ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END [Fic exo] อู่...บยอน ChanBaek ft.exo

    ลำดับตอนที่ #22 : Chapter 20(rewrite)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.01K
      538
      28 มี.ค. 66

    *มีพฤติกรรมของตัวละคร คำพูด ที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*


    Chapter 20

     

    ตากลมโตถลึงใส่แผ่นหลังเล็ก ที่โดนโอบประคองด้วยวงแขนแกร่งที่เคยเป็นของตนเดินออกไปกับพวกกลุ่มช่างอย่างไม่พอใจ ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวอย่างไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้เหมือนเดิม พร้อมๆกับการกระทืบเท้าอย่างหนักเพื่อระบายอารมณ์โมโห บ่งบอกได้ถึงนิสัยเจ้าอารมณ์และไม่ยอมลงให้ใคร ปากสวยขบกัดอย่างใช้ความคิด ก่อนจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา มือบางก็ล้วงหยิบโทรศัพท์เครื่องสวยออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดโทรออก

    “ว่าไงครับ”

    “เชสเซอร์กลับมาซ้อมแข่งแล้วนะ คุณสามารถเปิดโต๊ะพนันได้แล้วนะ เรนคิดว่าปลายปีนี้เชสเซอร์จะต้องได้แชมป์รายการนี้แน่นอน”เรนเล่า

    “จะเป็นไปได้เหรอที่รัก รายการปลายปีนี้ มีทั้งมาร์คเด็กหน้าใหม่ ไหนจะเจเล็ตอีก”

    ปลายสายพูดออกมาอย่างกังวล เพราะถ้าเขาเปิดแล้วเกิดไอเชสเซอร์มันแพ้ เขาไม่ต้องจ่ายพนันจนหมดตัวเลยรึไง

    “ไม่ต้องกังวลไปเลยครับ ผมคิดว่าเชสเซอร์สามารถคว้าแชมป์รายการนี้มาได้อย่างแน่นอน”เรนยังคงตอบกลับปลายสายไปอย่างมั่นใจ

    ปลายสายเมื่อได้ยินคำพูดและน้ำเสียงแสนมั่นใจของเรน ก็อดที่จะหวั่นไหวตามไปด้วยไม่ได้ เพราะโต๊ะพนันของตนก็ไม่ได้เปิดมานานหลังจากที่ไม่ได้มีการลงแข่งของอดีตแชมป์โลกอย่างเชสเซอร์ และเมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้วเห็นช่องทางทำเงินสุดท้ายก็เอ่บปากตอบตกลง

    “โอเค ผมเชื่อคุณครับ และหวังว่าคราวนี้มันจะทำกำไลให้เราอย่างงาม”

    “ครั้งนี้มันจะสามารถทำเงินให้เรามากกว่าเดิมแน่นอนครับ เพราะเป็นการคืนสนามของมัน เชื่อผมสิที่รัก”เรนเอ่ยปลอบปลายสายอย่างเห็นใจและสงสาร หลังจากที่ไม่สามารถหารายได้จากการเปิดพนันกับเชสเซอร์มาเกือบปี ซึ่งมันทำเอาทั้งเขาและคนที่เขารักต้องลำบากไม่น้อย

    “ครับ ผมจะคอยรับความสำเร็จของเรา”

    “แน่นอนที่รัก เรนรักคุณนะ”

    “หึหึ ผมก็รักคุณ”

    เรนเมื่อได้ยินคำหวานจากปลายสายเรียบร้อย ก็กดวางสายอย่างสุขใจก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา เมื่อคิดไปถึงแผนการต่างๆที่เขาวางเอาไว้เพื่อบังคับเชิดให้เชสเซอร์เดินตามที่เขาต้องการและกลับมาทำเงินให้พวกเขาสองคนอีกครั้ง

    “อารมณ์ดีอะไรครับคุณผู้จัดการคนสวย”

    “อุ้ย อย่ารุ่มร่ามน่าเปาโล”

    “หึหึ ไม่มีใครมาเห็นหรอกครับ”

    “อือ ใครจะไปรู้ละ อืออย่าล้วงเข้าไปสิ”

    “งั้นไปหลบมุมกันหน่อยไหมละครับ”

    เรนหันมามองตาคมสีเขียวเข้มที่กำลังลุกโชนไปด้วยอารมณ์ยิ้มๆ แล้วยกมือขึ้นลูบไล้ไปทั่วใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายอย่างยั่วยวนหยอกล้อ จนอีกคนหลงใหลไปกับสัมผัสแสนหวาบหวิวที่เรนมอบให้อย่างโงหัวไม่ขึ้น

    เปาโลเป็นหนึ่งในช่างที่เพิ่งรับเข้ามาช่วงที่เชสเซอร์ไม่อยู่ และเจ้าตัวยังเป็นลูกชายของหนึ่งในผู้ร่วมหุ่นของบริษัทอีกด้วย เรนที่เห็นว่ามีประโยคเลยลองคุยดู เพื่อหวังเอาไว้ใช้ประโยชน์ในหลายๆเรื่อง ซึ่งเด็กนี้ก็หลอกง่ายซะจนเรนอดหัวเราะในใจไม่ได้จริงๆ

    “ก็ได้ แต่นิดเดียวนะ เพราะวันนี้มีซ้อมแข่ง”เรนพูดเสียงหวาน พลางรูดซิบชุดช่างของคนตรงหน้าลงช้าๆ สลับกับปรายตามองใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าอย่างยั่วยวน

    “ยั่วแบบนี้จะช้าจะเร็วละครับ”

    “ก็ไม่รู้สิ อือ!!

    เมื่อทั้งสองสามารถหามุมลับสายตาได้แล้ว ก็ไม่รอช้าที่จะปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วเข้าโลมเลียมัวเมา หลงเข้าไปในรสชาติของความเร่าร้อน ที่สูบฉีดเลือดและความต้องการจนอุ่นทะลักออกมาไม่หยุด

     

    ………………………….

     

              “งั้นทดสอบฝีมือกันสักหน่อยแล้วกัน นายโอเคไหม”

    คุณรอย ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่าเป็นหัวหน้าทีมช่างเอ่ยถามกับผมด้วยท่าทางสบายๆ ไม่มีท่าทางกดดันแต่อย่างใด

    “ได้ครับ แค่อย่าให้ถึงกับผมต้องไปงัดล้อรถเปลี่ยนยางก็พอครับ”

    ผมพูดขำๆ หวนคิดถึงความทรงจำสมัยเรียนตอนวัยรุ่น ก็แม่งสมัยเรียนตรีที่ไทยนะ เล่นผมเอาจำฝังใจเลย กะเอากูตายบอกเลยไม่สงสารสภาพร่างกายกูสักนิด ทั้งรุ่น!ผมแบ้วสุดบอกเลย ตัวเล็กกว่าอิรุ้งหนึ่งในผู้หญิงสิบคนทั้งคณะอีกครับ แล้วรุ่นพี่เหี้ยๆแม่งก็ไปหาล้อรถสิบล้อมาจากไหนก็ไม่ทราบ เช้ามาแม่งรับน้องโดยการแบ่งน้องเป็นกลุ่มๆแล้วแจกชะแลงคนละอัน ให้รุ่นน้องร่วมใจกันงัดแล้วปะยางล้อรถสิบล้อควายแท้ๆ

    เฮอะๆแล้วผลเป็นไงรู้ไหมครับ วันนั้นงัดกันทั้งวันไม่ได้เหี้ยอะไรเลยครับนอกจากความสะใจของรุ่นพี่ แล้วพวกแม่งก็ตะโกนบอกว่า พวกมึงต้องโดน!!! เหมือนพวกกูโดนเว้ย แค่นี้!! ความเจ็บแค้นส่งต่อถึงรุ่นต่อรุ่นเลย ไอเวร ทำเอาพวกผมทั้งรุ่นเกือบตาย อิรุ้งแทบจะเข้าไปขย้ำคอไอรุ่นพี่ที่ตะโกนบอกพวกผมด้วยความสะใจ แต่สุดท้ายตอนนี้มันก็กลายเป็นเมียเขาแถมลูกสามแล้วด้วยครับ เพราะผมเพิ่งไปเยี่ยมมันมาเมื่อต้นปี

    “ฮ่าๆๆไม่ถึงขนาดนั้นหรอกเบ ฉันก็ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นหรอกนะ”คุณรอยหัวเราะเสียงดังแล้วอธิบาย

    “งั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหมพี่”เจลส่งชุดช่างมาให้ผม และตามมาด้วยรอยยิ้มกว้างๆที่เหมือนกำลังล้อเรียนผมอยู่

    กวนส้นตีนจริงๆไอเด็กนี้

    “ขอบใจ!”ผมถลึงตาพร้อมกับพูดเสียงเข้มใส่หน้ากวนๆนั้น

    แม่งไม่ยอมเลิกล้อผมเลยครับ ฮื่อๆๆๆๆ ก็หลังจากที่โดนไอเด็กยักษ์จูบต่อหน้าต่อตาพวกช่างทั้งก็เอาแต่ล้อผมกันไม่เลิก ล้อจนผมอยากจะเผลอเอาปะแจมาทุบหน้าเรียงคนจริงๆครับจะได้เงียบเสียงกันสักที แถมไม่วายมีการส่งสายตาวิบวับๆมาให้อีกด้วย จนมันน่ายกนิ้วจิ้มตาฉิบหาย เล่นไม่ดูรุ่น!ไอเด็กพวกนี้

    ผมถอนหายใจแรงๆรับชุดจากเจลมาแล้วถามทางไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า พลางเดินเอากระเป๋าไปวางข้างๆเชสเซอร์ที่กำลังฟังคุณรอยอธิบายเกี่ยวกับสภาพรถ อากาศ ร่วมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของทีม ซึ่งเจ้าตัวก็ละความสนใจนั้นหันมาหาผมแทน

    “ไปด้วย”

    “ไม่ต้องเลย ฟังคุณรอยอยู่นี้แหละเบบี๋ไปแป๊บเดียว”ผมเบรกเจ้าตัวทันที ไม่งั้นตามไปไม่จบแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าแน่นอน

    กูรู้กูโดนทุกวันครับยิ่งมีประเด็นร้อนเมื่อกี้อยู่ด้วย เรายิ่งต้องระวังเป็นสองเท่า ไม่งั้นกูเสียเอกราชนอกสถานที่แน่นอน แล้วประเด็นมันเป็นที่ทำงานด้วยไง คนอยู่เยอะแยะอีกต่างหากจะให้มาเอาท์ดอร์บ้าบออะไรไม่ทราบจ๊ะ กูไม่ยอมหรอกเว้ย!

