ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC} Crazy Story Chankai EXO

    ลำดับตอนที่ #24 : :THE LEGEND: CHANKAI 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 805
      0
      29 เม.ย. 57





    :The legend: 2 chankai

               

               

                ยุนอาเดินขึ้นมาบนเขาหยุดมองดูชายสูงวัยแต่งกายสีขาวผมยาวขาวที่ยืนอยู่บนตีนเขา ชายคนดังกล่าวหันมาทางหญิงสาว ยุนอาถึงกับรีบคำนับเมื่อเห็นใบหน้าของชายคนดังกล่าวหันกลับมาที่ไม่ได้แก่ไปตามรูปลักษณะภายนอกอย่างที่เห็นเลย

                    “องค์เทพสวรรค์ลงมาพบหม่อมชั้นเช่นนี้มีอะไรหรือเพคะ”เทพสวรรค์สรวญยิ้มจ้องมองอดีตธิดาเทพของแคล้ว

                    “ธิดาเทพยุนอาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้ากับลูกชายของเจ้ามันไม่ใช่บทลงโทษของเจ้ากับกษัตริย์ซึงกิ แต่มันเป็นบทลงโทษของข้าที่ข้าได้ลงโทษลูกเจ้าที่ทำผิดสวรรค์อย่างมหันต์”

                    “องค์เทพหมายความเช่นไร ลูกชายของหม่อมชั้นทำอะไรผิดท่านถึงต้องลงโทษ”

                    “เทพไคเป็นเทพแห่งสันติภาพ แต่เทพไคกลับทำผิดกฎสวรรค์ไปรักกับมนุษยและมีสัมพันธ์ทางกายกับมนุษย์ที่มันเป็นกฎต้องห้ามไม่ให้เทพและมนุษย์รักกัน เทพไคจึงต้องถูกลงโทษให้จุติมาเกิดกับเจ้าเพื่อชดใช้ความผิด”

                    “หม่อมชั้นยังคงไม่เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับองค์ชายชานยอลได้เช่นไง สิ่งที่หม่อมชั้นเห็นจงอินต้องเกี่ยวข้องกับองค์ชายชานยอล”

                    “เพราะองค์ชายชานยอลคือหญิงคนรักของเทพไค จิตของทั้งสองผูกติดกัน ก่อนที่หญิงคนรักของเทพไคจะสิ้นใจในอ้อมกอดของเทพไค ทั้งสองสาบานต่อสวรรค์ให้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ให้มาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ถึงแม้จะต้องเจ็บปวดมากแค่ไหนแต่ขอแค่ได้รักกันก็พอแล้ว”เทพสวรรค์เอ่ยบอกกับหญิงสาวที่หน้าเศร้าลง “ความรักของทั้งสองจะไม่มีสิ่งใดมาขัดขวาง มาห้ามทั้งสองได้ มันเป็นสิ่งที่ทั้งสองต้องรับความเจ็บปวดไปพร้อมกัน”

                    “มันพอจะมีทางอื่นบ้างหรือไม่ที่จะไม่ทำให้จงอินกับองค์ชายต้องเจ็บปวดเหมือนหม่อมชั้น”

                    “สวรรค์ได้ลิขิตเอาไว้แล้ว มันไม่มีทางจะหนีพ้นสิ่งที่สวรรค์ได้ลิขิตเอาไว้ มันก็เหมือนกับเจ้าที่ไม่มีทางสิ่งที่สวรรค์ลิขิตไว้ได้ เจ้าจงจำเอาไว้สิ่งที่เจ้าจะทำได้คือความรักของเจ้าความรักของกษัตริย์ซึงกิที่มีต่อลูกชาย มันจะทำให้ความเจ็บปวดทุเลาลง”ยุนอาสีหน้าเป็นกังวลห่วงลูกชายถึงความรักของพ่อแม่จะช่วยลูกได้แต่ก็คงไม่ได้เท่าไร “เราลืมบอกเจ้าไปอีกอย่าง ร่างกายของลูกชายเจ้าไม่มีเหมือนกับเด็กทั่วไป เมื่อใดเกิดความผิดพลาดพลั้งเผลอขึ้นมาความเจ็บปวดจะเกิดขึ้นกับลูกชายของเจ้า ลูกชายของเจ้าจะระทมไปทั้งกายและใจกับความผิดพลาดครั้งนี้”เทพสวรรค์เอ่ยบอกเป็นนัยน์ยุนอาจะเอ่ยถามก็ไม่ทันที่เทพสวรรค์หายไปพร้อมกับแสงสว่าง

                    “จงอิน!!ยุนอาสะดุ้งตื่นกลางดึกกับความฝันที่ทำให้ยุนอาเป็นกังวลห่วงลูกชายไม่น้อย แค่ความผิดของตนกับฝ่าบาทซึงกิสร้างความเจ็บปวดให้ตนไม่น้อย แล้วยังต้องมาเห็นความเจ็บปวดของลูกชายคนเป็นแม่ยากจะทนได้กับความเจ็บของลูก

                    ยุนอาลุกออกจากห้องมาหาลูกชายที่นอนหลับอยู่มีความสุข มือบางลูบผมลูกชายด้วยความรัก ด้วยความเป็นห่วงไม่อยากให้ลูกชายต้องมาเจอเรื่องร้ายๆเหมือนตน

                    “จงอินแม่ไม่อยากพาเจ้ากลับไปหาเสด็จพ่อของเจ้าเลย ไม่อยากให้เจ้ากับไปเจอเสด็จอาของเจ้า แม่ไม่อยากเห็นเจ้าต้องเจ็บ แม่ไม่อยากเห็นเจ้าต้องเจ็บปวดเหมือนแม่อีกแล้ว”มือบางลูบผมของลูกชายอย่างเป็นห่วง รักลูกชายคนนี้ถึงจะไม่ยอมกลับไปตามคำสัญญาให้กับคนรัก เพื่อไม่ให้ลูกชายเจอเสด็จอาของตัวเอง

                    ความรักของอาหลานไม่ควรเกิดขึ้น ฐานันดรศักดิ์ของทั้งสองไม่ควรจะรักกัน ยุนอาขอผิดสัญญากับฝ่าบาทซึงกิเพื่อไม่ให้ลูกชายได้กลับไปเจอผู้เป็นอาเพื่อไม่ให้ลูกชายต้องมาเจ็บ

