คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #30 : ไกรทอง ตอนที่ 26
จะขึ้นบ้านดีหรือไม่ขึ้นบ้านหว่า...หรือว่าคืนนี้เราจะไปขออาศัยกับทองดำดีหว่า มาคิดๆดูแล้วไม่เอาดีกว่า ไอ้ไม้ก็ยังอาศัยนอนอยู่กับทองดำ ขืนไปขอนอนด้วยมีหวังเบียดกันตายเลย
อืม...ทำยังไงดีน้า
แต่บ้านเงียบเชียบขนาดนี้ แสงไฟจากตะเกียงก็ยังไม่มี
แสดงว่าไม่มีใครอยู่บ้าน...ค่ำมืดขนาดนี้แล้วพี่ชาละวันไปอยู่ที่ไหนกันทำไมยังไม่กลับมาอีก
ไกรทองชะเง้อชะแง้ คอยืดคอยาวอยู่หน้ากระไดบ้าน
ด้วยแม้ว่าในใจจะนึกเป็นห่วงชายหนุ่มคนงามแต่สองขาก็ไม่ยอมก้าวขึ้นบ้านไปเสียที
“เอาน่า
นี่มันบ้านเราเองนะจะลังเลไปทำไมกัน”
เด็กหนุ่มพูดเรียกขวัญกำลังให้กับตัวเองเพื่อเพิ่มความห้าวหาญ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนบ้านด้วยหัวใจเต้นตุ้มๆต้อมๆ
ไม่รู้จะกลัวอะไรกันนักหนา กะอีแค่จะโดนปล้ำ
หากแต่พอได้ขึ้นมาด้านบน ไกรทองก็พบแต่เพียงความมืดและเงียบสงัด
จากความไม่กล้าที่จะต้องมาเผชิญหน้ากับคนที่เอาแต่เฝ้าคิดถึงทั้งวัน
ก็กลายเป็นความอ้างว้างเมื่อพบว่ามีแค่เขาคนเดียวในบ้านหลังนี้
ทั้งๆที่อยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้มานานหลายปี เหตุฉไนบ้านหลังเดิมหลังนี้กลับดูกว้างและเงียบเหงาได้ถึงเพียงนี้
ราวกับว่ามันไม่ใช่บ้านที่เขาคุ้นเคย...ทำไมกันนะ
จู่ๆก้อนเนื้อข้างซ้ายของไกรทองก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาแปลบๆ จนหายใจแทบไม่ทัน
หรือเพราะเขาชินชาเสียแล้วกับการที่ต้องมีใครสักคน
มาคอยยิ้มต้อนรับด้วยรอยยิ้มหวานหยดทุกครั้งที่เขากลับมา เสียงทุ้มนุ่มนวลเที่ยวถามไถ่ให้รู้ว่ามีคนคอยเป็นห่วง
ข้าวปลาอาหารที่จัดเตรียมพร้อมสรรพให้กินได้เลยไม่ต้องรอ แสงไฟจากตะเกียงที่ทอดเป็นเงาสองเงาบนบ้านพร้อมกับเสียงพูดคุยโต้ตอบกันทำให้เขารู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียว
‘บ้าน่า แค่พี่ชาละวันยังไม่กลับบ้านมาแค่นี้ ข้าไม่เห็นจำเป็นต้องโศกเศร้าเลย
ที่พี่เขายังไม่กลับมาแสดงว่าวันนี้คงไปนอนค้างที่บ้านพี่นันละมั้ง’
ไกรทองพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านบ้าๆในหัวโยนทิ้งไป
รีบผลัดผ้าไปอาบน้ำในคลองให้อารมณ์กลับมาสดชื่นแจ่มใสเหมือนเดิม
....สงสัยวันนี้จะเหนื่อยเกินไป เลยมีความคิดแปลกแบบนี้ผุดขึ้นมาในหัว
พอได้อาบน้ำคลายความเมื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน ทำให้อารมณ์ของไกรทองสดชื่นขึ้นมาบ้าง
แต่ก็ยังอาการเกียจคร้านไม่อยากออกแรงทำอะไรทั้งสิ้น เลยตัดสินใจรีบนอนแต่หัวค่ำ
เด็กหนุ่มนอนเหม่อเพดานมุ้ง
ในใจเริ่มหวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าที่เพิ่งเกิดขึ้นในห้องนี้ ในมุ้งหลังนี้ บนที่นอนตัวนี้ ร่างกาย
รสจูบและความเร่าร้อนจากการสัมผัส
ยิ่งคิดอารมณ์ยิ่งเตลิดไปไกลจนเกือบกู่ไม่กลับ
จนต้องตบหน้าเรียกสติกลับคืนมาไม่ให้ฟุ้งซ่านอีก
“กูนี่ท่าจะบ้า ไปคิดถึงเรื่องพวกนี้ทำไมกันวะ หยุดคิดซะ
หยุดคิด ...เลิกเพ้อเจ้อ
...นอนซะ นอนได้แล้ว
เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นเช้าไปทำงานเกี่ยวข้าวที่นาไม่ไหว...นอน...”