    เชสเซอร์หน้ายับทันทีเมื่อเจอผมเบรกไม่ยอมให้ไปด้วย ถึงแม้ในสายตาของคนอื่นๆจะยังคงเป็นหน้ามึนๆ ไม่สนหินสนแดดใดๆในโลกก็ตาม แต่ผมดูออกไงครับว่าเจ้าตัวกำลังหนหวยสุดๆ

    “ไม่ใจอ่อนหรอกเว้ย เรื่องเมื่อกี้ยังไม่เคลียร์ด้วย หึ”ผมบ่นก่อนจะส่งเสียงขึ้นจมูก แล้วเดินหันหลังออกมาทันที แต่ก็ไม่วายหันกลับไปมองเชสเซอร์อีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็ยังคงมองผมอยู่เหมือนเดิม ก่อนความคิดชั่วๆบางอย่างมันจะแวบเข้ามาในสมองผม!

    หึหึ นาทีนี้มันต้องเอาคืนเว้ย เหมือนเจ็บแล้วไม่จำจริงๆว่ะกู ไบโพล่าแดกแน่นอนเพราะช่วงนี้มีความย้อนแย้งในตัวเองสูงจริงๆ

    ผมเหยียดยิ้มก่อนจะยักคิ้วใส่เชสเซอร์ อาศัยจังหวะที่คุณรอยหันไปสนในอย่างอื่นค่อยๆดึงคอเสื้อลงช้าๆ โชว์หัวไหล่ขาวๆของตัวเอง แล้วค่อยๆแลบลิ้นเลียหัวไหล่ช้าๆยั่วๆโชว์เชสเซอร์ ผมตั้งใจให้ท่าทางมันออกมายั่วสุดๆ ซึ่งเชสเซอร์ก็มองตาค้างเลยเว้ย ฮ่าๆๆ สะใจกูนักละครับ จากนั้นก็ปล่อยให้อยากแล้วจากไปอย่างคนมาเหนือ

    “ฮ่าๆๆๆๆ”

    “หัวเราะอะไรวะพี่”ไอบีส์น ช่างแก๊งเดียวกับไอเจลถามผม เมื่อมันเห็นผมกำลังหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย เดินเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

    “แกล้งคนมันสนุกๆจริงว่ะบีส์น”

    “แกล้งใครวะพี่”

    ไอเด็กตัวยักษ์กระแซะเข้ามาใกล้ๆผม หน้าตาหล่อๆตามสไตล์หนุ่มสเปนตาหวานแสดงอาการตื่นเต้นออกมาอย่างชัดเจน

    “จะใครอีกเล่า ก็ไอนักแข่งหน้าตายของทีมไง”ผมอธิบายยิ้มๆ

    “พี่แม่ง! โคตรแน่เลย”

    ผมคุยกับบีส์นอยู่อีกนิดก็เดินเข้ามาเปลี่ยนในห้องน้ำครับ เพราะห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าคนเยอะมาก มันไม่ใช่แค่ทีมของเชสเซอร์ไง เลยเลี่ยงมาเปลี่ยนชุดช่างในห้องน้ำดีกว่าส่วนตัวดี ก็อยากจะบอกว่าพอผมถอดเสื้อผ้าออกแล้วสวมชุดช่างเท่านั้นแหละ ความเหี้ยบังเกิดขึ้นทันตาเห็นเลย แม่ง!เหมือนลูกเอาชุดพ่อมาใส่ชัดๆ แล้วผมเป็นมนุษย์ไซส์เล็กไง แต่ชุดที่ไอเจลให้ผมมามันก็มาตรฐานเขานั้นแหละ แต่กูเนี้ยไม่ใช่ไงครับ!  คือแบบขากางเกงนี้ลงไปกองกันที่ข้อเท้าผมหมดเลย

    ทุเรศทุรังอนาถตัวเองฉิบ ฮื่อๆๆ สัดส่วนชุดคือพังพินาศสุด เอวชุดแทบจะอยู่ตรงตูด

    ผมยืนมองสภาพตัวเองก่อนจะไว้อาลัยให้กับความน่าอุบาทตรงหน้านิ่งๆ แทบไม่กล้าก้าวขาออกจากห้องน้ำเลย เพราะรับสภาพตอนนี้ของตัวเองไม่ไหวจริงๆ

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    หืม ใครมาเคาะประตูวะ ห้องข้างๆไม่ว่างรึไง

    “เบบี๋”

              ฮื่อๆๆ สวรรค์มาโปรดกูชัดๆ แต่เดี๋ยวก่อนนะ

    “ตามมาทำไมเนี้ย”ผมส่งเสียงถามเสียงลนลาน

    ก็คนมันระแวงนี้หว่า เมื่อกี้ยั่วไปด้วย โคตรจะไม่ปลอดภัยเลย

    “เอาชุดมาให้”

    “ฮะ ชุดอะไรอะ”ผมถามงงๆ แต่ก็ยังไม่เปิดประตูให้นะครับ เพื่อความปลอดภัย!

    “ชุดช่าง ตัวที่เจลให้มมามันใส่ไม่ได้ใช่ไหม เปิดประตูสิ”เชสเซอร์บอก

    ฮื่อๆๆ พ่อคนดี ทูนหัวของบ่าว กูรอดแล้วเว้ย

    ด้วยความดีใจทั้งหลายทั้งปวง ผมก็รีบเปิดประตูให้เชสเซอร์ทันทีอย่างไม่รีรอ เพราะผมจะไม่ยอมใส่ไอชุดช่างไซส์พินาศตัวนี้แน่ๆ โดยลืมไปว่าตัวเองในตอนนี้มีแค่กางเกงในตัวเดียวติดตัว แถมยังเป็นตัวสุดเซ็กซี่ซีทรูเห็นยันไข่ชมพูอีกด้วย

    “หึ ยั่วมากไปแล้ว”เชสเซอร์กระตุกยิ้มพลางกวาดสายตามองผม แล้วเลียปากตัวเองด้วยท่าทางหื่นกามสุดๆ

    “เห้ยลืม เอาชุดมานี้นะ!!!

    ผมที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองโป๊อยู่ ก็โวยวายเสียงดังลั่น พร้อมยื้อแย่งชุดมาจากมือของเชสเซอร์จนสำเร็จ เพราะเอานมแบนๆไปถูใส่แขนจนไอเด็กยักษฺเผลอ ผมก็ไม่ปล่อยให้จังหวะเสีย โดยการแย่งชุดช่างมาอย่างรวดเร็วแล้วปิดประตูใส่หน้าแม่งทันที

    ปัง!

    โอ๊ยอายเว้ย!!! หน้ากูไหม้หมดแล้วครับท่าน แล้วแถมไอหัวใจบ้านี้ มึงเต้นขนาดนี้ก็ไปซบอกไอเด็กยักษ์นั้นเลยไหมเล่าทำอะไรเกรงใจเจ้าของร่างแบบกูบ้างครับ กูพานหมดแหละครับจังหวะนี้

    ก่อนจะต้องกลับมาตกตะลึงกับชุดช่างในมือตัวเอง เชี้ย! สีชมพู! แม่งโว้ย นี้มันชุดเวรมหากาฬทลายพิภพที่โดนตาแก่แกล้งให้ใส่ โอ๊ย! แล้วอิผัวเวรไปเอามาได้ยังไงวะเนี้ย กูจะบ้า! นี้มันวันอะไรกันคราบบบบบ กูก้าวขาไหนออกจากห้องมาวะเนี้ย

    “เชสแล้วสีน้ำเงินละ ไม่ได้เอามาเหรอ”ผมตะโกนถามอย่างหงุดหงิด พลางมองชุดช่างสีชมพูแบ้วใจอย่างรังเกลียด

    ตามมาหลอกหลอนกูถึงนี้เลยนะมึง

    “ไม่ อันนี้แหละ”

    “แล้วทำไมไม่เอาสีน้ำเงินมา”

    “ชอบอันนี้”

    “โว้ยกูผู้ชายนะเว้ย”ผมโวยวายออกมาอย่างหัวเสียสุดๆ ตาก็จ้องชุดช่างสีสุดแบ้วใจอย่างแหยงๆ

    “น่ารัก”

    “ไม่เกี่ยวไหม”

    “ไม่รู้ แต่เบบี๋ต้องใส่ได้แล้วครับ เดี๋ยวจะช้าไปมากกว่านี้”

    แล้วกูเถียงอะไรได้ไหมเล่า แม่ง!