                    แหวนที่ฝ่าบาทซึงกิได้ทรงให้ไว้ก่อนจะหนีออกมายุนอามองดูแหวนทั้งน้ำตา รู้สึกผิดกับชายคนรักที่ต้องผิดสัญญาแต่เพื่อลูกยุนอาก็ยอมผิดสัญญาและหวังว่าฝ่าบาทซึงกิจะเข้าใจตน

                    “องค์ชายหม่อมชั้นขอโทษ หม่อมชั้นไม่สามารถจะพาลูกกลับไปหาองค์ชายได้ หม่อมชั้นยอมเจ็บเพื่อไม่ให้ลูกต้องมาเจ็บเพราะหม่อมชั้น”ยุนอาบอกทั้งน้ำตาที่กุมแหวนในมือไว้แน่นแนบไว้ตรงหัวใจ หัวใจที่ยุนอาจะมีเพียงฝ่าบาทซึงกิเพียงผู้เดียว

     

     

     

     

                    องค์ชายชานยอลเตรียมตัวเสด็จออกจากวังเพื่อตามหาพระมเหสียุนอา องค์ชายน้อยของฝ่าบาทที่พลัดพลาดเกือบสิบห้าปี การเสด็จออกตามหาพระมเหสียุนอาที่ไม่มีล่วงรู้นอกจากฝ่าบาทซึงกิ พระพันปีซูยองที่เรื่องนี้จะให้ใครล่วงรู้ได้ไม่มาก

                    “องค์รักษ์วูบินตอนที่ท่านไปส่งพระมเหสียุนอา ท่านได้พาพระมเหสีไปหลบซ่อนที่ใด”องค์ชายชานยอลตรัสถามเมื่อฝ่าบาทซึงกิ องค์รักษ์วูบินออกมาส่งนอกวังหลวง

                    “กระหม่อมส่งพระมเหสีแถวชายแดนแคล้วเรากับชิลลาพะยะคะ”

                    “ถ้าเป็นที่ท่านบอกพระมเหสีอาจจะอยู่แถวชายแดนหรือไม่ก็แคล้วชิลลา หม่อมจะตามหาแถวแทบชายแดนถ้าไม่เจอหม่อมชั้นจะเข้าไปตามหาในชิลลา”ประโยคเอ่ยบอกกับองค์รักรษ์วูบินและหันมาตรัสบอกกับพระเชษฐา

                    “องค์ชายเจ้าจะต้องระวังตัวให้มากๆ ถ้ามีอะไรให้ทหารส่งข่าวมาบอกพี่ท่านที”

                    “ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วงหม่อมชั้น หม่อมชั้นจะกลับมาอย่างปลอดภัยและจะพาพระมเหสียุนอา องค์ชายน้อยกลับมาหาท่านพี่ให้ได้”องค์ชายชานยอลตรัสด้วยรอยยิ้ม ฝ่าบาทซึงกิตบบ่าและสวมกอดพระอนุชาก่อนที่ทั้งสองจะต้องแยกจากกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง

                    ไม่ทันที่องค์ชายชานยอลเสด็จพ้นประตูเมืองก็มีเรื่องให้พระพันปีซูยองต้องลำบากใจกับการมาเข้าเฝ้าของอดีตพระสนมเยจินพร้อมกับหลานสาวที่พามาเข้าเฝ้าด้วย

                    “เรื่องนี้เราไม่สิทธิ์จะตัดสินใจเอง เราตัดสินใจแทนองค์รัชทายาทไม่ได้”พระพันปีตรัสปฎิเสธกลายๆ

                    “แต่หม่อมชั้นคิดว่าพระพันปีสามารถจะช่วยพูดกับองค์รัชทายาทให้รับหลานสาวของกระหม่อมเป็นพระสนมขององค์รัชทายาท คราวตอนฝ่าบาทพระพันปียังทรงพูดให้ฝ่าบาทรับพระมเหสีชินเฮเข้ามาเป็นพระชายาในตอนแรกได้เลย แค่เรื่องรับหลานสาวของหม่อมชั้นมันคงไม่ลำบากพระพันปีมากนัก”คำพูดของอดีตพระสนมเยจินทำให้พระพันปีไม่สามารถขัดได้

                    “เราจะพูดให้แล้วกัน แต่คงต้องรอองค์รัชทายาทกลับมาจากว่าราชการก่อนแล้ว เราถึงจะพูดให้เจ้าได้”

                    “ขอบพระทัยพระพันปีที่ส่งเมตตาฮเยรินหลานสาวของหม่อมชั้น”รอยยิ้มบางๆแฝงไปด้วยความร้ายกาจ

                    “ถ้าเจ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับไปตำหนักของเจ้าได้แล้ว”

                    “เพคะพระพันปี”อดีตพระสนมเยจิน หลานสาวของนางโค้งคำนับให้กับพระพันปีแล้วออกจากห้องไป พระพันปีทรงหนักใจไม่น้อยกับเรื่องนี้ คงต้องรอให้องค์รัชทายาทกลับมาจัดการเองและรอพระมเหสียุนอากลับเข้ามาในวัง

                    อดีตพระสนมเยจินและหลานสาวเดินออกมาด้วยรอยยิ้ม ถึงแม่ว่าฮเยจินจะไม่พอใจก็ตามที่ได้แค่พระสนมที่นางอยากได้คือตำแหน่งพระชายาขององค์รัชทายาท

                    “ท่านน้า ท่านน้าจะเชื่อได้ไงว่าองค์รัชทายาทจะทรงรับหลานเข้าเป็นพระสนม”

                    “อย่างไงซะองค์รัชทายาทจะต้องรับเจ้าเป็นสนม น้ามีทางที่จะทำให้เจ้าได้เป็นสนมขององค์รัชทายาท ที่องค์รัชทายาทไม่สามารถปฎิเสธเจ้าได้ฮเยริน”อดีตพระสนมบอกอย่างมีแผนการในเมื่ออดีตนางทำพลาดที่ไม่สามารถดันโอรสของตนเป็นฝ่าบาทได้ นางก็จะทำให้ฝ่าบาทองค์ต่อไปเป็นคนของนาง

     

                    .              

