ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เส้นทางแห่งแสง [ จบ ]

    ลำดับตอนที่ #68 : บทสุดท้าย การจากลา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.72K
      185
      2 ม.ค. 60

    ประมุขของทั้งสามนิกายยกเว้นนิกายกุหลาบสีเงินลุกขึ้นทันทีพร้อมเดินขึ้นไปบนลานประลองด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะความโกรธ

    "สามหาวนัก !! เป็นแค่เด็กที่ได้ขึ้นมาเป็นประมุขของนิกายใหม่อย่างเจ้าอย่าคิดจะมาเทียบกับพวกข้าที่อยู่กับนิกายมาครึ่งชีวิตงั้นรึ ?!!"

    ทันทีที่ประมุขไป่กล่าวจบลี่เอ๋อหงส์เอ๋อหยินและหยางต่างทำท่าจะพุ่งเข้าไปซัดไอ่เฒ่าไป่แต่ก็ต้องหยุดเพราะโดนคนที่เหลือห้ามไว้

    "การแข่งขันนี้จะไม่มีการลั่นระฆังเริ่มการประลองหากพวกท่านพร้อมก็เข้ามากันได้เลย"

    หลินเฟยกล่าวอย่างใจเย็นพลันสะบัดพัดไปมาอย่างสบายใจ

    ทั้งสามคนตั้งท่าพร้อมสู้ทันทีและระเบิดพลังระดับเซียนออกมา
    หลินเฟยไม่แม้แต่จะตั้งท่าพร้อมสู้เลยแม้แต่น้อยทำให้ใบหน้าของศิษย์หญิงต่างพากันเป็นกังวลยิ่ง

    แว๊บ !! ตู้มมมม !!!

    ทั้งสามคนต่างหายวับมาด้านข้างทันทีทั่งลานประลองพลันเกิดแสงสว่างของการปะทะขึ้น

    ปั้ง !! ปั้ง !! ปั้ง !!

    เหล่าประมุขต่างพากันออกกระบวนท่าอย่างต่อเนื่องแรงอัดจากการปะทะนั้นทำเอาเหล่าศิษย์ที่มองดูอยู่เกิดอาการเสียวสันหลังขึ้นมาทันที

    "นะ..นี้รึคือการประลองของยอดฝีมือที่แท้จริง!!"

    "ยอดมาก !! หากข้ายืนอยู่ตรงนั้นคงโดนจัดการเพียงเสี้ยววิแน่ๆ"

    "ค....คนพวกนั้นกับพวกเรา ร....ระ....ระดับห่างกันเกินไป"

    ตู้มมมม !!

    เสียงของการปะทะกันหยุดลงพร้อมกับร่างที่ยืนนิ่งอย่างมั่นคงของหลินเฟย

    "อะไรกัน !!!"

    "เป็นไปไม่ได้ !!! โดนไปขนาดนั้นแล้วทำไมมันถึง !!!"

    "ชิ !!! มันใช้กลโกงอะไรกัน !!!"

    ใบหน้าของเหล่าประมุขทั้งสามซีดลงทันทีจะเป็นไปได้อย่างไรแค่เด็กที่อายุไม่ถึงยี้สิบเสียด้วยซ้ำจะสารมารถต่อต้านการโจมตีของพวกตนได้อย่างไรกัน!

    "อ่อนแอ !!"หลินเฟยสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดตนนึกว่าคนที่เป็นถึงประมุขนั้นจะต้องแข็งแกร่งเพียงพอที่จะต่อกรกับตนได้อย่างแน่นอน

    แต่แบบนี้มันอะไรกัน !!?? นี้มันไม่ได้ครึ่งนึงของความคิดที่หลินเฟยประเมินเค้าไปสูงลิ่วเลยจริงๆ

    "ข้าประเมินพวกท่านผิดไปจริงๆ !!"

    ครืดดดดด !!