หลังจากที่เที่ยวสะกดจิตตัวเองอยู่พักใหญ่ ไกรทองก็ผล็อยหลับไปจริงๆ แถมยังหลับลึกมากเสียด้วย จนทำให้เด็กหนุ่มเริ่มฝันถึง....อดีตและความทรงจำ....
....ที่ได้ขาดหายไป
อะไร? ต้นดอกปีบอีกแล้วงั้นรึ? ทำไมช่วงนี้ข้าฝันเห็นต้นปีบต้นนี้บ่อยจัง แต่ก็.....สวยจัง กำลังบานสะพรั่งเต็มต้นเลย
“กำลังทำอะไรอยู่เหรอ?”
หืม...เจ้าเด็กน้อยตัวจ้อย ตากลมๆทำหน้าโง่ๆ นั่งยิ้มแป้นแล้นอยู่ใต้ต้นปีบ นี่มันตัวเขาในวัยเด็กไม่ใช่เรอะ!?
“พี่กำลังถักดอกปีบให้เป็นพวงอยู่นะจ๊ะ น้องไกรทองรู้ไหม?
ก้านยาวๆของมันเราสามารถนำมาถักทับกันจนเป็นพวงมาลัยได้นะ มาเดี๋ยวพี่จะถักให้ดู”
ตัวเขาในวัยเด็กกำลังคุยกับใครอยู่ว่ะ มองเห็นหน้าไม่ชัดเลย
แต่ถ้าลองสังเกตดูจากรูปร่างและน้ำเสียงแล้ว น่าจะเป็นเด็กชายวัยประมาณ 13 -14
ขวบปีเห็นจะได้
เจ้าหมอนี่มันเป็นใครกันว่ะ...ถ้ารู้จักแต่เหตุใดเขาถึงกลับจำเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลยสักนิด
เด็กชายปริศนาลงมือถักดอกปีบอย่างคล่องมือไม่มีสะดุด
ไม่นานก้านดอกปีบทั้งหลายก็ถูกถักร้อยเข้าด้วยกันจนกลายเป็นพวงมาลัยดอกไม้น้อยน่ารัก
ไกรทองอุทานร้องว้าวถูกใจ รีบเอามาลัยดอกปีบมาสวมใส่หัวเป็นมงกุฎ
ช่างดูน่ารักเข้ากันได้ไม่เลวจนเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมา
อืม...รอยยิ้มดูคุ้นตาจังเลยแฮะ น้ำเสียงหัวเราะก็ฟังดูคุ้นๆ คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็น เคยได้ยินที่ไหน...มันติดอยู่ที่ปาก นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
“สวยจังเลย สอนน้องถักบ้างได้หรือไม่จ๊ะ?”