    “เออ!

    ผมกระแทกเสียงรับคำของเชสเซอร์ แล้วถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย มองชุดช่างสีชมพูในมืออย่างระเหี่ยใจ แต่สุดท้ายก็ต้องใส่มันเพราะไม่งั้นเดี๋ยวคุณรอยจะรอนาน ซึ่งนั้นผมไม่ค่อยโอเคเท่าไรเพราะคนเราจะต้องตรงต่อเวลาสิถึงจะดี

    ทุกอย่างพอดีเด๊ะเพราะมันเป็นชุดกูไงครับ พอเปลี่ยนเสร็จผมก็เปิดประตูหน้าบึ้งออกมาทันที ไม่โอเคเลยสักนิด แถมมาเห็นรอยยิ้มชอบใจของเชสเซอร์ก็ยิ่งหงุดหงิด กระจกห้องน้ำก็ทำหน้าที่ได้ดีเกิน สะท้อนภาพผมในชุดช่างสีชมพูสุดแบ้วชัดจัดๆ ตามด้วยข้างหลังชุดที่มีชื่อร้านและโลโก้สุดชิค พร้อมกับสโลแกนและเบอร์โทรศัพท์ก็ยิ่งเซ็ง

    “น่ารัก”

    “น่ารักบ้าบออะไรไม่คิดว่ากูจะอายเลยไง สีเด่นสะดุดตาขนาดนี้”ผมโวยวายอย่างหงุดหงิด แต่แก้มเสือกแดงเพราะเจอดาเมจสายตาวิววับๆของไอเด็กบ้าหูกางนี้

    ฟอด!!

    “เหมาะ”

    “อือ ไม่เอาเว้ย!”ผมดิ้นทันทีเมื่อเจ้าตัวรวบผมเข้าไปกอด พร้อมกับหอมแก้มผมแรงๆซ้ายขวาไม่ยั่ง

    “นิดนึง”อ้อนเสียงหวานเจี๊ยบ!

    โอ๊ยกูระทวยไหมถามใจดู ตัวนี้อ่อนเป็นขี้ผึ้งโดนไฟลน

    ไม่ทันได้โวยวายเลยครับ ริมฝีปากร้อนๆผสมกับกลิ่นบุหรี่เย็นๆ ก็บดขยี้ลงมาที่ริมฝีปากผมทันที ลิ้นซุกซนของเชสเซอร์ไล่เลียไปทั่วริมปากผม ดูดดึงปากผมจนพอใจนั้นแหละ ถึงค่อยๆส่งลิ้นชอนไชเข้ามาในปากของผมกวาดต้อนคว้านลึกจนผมแทบสำลัก ไล่ต้อนลิ้นผมราวหิวกระหาย ดูดกระฉากจนผมเจ็บไปหมด แต่มันกลับหวาดล้ำไปด้วยเสียงแผ่วของรสจูบ

    ผมเสียววาบในท้องน้อยทันที เมื่อมือร้อนๆของเชสเซอร์ล้วงเข้ามาในชุดช่าง อือตั้งแต่เมื่อไรวะเนี้ย นิ้วร้อนลากไล้ผ่านเนื้อผ้าบางเบาราวหยอกล้อแต่ผมกลับจุกอกแทบบ้า เห่อร้อนไปทั้งหน้า สลับกับหัวใจที่เต้นอย่างรุนแรงแทบหลุดออกมาจากอก ลุ้นระทึกจนหัวสมองว่างเปล่า เมื่อนิ้วร้อนๆนั้นลากไล้หยอกล้อกับก้อนเนื้อไวสัมผัสเบาๆราวกับแกล้ง ทำให้ผมเผลอครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว ท่ามกลางสายตาวิววับของเชสเซอร์ที่สนุกไปกับการหลอกล้อนี้ ก่อนเจ้าตัวจะเปลี่ยนมาเป็นบีบขยำที่เล่นเอาขาผมอ่อนแรงยืนแทบไม่อยู่ เสียววูบไปทั่วท้องน้อยจนเผลอครางออกมา

    “อือ! มะ ไม่เอา”

    “เหรอครับ แต่ดูเหมือนว่าตรงนี้จะไม่ใช่แบบนั้น”

    ยังไม่ทันจะได้ออกมาจากความเสียวซ่านเดิมที่ถูกมอบให้จนมวนท้องไปหมด ผมก็ต้องผวาเฮือกคว้าไหล่กว้างของเชสเซอร์ทันที เพราะจู่ๆเจ้าตัวก็ลากไล้ปลายนิ้วสอดแทรกเข้ามายังร่องรูด้านหลังอย่างไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวเลยสักนิด แต่ด้านหลังกลับตอดรัดทันทีเมื่อเชสเซอร์สอดนิ้วเข้ามา ทำเอาสมองผมมึนเบลอขาสั่นไปหมดแล้ว

    ไม่ไหวแล้วครับ!

    แผลบ!

    “อ๊า”ผมครางออกมาเสียงแผ่ว เสียวจนแทบทนไม่ไหว

    “หวาน”

    เชสเซอร์ไล่สายตากวาดมองไปทั่วตัวผมที่สั่นไหวเทาไปกับการหยอกล้อของเจ้าตัวอย่างชอบใจ ก่อนจะก้มลงมาดูดปากผมแรงๆอีกที สลับกับไล่เลียไปทั่วรอบปากผมจนพอใจนั้นแหละถึงหยุด

    ปากกูบวมหมดแล้วมั้ง ทั้งดูด ทั้งขยี้ขนาดนั้น

    “แฮ่กๆๆ เอานิ้วออก อือ”ผมบอกปากสั่น ขาสั่นมือก็ยึดแขนเชสเซอร์ไว้แน่น แต่ปลายนิ้วร้อนผ่าวกลับขยับไปมาทำร้ายผมสุดๆ

    “หืม อะไรนะครับ”ยังมีหน้ามาเลิกคิ้วใส่กูอีกครับ

    “นะ นิ้วอืออ เอาออก”ผมพยามทำเสียงเข้มสั่งเจ้าตัวด้วยความยากลำบาก

    “หึหึ ทีนี้เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ...”

    ผมเงยหน้าที่แดงไปหมด กับปากบวมๆมองเจ้าตัวอย่างสงสัย

    “...ว่าถ้าโดนยั่วแล้วไม่ได้เอามันจะเป็นยังไง”เจ้าตัวบอกผมแล้วยิ้มกว้างอย่างเจ้าเล่ห์

    ฮื่อๆๆๆ ผมโดนเล่นแล้วครับ

    ผมมองเชสเซอร์อย่างอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่าจะถูกอีกฝ่ายเอาคืนแบบเดียวกันแถมแรงกว่าอีกด้วย แต่ผมก็ไม่มีแรงพอที่จะโวยวายอะไรออกมาได้ เพราะตอนนี้เสียวไปทั้งตัว ขาสั่นแทบยืนไม่อยู่เพราะไอเด็กยักษ์มันสอดนิ้วเข้ามาสองนิ้วแล้ว แถมยังขยับสวนนิ้วเข้ามาจนผมเบลอไปหมด

    “สัญญาสิครับ ว่าทีหลังจะไม่เล่นแบบนี้อีก”

    “อ๊ะ เอาออกไปก่อนสิ อ๊า เบบี๋จะไม่ไหวแล้ว”

    กูจะไม่ไหวแล้วนะ ถ้ามึงยังแยงนิ้วเข้ามารัวๆแบบนี้

    ผมยังคงไม่ตอบคำถามของเชสเซอร์ แต่พยายามรวบรวมแรงทั้งหมด ผลักไอเด็กตัวยักษ์ตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นผลเลยสักนิด

    “ว่ายังไงครับ สัญญามา”ทีนี้แม่งงอนิ้วงัดเลย

    อ๊ากกกกกก กูจะไม่ไหวแล้ว โอ๊ยร่างกายห่าอะไรวะเนี้ย ทำไมมันขึ้นง่ายอย่างงี้

    สุดท้ายผมก็ต้องจำนนด้วยอารมณ์ ยินยอมพยักหน้ารับและส่งเสียงแผ่วเบาปนเสียงครางรับคำขอของไอผัวเวรตรงหน้า

    มึงอย่าเผลอเชียว! กูเอาคืนแน่!

    “สะ สัญญา”

    “หืม ว่าไงนะครับ”

    ยัง ยัง ยังเล่นไม่เลิก โอ๊ยกูจะไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวกระโดดปล้ำแม่งเลย ดีไหมจะได้สมใจมึง ไอเด็กเวรรรรรรร

    “เบบี๋สัญญา!”ผมเงยหน้าตะโกนสุดเสียงใส่หน้าเชสเซอร์ พร้อมกับถลึงตาใส่ตบท้ายอีกทีอย่างหงุดหงิด

    จุ๊บ!

