บันทึกการเดินทางหมายเลข 4/2
ได้ตั๋วเป็นวัน อาทิตย์ที่ 14 เมษายน ออกจาก บูดาเปสต์เวลา 07.10 นาฬิกา
ถึง เวียนนา ออสเตรีย ราวๆ 11 โมงเช้า จำไม่ค่อยได้แฮะ
ที่นี่เรียก “ เวียนนา ” ว่า “ WEIN ” จ้า ออกเสียงว่า “ วิน ”
อันนี้ไม่แน่ใจนะ แล้วแต่ใครจะอ่านก็แล้วกัน
ในบอร์ดตรงสถานีรถไฟไม่ขึ้นคำว่า “
ลิงเลยไปถามเจ้าหน้าที่น่ะ
ก็เพิ่งรู้ตอนไปเที่ยวเวียนนาในวันคริสมาสปีที่แล้วนี่แหละ
แล้วลิงต้องไปต่อรถไฟที่จะไปแฟรงก์เฟิร์ตสถานี
ใกล้ๆกับเวียนนา ในเวลา 12.30 น. จ้ะ
ถึง แฟรงก์เฟริต์ราวๆ 19. 20 น.
อ่อ จาก บูดาเปสต์ ถึง เวียนนา ใช้เวลาประมาณ 3 ช.ม
นั่งรถไฟสองต่อจ้ะ ไม่มีแบบยาวทอดเดียว
สถานีรถไฟในต่างประเทศเวลาจอดรับผู้โดยสารจะไม่ใช้เวลานาน
จะหยุดจอดแต่ละสถานี บางที่ไม่ถึง 2 นาทีซะด้วยซ้ำ
ลิงเลยอยากจะขอเตือนเอาไว้ว่า
เพื่อนๆถ้ามีโอกาสมาเที่ยวหรือทำงานต่างประเทศ
แล้วเวลานั่งรถไฟไปไหน มาไหน
อย่าได้ขนอะไรออกจากกระเป๋านะ
แล้วก็หมั่นเช็กเวลาด้วยจ้า
อย่าลืมว่า
รถไฟจอดไม่นานค่ะ เกิดรถไฟเทียบชานชาลา เขาไม่รอนะเออ
บางสถานีไม่ถึงนาทีด้วยจ้า
อันนี้เส้นทางที่ลิงเดินทางนะ
ไม่รู้เหมือนกันว่า…เส้นทางอื่น
ประเทศอื่นเป็นไง ?
ลิงมีสัมภาระคือ กระเป๋าใบใหญ่ 1 ใบ
เป้สีส้ม (ลูกรัก ) 1ใบ
และกระเป๋าสะพายอีก 1 ใบ จ้ะ
นั่งอยู่บนรถไฟก็คิดอะไรเพลินๆไปตลอดทาง
ไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลย…ไม่หิว ..นั่งคิดอะไรเงียบๆ เรื่อยเปื่อย
จำไม่ได้แล้ว =_=
บนรถไฟสาย บูดาเปสต์ – เวียนนา มีเน็ตให้เล่นค่ะ มีที่ชาร์ตแบตฯ พร้อม
แต่ สาย เวียนนา- แฟรงก์เฟิร์ต ไม่มีค่ะ
ฟังเพลง ฮู้ฮู ของ โปเตโต้ กว่าร้อยรอบเลยทีเดียว
เพลงนี้ฟังในเวลาที่เราท้อแท้ มันได้อารมณ์มากๆ
อยากจะลุกขึ้นมาแหกปากและกระโดดเล่นน้ำทะเล
เหมือนพี่ๆเค้าชะมัด
อ้ากกกกกก >O<
ขอบคุณ พี่ๆ โปเตโต้มากนะคร่า
…ลิงร้ากกกก ทุกคนเลยและลิงก็ยังคงคิดถึงพี่วินเสมอ
เวลาทำงานอยู่ต่างประเทศแล้วมีเจอะเจอกับมรสุม
สิ่งหนึ่งที่พอจะทำให้ยิ้มได้