                    ...

                    ....

                    .....

     

     

     

     

                    เป็นเวลาสามเพลาที่องค์ชายชานยอลเสด็จเดินทางมาถึงชายแดนระหว่างแคล้วทั้งสอง องค์ชายชานยอลเสด็จหยุดพักตรงริมธารน้ำ มองดูทัศนียภาพรอบๆว่ามีที่ใดสามารถพักอาศัยได้

                    “องค์ชายจะทรงเสด็จพักที่นี้ไหมพะยะคะ”องค์รักษ์จงฮยอนทูลถาม

                    “ข้าจะคงพักที่นี้ ดูแล้วแถวนี้คงไม่มีหมู่บ้านอยู่ใกล้ๆ”

                    “เดี๋ยวกระหม่อมทรงก่อไฟให้พะยะคะ องค์ชายทรงนั่งรอกระหม่อมแถวนี้พะยะคะ กระหม่อมจะออกไปหาฟืนมาก่อกองไฟ”องค์ชายชานยอลพยักหน้าน้อยๆให้กับองค์รักษ์

                    องค์รักษ์จงฮยอนออกไปหาฟืนสำหรับก่อกองไฟในคืนนี้ ส่วนองค์ชายชานยอลทรงเดินดูรอบๆกับความสวยงาม สดชื่นของดอกไม้นานาพรรณ แต่เสียงฝีเท้าที่กำลังเดินมาทำให้องค์ชายชานยอลไหวตัวทันแอบหลบหลังต้นไม้ใหญ่

                    “จงอินข้าว่ากลับกันเถอะ นี้เราออกมาไกลจากหมู่บ้านแล้วนะ ถ้าแม่เจ้ารู้เจ้าก็ดุอีกจนได้”จุนมยอนสหายของจงอินที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กและยุนอาก็ดูแลจุนมยอนเหมือนกับลูกอีกคนหลังจากจุนมยอนได้เสียพ่อแม่ไป

                    “แม่ข้าไม่ดุหรอก เจ้าก็เห็นจุนมยอนว่าท่านแม่ไม่เคยดุข้าเลย แค่ข้าอ้อนแม่ข้านิดหน่อยแม่ก็ให้อภัยข้าแล้ว”เด็กทั้งสองพูดคุยกันองค์ชายชานยอลได้แต่แอบฟังและแอบมองเด็กทั้งสอง ครั้งแรกได้เห็นเด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งก็สร้างรอยยิ้ม ความประทับใจให้กับองค์ชายชานยอลได้ไม่น้อย

                    “เจ้านี้จริงๆเลยจงอิน”จุนมยอนได้แต่บ่นเพื่อนแต่ก็ทำไม่ได้

                    “จุนมยอนข้าอยากเห็นน้ำ เรามาเล่นน้ำกันเถอะ”

                    “จงอินมันจะเย็นแล้วนะ เจ้าจะเล่นทำไม ข้าไม่เล่นกับเจ้าด้วยหรอก”จุนมยอนว่าออกมาและจะไม่ยอมเล่นกับเพื่อนเด็ดขาด

                    “เจ้าไม่เล่นก็เรื่องของเจ้า ข้าเล่นคนเดียวก็ได้”จงอินไม่สนใจ ไม่ง้อจุนมยอนที่เดินตรงไปยังลำธารและถอดอาภรณ์ออกเพื่อที่จะลงไปเล่นน้ำ จุนมยอนได้แต่นั่งมองเพื่อนเล่นน้ำที่ไม่มีกะจิตกะใจเล่นน้ำ

                    องค์ชายชานยอลได้แต่เฝ้ามองเด็กหนุ่มเล่นน้ำที่มีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะของเด็กน้อยที่ดูจะมีความสุขเหลือเกิน แต่อาการแปลกๆของเด็กน้อยที่ตะเกียกตะกายเรียกให้เพื่อนช่วยทำให้องค์ชายรีบหลบออกมาหลังต้นไม้

                    “จุนมยอนช่วยข้าด้วย จุนมยอน!!!”จงอินพยายามเรียกขอความช่วยเหลือจากเพื่อน จุนมยอนได้แต่ยืนตกใจที่ทำอะไรไม่ถูก แต่ดีที่องค์ชายชานยอลกระโดดว่ายลงไปช่วย

                    องค์ชายชานยอลพาร่างของเด็กน้อยขึ้นมาบนฝั่ง จุนมยอนเข้ามาดูเพื่อนอย่างเป็นห่วงที่จงอินนอนหมดแรงกับอาการจมน้ำที่สำลักน้ำไปหลายอึก

                    จงอินยังคงนอนหมดสติองค์ชายไม่รู้จะทำเช่นไรก็รีบกดริมฝีปากออกเพื่อให้เด็กน้อยสำลักน้ำออกมา จุนมยอนที่เห็นตกใจไม่น้อยที่เห็นเพื่อนถูกชายนิรนามประกบริมฝีปากจูบ

                    “แค่ก...แค่ก...แค่ก..”จงอินสำลักน้ำออกมาที่คลายความโล่งใจให้กับองค์ชายได้ไม่น้อย

                    “จงอินเจ้าเป็นอย่างไงบ้าง”เสียงสั่นของจุนมยอนเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

                    “ข้าไม่เป็นไรแล้วจุนมยอน”จงอินลุกขึ้นนั่งยิ้มให้กับเพื่อนและหันไปมองชายนิรนาม

                    “ข้าขอบใจท่านมากที่ช่วยข้าเอาไว้ ถ้าท่านไม่ช่วยข้าปานี้ข้าคงไม่มีชีวิตรอดกลับไปหาแม่ข้าแน่”จงอินกล่าวขอบคุณผู้มีพระคุณ

                    “ข้าเต็มใจช่วยเจ้า แล้วเจ้าสองคนถึงไม่ยอมกลับบ้านนี้มันก็ใกล้เย็นค่ำมากแล้ว เจ้าสองคนยังมาเล่นในป่าเช่นนี้ ไม่กลัวบ้างเลยรึไง”