    “น่ารักมากครับ”

    เชสเซอร์ยกยิ้มมุมปากเมื่อได้คำตอบที่พอใจ ก่อนค่อยๆถอนนิ้วออกจากช่องทางของผมเบาๆ ช้าๆ จนกูนี้ลุ่นเหงื่อแตกไปหมด เสียววาบๆมวนท้องไปหมด ฮื่อๆๆๆ ถ้ามีใครเข้ามาตอนนี้ชีวิตกูอับปางลงทะเลแน่ๆ เพราะท่าทางแม่งคือแบบพร้อมใส่พร้อมโยกกันแล้ว

    เฮ่อ ออกไปสักที โล่งเลยครับ

    “หึหึ ที่เหลือค่อยกลับไปต่อกันที่ห้อง”เจ้าตัวก้มลงมากระซิบข้างหูผม

    “อือ”หมดแรงจะโวยวายแล้วครับ

    “หึหึ”

    พอได้ดั่งใจก็อารมณ์ดีก้มลงมาจูบแก้มผม ที่กำลังยืนหน้าแดงปากบวมขาสั่นแทบจะหมดแรงเดิน จากการหยอกล้อสุดจังไรของแม่ง คราวหน้ากูไม่หาเรื่องเอาคืนแม่งแล้ว ไม่คุ้มเสียเลยแม่ง!

    กว่าผมจะมีแรงจนสามารถเดินกลับมาที่ค็อกพิทได้ ก็ปาเข้าไปกว่า 20 นาที  และพอก้าวเข้ามาด้านในก็เห็นเรนผู้จัดการเจ้าปัญหากำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้พลาสติกพร้อมกับเชิดหน้ารออยู่ก่อนแล้ว ส่วนพวกช่างก็ส่งเสียงแซวผมทันทีเมื่อได้เห็นชุดช่างสีชมพูสุดแบ้วใจ ซึ่งทุกอย่างมันก็ไปในทางเดียวกันก็คือ น่ารักเว้ย โดนเฉพาะแก๊งไอเด็กเวรเจลกับไอเด็กบีส์น ที่ถูกใจจนยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพรัวๆ

    ตีนกระตุกว่ะครับ อยากเอาฟาดปากคนจริงๆ แต่เกรงว่าจะไม่ถึงเพราะเสือกสูงกันฉิบหายเลย

    “ฮ่าๆๆๆ โคตรน่ารักเลยว่ะพี่”

    “นี้ถ้าไม่บอกว่าอายุเท่าไร พวกผมคิดว่าพี่ยังไม่จบเกรด12 นะเนี้ย”

    กูนี้โกรธจนควันออกหูเลยครับ แต่ไม่รู้จะด่าไอเด็กเวรพวกนี้ว่าอะไรดีแล้ว เพราะยังจุกกับจูบและโดนรุกข้างหลังอยู่ครับ เลยได้แต่ปล่อยให้พวกแม่งพล่ามไปจนกว่าจะหมดแรงนั้นแหละ เดี๋ยวมีแรงค่อยเอาคืนพวกแม่งทีหลัง

    “เหอะปัญญาอ่อนละไม่ว่า เรียกร้องความสนใจชัดๆ”

    เสียงเหน็บแนมดังขึ้นมาเบาๆ เหมือนไม่ได้จงใจ แต่เสือกกระทบกูเต็มๆซะเฉย

    ทุกเสียงเงียบลงทันตาเห็น ก่อนจะพากันแยกย้าย กริบอะบอกเลย ส่วนผมที่ได้ยินก็คิ้วขมวดเหมือนกัน มึงคิดว่ากูชอบไหมละวะที่ต้องมาใส่ชุดช่างอะไรแบบนี้มึงข้องใจนักก็ไปถามไอคนเอามาโน้นเว้ย!

    ก็ได้แต่โวยวายในใจ เพราะตอนนี้ต้องเก็บอาการเอาไว้ก่อน ไม่มีใครให้ท้ายไอเด็กยักษ์ก็ไปเปลี่ยนชุด ตรงนี้เลยมีแค่ผมกับพวกช่าง ซึ่งยืนกันเป็นสองกลุ่ม โดยมีฝั่งผมกับเรน และคุณรอยขั้นกลางระหว่างผมกับเรนอีกที

    “ไม่เอาน่าเรน อย่ามางี่เง่า ก็นายเป็นคนบอกเองว่าให้ทดสอบก่อน เราก็กำลังจะทดสอบอยู่ไง”คุณรอยพูดขึ้น

    ดีครับดี ใส่มันไปเยอะๆ เอาให้มันสำนึกกันไปเลยครับคุณรอย ผมหนับหนุนๆ อิอิ

    แม้ในใจผมจะแสนห้าวแต่จริงๆก็คือยืนนิ่งๆมองดูเรนโดนคุณรอยบ่นอย่างสะใจ อะๆอย่ามาว่าผมร้ายนะเว้ย ผมไม่โง่เต้นตามนะคราบ เรื่องอะไรจะต้องมาโดนด่าต่อหน้าเพื่อนร่วมงานในอนาคตด้วยละ ไม่คุ้มๆ

    “งั้นก็เริ่มเลยเถอะครับ มันเสียเวลามานานมากแล้ว”

    เรนทำเพียงยักไหล่ให้กับคำพูดของคุณรอย ก่อนจะหันมาจ้องผมอย่างดูถูกเพราะคงไม่คิดว่าน้ำหน้าอย่างผมจะทำงานช่างหนักๆได้

    เดี๋ยวรู้กัน หึ กูละอยากเห้นคนหน้าแตกจริงๆเลยเว้ย!

    “งั้นมาเริ่มเลยกัน เบรู้ใช่ไหมว่าทีมเราเป็นทีม F1 อันดับต้นๆของโลก”คุณรอยถามผมครับ

    แต่กูติดสตั้นเลยครับ เหวอแดกรับประทาน เอออออ ไม่รู้ว่ะครับเพราะเชสเซอร์ไม่ค่อยเล่าอะไรเกี่ยวกับทีม แถมผมก็ไม่ได้ถามแก๊งปลาสวายมาด้วยดิ

    ผมนิ่งก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ ซึ่งทุกคนก็กำลังมองมาทางผมและคงคาดหวังคำตอบดีๆจากปากผมแน่ๆ จนกลายเป็นกดดันกูกลายๆไปเลยครับ วิตกจริตจนเหงื่อไหลหลังเปียก ได้แต่ส่งยิ้มประจบแล้วพยักหน้ารับ ทั้งๆที่ในใจนี้กู่ร้องอย่างดังว่า กูไม่รู้ววววววว!!!!!

    “ครับ เชสเซอร์เล่าให้ผมฟังอยู่”

    เล่าหอยอะไร ถามเอาจากแก๊งปลาสวายทั้งนั้น เพราะเชสเซอร์แทบไม่พูดถึงเลยด้วยซ้ำ

    “งั้นเรามาเริ่มทดสอบกัน เอาตั้งแต่เครื่องยนต์ที่เอาไว้ใช้สำหรับแข่งของรถสี่ล้อทั้งหมดเลยนะ”คุณรอยพูดยิ้มๆ เหมือนรู้ทันผมเมื่อกี้เลยวะ

    แต่คำถามนี้ผมไม่พลาดแน่นอนครับ กูรู้กูเรียนมาเว้ย ฮ่าๆๆๆ

    จากนั้นการถามตอบพื้นฐานทั่วไปของพวกเครื่องยนต์กลไกรถในแบบต่างๆก็เริ่มขึ้น ยาวไปจนกระทั้งเครื่องยนต์แต่งมากมายร่วมไปถึงเทคนิคต่างๆ เพราะคุณรอยรู้มาจากเชสเซอร์ว่าบ้านผมเปิดอู่ซ่อมรถจำพวกนี้ตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว ผมก็เลยเปิดองค์ความเทพของตัวเองให้ทุกคนได้ประจักครับ ฮ่าๆๆ พากันอึ้งไปเป็นแทบๆบอกเลย นี้ไม่อวยตัวเองนะครับ แต่ผมเก่ง! ตาแก่ฟูมฟักมาอย่างดีตั้งแต่เด็กบอกเลย

    ลูกบ้านอื่น 6-7 ขวบวิ่งเล่นกันให้วุ่นวาย แต่ผมเป็นลูกมือหยิบเครื่องมือซ่อมช่วยตาแก่แล้ว

    “สมกับบ้านเปิดอู่ครบวงจรรับซ่อมรถทุกประเภทจริงๆ”คุณรอยชม

    “ครับ ผมโชคดีตรงที่ว่าพ่อเปิดซ่อมทุกอย่างถ้ามันเป็นรถ ผมเลยได้หลายๆอย่างมาจากตรงนั้น”ผมตอบ แล้วเหลือบไปยักคิ้วยั่วเรน ซึ่งเจ้าตัวก็มีท่าทีหมั่นไส้ผมหนักกว่าเดิมอีก

    แล้วใครสนกันละจ่ะ หึ กูเบซอย 8 มีปัญหาเคลียร์กันได้เว้ย แมนๆ

    “ก็ไม่ได้ดีเดอะไรมากมายสักหน่อย”เสียงจิกกัดก็ดังมาเป็นระลอก

    “เงียบ เรน”

    เชสเซอร์เดินหน้ามึนเข้ามา ทันได้ยินเสียงจิกกัดของเรน ก็หันไปจ้องหน้าเจ้าตัวนิ่งๆพร้อมกับเอ่ยปากเสียงเข้ม จนเรนชักสีหน้าไม่พอใจเหมือนกัน