เด็กชายตัวน้อยยิ้มออดอ้อนพี่ชายคนเก่ง
จนทำให้รอยยิ้มที่กว้างอยู่แล้ว
ยิ่งกว้างมากกว่าเดิมจนปากแทบจะฉีกไปถึงใบหู
“ได้สิ ถ้าน้องต้องการพี่ก็จะสอนให้”
ไกรทองไม่รอช้ารีบปีนขึ้นไปนั่งบนตักด้วยใบหน้ายิ้มดีใจ
ท่าทางน่ารักของเจ้าตัวน้อยช่างน่าเอ็นดูถูกใจ พี่ชายเจ้าของตักเลยมอบรางวัลให้ฟอดหนึ่ง แต่แค่ฟอดเดียวมันจะไปพออะไร
แก้มยุ้ยอีกข้างจึงถูกหอมเข้าไปอีกฟอดหนึ่งเต็มๆ จนคนที่ถูกหอมหัวเราะคิกคักชอบใจไม่เกิดอาการขัดเขินให้เห็นเลยสักนิด
เหมือนกับว่าเรื่องที่ทำอยู่มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ทำกันมาจนชิน
เฮ้ย!!! นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
ทะ...ทะ...ทำไมข้าในวัยเด็กถึงถูกกอด
ถูกหอมขนาดนี้....นี่ถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงเขาจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่...นี่เป็นเด็กผู้ชายแถมยังเป็นใครก็ไม่รู้
โอย....กูอยากจะบ้าตาย
นึกให้ออกเร็วๆสิว่ะไอ้ไกร ว่าเด็กผู้ชายคนนี้เป็นใคร
แล้ว...แล้วทำไมตัวเขาในตอนเด็กถึงได้ไปสนิทชิดเชื้อ
ปล่อยให้คนอื่นเข้าถึงเนื้อถึงตัวไปได้ถึงขนาดนี้
“ดูสิ ดูสิ
น้องถักเสร็จแล้ว สวยไหม?”
เด็กชายก้มหน้ามองดูพวงดอกไม้พวงน้อย โดยที่มือหนึ่งโอบกอดเจ้าตัวน้อย
ส่วนอีกมือหนึ่งก็ประคองทั้งพวงมาลัยและสองมือน้อย หน้าที่ก้มลงมาก็ดูชิดใกล้จนแก้มแนบแก้ม
“สวยมากนี่ขนาดลองทำครั้งแรกนะเนี่ย น้องไกรทองของพี่เก่งจริงๆ”
เออ...กูรู้ว่ากูเก่ง แต่ขอร้องเถอะมึงอย่ามาถึงเนื้อแนบตัวจนแทบจะรวมเป็นเนื้อเดียวกันสิวะ...ถึงจะรู้ว่าเป็นความฝันในอดีต
แต่พอได้มาจ้องมองดูแบบนี้แล้วเขาก็อดที่จะรู้สึกอาย จนอยากตะโกนร้องให้ดังลั่น
ทำไมข้าถึงนึกไม่ออก...ทำไม...ทำไม...ข้า...
‘อย่าพยายามนึกเลยเจ้าเด็กน้อย’
ใคร?
‘สักวันเจ้าจะรู้’
ถ้าเช่นนั้นท่านต้องการสิ่งใด ถึงได้มาขัดขวางข้า
‘ข้าไม่ได้มาขวางแต่ข้ามาเตือน อย่าสงสัยเลยเจ้าเด็กน้อย ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าจะนึกออก’
ทำไม?
‘เพราะมันจะทำร้ายทั้งตัวเจ้าและคนสำคัญของเจ้า’
ทำร้าย?.....ยังไง?
อย่าเพิ่งไปบอกข้าก่อน อย่าเพิ่งไป!
“น้องไกรทอง...น้องไกรทองได้ยินเสียงพี่หรือไม่? น้องไกรทอง”
เด็กหนุ่มค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาตามเสียงเรียกและแรงสั่นหนักๆแถวบริเวณหัวไหล่
“พี่ชาละวัน”
พญากุมภีร์หนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่เห็นคนรักลืมตาตื่นขึ้นมาเสียที...เจ้าเด็กบ้าเอ้ย! นอนนิ่งไม่ไหวติงปล่อยให้ปลุกอยู่ได้ตั้งนานสองนานจนเขาเป็นห่วงเสียแทบแย่
ไกรทองขยับกายลุกขึ้นมานั่ง
“พี่ชาละวันกินข้าวกินปลามาหรือยัง”
“พี่กินมาจากบ้านเจ้านันแล้วจ๊ะ
ขอโทษนะที่เข้ามาปลุกทั้งๆที่น้องนอนหลับไปแล้ว”
แม้เด็กหนุ่มจะยิ้มให้อย่างไม่ถือสาแต่ในใจกลับนึกงุนงง...น่าแปลกจำได้นะว่ากำลังนอนฝันอยู่ เหตุฉไนพอตื่นขึ้นมากลับจำไม่ได้ว่าฝันถึงอะไร
ชาละวันดึงร่างเด็กหนุ่มเข้ามาโอบกอดเอาไว้พร้อมกับจูบเบาๆที่หน้าผากมน
การกระทำที่อ่อนโยนแกมอ่อนหวานเช่นนี้ทำให้คนในอ้อมแขนรู้สึกอบอุ่นใจคล้ายกำลังถูกปลอบใจ รู้สึกดีจนเผลอซบหน้าลงบนบ่ากว้าง ...ทั้งสองต่างอาศัยไออุ่นของกันและกัน จมอยู่กับความคิดของตนเองอยู่เงียบๆ
อา...กลิ่นกายที่หอมเหมือนกับกลิ่นของสายน้ำ ช่างทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายดีเหลือเกิน...