                    “ข้าชินแล้ว ในป่านี้ข้าสองคนวิ่งเล่นมาตั้งแต่เด็ก ข้าไม่เห็นต้องกลัวเลย”

                    “แปลว่าบ้านของเจ้าสองคนอยู่แถวนี้ซิ”

                    “บ้านของข้าสองคนอยู่บนเขาโน้น”จงอินชี้ไปบนบหุบเขา “ท่านคงไม่เคยมาแถวนี้ซิถึงไม่รู้ว่าแถวนี้มีหมู่บ้านอยู่ด้วย”

                    “ข้าไม่เคยมาแถวนี้ ที่ข้ามาแถวนี้ก็เพื่อออกตามหาคนสำคัญของพี่ชายของข้า แต่ข้าก็ไม่ชินเส้นทางแถวนี้เท่าไร”องค์ชายเอ่ยบอกออกมา

                    “แปลว่าท่านคงยังไม่มีที่พัก เอาแบบนี้ไหมเป็นการตอบแทนพระคุณที่ท่านช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าจะพาท่านไปพักที่หมู่บ้านของข้า”จงอินเอ่ยชวนที่อยากตอบแทนบุญคุณที่ชายนิรนามช่วยชีวิตเอาไว้ จนจุนมยอนต้องหยิกต้อนแขนเพื่อน

                    “จงอินเดี๋ยวก็ได้โดนแม่เจ้าว่าได้ แม่เจ้าสั่งไว้ไม่ใช่หรือไงว่าไม่ให้เจ้าเข้าใกล้คนแปลกหน้า แต่เจ้ากำลังช่วยคนแปลกหน้าอยู่รู้ไหม”องค์ชายชานยอลถึงกับยิ้มกับความรอบคอบ ระแวงระวังของเด็กตัวขาว

                    “ถ้าชายคนนี้จะทำร้ายข้ากับเจ้า คงทำร้ายไปนานแล้ว คงไม่มายืนมาฟังเจ้ากับข้าเถียงกันแบบนี้หรอก”องค์ชายถึงกับยิ้มกับความช่างกล้า ความฉลาดของจงอิน

                    “ข้าจะพาท่านไปพักที่กระท่อมหลังหมู่บ้านของข้าแล้วกัน ที่นั้นไม่มีใครพักท่านก็พักที่นั้นได้ตามสบาย”จงอินบอกด้วยรอยยิ้มที่ในใจก็รู้สึกแปลกๆกับชายนิรนามผู้นี้

                    “แต่ข้าต้องรอคนของข้ามาก่อน คนของข้าออกไปหาฟืนเดี๋ยวก็คงจะมา”

                    “รอคนของท่านก่อนก็ได้ แล้วท่านมีนามว่าอะไร ข้ายังไม่จักท่านเลย”

                    “นามก็ข้าคือชานยอล”

                    “ข้าชื่อจงอิน ส่วนเพื่อนตัวเล็กคนนี้ของข้าชื่อจุนมยอน”แนะนำตัวเองไม่พอยังแนะนำเพื่อนตัวเล็กของตัวเองเสร็จสรรพ

                    จงอินชวนองค์ชายคุยไปเรื่อยๆอย่างถุกคอที่องค์ชายชานยอลก็ถูกพระทัยในตัวของจงอินไม่น้อย ความสดใส ช่างพูด กล้าหาญของจงอินทำให้องค์ชายชานยอลพูดได้เต็มปากเลยว่าพอใจจงอินคนนี้ไม่น้อย

                    “องค์....”

                    “จงฮยอนเจ้ามาพอดีเลย”ไม่ทันที่จงฮยอนจะเอ่ยเรียกนามจริงขององค์ชายก็ถูกขัดเสียก่อน “จงอินจะพาข้าและเจ้าไปพักในหมู่บ้านของเขา เราจะได้ตามคนรักของท่านพี่ได้ง่ายขึ้น”องค์ชายชานยอลตรัสบอกกับองค์รักษ์ที่ทำเป็นเพียงสามัญชนธรรมดาที่ไม่ต้องการให้จงอินล่วงรู้ว่าเขาเป็นองค์ชายเพื่อความปลอดภัยในการตามหาพระมเหสีและองค์ชายน้อย

                    องค์ชายชานยอลเสด็จตามจงอินมายังกระท่อมหลังหมู่บ้านที่เงียบสงัด ไม่ค่อยมีชาวบ้านอยู่ละแวกนี้เท่าไร จงอินเดินนำมาในกระท่อมที่ดูสะอาดเรียบร้อยเหมือนกับมีคนอยู่ที่นี้ตลอด

                    “ข้ากับจุนมยอนชอบแอบมาเล่น มานอนที่นี้กันประจำ ก็เลยทำให้ที่นี้ดูสะอาดไม่สกปรกเท่าไรนัก”จงอินหันมาบอกคนทั้งสอง

                    “ข้าขอบใจเจ้ามากที่ให้ข้ากับคนของข้าพักอาศัยที่นี้ ถ้าไม่ได้เจ้าข้าคงต้องพักแรมในป่าเสียแล้ว”กล่าวจากใจจริง

                    “เดี๋ยวสำรับข้าจะมาให้ท่านๆตอนค่ำ ข้าต้องแอบแม่ข้ามาให้ ถ้าท่านแม่รู้ว่าข้าพาคนนอกหมู่บ้านอยู่ด้วย ข้าจะโดนดุได้”

                    “ถ้าลำบากเจ้านักก็ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวข้าออกไปของป่ามาทานประทังชีวิตได้”

                    “ไม่ลำบากข้าเลย ข้าเต็มใจทำให้ท่าน ท่านไม่ต้องเกรงใจข้าเพราะข้าเต็มใจทำด้วยตัวเอง”จงอินบอกด้วยรอยยิ้ม องค์ชายก็ส่งยิ้มกลับให้คนตรงหน้าที่ถูกพระทัย ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น “ข้าก็ตัวกลับก่อนแล้วกัน เดี๋ยวข้าจะมาใหม่”จงอินเอ่ยลาและเดินลงมาจากกระท่อม องค์ชายชานยอลมองตามด้วยรอยยิ้ม