    หลินเฟยสะบัดพัดหนึ่งครั้งทำให้เกิดคลื่นลมปราณแผ่ออกมาเข้าปะทะกับประมุขทั้งสาม
    ทั้งสามคนต่างใช้กำลังทั้งหมดป้องกันเอาไว้แต่ก็ไร้ประโยชน์

    ปึ้งงงงงง !!!

    ทั้งสามคนกระเด็นออกมาจากลานประลองพร้อมกระอั่กเลือดคำโตสายตาทุกคนต่างเบิกกว้างบางคนก็เป็นลมสลบคาที่สิ่งนี้มันไม่น่าเป็นไปได้นี้มันไม่ใช่พลังของมนุษย์แล้วนี้เขาเป็นเหล่าทวยเทพรึยังไงกัน!

    "ผะ...ผู้....ผ....ผู้ชนะ....ประ....ประมุขหลิน...แห่งนิกายจรัสแสง"

    กรรมการพูดออกมาอย่างตะกุกตะกักสายตาที่มองหลินเฟยนั้นราวกับมองผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดเหล่าศิษย์หญิงต่างพากันกรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่

    ทันใดนั้นก็มีหญิงงามนางนึงเดินขึ้นมาบนลานประลองนางคือประมุขแห่งนิกายกุหลาบสีเงินนั้นเอง

    "ท่านก็อยากประลองกับข้างั้นรึ ?"

    หลินเฟยมองหน้าอีกผ่ายและกล่าวถามแต่อีกฝ่ายกลับส่ายหัวและกล่าว

    "กลับกันต่างหากท่านประมุขน้อย...ข้ามาขอย้อมแพ้ท่าน"

    เสียงฮือฮาดังขึ้นทันทีนี้คนที่เป็นถึงประมุขนิกายต้องยอมแพ้นี้มันอะไรกันเหล่าศิษย์ต่างนิกายพากันตกตะลึงกันยกใหญ่ส่วนศิษย์หญิงของนิกายกุหลาบสีเงินนั้นตกใจยิ่งกว่าเพราะประมุขของพวกนางนั้นขึ้นชื่อว่าเกลียดการพ่ายแพ้เป็นที่สุดนางไม่เคยยอมแพ้ใครเลยแม้แต่คนเดียงตั้งแต่นางเป็นศิษย์ใหม่จนไต่มาถึงตำแหน่งประมุขนิกายกุหลาบสีเงิน
    ทันทีที่หลินเฟยกำลังเดินจากไปก็ถูกรั้งไว้ก่อนโดยประมุขนิกายกุหลาบสีเงิน

    "ประเดี๋ยวก่อนท่าประมุขน้อย!!"

    ซู้มมมมม !!

    นางปลดปล่อยพลังปราณระดับเซียน ขั้นที่ 7 ออกมา

    หลินเฟยตกใจเล็กน้อยก่อนนางจะกล่าวต่อ

    "ข้าอยากทราบระดับพลังปราณของท่านได้รึไม่ ?"

    "ย่อมได้"

    หลินเฟยกล่าวเสียงเรียบก่อนจะปลดปล่อยพลังปราณออกมาเพียงแค่ให้นางผู้เดียวเท่านั้นที่รู้

    ซู้มมมมม !!

    หลินเฟยปลดปล่อยพลังปราณระดับเทพเซียน ขั้นที่ 1 ออกมา

    นางผงะไปครู่นึงสายตาหรี่ลงเล็กน้อยก่อนที่จะตั้งสติได้บอกให้หลินเฟยพอแค่นั้นและแยกย้ายกันไปงานประลองก็จบแล้วหลินเฟยจะอยู่ต่อให้มันได้อะไรกันหลินเฟยจึงพาพรรคพวกของตนกลับนิกาย