“พี่ชาละวัน....อื้อ!”
เฮ้อ! น่าขบขันเสียจริงเลยนะที่ท่านพญากุมภีร์เช่นข้า
สมญานามผู้ไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใดแม้กระทั่งความตาย กลับต้องพ่ายแพ้ให้กับเจ้าเด็กน้อยผู้นี้...เพียงแค่เห็นว่าอีกฝ่ายนอนนิ่งผิดปกติไปจากทุกที ขนาดเขย่าเรียกให้ตื่นก็ยังไม่ยอมตื่น เล่นเอาหัวใจเขาเกือบหยุดเต้น
ริมฝีปากอวบอิ่มได้รูปประกบทาบทับลงบนริมฝีปากบางได้รูปของอีกฝ่ายโดยไม่ทันให้ตั้งตัว ลิ้นร้อนกระหวัดพันเกี่ยวไม่ยอมลดละและไม่ยอมให้มีช่องว่างให้พอหายใจ จนไกรทองต้องลงแรงทั้งดิ้น ทั้งทุบ
พยายามส่งเสียงประท้วงก็มีแค่เสียงอื้อๆในลำคอเท่านั้น
เมื่อออกแรงเบาๆแล้วไม่ได้ผลอย่างนี้มันต้องใช้ไม้ตายสุดท้าย
....หมัดหนักๆที่กำลังจะต่อยเข้าด้านใบหน้าก็ถูกมือนิ่มคว้าไว้ได้ทันก่อนมันจะปะทะถูกเป้าหมาย
ร่างสูงจูบปากลงบนหมัดที่ยังคงกำแน่น
“น้องไกรทองช่างใจร้ายกับพี่จังเลยน้า”
แม้จะหอบแฮ่กๆหน้าแดงกร่ำในอ้อมแขน
แต่ถึงกระนั้นไกรทองก็ยังอุตส่าห์กัดฟันส่งสายตาพิฆาตไปให้ชายหนุ่ม “พี่ –
ชา – ละ – วัน”
แหมๆ ยอมปล่อยก็ได้
ที่ยอมไม่ใช่อะไรหรอกนะเขาแค่ขี้เกียจแกล้งต่อแล้วต่างหากเล่า ....ไม่ได้กลัวนะบอกไว้ก่อน
“รู้สึกเหนียวตัวจังเลยน้า ป่ะ!
เราไปอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่นกันสักหน่อยดีกว่าเนอะ”
“เรื่องอะไร
น้องอาบน้ำแล้วมีแต่พี่ชาละวันนั่นแหละที่ยังไม่อาบ...เชิญไปอาบคนเดียวเลย ไป”
ไกรทองนั่งกอดอกมองค้อนใส่ชายหนุ่มนิดๆ
ด้วยเพราะยังเคืองไม่หายที่ถูกอีกฝ่ายหยอกเอินให้ใจเขาเต้นระรัว รวมจูบเมื่อตะกี้ด้วย มันน่าโมโหจริงๆ....พี่ชาละวันนะขี้แกล้ง เผลอมีช่องว่างให้หน่อยไม่ได้ ต้องมาทำให้เขาอายม้วนเป็นสาวน้อยอยู่ตลอด เตือนเท่าไหร่ก็ไม่เคยฟัง
‘ฮึ่ย!
ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชาละวันล่ะก็
ไม่มีทางหรอกที่ชายหนุ่มทั้งแท่ง
มาดเข้มเช่นเขาจะมีอาการขี้อายเป็นสาวน้อยไม่ประสีประสาเยี่ยงนี้หรอก’
“น้องไกรทองจ๋า”
น้ำเสียงออดอ้อนกับสายตาเว้าวอน
ช่างเป็นลูกไม้ประจำที่ชอบใช้เสียจริงนะ...ไม่มีทาง! คราวนี้เขาจะไม่ยอมใจอ่อนอีกเป็นอันขาด
เมื่อเห็นว่าลูกไม้เก่าๆมีท่าทีว่าจะใช้ไม่ได้ผล ชาละวันจึงเพิ่มน้ำหนักเสียงให้ฟังดูอ้อนวอนมากขึ้น
ส่วนแววตาก็ปรับเพิ่มประกายความน่าสงสารเข้าไปอีกเล็กน้อย “น้องไกรทองจ๋า นะ...ไปอาบน้ำกับพี่น้า”
เด็กหนุ่มยังคงนั่งกอดอกเชิดหน้านิ่งทำเป็นขึงขังเหมือนเก่า
ทั้งที่ความจริงในใจนั้นอ่อนยวบยาบเป็นโคลนเหลวเพราะน้ำเสียงอ้อนๆนั่นนานแล้ว
...ใจแข็งเข้าไว้
ใจแข็งเข้าไว้...ลูกผู้ชายอกสามศอกพูดแล้วห้ามคืนคำเด็ดขาด
ทำเป็นเมินไม่สนใจพี่งั้นเหรอได้...
“ถ้าเช่นนั้นพี่ไปอาบน้ำคนเดียวก็ได้จ๊ะ ขอโทษนะที่พี่เอาแต่ใจกับน้องมากไป”
น้ำเสียงอ่อยๆติดออกจะฟังดูน้อยอกน้อยใจนิดๆ
ทำให้เด็กหนุ่มใจแป้ว...รึว่าเขาจะแกล้งพี่ชาละวันมากเกินไป ดูสินั่งหน้าหงอยเลย
ฝ่ายพญากุมภีร์เจ้ามารยาหลายร้อยเล่มเกวียนก็ทำเป็นเสแสร้งทำท่าจะออกไปนอกมุ้ง หยิบข้าวของเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ ‘คนเดียว’
ท้ายที่สุดแล้วไกรทองก็ต้องพ่ายแพ้ รีบยื่นมือคว้าแขนชายเอาไว้
“เดี๋ยวน้องจะไปช่วยขัดหลังให้พี่ชาละวันนะจ๊ะ”
...ยอมใจอ่อนให้พี่ชาละวันจนได้สิเรา...
จากใบหน้าเศร้าสร้อยปนน้อยใจกลับแปรเปลี่ยนเป็นเริงร่า ยิ้มหน้าบาน
เร่งผัดเปลี่ยนเสียผ้าจูงมือเด็กหนุ่มไปที่ท่าน้ำหลังบ้านอย่างไม่รอช้า
หลังจากที่ชาละวันลงไปดำผุดดำว่ายในน้ำอยู่พักใหญ่ๆจนหนำใจแล้วจึงค่อยลอยคอไปหาคนที่กำลังนั่งรออยู่บนฝั่ง
ชายหนุ่มหันหลังให้เด็กหนุ่มอย่างคนรู้หน้าที่
พี่ชาละวันนี่ผิวขาวเนียนดีจริงๆ....นอกจากจะขาวแล้วผิวพรรณยังนวลเนียนไร้รอยตำหนิ ไม่มีไฝฝ้าและขี้แมลงวันให้เห็น
ขนาดทำงานแบกหามหนักๆท่ามกลางแดดจ้าเหมือนกันแท้ๆ แต่ไม่ยักกะผิวดำเกรียมแดดเลยสักนิด
ฝ่ามือด้านของไกรทองลูบไล้แผ่นหลังกว้างไปมาอย่างลืมตัวเช่นเคย เพราะนอกจากหน้าตาที่งามกว่าสตรี ผิวพรรณคนผู้นี้ก็ยังเนียนนุ่มและดูขาวกระจ่างใสเสียยิ่งกว่าน้องตระเภาแก้วกับน้องตระเภาทองด้วยซ้ำไป
จนทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า ‘พี่ชาละวันเนี่ยเหมาะที่จะเป็นผู้อยู่ฝ่ายล่างจริงๆ’