                    ตลอดทางเดินกลับบ้านจงอินก็โดนจุนมยอนบ่นตลอดทางที่พาคนแปลกหน้าเข้ามาหมู่บ้านที่ไม่รู้ว่าเป็นโจรป่าปลอมตัวมาหรือเปล่า ถึงท่าทางจะดูน่าไว้ใจแต่ก็ไม่ไว้ใจไม่ได้คนพวกนี้

                    “จงอินนะจงอินเจ้านี้ทำอะไรไม่คิดเลย”จุนมยอนบ่นออกมา

                    “เจ้าจะเลิกบ่นได้หรือยังจุนมยอน เจ้าไม่เมื่อยปากบ้างหรือไงที่บ่นข้ามาตลอดทาง”

                    “ก็เจ้าสมควรให้ข้าบ่นนิ ถ้าท่านน้ารู้นะเจ้านะจะโดนท่านน้าลงโทษ เจ้าจะโดนตีได้นะจงอิน”

                    “จงอินทำผิดอะไรมาอีกถึงต้องทำให้แม่ต้องตี”เสียงที่ดังถามขึ้นทำให้จงอินขึงตาใส่เพื่อน ยุนอามองลูกชายอย่างจับผิด “เจ้าไปทำผิดอะไรมาจงอิน”ย้ำถามลูกชาย

                    “คือข้าไปมีเรื่องกับพวกอินซามาท่านแม่ จุนมยอนบ่นข้ามาตลอด”หาทางแก้ตัว ยุนอาส่ายหน้ากับลูกชายที่ชอบไปมีเรื่องกับเด็กในตลาด

                    “เจ้านี่จริงๆเลย แม่เคยสอนเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้ไปมีเรื่องกับใคร เจ้าก็ไม่ฟังแม่”ดุเอ็ดลูกชาย จงอินได้แต่ยู่หน้า

                    “ข้าก็ไม่อยากทำหรอกท่านแม่ แต่มันมาหาเรื่องข้าก่อน ข้าเลยต้องป้องกันตัว”ยุนอาได้ฟังถึงกับถอนหายใจ

                    “แม่บ่นเจ้าไป เจ้าก็หาตัวรอดมีคำแก้ตัวตลอด เจ้านี้จริงๆเลย”

                    “ท่านแม่อย่าเอ็ดข้าเลย ข้ารู้ว่าข้าผิด ข้ายอมรับผิดแล้วนะท่านแม่”ยุนอาได้ยิ้มหัวเราะในท่าทีของลูกชายที่เข้ามากอดออดอ้อนเอาใจ

                    “แม่จะไม่ดุเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แม่เตรียมสำรับไว้ให้เจ้ากับจุนมยอนทานไว้แล้ว”

                    “ขอรับท่านแม่”จงอินหอมแก้มมารดาและจูงมือจุนมยอนเข้าไปในบ้าน ยุนอาได้แต่ยิ้มอย่างเหนื่อยใจกับลูกชายคนนี้ที่ได้นิสัยขององค์ชายชานยอลมาทั้งหมด

                    ทานอาหารค่ำเสร็จจงอินก็เข้าห้องเพื่อรอให้มารดาเข้านอนและแอบเอาอาหารที่เตรียมไว้ให้ชายแปลกหน้าทั้งสองที่ช่วยเอาไว้ ที่จงอินแอบห่อเอาไว้ตั้งแต่ตอนทานข้าวที่ให้จุนมยอนเป็นต้นทาง

                    “จุนมยอนท่านแม่นอนยัง”

                    “ท่านน้านอนแล้ว เจ้าจะไปก็รีบไปแล้วเจ้าก็รีบกลับด้วยถ้าท่านน้าตื่นขึ้นมาไม่เจอเข้าเจ้าได้โดนหนักแน่”

                    “ข้าไปก่อนแล้วกันจุนมยอน”จงอินบอกอย่างรีบร้อนและค่อยๆเดินออกจากบ้านตรงไปยังกระท่อมหลังหมู่บ้านที่มีคนรอเขาอยู่

                    องค์ชายชานยอลที่เฝ้ารอจงอินมาหาพอเห็นจงอินมาหาก็สรวญยิ้มออกมาและยิ่งเห็นถือห่อข้าวมาให้ด้วยก็ทำให้องค์ชายยิ่งยิ้มเข้าไปอีก จงอินเดินเข้ามายื่นห่อข้าวให้จงฮยอนที่จงฮยอนรู้ว่าองค์ชายคงต้องการอยู่ตามลำพังกับจงอินจึงออกไปหาข้างนอก

                    “ท่านทานข้าวก่อนซิ มัวมามองหน้าข้าแล้วจะอิ่มได้เช่นไร”องค์ชายถึงกับยิ้มเมื่อคนตรงหน้าพูดกับตรงๆ

                    “เห็นหน้าเจ้าข้าก็อิ่มแล้ว”จงอินถึงกับยิ้มเขินอายและเสมองไปทางอื่น อาการเขินอายของจงอินยิ่งสร้างรอยยิ้มให้กับองค์ชายได้ไม่น้อย

                    องค์ชายชานยอลทานไปก็มองจงอินไปที่จงอินรู้ว่าถูกเฝ้ามองตลอดก็ได้แต่เสมองไปทางอื่น อมยิ้มอย่างเขินอายไม่เคยมีใครทำให้จงอินแสนซนคนนี้เขินอายได้เพียงนี้

                    “ข้าอิ่มแล้ว”กระซิบบอกข้างหู

                    “อ๊ะ....”จงอินไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะใกล้เพียงนี้แก้มนวลก็ถูกริมฝีปากอุ่นร้อนจูบลงที่แก้ม สร้างความร้อนผาวให้กับจงอินไม่น้อย “ข้าขอตัวกลับบ้านก่อน”จงอินจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกองค์ชายรั้งข้อมือเอาไว้

                    “พรุ่งนี้ข้าจะรอเจ้านะจงอิน”ได้ยินเช่นนั้นจงอินกลั้นยิ้มและเดินออกไป องค์ชายเฝ้ามองด้วยรอยยิ้มและรับรู้ความรู้สึกของตัวเองได้ดีว่าหลงรักจงอินเด็กคนนี้เข้าเต็มหัวใจ ถึงแม้ว่าจะเพิ่งเจอแค่วันนี้ก็ตาม

                    เจ้าเป็นคนแรกที่ข้ารักด้วยหัวใจของข้า..........