    “คิดว่าเรนอยากจะพูดกับมันนักเหรอเชส เรนเสียใจมากนะบอกเลย เรนไม่ยอมแน่ๆ”เจ้าตัวพูดเสียงอ่อย ดูน่าสงสารสุดๆ จนผมอยากจะเอาตีนไม่หยุมหน้า

    อึยหงุดหงิดเว้ย เมื่อกี้ยังมีแรงจิกกัดกูอยู่เลย ไหงตอนนี้กลายมาเป็นหมาหงอยแบบนี้ละจ่ะ

    ทั้งเรนทั้งเชสเซอร์จ้องหน้ากันนิ่งๆ ไม่มีใครยอมใครโดยมีผมยืนอยู่ตรงกลางเป๊ะๆ อย่างไม่น่าให้อภัยสุดๆเลยวะ แต่สุดท้ายก็ยังคงเป็นคุณรอยเจ้าเก่าที่ทนไม่ไหว ออกโรงห้ามสงครามประสาทระหว่างนักแข่งมือหนึ่งของทีมและผู้จัดการคนเก่ง

    “พอๆ งั้นเรามาลงมือกันเลยดีกว่า อยากเห็นช่างสายชิคทำงานเต็มแก่ละ ว่าจะสมกับที่บ้านเปิดอู่และเชสเซอร์รับรองไหม”

    “ได้ครับ”ผมพยักหน้ายิ้มๆ

    “ก็หวังว่าจะเก่งสมกับที่ปากพูดออกมาแล้วกัน”เรนไม่วายร่วมวง

    “คอยดูแล้วกัน”ผมหันไปตอบเรน

    เรนปรายตามองผมอีกครั้งก่อนจะเดินเชิดหน้าเข้าไปในโรงเก็บรถขวามือผม ซึ่งพวกช่างก็ไปร่วมตัวกันอยู่ที่นั้นแล้ว เพราะตอนนี้ต้องเริ่มจูนเครื่องให้เชสเซอร์เริ่มซ้อมแล้วครับ

    “ไหวไหม”เขสเซอร์ถามผมน้ำเสียงเจือไปด้วยความเป็นห่วงก่อนจะรวมผมตัวเข้าไปกอด

    “ไหวสิ อย่าห่วงเลย”ผมตอบเชสเซอร์เบาๆ แล้วกอดตอบพลางซบหน้าลงกับอกกว้างแล้วสูดกลิ่นหอมของร่างสูงเต็มปอด เพื่อรวบร่วมกำลังใจ

    ก็ไม่เคยต้องมานั่งซ่อมรถโชว์ใครมาเกือบจะห้าปีแล้วนะ มันก็ต้องมีประหม่าบ้างเป็นธรรมดาไหมละครับ

    ฟอด!

    “ตั้งใจละ”

    “อือ เดี๋ยวจะโชว์เทพให้ดู”ผมพูดอวยตัวเอง

    ผมยืนนิ่งๆให้เชสเซอร์นัวเนียอยู่อีกแป๊บ ก่อนจะจูงแขนพากันเข้าไปในโรงเก็บรถบวกกับห้องเทคนิค ที่ตอนนี้พวกช่างเทคนิคฯกำลังวุ่นวายในการจูนเครื่อง ยกเครื่อง ทดสอบระบบเครื่องยนต์ต่างๆ ยุ่งเหยิงไปหมดขนาดไอสองคู่ซี้เจลบีส์นยังตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้วุ่น และที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางห้องคือ เครื่องF1 ที่ยังประกอบไม่เสร็จ มันตั้งอยู่บนแท่น ล้อมรอบด้วยอุปกรณ์ทางเทคนิคมากมาย ที่ผมเห็นแล้วตาวาววับอยากเข้าไปลูบคลำมันสักครั้งให้เป็นบุญมือ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถเข้ามาเป็นช่างเทคนิคให้กับกีฬาแสนแพงระดับโลกนี้ได้

    ผมมองทุกอย่างในห้องนี้อย่างตื่นเต้น ตาวาววับเหมือนเด็กเห็นของเล่นถูกใจ ก่อนจะปรี่เข้าไปหามันอย่างชอบใจ ใจนี้เต้นตึกตักไปหมด ตื่นเต้นที่จะได้ลงมือกับมัน ฮื่อๆๆๆ ตาแก่เขามีความสุขจังเลยยยยยยย อยากจะเอาไปอวดพวกแก๊งปลาสวายจริงๆครับ

    เออ ว่าแต่ถ่ายรูปได้ไหมวะ จะได้เก็บไว้อวด

    “หึหึ ชอบละสิ ตาเธอมันบอกฉันแบบนั้น”

    “ครับ ผมอยู่กับมันได้ทั้งวันเลย”

    “ฮ่าๆ งั้นมาดูใกล้ๆ แล้วเธอจะยิ่งหลงรักเจ้านี้ เหมือนที่ฉันหลงรัก”

    คุณรอยส่งเสียงชวนผมพร้อมกับกวักมือเรียก ซึ่งผมก็ยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้นที่จะได้เข้าไปดูเครื่องยนต์ F1 ใกล้ๆ และพอเดินเข้าไปก็เห็นเรนกำลังยืนมองช่างจูนเครื่องอยู่เหมือนกัน ผมเลิกคิ้วให้กับภาพตรงหน้าอย่างสงสัย จนคุณรอยส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆเหมือนเข้าใจกับคำถามในใจของผม

    “เห็นยังงันก็พอตัวเหมือนกันนะเรน”

    “อ่อ ครับ”ผมพยักหน้า พยายามไม่เบ้ปากใส่อย่างหมั่นไส้

    ให้พื้นที่กูได้ยืนบ้างครับ ไม่ใช่เก่งไปซะทุกอย่าง หมั่นไส้เว้ย

    ผมทำหน้ายู่ยี่จนเชสเซอร์เดินเข้ามายีหัวจนยุ่งไปหมด สุดท้ายผมต้องเอาหัวหนีไม่งั้นหัวคงยุ่งเป็นรังนก แล้วถลึงตาใส่เจ้าตัวอีกทีด้วยความเซ็ง ก่อนเจ้าตัวจะยกยิ้มมุมปากให้เหมือนเป็นกำลังใจ ซึ่งมันก็ช่วยได้ครับ เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้ผมมีกำลังใจมากขึ้น ก่อนเจ้าตัวจะโดนเรียกให้ลงไปนั่งในรถ F1 เพื่อให้ลองพวกพวงมาลัย เกียร์ ที่นั่ง การขยับขาเปลี่ยนเกียร์ ว่าถนัดไหมติดขัดรึเปล่า

    ผมศึกษาเตรียมตัวมาเหมือนกันครับ ของพวกนี้มันจุกจิกมากหลายขั้นตอนสุดๆ เพราะถ้าพลาดหรือทำอะไรชุ่ยๆ มันไม่ใช่แค่รถมูลค่านับพันล้านที่จะเสียหายแต่อาจจะถึงขั้นเสียนักแข่งอันมีค่าไปด้วย ซึ่งกีฬาความเร็วชนิดนี้ไม่ใช่ว่าใครๆจะขึ้นมาเป็นนักแข่งได้ง่ายๆเสียเมื่อไร

    “โชว์ให้ดูหน่อยละกันว่านายมีกึ๋นขนาดไหน”

    เรนเงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วบุ้ยปากไปทางโน้ตบุ๊ก ที่เอาไว้สำหรับจูนเครื่องสร้างแบบจำลองก่อนลงวิ่งของจริง เพื่อจำกัดเสียหายของอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งแต่ละชิ้นมันมีมูลค่าไม่น้อย

    ของถนัดกว่าซ่อมเครื่องอีก ไม่อยากจะคุยเลยว่ะครับ

    ผมกระตุกยิ้มแล้วเดินลงไปนั่งเก้าอี้ กวาดสายตามองตัวเลขต่างๆ ก่อนจะหันไปถามข้อมูลต่างๆจากคุณรอย เพราะการจำลองการวิ่งอันดับแรก เราต้องรู้เรื่องสภาพสนาม รูปแบบ อากาศ ร่วมไปถึงนิสัยของคนขับด้วย อันหลังนี้ตาแก่สอนมาครับ เพราะตาแก่มักบอกเสมอว่าต่อให้เราจูนเครื่องเก่งขนาดไหน แต่ถ้ามันไม่ไปกับคนขับก็คือศูนย์!