ก็คงเป็นห้วงเวลาที่คิดถึงครอบครัวนี่แหละ
ลิงรักและคิดถึงหลวงพ่อมากกกก
…และคุณแม่จันด้วยแม้จะจากไปแล้วก็ตาม
เวลาคิดถึงท่านทั้งสอง
แม้จะรู้สึกเศร้าใจ ที่ต้องมาห่างกันไกลหลายร้อยไมล์ขนาดนี้
แต่…มันทำให้ยิ้มได้เสมอๆ
รักพ่อและแม่มากจ้ะ
บางครั้งก็คิดอยู่นะว่า
“ ฉันมาทำอะไรอยู่ที่นี่นะ
…มันช่างห่างไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนของฉันจัง ”
แล้วก็จะเกิดคำตอบในหัวน้อยๆของตัวเองแหละว่า
“ ก็ชอบเดินทางไม่ใช่เหรอ
นี่แหละพระพรหมดลบันดาลให้แล้วยังไงล่ะ ”
เอิ่มมม
อยากจะบอกว่า
จัดให้ลิงเดินทางบ่อยๆลิงก็เหนื่อยนะคะ …
ลิงอยากอยู่เป็นที่เป็นทางซักประเทศ
ละปี สองปีอ่ะค่ะ ได้ไหม
ท่านพระพรหม??
7 เดือน 3 ประเทศลิงไม่ไหวววววววว
ลิงเหนื่อย แต่…ลิงก็ชอบ ^^
ตกลง นางยังไม่แน่ใจว่า….
ชอบ หรือ ไม่ชอบ
การที่ได้เดินทางบ่อยๆ
เอิ๊กกก
ลิงมาถึงแฟรงก์เฟริต์ในเวลา 19. 50 น…ราวๆนี้แหละ
คลาดเคลื่อนนิดหน่อย
มาถึงแฟรงก์เฟิร์ต มันอุ่นวาบขึ้นมาในหัวใจเลยนะ
เหมือนได้กลับเมืองไทย ยังไง ยังงั้นเลย
>___< … :) … :D…. ^O^
ลิงรักประเทศเยอรมันอยู่มาก รองลงมาจากเมืองไทย
บ้านเกิดเมืองนอน
ลิงไม่รู้นะว่า
ใครจะมีทัศนคติกับประเทศนี้ยังไงบ้าง
แต่…กับลิงแล้ว รักประเทศนี้มากกกก
โดยเฉพาะเมือง บาสฮัมบวก์ส
เมืองที่ลิงเคยทำงาน
และอยู่กับพี่เบญ / พี่เขย / มาก่อนแล้วครั้งนึง
ด้วยความสุข….ในทุกวัน
แล้วลิงก็ต่อรถไฟสาย S5 จากสถานี
ไปลงที่ เมือง บาสฮัมบวก์ส
ลากกระเป๋าไปเพียงลำพังงง
โซซัดๆๆ โซเซๆๆๆ
มึนๆๆๆ @__@!!! ตาลายย หิวๆ
ไม่มีแรงเพราะไม่มีอาหารตกถึงท้องเลย
มีแค่น้ำเปล่าและคุกกี้ก้อนเดียวเท่านั้น
แบบ ไม่รู้อยู่ได้ยังไงทั้งวัน ?? อึดชะมัด
พอมาถึงแฟรงก์เฟิร์ต หิวขึ้นมาเฉยเลย
อย่างงี้เค้าเรียกว่า
“ พอสบายใจแล้ว
พยาธิในลำไส้มันจะต้องการอาหารขึ้นมาในทันที ”
:)
รถไฟสาย S5 ใช้เวลาประมาณ 25 นาทีก็ถึง
เมือง บาสฮัมบวก์ส ค่ะ
เอาวินาทีแรกที่เท้าลิงก้าวเหยียบเมืองนี้ไหม ??
มันอยากจะร้องให้ ฮือๆ อ่ะ ….