                    จงอินกลับมาถึงบ้านก็รีบเข้าห้องนอน จับแก้มของตัวเองที่เพิ่งโดนชายหนุ่มจูบออกมา ไม่ได้รู้สึกเกียจสัมผัสนั้นเลย กลับรู้สึกชอบ รู้สึกดีกับสัมผัสนั้นด้วยซ้ำ

                    “เจ้าบ้าไปแล้วจงอิน เจ้าเพิ่งเจอเขาเป็นครั้งแรกเจ้าจะรักเขาได้เช่นไร”จงอินบอกกับตัวเองทั้งที่มือกุมแก้มของตัวเอง ถึงปากจะบอกแบบนั้นแต่สีหน้า รอยยิ้มกลับไม่ตรงกันเลยกลับยิ้มอย่างมีความสุขและคิดถึงชายแปลกหน้าที่ทำให้ตนนั้นรู้สึกดี รู้สึกมีความสุขไม่น้อย

                    จงอินเจ้านะบ้าที่สุด บ้าที่ไปรักคนแปลกหน้าตั้งแต่แรกเห็น..........

     

                    เกือบอาทิตย์ที่องค์ชายชานยอลพักอาศัยอยู่ที่กระท่อมหลังหมู่บ้าน ที่ในทุกวันจงอินจะนำเสบียงมาให้องค์ชายชานยอลทุกวันและความสัมพันธ์ของคนทั้งสองก็พัฒนาขึ้น ความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน สิ่งที่เกิดขึ้นในใจทำให้ต้องสองเริ่มเปิดใจกันมากขึ้น ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองอยู่ในสายตาของจงฮยอนและจุนมยอนตลอด

                    ถึงจงฮยอนและจุนมยอนจะรู้สึกเป็นห่วงความสัมพันธ์ของทั้งสองแต่ก็ห้าม ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อเป็นสิ่งที่จงอิน องค์ชายเลือกด้วยตัวเอง จุนมยอนขอแค่ว่าถ้าท่านน้ายุนอารู้เรื่องเข้าจะยอมรับความรักของจงอินและชานยอลชายแปลกหน้าได้ ส่วนจงฮยอนขอแค่ว่าถ้าองค์ชายทรงเลือกคู่ครองด้วยตัวเองและพาเข้าวังหลวงด้วย ขอให้ไม่มีใครคัดค้านกับคู่ครอง พระชายาขององค์รัชทายาทที่เป็นชาย

                    “จงอินเจ้าอย่ากลับดึกให้มากนักนะ พักนี้เจ้าอยู่กับท่านชานยอลดึกทุกวัน ถ้าท่านน้าตื่นขึ้นมาไม่เจอเจ้าความจะแตกได้นะจงอิน”

                    “ข้าจะพยายามกลับไม่ให้ดึกแล้วกัน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอกจุนมยอน”จงอินยิ้มให้กับเพื่อนให้สบายใจมากขึ้นและเดินออกจากบ้านไปตรงไปยังกระท่อมหลังหมู่บ้านที่มีใครอีกคนรอเขาอยู่เหมือนกับทุกวัน

                    องค์ชายชานยอลมานั่งรอจงอินอยู่ตรงลำธาร จงอินเห็นชายหนุ่มนั่งรออยู่ก็ยิ้มออกมาและเดินมานั่งข้างๆอีกฝ่ายหันมายิ้มให้กับคนที่เพิ่งมาถึง

                    “ท่านกำลังคิดอะไรอยู่หรือคิดถึงคนรักของพี่ชายของท่าน”จงอินเอ่ยถาม ที่พอจะรู้เรื่องราวจากองค์ชายชานยอลที่บอกออกมาตามหาคนรักของพี่ชายและหลาน

                    “ข้ามืดไปแปดด้านแล้ว  ว่าข้าจะหาคนรักของพี่ชายและหลานข้าเช่นไร จงฮยอนออกตามหาก็ไม่พบวี่แววเลย”

                    “ท่านอย่าเพิ่งท้อไปซิ ข้าเชื่อว่าท่านจะต้องตามหาหลานของท่านเจอและพาหลานของท่านกลับไปหาพี่ชายของท่าน”จงอินกุมมือใหญ่เอาไว้ “ท่านพอมีอะไรที่จะบ่งบอกว่าคนนั้นเป็นหลานของท่าน เป็นพี่สะใภ้ของท่านบ้างไหม เผื่อข้าจะได้ช่วยตามหา”

                    “พี่ชายของข้าได้มอบแหวนประจำตระกลูให้กับหญิงคนรักก่อนที่จะแยกจากกัน แหวนวงนั้นสลักสัญลักษณ์ของตระกลูเอาไว้”องค์ชายเอ่ยบอกออกมา

                    “ข้าจะลองออกตามหาดูในหมู่บ้านของข้าแล้วกัน เผื่อหลานของท่านอยู่ในหมู่บ้านของข้า”

                    “ขอบใจเจ้ามากนะจงอินที่ช่วยข้า”

                    “ข้าเต็มใจช่วยท่าน”ทั้งสองยิ้มให้กัน มือทั้งสองกอบกุมสอดประสานกันไว้เป็นหนึ่งเดียว

                    ซ่า ซ่า ซ่า

                    สายฝนตกลงมากอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยองค์ชายชานยอลพาจงอินเข้ามาหลบในกระท่อมที่สภาพของจงอินเปียกไม่น้อยและตัวเนื้อสั่นด้วยความหนาว

                    องค์ชายชานยอลเดินเข้ามาโอบกอดจากด้านหลังให้ความอบอุ่นให้กับคนในอ้อมกอด จงอินตกใจเล็กน้อยเมื่อชายหนุ่มเข้ามาสวมกอดตนแต่ก็รู้สึกอบอุ่นไม่น้อย

                    “อุ่นบ้างไหมจงอิน”จงอินได้แต่พยักหน้าเป็นคำตอบ “ให้โอบกอดของข้ามอบความอบอุ่นกับเจ้าได้ไหม”คำถามที่แฝงไปด้วยความนัยน์พร้อมกับไหล่เล็กถูกจับพลิกให้หันมา

