัยน์ตาที่เจือความเศร้าหมอง สักพักถึงได้หมุนกายกลับมาคุยกับบุตรชายที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม

    “กลุ่มของฮายีน่ามีความเคลื่อนไหวอะไรหรือเปล่า”

    เสียงแหบห้าวเอ่ยถามถึงกลุ่มมาเฟียเล็กๆ ซึ่งไม่เคยอ่อนข้อให้กับตระกูลของตัวเอง หนำซ้ำยังพร้อมที่จะช่วงชิงอำนาจมืดตลอดเวลา กลุ่มฮายีน่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมของโซน่า แคมเบลล์ ผู้หญิงคนหนึ่งที่แข็งแกร่ง เด็ดเดี่ยว และค่อนข้างจะโหดร้าย ลักลอบทำธุรกิจค้าอาวุธสงครามกับพวกนักการเมืองมือไม่ซื่อ ถ้าหากเป็นใหญ่ในย่านนี้จริง คงเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

    “ช่วงนี้เงียบไปนะครับ คงซุ่มวางแผนกันอยู่ ถ้าหากสองจิ้งจอกบุกพร้อมๆ กัน เราคงเหนื่อยน่าดู” ชายหนุ่มบอกเล่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่คนฟังกระตุกยิ้มเย็น

    “หวั่นหรือไงไอ้เสือ”

    “หวั่นว่าคนของไอ้พวกนั้นจะมีไม่มากพอให้ผมยิงทิ้ง”

    คำตอบของบุตรชายเล่นเอามาเฟียใหญ่ต้องรีบส่ายหน้า ท่านเชื่อมือและวางใจในตัวลูกรักเสมอ ฟาบริชฝึกการต่อสู้ทุกชนิดมาตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดขวบ เป็นนักแม่นปืนระดับพระกาฬ แม้แต่มวยไทยลูกท่านก็เก่งใช่ย่อย หนำซ้ำยังเคยแอบไปทำงานในสังกัดของหน่วยรบพิเศษร่วมสองปีเศษ ในขณะที่เจ้าตัวกำลังศึกษาปริญญาโทที่อเมริกา

    “ระวังตัวไว้ก็ดีนะลูก พ่อเหลือลูกคนเดียว”

    “พ่อไม่ต้องห่วงหรอกครับ ยังไงผมก็ต้องอยู่ขวางความสุขของพ่อไปอีกนาน ยังไงซะพ่อก็ไม่มีทางได้แต่งงานใหม่แน่นอน” ฟาบริชเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ คนเป็นพ่อเลิกคิ้วขึ้นสูง

    “มีสิ ถ้าหากแกยอมแต่งงานไปซะ”

    “พ่ออย่าล้อเล่นน่า ผู้หญิงทั้งยุโรป ผมมองไม่เห็นใครที่จะมีคุณสมบัติเหมือนแม่สักคน บางทีผมอาจไม่มีเนื้อคู่ก็ได้นะครับ ผมคงต้องอยู่กับพ่อไปตลอดชีวิต”

    มาเฟียใหญ่ถึงกับส่ายหน้า ยกมือทั้งสองข้างกุมขมับ เมื่อได้ยินคำพูดจากปากของลูกชายตัวดี

    “ให้มันจริงเถอะ แต่พ่อยังอยากอุ้มหลานนะไอ้ลูกชาย”

    “ไม่เอาน่าพ่อ อย่าพูดเลย”

    ชายหนุ่มยกมือขึ้นห้าม พยายามเลี่ยงที่จะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้

    “ผมขอตัวก่อนดีกว่า มีศึกต้องไปรบยามดึกอีก ราตรีสวัสดิ์ครับ”

    หาทางเลี่ยงให้ตัวเองแค่นั้น ก็เดินลิ่วๆ ออกจากห้องทำงานใหญ่ ปล่อยให้มาเฟียวัยห้าสิบเก้าปีได้แต่มองตามหลัง พูดคุยเรื่องนี้ทีไร บุตรชายตัวแสบของท่านก็มักจะหาทางเลี่ยงเสมอ สักพักก็ได้ยินเสียงรถคลาสสิกคู่ใจของเจ้าตัวดีเคลื่อนออกจากคฤหาสน์ไป คงจะรีบไปกระโจนเข้าทัพจับศึกเหมือนที่เจ้าตัวบอก ไม่รู้ว่าศัตรูคราวนี้จะเป็นดาราหรือนางแบบสังกัดไหน สายตาที่เต็มไปด้วยความรักหันมาจ้องมองภาพภรรยาอีกครั้ง ยิ้มน้อยๆ ให้ ก่อนจะปล่อยตัวเองให้จมอยู่ในภวังค์ความคิด ซึ่งไม่เคยฉุดรั้งตัวเองออกมาได้สักครั้ง ถึงแม้เวลาจะล่วงผ่านมาเกือบสามสิบปีก็ตาม

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×