ท่านผู้อ่าน
เหมือนผ่านเรื่องแย่ๆมาแล้วและชีวิตกำลังจะเริ่มต้นใหม่
พร้อมสิ่งดีๆจะก้าวเข้ามา….ในชีวิต
อยากจะ
กรี๊ดดดดดดดดดดดด
แบบนี้แหละจ้ะ
มันดีใจเหมือนได้กลับเมืองไทยอย่างที่บอก
มันรู้สึกดีไม่มีคำบรรยาย
คือ
มันบรรยายไม่ถูกซะมากกว่า
เอาเป็นว่า
มีความสุขมากๆ ที่ได้กลับมาเมืองนี้อีกครั้ง
ก็แล้วกัน
O^___________^O
ยิ้มแก้มแตกกกก
แล้วลิงก็นั่งรถเมล์ไปลงที่บ้านจ้า >O<
ตะโกนบอกให้พี่เบญมาเปิดประตูบ้านให้ที่หน้าต่าง
พี่สาวก็ตะโกนถามกลับมาว่า
“ อ่าววว >>> ถึงแล้วเหรอ >>> น้อง ”
ฮ่วยย
เอื้อยข่อยคือมาเว่าจังซี้น้อ !!!
ท่านผู้อ่านหลายคนสงสัยว่า
ทำไม ทั้งพี่สาวและพี่เขยไม่ไปรับที่ลิงแฟรงก์เฟริต์
ปล่อยให้น้องเดินทางพร้อมสัมภารกมากมายมาได้ยังไงคนเดียว
ฮึ ??? (. .)
มันมีเหตุผลง่ายๆจากปากงามๆของสองสามี(ภรรเมีย)
คู่นี้ว่า
“ ไอ้นุชมันเก่งเอาตัวรอดได้
ไม่จำเป็นต้องไปรับหรอก แค่นี้มันเดินทางมาเองได้
สบายหายห่วงงง ”
เอวัง
…ชัดเจนมั้ยเคอะ
ท่านผู้อ่านนนน >O< ที่ร้ากกก
ลิงเขียว
ความคิดเห็น
ตอบเม้นท์เยอะไปไหน ฮึ ////
แฮ่่ :p
ก็ชอบตอบอ่ะ
เอวังงง
ใช่ครับยามไหนเราเหงาเราเศร้าเราดีใจ เรามักจะมีเพลงให้ปลอบหัวใจเราตลอด
เพลงคือสิ่งเดียวในโลกที่ไม่มีพิษภัยยามเราเศร้า เพราะเพลงถูกสร้างมาจากคนเหงาเช่นกัน...
แต่ถ้าหากฟังเพลงแล้วไม่หายเศร้า คงจะช่วยอะไรไม่ได้ครับเพราะนั่นคือเราเศร้าเกินไปนั่นเอง
ก็นึกชอบวิธีเอาชนะความเหงาเศร้าของคนข้างบนนี่ไม่ได้แฮะ!
เดี๋ยวว่างๆจะลองไปนั่งรถเมล์ดูสิเผื่อจะหายมั่ง
ตอบ >>> เพลง มันช่วยได้จริงๆสำหรับคนที่เข้าถึงในบางเพลงอ่ะนะ
แล้วถ้าเข้าไปถึง หรือ อิน อย่างที่เค้าชอบเรียกกัน
ก็คงจะตามอย่างที่คุณบอกนั่นแหละว่า
......เค้าเศร้าจนเกินไป ..........เพลงไม่สามารถผ่านเข้าไปได้
ไม่อยากเห็นใครต้องเศร้าขนาดนั้นเลย จริงๆ
เพราะกับตัวเองแล้วชอบคิดเสมอๆว่า
//// ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้เสมอ สำคัญว่า อย่าด่วนคิดสั้น ////
แล้วเราจะผ่านพ้นมันไปได้ แม้จะเจ็บปางตายก็เถอะ .......
เหมือนคำพูดที่เคยได้ยินบ่อยๆว่า
.....คนที่ไม่เคยเจ็บ ไม่เคยทำผิดพลาด ก็คือ คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย .....
สุดท้ายแล้วขอบคุณเม้นท์มากมายนะคะ
ม้วฟฟฟ >3333<
รัก