                    “ให้โอบกอดของข้าโอบกอดคนที่ข้ารัก ให้โอบกอดของข้าได้ถ่ายทอดความรักกับเจ้าได้ไหม”จงอินได้แต่ก้มหน้าแต่ก็ถูกเชยคางมนขึ้นมา “ให้ข้ามอบความรักให้เจ้าได้ไหมจงอินยอดดวงใจของข้า”สายตาคมจ้องประสานดวงตากลมโตมองลึกเข้าไปในหัวใจ จงอินพยักหน้าน้อยๆเป็นคำตอบ

                    รับคำตอบที่น่ายินดีริมฝีปากอุ่นร้อนทางทับลงประกบจูบริมฝีปากบาง ต่างฝ่ายถ่ายทอดความรักให้กัน แลกเปลี่ยนความหอมหวานให้แก่กัน ร่างกายโอบกอดให้ความอบอุ่นในยามค่ำคืนที่มีฝนตกพร่ำลงมา

                    ร่างโปร่งบางล้มตัวนอนบนแคร่ที่มีร่างสูงคร่อมทับ ซุกไซร์ถ่ายทอดความรักผ่านทางร่างกาย มือบางลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังกว้างตอบรับความรักของชายหนุ่มที่เข้ามายึดครองหัวใจของจงอินไป

                    ทวงทำนองรักของคนทั้งสองที่ถ่ายทอดไปพร้อมกับสายฝนที่ตกลงมา สายฝนที่ให้ความชุ่มชื่นหัวใจกับคนทั้งสองเป็นหนึ่งเดียว ให้หัวใจทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกับคนทั้งสองที่คงไม่มีอะไรห้ามความรักขององค์ชายชานยอลกับจงอินได้

                    ความรักของคนทั้งสองถูกลิขิตเอาไว้แล้วและไม่สามารถฝืนลิขิตของสวรรค์ได้ ถึงแม้ยุนอาจะพยายามฝืนลิขิตสวรรค์พาลูกชายกลับไปยังวังหลวงแต่สุดท้ายอาหลานก็เจอกันและจบลงด้วยความรักที่ต่างสัญญากันเอามาแต่ปางก่อนที่ทั้งสองจะกลับมาพบและพบเจอกับความเจ็บปวดกับสิ่งที่เลือก

                    “จงอินเจ้าเป็นเมียข้าแล้ว ข้าจะไม่มีทางทิ้งเจ้าเด็ดขาด”เสียงทุ้มเอ่ยบอกหลังจากจบบทรักทั้งที่สายฝนยังคงตกพร่ำให้ความหนาวเย็นกับคนทั้งสอง

                    “ท่านชานยอลข้ารักท่าน ข้าถึงยอมเป็นของท่านถึงท่านจะเป็นชายเหมือนกับข้าแต่ข้าก็ยอมเป็นของท่าน”ใบหน้าหวานเอี่ยวมามองคนรักที่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะมาเป็นสามี “พรุ่งนี้ข้าจะบอกท่านแม่ ข้าจะบอกท่านแม่ของข้าเรื่องของท่าน”เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว จงอินก็ยอมที่จะบอกความจริงกับมารดาถึงรู้จะทำให้มารดาเสียใจแต่ก็ไม่อยากจะทำผิดต่อมารดาและต้องแอบหลบซ่อนคบกับชายคนรัก

                    “จงอินข้ามีความจริงบ้างอย่างบอกกับเจ้า ถ้าข้าบอกเจ้าๆห้ามโกรธข้ารู้ไหม”จงอินพลิกกายกลับมาร่างสูงที่นอนตะแคงกอดตนเองอยู่

                    “ท่านมีอะไรปิดบังข้า ท่านบอกข้ามาเดี๋ยวนี้”

                    “ความจริงแล้วข้าไม่ได้เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา ข้าเป็นองค์รัชทายาทแห่งแคล้วโกรคูยอ”จงอินถึงกับลุกขึ้นอย่างตกใจ องค์ชายลุกตามขึ้นมาและจับไหล่เล็กให้ฟัง “ที่ข้าต้องโกหกเจ้าเพื่อความปลอดภัยของข้าและเพื่อความปลอดภัยของพระมเหสีกับหลานชายของข้าที่ยังหาไม่เจอ”จงอินถึงกับเย็นลง “เจ้าเข้าใจข้านะจงอินที่ข้าต้องโกหกเจ้า”

                    “ข้าเข้าใจท่าน แต่ต่อไปท่านห้ามปดบังข้าอีกรู้ไหม”

                    “ข้าจะไม่ปิดบังเจ้าอีกแล้วยอดดวงใจของข้า”จงอินยิ้มน้อยๆและสวมกอดเอว ซบหน้าลงกับอกกว้างขององค์ชาย “ข้าเจอพระมเหสีกับหลานเมื่อไร ข้าจะพาเจ้าและแม่ของเจ้าเข้าวังหลวงพร้อมกับข้า เข้าไปเป็นพระชายาของข้า”ริมฝีปากอุ่นร้อนกดจูบกระหม่อมของร่างบาง จงอินยิ้มอย่างมีความสุขกับความรักครั้งนี้

     

     

     

     

                    จงอินกลับมาถึงบ้านรุ่งสางพอถึงบ้านเจอมารดายืนรออยู่หน้าบ้านด้วยโกรธที่ลูกชายไม่ยอมกลับบ้าน เถลไถลไม่เชื่อฟังตน จงอินรู้ว่าผิดก็ได้แต่ยืนนิ่งยอมรับผิดที่ทำให้มารดาเป็นห่วง

                    “จงอินเจ้าทำให้แม่ผิดหวังอย่างมาก เจ้าทำกับแม่เช่นได้อย่างไง เจ้าโกหกแม่ทำไม!!!”บอกระคนผิดหวังเสียใจ

                    “ท่านแม่ลูกขอโทษ ลูกผิดไปแล้วท่านแม่”จงอินบอกเสียงสั่นที่ทำให้มารดาเสียน้ำตา

                    “เจ้าก็รู้ว่าแม่รักเจ้ามากแค่ไหน เป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหนแต่เจ้าก็ยังทำ เจ้าไม่รักแม่บ้างหรือไง”

                    “ฮืฮ....ข้ารักท่านแม่ แต่แค่ข้ากลัวว่าท่านแม่ไล่ชายคนรักของข้า ข้าไม่อยากให้ท่านแม่ทำกับชายคนรักของข้า”จงอินบอกทั้งน้ำตา ความกลัวในใจของยุนอาแสดงออกมา

                    “เจ้าบอกว่าชายคนรักเจ้า จงอินเจ้ามีชายคนรักแล้วหรือรึ?”