ริมฝีปากอวบอิ่มยกยิ้มพอใจกับกิริยาถึงเนื้อถึงตัวของอีกฝ่ายที่มีต่อตน แม้โดยปกติแล้วเขาจะค่อนข้างรังเกียจที่ ‘คนอื่น’ มาถูกเนื้อต้องตัว อย่าว่าแต่ลูบเลยแค่แตะตัวเขาเบาๆก็ยังไม่ได้ ถ้าหากคนผู้นั้นยังไม่ได้รับอนุญาตจากปากของเขา
‘อา...ฝ่ามือของน้องไกรทองนี่ให้ความรู้สึกดีจริงๆ’
.....แม้น้องไกรทองมักจะชอบแสร้งทำท่าขึงขังใส่เขาอยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่เจ้าตัวคงไม่รู้ตัวเลยสักครั้งว่าถึงแม้จะปิดกั้นแค่ไหน
แววตาของน้องกลับไม่เคยแสดงออกมาเหมือนกับท่าทางภายนอกที่มีต่อพี่เลยสักนิด แล้วแบบนี้จะไม่ให้บอกว่าน่ารักได้ยังไงกัน
‘ดูสิ ลูบไล้หลังพี่เพลินเลยนะเจ้าตัวแสบ’
ชาละวันนึกอยากจะจับเจ้าของมือซุกซนบนร่างกายของตน มากอด
มาจูบ
เพื่อดับความกระหายที่เกิดฟุ้งซ่านขึ้นมาซักฟอดสองฟอดให้หนำใจ
พญากุมภีร์หนุ่มคงได้แค่คิดหรอกนะ
ถ้าบังเอิญไม่หูทิพย์ไปได้ยินเสียงบ่นงึมงำจากปากไกรทองเข้าเสียก่อนว่า
‘พี่ชาละวันนี่ผิวสวยจริงๆ หน้าตาก็ยังงดงามเหนือสตรี ....เหมาะจะเป็นผู้อยู่เบื้องล่างจริงๆนั่นแหละ’
หนอยแน่ะ...เจ้าเด็กน้อยคนนี้ขนาดถูกข้าอบรมสั่งสอนไปเสียมากมายก็ยังไม่ล้มเลิกไอ้ความคิดบ้าๆ
ที่จะจับให้เขารับบทฝ่ายหญิงอยู่อีกนะ....สงสัยจะยังอบรมไม่มากพอ
‘ไม่ได้ ไม่ได้
ถ้าขืนยังปล่อยให้มีความคิดขบถอยู่แบบนี้ต่อไป น้องไกรทองคงจะดื้อแพ่งไม่ยอมให้เขากินดีๆแน่ๆ’
พญากุมภีร์หนุ่มจัดการจู่โจมโน้มลำคอของไกรทองลงมาประกบปากจูบมอบจุมพิตหวานล้ำให้ชนิดไม่ทันตั้งตัว...ชาละวันค่อยๆและเล็มชิมรสชาติหวานจากริมฝีปากบางอย่างช้าๆเพื่อสร้างอารมณ์ จนเด็กหนุ่มเคลิ้มเคลิมล่องลอยไร้ซึ่งอาการขัดขืน
เขาจึงส่งปลายลิ้นเข้าไปหยอกเย้ากับลิ้นด้านใน...ทั้งผลักดัน ทั้งเกี่ยวกระหวัดรัดรึง และถดถอยหนีเพื่อให้อีกฝ่ายรุกไล่ตาม
ทั้งคู่ต่างพาแลกเปลี่ยนรสจูบ
ผลัดกันรุกไล่อยู่เนิ่นนานจนลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง
ซึ่งกว่าไกรทองจะรู้ตัวร่างกายของเด็กหนุ่มก็ลงมาอยู่ในน้ำ อยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่สิ่งที่ไกรทองสนใจอยู่ในตอนนี้มีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นคือ
การพยายามดึงดันทำสงครามน้ำลายกับชาละวันอย่างไม่มีใครยอมใคร
เพื่อหวังว่าจะให้อีกฝ่ายยอมพ่ายแพ้เป็นฝ่ายอ่อนระทวยบ้างก็เท่านั้น
จากจูบที่อ่อนหวานเริ่มกลับกลายเป็นร้อนแรงตามไฟอารมณ์และแรงปรารถนา จนกระทั่งสงครามน้ำลายได้สิ้นสุดลง ด้วยชัยชนะที่แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นของ....
....ชาละวัน....