    หลังจากนั้นสามวันก็มีเหล่าอัจฉริยะเดินทางมากันนับร้อยคนแต่ล่ะคนอยู่ในราชันย์ทั่งสิ้นหลินเฟยที่สั่งให้เหล่าองครักษ์ของตนรับหน้าที่รับศิษย์ใหม่แทนเพราะหลินเฟยอยากเก็บตนฝึกสักระยะ

    วันเวลาผ่านไปนับสิบปีเหล่าศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อตอนนี้นิกายจรัสแสงเป็นที่โด่งดังไปทั่วทวีปปราณฟ้ามีหลายนิกายต่างพากันมาลองของแต่ก็โดนหนึ่งในปรมาจารย์ของนิกายจัดการได้ภายในพริบตาทุกครั้ง
    ตอนนี้อวิ้นหลันกับเซียนซั่นต่างกลายเป็นศิษ์พี่ใหญ่แห่งนิกายไปเรียบร้อยแล้วทั้งสองคนนั้นตอนนี้เป็นถึงศิษย์ระดับสี่ดาว !

    หลายคนต่างเคารพในตัวทั้งสองมากและเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายต่างก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุทธภพนี้นิกายจรัสแสงถือว่าเป็นมหาอำนาจที่มีอำนาจที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้เพราะหลายครั้งที่มีอาณาจักรไหนที่ทำร้ายต่อศิษย์ของนิกายราชวงศ์ที่ดำรงตำแหน่งจักรพรรดิแห่งอาณาจักรนั้นจำต้องล่มสลายทันที
    เหล่าศิษย์ทุกคนถามเสมอว่าท่านประมุขเป็นใครท่านอยู่ที่ไหน ?

    แต่คำตอบที่ได้มาจากเหล่าปรมาจารย์ก็มีเพียงว่า


    "ท่านอยู่กับเราเสมอ"

    หลินเฟยลืมตาตื่นขึ้นจากการจำศีลตัวตาของหลินเฟยพลันเบิกกว้างเพราะลูกแก้วสีทองที่อยู่ในตันเถียนของร่างกายตอนนี้มันหลอมรวมเข้ากับร่างกายโดยสมบูรณ์!

    พลังทั้งหมดของราชันย์มังกรแห่งแสงได้มาอยู่ในร่างกายของหลินเฟยร่างนี้แล้วตนตกใจมากถึงมากที่สุดตนที่ว่าร่างนี้คงรับพลังของร่างจริงไม่ไหวแน่ๆแต่นี้มัน

    พลังของหลินเฟยตอนนี้เป็นอนันต์ไม่มีใครสามารถเทียบเคียงเค้าได้ในตอนนี้ต่อให้เป็นราชันย์มังกรแห่งความมืดที่กำลังหลับใหลอยู่ที่คนล่ะเอกภพกันก็ตามเอกภพทั้งหมดมีสองเอกภพถึงหลายคนจะยังไม่รู้แต่มีถ้าที่ไหนมีแสงที่นั่นก็ต้องต้องมีความมืดราชันย์มังกรแห่งแสงนั้นควบคุมเอกภพที่หนึ่งส่วนราชันย์มังกรแห่งความมืดนั้นควบคุมเอกภพที่สองซึ่งทั้งสองไม่สามารถพบกันได้แต่ก็ยังสามารถรู้สึกถึงตัวตนของกันและกันได้อยู่
    หลินเฟยเดินออกไปช้าๆจากห้องเก็นตนสายตาของลี่เอ๋อที่ยืนเฝ้าที่หน้าประตูห้องฝึกอยู่ฉายแววเปล่งประกายขึ้นมาทันที

    "นายท่าน !! พลังของท่านกลายเป็นอนันต์แล้ว !!?"หลินเอ๋อตกใจมากและเหล่าปรมาจารย์ต่างๆก็เข้ามาหาหลินเฟยทันทีที่สัมผัสพลังนี้ได้

    "ใช่แล้ววันนี้ข้าจะมากล่าวลาพวกเจ้า..."