    “สภาพสนามยังไงดีครับ แล้วเชสมีนิสัยเสียเรื่องการขับรถไหม”ผมหันไปถามคุณรอย

    เจ้าตัวเลิกคิ้วแล้วยิ้มๆ พยักหน้าเข้าใจว่าผมเป็นไม่ใช่เด็กเส้นง่อยๆที่เชสเซอร์พามาถ่วงความเจริญของทีมแน่ๆ และผมเข้าใจระบบการทำงานกับฝรั่ง เส้นไม่เส้นเขาไม่สน เขาสนแค่ว่าเราแน่แค่ไหนเท่านั้น และสามารถทำประโยชน์ให้กับทีมได้มากน้อยแค่ไหน

    “เอาแบบสิบรอบสนาม ทางโค้งไม่มาก นิสัยเสียของเชสเซอร์คือชอบเร่งเครื่องเวลาเข้าโค้ง จนยางสึกก่อนถึงรอบเปลี่ยน”

    “อืม สมกับเป็นนิสัยเสียจริงๆนั้นแหละ”ผมพึมพำ แล้วเริ่มคำนวณตัวเลขต่างๆ มือก็รัวคีย์บอร์ทไปด้วย

    “ก็หวังว่าจะเก่งอย่างที่พูดนะ”

    “หึ คอยดูแล้วกัน”ผมหันไปย้อนอย่างไม่ยอมเหมือนกัน

    “ทนเอาหน่อยนะ เดี๋ยวหายนอยด์เรื่องเชสเซอร์ก็ดีเอง”คุณรอยก้มลงมาส่งเสียงปลอบใจ

    เหอะๆ คงยากว่ะครับ ทรงละ เหมือนผมมาแย่งบ่อเงินบ่อทองไปไง

    ผมเลิกให้ความสนใจเรนแล้วกลับมานั่งพิมพ์ตัวเลข คำนวณทุกอย่างที่เป็นแผนอยู่ในหัวลงคอมฯอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจเสียงถากถางของเรนที่ดังมาเป็นระยะเรื่องเวลาที่ผมค่อนข้างช้ากว่าช่างของเขา แต่ผมก็ไม่สนใจนะ ผมชอบทำงานละเอียดรอบคอบอีกอย่างการวางแผนเขาไม่ได้แข่งกับเวลาแต่มันต้องถกกันในทีม และลงสนามปรับเปลี่ยนจนกว่าจะได้ผลรับเป็นที่น่าพอใจต่างหากละ และยิ่งเชสเซอร์มีนิสัยเยเรื่องเลี้ยวทางโค้งด้วยความเร็ว ผมยิ่งต้องคำนวณความเร็วสุดเวลาเลี้ยวให้ละเอียด ร่วมไปถึงการเกาะถนนของล้อเวลาเชสเซอร์เลี้ยวอีก ทุกอย่างจะต้องปลอดภัยที่สุด

    ผัวใคร ใครก็ห่วงไหมวะแถมเสือกมีนิสัยการขับรถที่โคตรจะเสียและเสี่ยงมากๆอีก

    “มัวแต่งงกับตัวเลขอยู่เหรอครับ คิคิ”เรนส่งเสียงเร่งพร้อมกับขำไปด้วย

    ผมฟังคำพูดของเรนผ่านหูไม่ได้สนใจ แล้วคำนวณค่าต่างๆไปเรื่อยๆสบายๆ อีกอย่างเชสเซอร์ก็ไม่อยู่ด้วย ไม่มีพวกไงประเด็นเลย ฮื่อๆๆๆ เจ้าตัวเอารถอีกคันไปลงสนามแล้วครับ เห็นคุณรอยบอกว่าคันที่กำลังตั้งเครื่องอยู่เป็นลูกรักของเชสเซอร์ และเป็นคันที่เจ้าตัวขับประสบอุบัติเหตุด้วย

    “เงียบแบบนี้สงสัยจะไม่ไหวแล้วมั้งครับคุณรอย”เรนยังคงงี่เง่าไม่เลิกครับ

    “เงียบๆสิเรน มันกวนรู้ไหม”คุณรอยดุ

    “ก็ผมพูดจริงนิน่า ขนาดเจลยังทำได้เร็วกว่านี้เลยด้วยซ้ำ”เจ้าตัวยู่ปากตอบ

    “แต่เจ้าเจลมันผิดเยอะ ของอย่างงี้มันต้องค่อยๆทำไป ต้องละเอียดรอบขอบ”คุณรอยพูดอย่างใจดี

    “มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอกครับ”

    โอ๊ยอะไรมันจะจิกกัดผมไม่เลิกขนาดนี้วะครับ เดี๋ยวทนไม่ไหวคว้าชะแรงได้จะฟาดให้ยับเลยแล้วอย่ามาหาว่ากูรุนแรงนะเว้ย

    “คุณเรนครับ ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณเป็นผู้จัดการมากี่ปี แต่ผมเป็นช่างมาตลอดชีวิต ผมรู้แค่ว่างานพวกนี้เราไม่เอาความเร็วเข้าว่าหรอกครับ เพราะงานมันต้องละเอียด รอบคอบและครอบคลุมทุกอย่าง ทั้งยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของนักแข่งคนสำคัญ ที่เป็นตัวทำเงินให้ทีม จริงไหมครับ เพราะถ้าเชสตายกว่าจะหาเด็กเก่งสักคนมาได้ ก็แทบจะอดตายกันหมดแล้ว หรือจะให้ผมทำชุ่ยๆก็ได้ แล้วให้เชสกลับไปนอนง่อยอยู่โรงพยาบาลอีกทีก็ไม่เกี่ยงนะ”

    ผมพูดยาวเหยียดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง จ้องมองตัวเลขและภาพจำลองการวิ่งวุ่นวายต้องหน้าจนเสร็จ แล้วถึงหมุนเก้าอี้มาเผชิญหน้ากับเรน ที่ตอนนี้หน้าดำหน้าแดงไม่พอใจคำพูดผม ที่มันคงจะจี้ใจดำเจ้าตัวเข้าให้อย่างแรง

    “แก!

    “พอๆ เรน คุณผิดนะ”คุณรอยพูดเสียงเข้ม คงจะเริ่มทนไม่ไหวแล้วจริงๆนั้นแหละ

    ฮ่าๆๆ หน้าเบี้ยวเลยเว้ย เออให้มันรู้ซะบ้างว่าเล่นอยู่กับใคร วันหลังจะได้รู้ว่าอย่ามาแหยมกับ เบซอย 8

    บรรยากาศในห้องเครื่องเงียบกริบ พวกช่างต่างพาก้มหน้าก้มตาทำงานกันยกใหญ่ บางคนก็ฟีดตัวเองออกไปเงียบๆ เหลือผมที่กำลังมองหน้าให้เรนนิ่งแต่กลับเลือกคิ้วใส่เจ้าตัวอย่างเหนือๆ กับเรนที่หน้าตาเบี้ยวๆและคุณรอยที่ถอนหายใจ กับช่างอีกคนที่มองผมไม่ค่อยจะพอใจ ซึ่งผมได้ยินเจ้าบีส์นเรียกเขาว่าเปาโล หน้าค่อนข้างเด็กน่าจะรุ่นเดียวกับพวกเจล

    สงสัยมีคนอยากจะลองของเพิ่มละมั้ง หน้าตากูไม่คงเรียกตีนน่าดู หึหึ

    “เอาละ ไหนขอผมดูหน่อยได้ไหมเอ่ย”คุณรอยเดินเข้ามาหาผม

    “ได้ครับเสร็จแล้ว”

    “งั้นเบเริ่มอธิบายได้เลย”

    ผมพยักหน้ารับก่อนเจ้าตัวจะนั่งลงข้างๆ ก็เริ่มอธิบายแผนและการตั้งเครื่องทั้งหมดทันที พร้อมกับเปิดข้อมูลในเครื่องประกอบไปด้วยในตัว คุณรอยฟังพร้อมกับพยักหน้าไปด้วย ถามขั้นตอนทุกอย่างละเอียดยิบ จนแกกระจ่างในทุกๆเรื่องนั้นแหละเจ้าตัวถึงพยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ

    “เยี่ยมไปเลยครับ ไม่คิดว่าตัวเล็กๆแบบนี้จะเก่งขนาดนี้”

    “ขอบคุณครับ”

    “ก็ไม่เห็นจะเท่าไรเลย”

    ผมว่าเรนแม่งเริ่มปัญญาอ่อนแล้วละ บางทีควรแยกแยะบ้างเด้อ

    “จะหาเรื่องให้ได้ว่างั้นเถอะ”ผมหันมาถามเรน       

    เจ้าตัวเลิกคิ้ว แล้วยักไหล่ทำหน้าเหลอหลาตกใจ ได้น่าหมั่นไส้สุดๆ

    “เปล่า ก็แค่พูดความจริง”เจ้าตัวสวน

    โอ๊ยกูโมโหหลายเด้อ มันจะอะไรกับกูนักหนาวะ ถ้าจะมาหงุดหงิดเรื่องเชสเซอร์แล้วพาลมาลงกับผมเนี้ยนะ มันไม่ได้ผิดที่กูสักนิด มันผิดที่มึงล้วนๆเลยนะครับ สำนึกดิ เวร ความผิดตัวเองเล็ดเท่าฝุ่น

    “ความจริงหรือหาเรื่องกันแน่วะ”ผมเริ่มโมโห

    แม่ง นิอุสาอดทน ไม่อยากมีปัญหาแล้วนะเว้ย

    “ก็ความจริงไง”

    ลอยหน้าลอยตาตอบโคตรน่าหมั่นไส้ จนอยากจะทุบด้วยสันมือจริงๆ

    เคร้ง!

    “จะเอาใช่ปะ”

    ไม่ทงไม่ทนมันแล้วเว้ย

    ผมลุกจากเก้าอี้ทำงานหน้าตาหาเรื่องสุดๆ แล้วเตะปะแจที่อยู่ข้างตีนตัวใส่เรนอย่างโมโห จนมันกระเด็นเกือบถูกข้างแห้งๆของแม่ง ถ้าหลบไม่ทันงานนี้มีคนได้เลือดบอกเลย ปะแจตัวไม่เล็กนะบอกก่อน

    “เฮ้ย!