ไกรทองถึงกับหมดสภาพเอนกายซบหน้าลงบนบ่ากว้างอย่างคนไร้กระดูก หมดเรี่ยวไร้แรง ปากที่บวมเจ่อเพราะรสจูบอ้าปากพยายามหอบเอาอากาศเข้าร่างกายให้มากที่สุด
ช่างดูแตกต่างลิบลับกับชายหนุ่มคนงามที่โอบประคองเด็กหนุ่มเอาไว้ด้วยใบหน้ายิ้มเฉ่ง มีประกายผ่องใสเหมือนคนได้ยาดี ไม่มีอาการหอบหรือเหนื่อยให้เห็นเลยสักนิด
‘ไม่อยากจะยอมรับให้เสียเชิงหรอกนะ แต่พี่ชาละวันนี่จูบเก่งจริงๆ ไอ้เรารึอุตส่าห์งัดทุกกลเม็ดมาใช้แล้วนะ ก็ยังสู้ไม่ได้อยู่ดี...เจ็บใจนัก เจ็บใจจริงๆ’
“น้องไกรทองจ๋า พี่ว่าเรา.......”
ไกรทองฟังคำหวานลื่นหูกระซิบที่ข้างหูไปเพียงไม่กี่ประโยคก็เริ่มมีอาการหน้าแดง ตวัดตาค้อนใส่คนที่กล้าพูดเรื่องพรรค์นี้มาได้อย่างหน้าตาเฉย
“ตกลงนะจ๊ะ” ชาละวันไม่พูดปล่าวมือข้างหนึ่งเริ่มแสดงอาการซุกซนล้วงสอดมือเข้าไปในโจงกระเบนเด็กหนุ่ม แล้วลูบไล้ไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายมีเวลาคิดปฏิเสธเขา
ไฟปรารถนาที่ยังคงคุกรุ่นอยู่จึงถูกจุดให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง และคราวนี้เป็นไกรทองเองที่เป็นผู้เปิดฉากรุกจูบชายหนุ่มก่อนเพื่อเป็นการชิงความได้เปรียบ...
สัตว์ร้ายมองเหยื่อในอุ้งมือด้วยแววตาเจ้าเล่ห์แสนชั่ว....หึหึ....แผนที่ลงทุน ลงแรงวางแผนไว้มานานแสนนานในที่สุดก็สำเร็จเสียที
...................
..........
...........
....
..
...
.
ไอ้เจ้าแผนหลอกน้องไกรทองมาเล่นสนุกกับเขาในน้ำท่ามกลางใต้แสงจันทร์ในที่สุดก็สำริดผลสมใจหวังเสียที แหม...มันช่างคุ้มค่าสมกับที่ข้าอุตส่าห์ใช้สมองลงทุนวางแผนมาเป็นอย่างดีเสียตั้งหลายวัน
ดูสิร่างกายตึงแน่นของเพศบุรุษวัยขบเผาะที่มีหยดน้ำเกาะตามเนื้อตัวช่างดูเย้ายวนชวนให้น่าหลงใหล น่าขบกัดให้หายมั่นเขี้ยวเสียจริงๆเลยเชียว ยิ่งโดยเฉพาะตอนนี้ ตอนที่ผิวของน้องไกรทองถูกกระทบด้วยแสงจันทร์เพ็ญนวลผ่องด้วยแล้วร่างทั้งร่างก็ดูพร่างพราวสวยงามมีเสน่ห์ไม่แพ้ผู้ใดเลย
ใบหน้ายามเขินอายก็น่าเอ็นดู
ท่าทางที่พยายามข่มกลั้นเสียงร้องเอาไว้ก็น่าแกล้ง...ดูสิแค่หยอกเล่นนิดเดียวน้องไกรทองถึงกับบิดตัวเผลอครางเสียงหวานเชียว
ส่วนไอ้เรื่องที่กลัวว่าจะมีคนอื่นมาเห็น....หึหึ....ใครหน้าไหนมันจะมามองเห็นได้ ก็ในเมื่อบริเวณรอบๆบ้านหลังนี้จรดถึงในน้ำต่างล้วนถูกเขาใช้เวทย์บังตาขั้นสูงร่ายบดบังเอาไว้ตั้งหลายชั้นจนเป็นกำแพงหนา นอกจากจะบังตาพวกมนุษย์ได้แล้ว พวกที่มีฤทธิ์ทั้งหลายก็ถูกบังตาด้วย
เหอะ!...ฉะนั้นพวกที่คิดจะมาสอดแนมเขานะเหรอ...อย่าหวัง!
**************************** ***************************
นับวันพี่ชาละวันยิ่งหื่นเอ้า หื่นเอา เหมือนตาแก่ เฒ่าหัวงูเลยเนอะ
ใครเห็นด้วย.......ยกมือขึ้น........
ความคิดเห็น