    ทั้งหมดยืนนิ่งอึ้งทันทีอวิ้นหลันและเซียนซั่นที่พึ่งเข้ามาก็ได้ยินที่หลินเฟยกล่าวพอดีทั้งสองคนต่างพากันเดินมาข้างหน้าและคุกเข่า

    "ไม่ !! ท่านอาจารย์ท่านจะไปที่ใดกัน !! ศิษย์โง่คนนี้ทำเรื่องอันใดให้ท่านไม่พอใจรึขอรับ !!"อวิ้นหลันหลั่งน้ำตาออกมาทันทีหลังจากที่กล่าวไป

    เซียนซั่นเองก็อาการไม่ต่างกันและกล่าว

    "ท่านอาจารย์มิใช่ว่าท่านจะอยู่กับพวกเราตลอดไปรึเจ้าค่ะ ฮึก... ท่านต้องล้อข้าเล่นเป็นแน่...ฮึก.."หลินเฟยเดินมาช้าๆและลูบหัวทั้งสองคนอย่างแผ่วเบา

    "ข้าจะอยู่กับเจ้าตลอดไปข้าจะไม่จากพวกเจ้าไปไหนข้าเพียงแต่ต้องกลับไปจำศีลเท่านั้นเพื่อข้านั้นจะกลายเป็นพระเจ้าอนันตกาลราชันย์มังกรแห่งแสงที่พวกเจ้ารู้จักกันนั้นเป็นเพียงแค่ครึ่งก้าวของการเป็นผู้ปกครองจักรวาลและเอกภพของข้าเท่านั้นตอนนี้ข้าได้พลังที่เป็นอนันต์มาแล้วข้าจึงต้องจำศีลจนกว่าข้าจะกลายเป็นพระเจ้าอนันตกาลหลังจากนั้นข้าจะกลับมาหาพวกเจ้า..."

    หลังกล่าวจบร่างกายของหลินเฟยก็เริ่มกลายเป็นเส้นแสงสีทองนวลสวยงามและค่อยๆเลือนหายไปอวิ้นหลันและเซียนซั่นกอดร่างของหลินเฟยแน่นเหล่าองครักษ์ที่กลายเป็นปรมาจารย์แห่งนิกายต่างมองมายังร่างของนายท่านของตนและระรึกถึงเรื่องราวที่ผ่านกันมายาวนาน

    "ท่านอาจารย์ !! ศิษย์ยังไม่ได้ตอบแทนอะไรให้ท่านเลยนะขอรับ !! ท่านอาจารย์ !!"

    "โปรดอยู่สั่นสอนศิษย์โง่อย่างพวกเราต่อเถิดเจ้าค่ะท่านอาจารย์ !!"

    ทั้งสองคนต่างร้องไห้ฟูมฟายอย่างที่ไม่เคยได้ทำมาก่อนราวกันเด็กน้อยที่ต้องจากบิดาและมารดาของตน

    ร่างกายของหลินเฟยหายไปทันทีมีเพียงแต่เสียงแว่วมาตามลมว่า

    "ข้าจะอยู่กับพวกเจ้าเสมอ... จงจำไว้...ข้าจะอยู่กับพวกเจ้าตลอดไป..."

    ...The End

    ------------------------------------------------------------------------------------------------

    จบแล้วค้าบบบบบบ เหลือแต่รีไรท์ เห้อ....ไรต์ต้องเหนื่ออีกสักพักอ่ะน้า ไรต์จะเริ่มตั้งใจรัไรท์ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยนะครับไม่แน่อาจจะปล่อยตัวอย่างนิยายใหม่พรุ่งนี้เลยก็ได้นะครับผม ใครที่ชอบพระเอกมาดทะเล้นแถมกระเป๋าหนักเติมบ่อยรอไว้เลยขอร้าบบบบบ

    #ถ้าชอบก็อย่าลืมกดติดตามและตอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรต์ตัวน้อยๆคนนี้ด้วยนะค้าบ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×