    “แก มันจะมากไปแล้วนะ คิดว่าเชสให้ท้ายใช่ไหมถึงมาทำนิสัยแบบนี้!”เจ้าตัวโวยวายเสียงดังทันทีอย่างไม่พอใจสุดๆ

    “เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับเชสเว้ย มึงกับกูล้วนๆเลย ใครงี่เง่าก่อน มึงหรือกูเรน มึงคิดให้ดีๆนะ อายุน้อยกว่ากูแล้วมาทำสันดาลบ้านไม่สอนใส่คนอื่นเขา”

    ทั้งประโยคนี้ศัพท์แสลงทั้งนั้นกูบอกเลย กูไปเมืองนอกไม่ใช่แค่เรียนนะเว้ยถลกแขนเสื้อพร้อมลุย ไอสัดเจ็บตัวกันไปข้างงานนี้ ปากแจ๋วๆเนี่ยกูอย่างชอบ!

    “เออ มึงกับกูนี้แหละ”เรนเดินเข้ามาหาผมอย่างไม่ชอบใจเหมือนกัน

    “ดีมึงออกมาข้างนอกเลยนะ ทุกคนไม่ต้องห้ามครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนแถวนี้มันจะเก่งแต่ปากรึเปล่า”

    ผมชี้หน้าเรนตะคอกใส่อย่างเอาเรื่อง พร้อมกับหันไปบอกพวกช่าง โดยเฉพาะคุณรอยให้ไม่ต้องเข้ามาห้าม

    กูจะเอาให้จำเลย

    “เหอะใครกันแน่ที่อย่าเก่งแต่ปาก แล้วกูจะบอกไว้ตรงนี้เลยนะ กูไม่ยอมเลิกกับเชสแน่นอนฉะนั้นมึงมันแค่ชู้! ตอแหลแอบกินผัวคนอื่นลับหลัง”

    ผลัวะ!

    กูจะไม่ทนครับ ปากดีนัก!

    นาทีนี้ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เพราะถือว่าผมกับมันตัวเท่าๆกันแต่กูบอกเลยว่าแรงกูกินขาด อีประเภทผอมๆอย่างเนี้ยจะไปมีปัญญาทำอะไรผมได้ ก็แค่ปากดีไปวันๆเท่านั้นแหละ

    กูนี่ง้างหมัดสัดเข้าเต็มปากดีๆของมันจนเลือดสาด ตัวแห้งๆของแม่งก็ล้มลงไปกองกับพื้นส่งเสียงแหกปากร้องเหมือนโดนเชือดทันที

    “เฮ้ย!!!! เบ/เรน”

    บรรดาช่างที่แอบมองเราอยู่ส่งเสียงร้องตกใจกันยกใหญ่ คงไม่คิดว่าผมจะต่อยเรนจนล่วงลงไปกองกับพื้นและเตรียมจะเข้าไปซ้ำมัน

    “มึงคิดว่ามึงต่อยคนอื่นเป็นคนเดียวเหรอฮะ”

    เรนที่กุมหน้าอยู่กับพื้น ถีบเข้าที่หน้าแข้งผมอย่างแรงจนผมล้มหงายหลัง

    “โอ๊ยหลังกู ไอสัด! เย็ดแม่ง”

    น้ำตาเล็ดเลยกู กระดูกกระเดี้ยวอายุ 30 ของกูววววว

    ผลัวะ

    ผมที่กำลังลูบหลังตัวเองเพราะเจ็บจากการล้มผสมกับกิจกรรมบนเตียงเมื่อคืน ก็ถูกเรนขึ้นคร่อมทันทีพร้อมกับโซยหมัดใส่หน้าจนหน้าหัน จนได้รสเลือดในปากปากครับ

    “มึงอย่าคิดว่าจะแย่งเชสไปได้ง่ายๆนะ”

    ถุย!

    “เชสไม่ใช่ควายที่จะให้คนอย่างมึงจะมาจูงจมูกได้หรอกนะ!

    ผมถุยน้ำลายปนเลือดออกแล้วดิ้นอย่างแรงจนเรนหงายหลัง หลุดออกจากการคร่อมบนตัวของผม

    ผลัวะ

    ผมก็ได้โอกาสซัดคืนทันที งานนี้สัดกันนัวกูบอกเลย ไม่มีใครยอมใคร เรนเห็นหยิ่งๆแบบนี้ก็ร้ายไม่ใช่เล่นเหมือนกันครับ ทั้งตบทั้งข่วนผม จนผมเจ็บไปทั้งตัว แต่ผมก็ไม่ยอมเหมือนกันสวนกลับไปชนิดที่ กูเจ็บมึงต้องเจ็บยิ่งกว่า จังหวะที่ผมได้เปรียบพวกช่างก็รีบเข้ามาแยกเราออกจากกันทันที เพราะเละด้วยกันทั้งคู่แล้ว

    “พอครับๆๆๆ”

    ไอเจลเข้ามารั้งแขนผมสองข้างไว้อย่างแน่นหนาจนขาผมลอยไม่ติดพื้น เพื่อกันไม่ให้ผมวิ่งเข้าไปสัดกับเรนอีก ที่สภาพตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างจากผมซํกเท่าไร

    “แยกๆๆๆๆ”

    “สัดปล่อยกูเว้ย!!! มึงจะมาห้ามทำไมวะไอเจล กูจะต่อยให้ปากมันยับจนไม่มีแรงเห่าหอนใส่ชาวบ้านเขาอีก”ผมโวยวาย ตาจ้องเขม็งไปที่ไอเรนอย่างเอาเรื่อง โดยตอนนี้มันมีช่างเปาโลประคองอยู่

    “มึงคิดว่ากูกลัวมึงเหรอฮะไอชู้ มึงทำให้กูต้องเลิกกับเชส”เรนโวยวายชี้หน้าผมอย่างแค้นเคือง แล้ววิ่งเข้าใส่ผมทันที ในจังหวะเผลอ

    ผมก็ดิ้นๆจะให้ปล่อยแต่ไอเจลไม่ยอม แถมเสือกรัดแขนผมแน่นกว่าเดิมอีก จนเรนมันเงื้อมือจะต่อยผมนั้นแหละครับ กูเลยใช่แขนไอเจลที่รั้งผมอยู่นี้แหละให้เป็นประโยชน์ เหวี่ยงตัวขึ้นแล้วขาคู่ใส่มันจนหงายหลังลงไปกองกับพื้น แหกปากร้องโวยวายหนักกว่าเดิม ท่ามกลางเสียงร้องตกใจของพวกช่างที่ได้เห็นฟรีคิกกลางอากาศของผม ที่ยันเข้าใส่อกมันเต็มๆ

    ไงละมึง อยากจะรั้งกูดีหนัก ผู้จัดการมึงเลยต้องโดนตีนจังๆแบบนี้แหละ

    “ฮ่าๆๆ ควาย วิ่งเข้ามาหาตีนแท้ๆ โง่!”ผมหัวเราะเสียงดัง ไม่กลัวเจ็บปากไม่กลัวเลือดทะลักเพราะตอนนี้สะใจสุดๆ

    “มึง”เรนตะโกนเสียงดังอย่างไม่ยอม แล้ววิ่งเข้าใส่ผมอีกอย่างโมโหสุดๆ

    จังหวะนั้นผมสะบัดตัวอย่างแรง เผลอใส่ซอกเข้าที่หน้าของไอเจลอย่างแรงไม่ได้ตั้ง จนมันหงายหลังปล่อยผมเป็นอิสระ ผมก็วิ่งเข้าใส่เรนทันที จ้วงเข้าที่หน้าเต็มๆพร้อมๆกับที่มันตบเข้าที่แก้มขวาซ้ำที่มันแตกมุมปากจนปวดตุบๆ

    เราสองคนเริ่มตะรุมบอลกันอีกครั้งอย่างที่ไม่มีใครยอมใคร จนเละไปหมดทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ตามตัวตามแขน และพวกช่างที่พยายามห้ามเราสองคนก็โดนลูกหลงกันไปหมด

    “เบบี๋!!!!

    เพียะ!