                    “ข้ามีชายคนรักแล้ว เขาเป็นชายคนรักของข้า ข้ารักเขาเราสองคนรักกัน”

                    “เจ้าบอกแม่มาเดี๋ยวนี้มาชายคนรักของเจ้าเป็นใคร!!”กระแทกเสียงใส่ลูกชายอย่างลืมตัว ที่กลัวเหลือเกินว่าชายคนรักของลูกชายจะเป็นองค์ชายชานยอล

                    แกร๊ก

                    เสียงของหล่นกระทบพื้นละความสนใจของจงอินที่จะตอบออกไปและหันมายิ้มแหวนที่ตกหล่นลงมาอยู่ข้างกาย แหวนที่ดูมีราคาดูล้ำค่าที่ไม่เหมือนกับของในตลาดที่นำมาวางขาย จงอินหยิบขึ้นมามือไม้สั่นและมองหน้าแม่ทั้งน้ำตา

                    “ท่านแม่ได้แหวนวงนี้ได้เช่นไร ท่านแม่บอกข้ามา”เสียงสั่นหวั่นไหวทั้งน้ำตา ยุนอาปล่อยน้ำตารินไหลออกมาอย่างเจ็บปวดไม่ต่างจากลูกชาย

                    “แหวนวงนี้เป็นของพ่อเจ้าที่ให้แม่ไว้ก่อนที่แม่จะหนีออกมา พ่อของเจ้าให้ไว้เพื่อจะให้เจ้าได้รู้ว่าเจ้าเป็นลูกของฝ่าบาทซึงกิไม่ใช่พ่อค้าสามัญชนธรรมดา”ยุนอาบอกออกมาทั้งน้ำ

                    จงอินทรุดลงกำแหวนในมือแน่นทั้งน้ำตา หัวใจแตกสลายเจ็บปวดเสียใจไม่น้อยที่ได้รู้ความจริงสถานะที่แท้จริงของตัวเอง

                    “ไม่จริง ข้าไม่ใช่ลูกของฝ่าบาท ข้าไม่ใช่หลานขององค์ชายชานยอล”น้ำเสียงระทมเอ่ยแทบขาดใจที่ยุนอาเอามือปิดปากร้องไห้อย่างตกใจ

                    “จงอิน!!!”องค์ชายชานยอลที่ตามมาเห็นจงอินทรุดลงกับพื้นร้องไห้รีบเข้ามาดู แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอคนที่ตามหามาตลอด “พระมเหสียุนอา!!”องค์ชายแทบไม่เชื่อว่าเขาจะต้องมาเจอพระมเหสียุนอาในสถานการณ์เช่นนี้

                    “องค์ชายชานยอลในที่สุดองค์ชายก็ทรงตามหาหม่อมชั้นกับลูกพบ”เสียงสั่นหวั่นไหวเอ่ยบอกอย่างเจ็บปวดทั้งน้ำ องค์ชายมองพระมเหสี จงอินสลับกันไปอย่างสับสน “คนที่องค์ชายทรงโอบกอดอยู่คือองค์ชายจงอิน โอรสของฝ่าบาทซึงกิ หลานขององค์ชายเพคะ”

    เมื่อโลกพังทลายลงหัวใจแตกสลายกับความจริงที่ได้รู้ มือใหญ่ไร้เรี่ยวแรงลู่ตกลง ดวงตาคมปิดลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคมขององค์ชาย ความเจ็บปวดกับความจริงอันโหดร้ายทำให้องค์ชายชานยอลอยากให้มันเป็นแค่ฝันร้าย ฝันร้ายที่ลืมตาแล้วจากไป

    ต่างเจ็บปวดกับความจริงไม่น้อย เจ็บปวดที่รู้ว่ามีสัมพันธ์ทางสายเลือด เจ็บปวดกับความรักที่ไม่สมควรเกิดขึ้นของอาหลาน

    ไม่มีอะไรเจ็บปวดเท่านี่อีกแล้ว..........

     

     

     

     

    Talk

    ตอนสองมาแล้วจ้า ดราม่ากันเต็มที่สำหรับตอนนี้ ความรักของอาหลานยังคงมีให้เจ็บปวดกันอีก แล้วความเจ็บปวดนี้จะจบลงเช่นไร ก็ต้องติดตามกันต่อไปนะจ๊ะ องค์ชายชานยอลจะเลือกทางไหน องค์ชายน้อยจะทำเช่นไรเมื่อต้องเข้าไปอยู่ในวัง ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงเช่นไรกับความรักขององค์รัชทายาทและองค์ชายน้อย ไว้ลุ้นกันต่อไป

    ไรต์พยายามแต่งให้ออกมาดีที่สุด แนวพีเรียดไม่ค่อยเก่งเท่าไร ภาษายังคงไม่สละสลวย ยังไม่ดีเท่าไรเลย แต่จะแต่งให้ดีที่สุด เดี๋ยวคำผิดขอมาแก้ทีหลังนะ แต่งเสร็จลงเลย เรื่องนี้ใช้เวลาแต่งนานมาก และเป็นการแต่งที่เกือบยี่สิบหน้าเวิร์ด

    ใครลุ้นฉากรักคงต้องผิดหวัง เรื่องนี้ไม่อยากเน้นฉากรักเท่าไรแต่มีแน่นอนแต่คงไม่มากเท่าไรนะคะ เพราะอยากให้อ่านความรักของชานไคที่ไม่เน้นฉากรักมากเกินไป

    อ่านแล้วอย่าลืมเม้นและติดแท๊ก #ficcz ได้ในทวิต

    ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×