    จังหวะที่ผมสะดุ้งเสียงเชสเซอร์ เรนมันก็อาศัยจังหวะนี้แหละหวดเข้าเต็มๆแก้มผมจนหน้าหันเลย ผมเห็นเชสเซอร์รีบวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาทันที นาทีนั้นไม่รู้อะไรมันจุกเต็มอก เจ็บคอ เจ็บตาไปหมด ตามมาด้วยความรู้สึกเจ็บแสบไปทั่วร่างกายที่มันปะทุขึ้นมาอย่างไม่สามารถอดกลั้นเอาไว้ได้ พร้อมๆกับน้ำตาที่มันค่อยๆไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

    “เชส ฮื่อๆๆๆๆๆๆ”

    ผมร้องไห้อกมาอย่างสุดกลั้น เมื่อเชสเซอร์เข้ามาแยกผมกับเรนออกจากกัน แล้วอุ้มผมเข้าไปกอดแนบอก ซึ่งผมก็เอาขาเกี่ยวเข้าที่เอวของเจ้าตัวแน่นไม่ปล่อยจนเหมือนลูกลิง

    “นี้มันเรื่องอะไรกันครับ”เชสเซอร์ถามเสียงเข้ม

    “เหอะเชสยังจะมาถามอีกเหรอ ก็ลองถามแฟนตัวดีของเชสดูสิ นี้แค่วันแรกนะ”เรนโวยวายอย่างเกรี้ยวกราดเสียงแหลมสูง

    ฮื่อๆๆๆ แล้วมันเพราะใครกันละวะ ไม่ใช่มึงหาเรื่องกูก่อนรึไง เจ็บไปหมดทั้งตัวแล้ว กู 30 แล้วนะเว้ย ไม่ใช่เด็กๆ ปวดไปทั้งตัว แสบไปหมด

    “ใจเย็นๆเรน เชสเซอร์ด้วย แล้วก็ไปโทษแค่เบฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนะ เพราะเธอเป็นคนเริ่มนะอย่าลืม”คุณรอยอธิบาย

    “แต่มันทำร้ายเรนก่อนนะครับคุณรอย ทุกคนก็เห็น”มันบอก

    อันนี้จริง แต่ถ้ามันไม่ด่าผมว่าเป็นชู้กับเชสเซอร์ละก็ ก็คงไม่ของขึ้นขนาดนี้ไหม

    “ใช่ นี้เขาคิดว่าเป็นแฟนนักแข่งของทีมเรา เขาจะทำอะไรก็ได้อย่างงั้นเหรอ”อันนี้เสียงใครไม่รู้ครับ

    “ใช่ เปาโลพูดถูก เชสดูสิ ทีมเราไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ ขนาดแค่วันแรกมันก็ทำร้ายเรนขนาดนี้แล้วนะ”

    ผมไม่รู้ว่ามันทำหน้ายังไงอยู่ เพราะผมเอาแต่ซุกหน้ากับอกกว้างๆของเจ้าตัว แต่จับเสียงได้ว่ามันกำลังอ้อนผัวกูอยู่ ได้ ได้ เดี๋ยวรู้กัน

    “อึก ฮื่อๆ ก็เรนอะ อึก ว่าเบบี๋อะเชส ฮื่อๆๆ”ผมเงยหน้าจ้องตาไอเด็กยักษ์ เล่าไปทั้งน้ำตาและหน้าเละๆ

    “อย่าร้อง”เชสเซอร์บอกกับผมนิ่งๆ

    “อือ”ผมผยักหน้ารับคำของเชสเซอร์ก่อนจะพยายามกั้นสะอื้น

    “ทำไม แตะไม่ได้เลยเหรอ มันต่อยเรนก่อนนะเชส”เรนโวยวายอย่างไม่ยอมเหมือนกัน

    “พอเถอะ”

    “พอๆ ให้มันจบๆไปซะ อย่าลืมว่าตัวเองหาเรื่องก่อน แล้วมีอย่างที่ไหนไปบอกว่าเบเขาเป็นชู้ นายเลิกกับเชสเซอร์ไปแล้วนิ”คุณรอยส่งเสียงห้ามแล้วตบท้ายด้วยคำถามแสนถูกใจ

    ใช่ถ้ามึงไม่ปากดีว่ากูเป็นชู้ ก็ไม่ต้องมาเจ็บแบบนี้หรอกเว้ย โอ๊ยซี๊ดแผลกู ฮื่อๆๆๆๆ

    “ใครเป็นชู้ใคร”เชสเซอร์ถามเสียงเข้ม

    “ก็แล้วมันจริงไหมละ เรนไม่ยอมเลิกกับเชสหรอกนะ”มันโวยวาย

    โอ๊ย !ไอเด็กยักษ์มันเลิกแล้ว มึงก็เลิกเถอะ หลอกเขามาขนาดนี้แล้ว ไม่สำนึกเลยใช่ไหมเนี้ย

    “เบบี๋ไม่ใช่ชู้แล้วเบบี๋เป็นยังไงบ้างครับคุณรอย ผ่านไหม”

    เออดี กูตีกันจนห้องเครื่องระเบิด ยังมีหน้ามาห่วงว่ากูผ่านไม่ผ่านทดสอบอีกเนอะ

    “เยี่ยมเลยแหละ หายแล้วก็พามาทำงานด้วยได้เลย”

    “คุณรอยผมไม่ยอมนะ มันทำร้ายผม”เรนโวยวายอย่างไม่ยอมแพ้

    “ฉันไม่สนนะเรน เพราะนี้คือทีม ถ้าใครเก่งมีความสามารถฉันรับหมดเพื่อไม่ให้ทีมต้องเสียโอกาศในการคว้าแชมป์ ส่วนนายก็ต้องไปจัดการกับอารมณ์ของตัวเองซะ ไม่เป็นมืออาชีพเลยนะ”

    โดนยาวๆ สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆๆๆ

    “ถ้างั้นวันนี้พอแค่นี้นะครับ ผมจะพาคนดื้อแถวนี้กลับไปทำแผล”

    “ไปเถอะ โทษทีนะ เพราะขนาดคนห้ามยังเจ็บไปด้วยเลย”คุณรอยพูดขำๆ

    เออวะผมรีบเงยหน้าขึ้นจากบ่าชองเชสเซอร์ก็เห็นเจลกับบีส์น ที่ตอนนี้บนหน้าหล่อมีรอยเขียวช้ำอยู่หลายรอย

    “ขอโทษนะเจล บีส์น”ผมขอโทษทั้งสองเสียงอ่อยอย่างรู้สึกผิด

    “โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกพี่ แต่เห็นตัวเล็กๆงี้แรงเยอะเหมือนกันนะ”เจลพูดขำๆ

    “จริงพี่ ยิ่งตอนเหวี่ยงตัวขาคู่นี้สุดยอด”ไอบีส์นเข้ามากระซิบใกล้ๆหูผม

    “ใช่ปะละ อูยยยยยย แต่ก็ขอโทษนะ”ผมเผลอยังคิ้ว สุดท้ายก็จี๊ดขึ้นสมองเลยครับเพราะคิ้วแตก

    “แต่อย่างน้อยเขาก็ควรขอโทษเรนไหมครับ เขาเป็นคนเริ่ม”

    “ใช่เปาโลพูดถูก”

    “หยุดเลยทั้งคู่ อย่าให้ต้องพูดมากไปมากกว่านี้ แยกย้ายซะ วันนี้เลิกงานเร็วทุกคนเลย เก็บของซะ ส่วนเชสเซอร์กับเบกลับได้เลย”

    “ขอบคุณครับ”ผมเงยหน้าขึ้นมาขอบคุณคุณรอย

    “ไม่เป็นไรหรอก ทำใจให้สบายนะ”

    “ครับ”

    “งั้นผมกลับก่อนนะครับ”

    เชสเซอร์บอกลาทุกคนตรงหน้า แล้วอุ้มพาผมเดินกลับมาที่รถอย่างไวเลย เปิดประตูให้ผมเข้าไปนั่งในรถ ส่วนตัวเองก็เดินอ้อมไปอีกด้านแล้วขึ้นมานั่งเช่นกัน

    อูย บรรยากาศมาคุสุดๆ เงียบอย่างกับป่าช้า ท่านผู้ชมครับหัวใจเต้นแรงโคตรแบบ กูกลัวแล้วววววว ตอนทำอะไม่คิดหรอกครับ โมโหล้วนๆ เลือดวัยรุ่นมันพลุ่งพล่าน แต่พอเจอแม่งตึงใส่แบบนี้ละ งานเข้ากูจังๆ

    “เชส~”ผมเรียกคนข้างๆเสียงอ่อย พร้อมกับส่งสายตาปริบๆ

    “เฮ่อ เจ็บไหม”เจ้าตัวหันมาถามผมเสียงอ่อน แล้วรวบผมเข้าไปกอด

    “อือ เจ็บมากเลย”ผมซบหน้าลงกับอกของเชสเซอร์พลางส่งเสียงออดอ้อน

    “ทีหลังไม่ทำแบบนี้อีกแล้วนะ”

    “อือ เบบี๋เจ็บมากเลย”ผมรับปากเบาๆ

    “เดี๋ยวทำแผลให้”

    “อาบน้ำด้วยนะ”

    “หึหึ แน่ใจ”

    “อือ อาบน้ำกับเบบี๋นะ”ผมอ้อนเจ้าตัวไม่หยุด

    อ่า งานนี้สบายครับ เชสเซอร์อาบน้ำให้ อิอิ

    “ได้ครับ เดี๋ยวจะอาบให้สะอาดเลย”

    “อือ กลับกันเถอะ”ผมส่งเสียงเร่งเชสเซอร์ เพราะอยากอาบน้ำเต็มแก้แล้ว

    “ครับ งั้นกลับ ไปอาบน้ำกัน”

    “อือ”

    โดยหารู้ไหมว่า กลับไปแล้วจะไม่ใช่แค่อาบน้ำ ถึงจะไม่ถึงขั้นสุดท้ายเพราะระบมไปทั้งร่าง ร้องโอดโอยจนเชสเซอร์ยอมปล่อย แต่ผมก็ต้องอมต้องเลียจู๋ยักษ์ที่ผงาดชี้หน้าจนแตกเลอะไปทั่วตัวอยู่ดี แล้วกว่าจะแตกเล่นเอาผมเมื่อยลิ้น เมื่อยปากไปหมด แถมตื่นมาระบมปากมากกว่าเดิมอีก 

     

                

          #อู่CB










     

     

     

     

     

     

     

                   

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×